สวัสดีผู้อ่านทุกๆท่านนะครับ สงกรานต์ผ่านพ้นกันไปแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงจะกลับไปทำงานกันแล้ว งานวันแรกหลังจากที่หยุดไปนานมันก็จะเปื่อยๆเซ็งๆหน่อย วันนี้ผมจะพาทุกท่านมาแก้เซ็งกันโดยการรีวิวร้านบุฟเฟ่ต์ตามสั่งกัน หลังจากที่รีวิวแบบเบสิคๆอย่าง ปิ้งย่างและชาบูไปแล้วพอสมควร สำหรับร้านที่ว่านี้ก็คือ Audrey ร้านอาหารนานาชาติสไตล์ภัตตคาร ตั้งอยู่ ชั้น 2 ตรงหน้า เซ็นทรัลเวสต์เกตบางใหญ่นี่เอง
เดิมทีร้านนี้ เคยใช้ชื่อร้านว่า The Carnival ที่เป็นธีมละครสัตว์แล้วมีอาหารบุฟเฟต์หลายแบบนั่นแหละครับ (ซึ่งตัวผมเองก็เคยมากินกับเพื่อนมาหนนึง รสชาติและความหลากหลายถือว่าดีทีเดียว) หลังจากที่ปิดตัวไป ก็มาใช้ชื่อ Audrey เดิมทีร้านนี้เปิดเป็นแบบ A La Carte แต่ช่วงนี้คงอยากจะตีตลาดนักกินก็เลยจัดโปรบุฟเฟ่ต์ขึ้นมาอีกครั้ง ในราคา 555 บาท
พอเข้าร้านมาก็ยังคงหลงเหลือบรรยากาศเก่าๆอยู่บ้างนะ ทั้งธงลายละครสัตว์ ผนังอิฐดินเผา กับเต๊นท์ขายตั๋ว จะเปลี่ยนไปบ้างก็ตรงที่มีการจัดวางโต๊ะเป็นแบบร้านอาหารมากขึ้น ไฟที่สว่าง และไม่มีโซนตักอาหารเองอีกแล้ว
ร้านนี้อยากกินอะไรต้องสั่งเอาครับ อาหารมีหลากหลาย ทั้งของกินรองท้อง ซุฟ จานหลัก บลาๆๆ แต่ก่อนสั่งต้องดูดีๆนะ เพราะมีบางเมนูไม่ได้รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์ด้วย
อาหารมังสังวิรัติก็มีนะครับ เป็นพวกสลัด เส้นหมี่และข้างหน้าต่างๆ
สั่งน้ำมาซดดับกระหายก่อนฟาดอาหารกองโต ด้วยโซดารสแอปเปิ้ล รสชาติเปรี้ยวหวาน หอมกลิ่นแอปเปิ้ล
เปิดจานแรกด้วยเกี๊ยวกรอบห่อชีส แป้งทอดมากรอบใช้ได้ ไส้ในเป็นซอสชีสเหลวๆไม่ได้ยืดยาวนะ รสออกมันๆเปรี้ยวนิดหน่อย
จานต่อไป กุ้งทอด Audrey แป้งหนากรอย เนื้อกุ้งข้างในเด้งหวานดี โรยเคียงด้วยหอมซอย ใบมะกรูดทอด และเม็ดมะม่วง ใช้ได้จานนี้
คอหมูย่างกับน้ำจิ้มแจ่ว หมูย่าง หอมนุ่ม กลมกล่อม จิ้มกินกับน้ำจิ้ม เผ็ดเปรี้ยวเบาๆ ยิ่งเข้ากัน
หอยลายอบกระเทียม เค็มๆมันๆ หอมหอยลายอบ ส่วนขนมปังฝรั่งเศสที่ให้มาด้วย กรอบและแข็งไม่ค่อยเข้ากันนัก มันเหมาะกับจุ่มกินกับน้ำซุปมากกว่า
