[CR] รีวิว เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง คันไซ โอซาก้า ช่วงซากุระ EP.3

สวัสดีค่า Day 4 แล้วจ้า วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวโกเบ กันค่ะ แต่เราไม่ได้ไปกินเนื้อนะ เราจะพาไปเที่ยวหมู่บ้านอาริมะออนเซ็น ที่มีทั้งนักท่องเที่ยว
และ คนญี่ปุ่นเองนิยมไปเที่ยวกันมากมาย จะไปค้างก็ได้ หรือ จะเที่ยวแบบเช้า-เย็น กลับก็ได้ วันนี้เราจะไปแบบเช้า-เย็น กลับกันค่ะ
และเราก็จะขึ้น Ropeway จากตรงหมู่บ้านอาริมะออนเซ็น ไปบนเขา Rokkosanด้วยนะ ไปค่ะ ตามไปกันเลย
ติดตาม EP.1 ได้ที่นี่ค่า https://ppantip.com/topic/38726394
ติดตาม EP.2 ได้ที่นี่ค่า https://ppantip.com/topic/38741874
เริ่มจาก สถานีShinsaibashi นั่งสายสีแดงไป 3 ป้าย ลงที่สถานีUmeda หลังจากนั้นเดินตามป้าย Hankyu Highway Bus Terminal หาไม่ยากนะคะมีป้ายบอกตลอดทางเลยค่ะ อาคารที่จอดบัสก็อยู่ติดกับสถานีรถไฟเลย ซึ่งตั๋วรถบัสเราจองมาล่วงหน้าแล้วค่ะ เพราะเราเคยอ่านเจอมาว่า ถ้าเรา Walk in มาซื้อหน้างาน อาจจะทำให้เราพลาดได้เพราะตั๋วเต็มน้า เข้าไปจองล่วงหน้าได้ที่เวบนี้เลย https://www.hankyubus.co.jp
หลังจากที่เราจองตั๋วเรียบร้อยแล้วเราก็แค่ปริ้นเป็นเอกสารมายื่นให้พนักงานขับรถตอนขึ้นรถได้เลยค่ะ ที่เราเลือกเดินทางโดยบัส
เพราะว่าถ้าเดินทางด้วยรถไฟจะต้องต่อหลายต่อ เลยตัดสินใจนั่งรถบัส ดูบ้านเมืองสวยๆ ตามทางไป ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงหมู่บ้านอาริมะออนเซ็นแล้ว
อ้อแล้วก็ตอนที่เรามารอขึ้นบัส ก่อนถึงเวลารถออก ให้ลองมาถามตรงที่รถบัสจอดดูอีกทีนะคะ เพราะอย่างของเราในเอกสารบอกว่าบัสจอดช่องเบอร์1 
แต่พอจริงๆ บัสอยู่เบอร์ 2 จ้า เกือบไปแล้ว แล้วแถมข้างรถก็มีแต่ป้ายไฟภาษาญี่ปุ่น รถบัสออกตรงเวลามากค่ะ ยังไงมาเผื่อเวลาหน่อยน้า
จะได้เช็คกับเจ้าหน้าที่ให้มั่นใจอีกทีค่ะ ^^
วิวระหว่างทาง นั่งชมเพลินๆ ^^
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็มาถึงจุดหมายปลายทางของเราแล้ว ที่แรกที่เราจะพุ่งไปก