กินอะไรหนักๆท้องหน่อยด้วย คาโบนาร่า รสชาติหวานมันเค็มตามสไตล์ เอาขนมปังมาจุ่มกับซอมราด กินเพลินไปอีก
มากันที่อาหารเบาๆกันบ้าง(เหรอ) สลัดปลาแซลมอนรมควัน เนื้อปลาแน่นระดับนึง เค็มอมเปรี้ยว ส่วนสลัดผักสดดี น้ำสลัดรสหวานเข้มมาก ซดน้ำตามแทบไม่ทัน แต่สำหรับใครที่รักการกินผักล่ะก็ จานนี้คุ้มมากครับ
จานต่อไป ของทำยาก นั่นคือ ซูเฟลปู เคยเห็นแต่ในรายการมาสเตอร์เชฟเขาทำแบบหวาน อันนี้เป็นแบบคาว มาลองลิ้มรสดูสิว่าจะเป็นยังไง
ตักฟองไข่ขาวก้อนเบ้อเร้อยัดเข้าเต็มปาก ฟองนุ่ม มีกลิ่นปูอ่อนๆแตะลิ้น ราดซอสกุ้งซึ่งหอมหวานรสมันกุ้งมากๆ กินเพลินไม่เลี่ยนเลย
ด้านล่างมีเนื้อปูและซอสกุ้งอีกด้วย แต่ดันมีรสชีสเด่นมาเลย กลบรสชาติของปูหมด
ซดอะไรที่มันคล่องคอหน่อย จัดของแพงซะเลย ซุปเห็ดทรัฟเฟิล!! ราชาเเห่งเห็ดหนึ่งในวัตถุดิบล้ำค่าของโลก ชิมคำแรกก็ได้รสหอมอันเป็นเอกลักษณ์ กลิ่นมันคล้ายๆเห็ดหอมแต่อันนี้คือฟุ้งเต็มปาก อร่อยเบอร์แรงมากๆ สมแล้วที่เป็นของแพงนักหนา แต่กินๆไปชักจะเลี่ยนนะ ฮ่าๆๆ กลายเป็นว่าต้องกินจานอื่นมาดับรสจัดของจานนี้ซะอย่างนั้น ทั้งๆที่ซุปควรจะเป็นของเบาท้องนะ xD แต่โดยรวม ผมว่าจานนี้อร่อยสุดนะ
ล้างปากอีกรอบด้วย โรสไซเดอร์โซดา ทั้งสี กลิ้น และรสชาติ มันก็คือน้ำอุทัยทิพย์ใส่โซดานั่นเอง...
หลังจากที่กินจานรองท้อง(ห๊ะ)ไปซะพุงแทบแตก ก็ถึงเวลาของจานหลักเสียที!! จานหลักผมสั่งมาลอง สองจานนะครับ เพราะว่า เห็นชื่อเมนูแล้วไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ จานแรก ไก่อบไวน์แดง เป็นเนื้อส่วนอกเอามาเคี่ยวกับซอสไวน์แดงสูตรพิเศษของทางร้าน เนื้อไก่นุ่มคล้ายไก่ตุ่น ซอสออกรสเปรี้ยวนิดๆเหมือนผลไม้อะไรสักอย่าง แต่นึกไม่ออก โดยรวมถือว่าโอเค
จานที่สอง คือ อาหารที่หลายๆคนต้องสั่งมากินเมื่อมานั่งในร้านอาหาร มันคือ สเต๊กเนื้อสันใน ราดซอส สีเขียวเหลืองอ่อนๆ สีไม่ค่อยน่าไว้ใจเลย ลองชิมดู ซอสนั้นรสเหมือนปูผัดผงกะหรี่เป๊ะๆเลย ถือว่าไม่น่าเกลียดนะ ส่วนความสุกของเนื้อ ผมสั่งมาแบบมีเดียมแรร์ เเต่จืดๆแข็งๆ ไม่ได้เรื่องเลย สงสัยพ่อครัวย่างนานเกิน เลยกลายเป็นมีเดียมดอนไปแล้ว!!
หลังจากที่เฟลกับจานหลักที่สองมาแล้ว ก็ถึงเวลาปิดท้ายด้วยของหวาน ร้านนี้เมนูของหวานที่รวมในบุฟเฟ่ต์มีแค่เค้กประจำวันเท่านั้น พวกเครป ลาวาอะไรนั่น ต้องเสียเงินเพิ่มฮะ ของที่ผมได้วันนี้เป็นคัพเค้ก แต่งหน้าด้วยครีมทำเป็นดอกไม้ ครีมนั้นแข็งแบบเค้กทั่วไป ข้างในมีแป้งช๊อคโกแลต ครีม แป้งเค้ก สากๆแข็งๆ ไส้ในเป็นคาราเมลซอสหวานมัน พอถูไถได้บ้าง
รีวิวสรุป
รสชาติอาหาร : ****1/2
อาหารหลายๆอย่างปรุงรสจัดจ้านไปหน่อย อาจจะไม่ถูกปากใครบางคน แต่สำหรับผมถือว่าใช้ได้ การตกแต่งจานและปริมาณอยู่ในเกณฑ์ที่ดี สมกับที่เป็นร้านอาหารเกรดภัตตาคาร
หม้ออร่อยสุดกิ๊ง (อาหารที่อร่อยมากที่สุดในการรีวิว) : ซุปทรัฟเฟิล
รสชาติของทรัฟเฟิลหอมมาก ถึงจะมีแอบเลี่ยนบ้าง แต่เมื่อเทียบกับจานอื่นๆแล้ว จานนี้วัตถุดิบหลักโดดเด่นที่สุด
จานนี้ไม่ว้าว (อาหารที่อร่อยน้อยที่สุดในการรีวิว) : สเต๊กเนื้อสันใน
ถ้าตัดเรื่องระดับการทอดเนื้อออกไป เนื้อก็ยังจัดได้ว่าปรุงรสชาติได้อ่อนสุดๆอยู่ดี แถมเป็นจานหลักที่ถือได้ว่าเป็นหน้าเป็นตาของร้านอาหารแนวนี้ด้วย บอกได้คำเดียวว่า เฟล
บรรยากาศในร้าน : *****
ร้านตกแต่งได้เย็นสบายตาดี เครื่องตกแต่ง บาร์น้ำก็วางได้เหมาะเจาะ
การบริการ : *****
ความเอาใจใส่ถือว่าดีเยี่ยม มีบางจานที่เอามาวางไว้นานแล้ว น้องกลัวจะชืดมั้ง เข้ามาถามว่าให้อุ่นให้ใหม่ด้วย น่ารักจริง
ภาพรวม : ****1/2
พวกของกินเล่นหลากหลายและรสชาติแปลกดี หักก็ตรงเมนคอร์สที่ทำออกมาได้เฟลเนี่ยแหละ ถือว่าคุ้มค่ากับอาหารระดับนี้ ในราคา ไม่ถึง 600 บาท แต่อาจจะดูแพงไปสำหรับคนที่ไม่เคยลิ้มลอง เอาเป็นว่าใครที่อยากจะลองละลายทรัพย์ก็แวะมาได้ครับ รีบมาก่อนที่โปรบุฟเฟ่ต์จะหมดก่อนนะะะ
สำหรับรีวิววันนี้ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ ครั้งต่อผมจะไปกินร้านไหนอีกนั้น โปรดติดตามการต่อได้ที่เพจนี้>>
https://www.facebook.com/BuffeastEatAllDay/?modal=admin_todo_tour
แล้วพบกันใหม่ครับทุกท่าน
[CR] --*BufFeast*-- รีวิวร้าน Audrey บุฟเฟ่ต์นานาชาติสุดหรู ณ เซ็นทรัลเวสต์เกต by TheHeat
เดิมทีร้านนี้ เคยใช้ชื่อร้านว่า The Carnival ที่เป็นธีมละครสัตว์แล้วมีอาหารบุฟเฟต์หลายแบบนั่นแหละครับ (ซึ่งตัวผมเองก็เคยมากินกับเพื่อนมาหนนึง รสชาติและความหลากหลายถือว่าดีทีเดียว) หลังจากที่ปิดตัวไป ก็มาใช้ชื่อ Audrey เดิมทีร้านนี้เปิดเป็นแบบ A La Carte แต่ช่วงนี้คงอยากจะตีตลาดนักกินก็เลยจัดโปรบุฟเฟ่ต์ขึ้นมาอีกครั้ง ในราคา 555 บาท
พอเข้าร้านมาก็ยังคงหลงเหลือบรรยากาศเก่าๆอยู่บ้างนะ ทั้งธงลายละครสัตว์ ผนังอิฐดินเผา กับเต๊นท์ขายตั๋ว จะเปลี่ยนไปบ้างก็ตรงที่มีการจัดวางโต๊ะเป็นแบบร้านอาหารมากขึ้น ไฟที่สว่าง และไม่มีโซนตักอาหารเองอีกแล้ว
ร้านนี้อยากกินอะไรต้องสั่งเอาครับ อาหารมีหลากหลาย ทั้งของกินรองท้อง ซุฟ จานหลัก บลาๆๆ แต่ก่อนสั่งต้องดูดีๆนะ เพราะมีบางเมนูไม่ได้รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์ด้วย
อาหารมังสังวิรัติก็มีนะครับ เป็นพวกสลัด เส้นหมี่และข้างหน้าต่างๆ
สั่งน้ำมาซดดับกระหายก่อนฟาดอาหารกองโต ด้วยโซดารสแอปเปิ้ล รสชาติเปรี้ยวหวาน หอมกลิ่นแอปเปิ้ล
เปิดจานแรกด้วยเกี๊ยวกรอบห่อชีส แป้งทอดมากรอบใช้ได้ ไส้ในเป็นซอสชีสเหลวๆไม่ได้ยืดยาวนะ รสออกมันๆเปรี้ยวนิดหน่อย
จานต่อไป กุ้งทอด Audrey แป้งหนากรอย เนื้อกุ้งข้างในเด้งหวานดี โรยเคียงด้วยหอมซอย ใบมะกรูดทอด และเม็ดมะม่วง ใช้ได้จานนี้
คอหมูย่างกับน้ำจิ้มแจ่ว หมูย่าง หอมนุ่ม กลมกล่อม จิ้มกินกับน้ำจิ้ม เผ็ดเปรี้ยวเบาๆ ยิ่งเข้ากัน
หอยลายอบกระเทียม เค็มๆมันๆ หอมหอยลายอบ ส่วนขนมปังฝรั่งเศสที่ให้มาด้วย กรอบและแข็งไม่ค่อยเข้ากันนัก มันเหมาะกับจุ่มกินกับน้ำซุปมากกว่า
กินอะไรหนักๆท้องหน่อยด้วย คาโบนาร่า รสชาติหวานมันเค็มตามสไตล์ เอาขนมปังมาจุ่มกับซอมราด กินเพลินไปอีก
มากันที่อาหารเบาๆกันบ้าง(เหรอ) สลัดปลาแซลมอนรมควัน เนื้อปลาแน่นระดับนึง เค็มอมเปรี้ยว ส่วนสลัดผักสดดี น้ำสลัดรสหวานเข้มมาก ซดน้ำตามแทบไม่ทัน แต่สำหรับใครที่รักการกินผักล่ะก็ จานนี้คุ้มมากครับ
จานต่อไป ของทำยาก นั่นคือ ซูเฟลปู เคยเห็นแต่ในรายการมาสเตอร์เชฟเขาทำแบบหวาน อันนี้เป็นแบบคาว มาลองลิ้มรสดูสิว่าจะเป็นยังไง
ตักฟองไข่ขาวก้อนเบ้อเร้อยัดเข้าเต็มปาก ฟองนุ่ม มีกลิ่นปูอ่อนๆแตะลิ้น ราดซอสกุ้งซึ่งหอมหวานรสมันกุ้งมากๆ กินเพลินไม่เลี่ยนเลย
ด้านล่างมีเนื้อปูและซอสกุ้งอีกด้วย แต่ดันมีรสชีสเด่นมาเลย กลบรสชาติของปูหมด
ซดอะไรที่มันคล่องคอหน่อย จัดของแพงซะเลย ซุปเห็ดทรัฟเฟิล!! ราชาเเห่งเห็ดหนึ่งในวัตถุดิบล้ำค่าของโลก ชิมคำแรกก็ได้รสหอมอันเป็นเอกลักษณ์ กลิ่นมันคล้ายๆเห็ดหอมแต่อันนี้คือฟุ้งเต็มปาก อร่อยเบอร์แรงมากๆ สมแล้วที่เป็นของแพงนักหนา แต่กินๆไปชักจะเลี่ยนนะ ฮ่าๆๆ กลายเป็นว่าต้องกินจานอื่นมาดับรสจัดของจานนี้ซะอย่างนั้น ทั้งๆที่ซุปควรจะเป็นของเบาท้องนะ xD แต่โดยรวม ผมว่าจานนี้อร่อยสุดนะ
ล้างปากอีกรอบด้วย โรสไซเดอร์โซดา ทั้งสี กลิ้น และรสชาติ มันก็คือน้ำอุทัยทิพย์ใส่โซดานั่นเอง...
หลังจากที่กินจานรองท้อง(ห๊ะ)ไปซะพุงแทบแตก ก็ถึงเวลาของจานหลักเสียที!! จานหลักผมสั่งมาลอง สองจานนะครับ เพราะว่า เห็นชื่อเมนูแล้วไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ จานแรก ไก่อบไวน์แดง เป็นเนื้อส่วนอกเอามาเคี่ยวกับซอสไวน์แดงสูตรพิเศษของทางร้าน เนื้อไก่นุ่มคล้ายไก่ตุ่น ซอสออกรสเปรี้ยวนิดๆเหมือนผลไม้อะไรสักอย่าง แต่นึกไม่ออก โดยรวมถือว่าโอเค
จานที่สอง คือ อาหารที่หลายๆคนต้องสั่งมากินเมื่อมานั่งในร้านอาหาร มันคือ สเต๊กเนื้อสันใน ราดซอส สีเขียวเหลืองอ่อนๆ สีไม่ค่อยน่าไว้ใจเลย ลองชิมดู ซอสนั้นรสเหมือนปูผัดผงกะหรี่เป๊ะๆเลย ถือว่าไม่น่าเกลียดนะ ส่วนความสุกของเนื้อ ผมสั่งมาแบบมีเดียมแรร์ เเต่จืดๆแข็งๆ ไม่ได้เรื่องเลย สงสัยพ่อครัวย่างนานเกิน เลยกลายเป็นมีเดียมดอนไปแล้ว!!
หลังจากที่เฟลกับจานหลักที่สองมาแล้ว ก็ถึงเวลาปิดท้ายด้วยของหวาน ร้านนี้เมนูของหวานที่รวมในบุฟเฟ่ต์มีแค่เค้กประจำวันเท่านั้น พวกเครป ลาวาอะไรนั่น ต้องเสียเงินเพิ่มฮะ ของที่ผมได้วันนี้เป็นคัพเค้ก แต่งหน้าด้วยครีมทำเป็นดอกไม้ ครีมนั้นแข็งแบบเค้กทั่วไป ข้างในมีแป้งช๊อคโกแลต ครีม แป้งเค้ก สากๆแข็งๆ ไส้ในเป็นคาราเมลซอสหวานมัน พอถูไถได้บ้าง
รีวิวสรุป
รสชาติอาหาร : ****1/2
อาหารหลายๆอย่างปรุงรสจัดจ้านไปหน่อย อาจจะไม่ถูกปากใครบางคน แต่สำหรับผมถือว่าใช้ได้ การตกแต่งจานและปริมาณอยู่ในเกณฑ์ที่ดี สมกับที่เป็นร้านอาหารเกรดภัตตาคาร
หม้ออร่อยสุดกิ๊ง (อาหารที่อร่อยมากที่สุดในการรีวิว) : ซุปทรัฟเฟิล
รสชาติของทรัฟเฟิลหอมมาก ถึงจะมีแอบเลี่ยนบ้าง แต่เมื่อเทียบกับจานอื่นๆแล้ว จานนี้วัตถุดิบหลักโดดเด่นที่สุด
จานนี้ไม่ว้าว (อาหารที่อร่อยน้อยที่สุดในการรีวิว) : สเต๊กเนื้อสันใน
ถ้าตัดเรื่องระดับการทอดเนื้อออกไป เนื้อก็ยังจัดได้ว่าปรุงรสชาติได้อ่อนสุดๆอยู่ดี แถมเป็นจานหลักที่ถือได้ว่าเป็นหน้าเป็นตาของร้านอาหารแนวนี้ด้วย บอกได้คำเดียวว่า เฟล
บรรยากาศในร้าน : *****
ร้านตกแต่งได้เย็นสบายตาดี เครื่องตกแต่ง บาร์น้ำก็วางได้เหมาะเจาะ
การบริการ : *****
ความเอาใจใส่ถือว่าดีเยี่ยม มีบางจานที่เอามาวางไว้นานแล้ว น้องกลัวจะชืดมั้ง เข้ามาถามว่าให้อุ่นให้ใหม่ด้วย น่ารักจริง
ภาพรวม : ****1/2
พวกของกินเล่นหลากหลายและรสชาติแปลกดี หักก็ตรงเมนคอร์สที่ทำออกมาได้เฟลเนี่ยแหละ ถือว่าคุ้มค่ากับอาหารระดับนี้ ในราคา ไม่ถึง 600 บาท แต่อาจจะดูแพงไปสำหรับคนที่ไม่เคยลิ้มลอง เอาเป็นว่าใครที่อยากจะลองละลายทรัพย์ก็แวะมาได้ครับ รีบมาก่อนที่โปรบุฟเฟ่ต์จะหมดก่อนนะะะ
สำหรับรีวิววันนี้ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ ครั้งต่อผมจะไปกินร้านไหนอีกนั้น โปรดติดตามการต่อได้ที่เพจนี้>> https://www.facebook.com/BuffeastEatAllDay/?modal=admin_todo_tour
แล้วพบกันใหม่ครับทุกท่าน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น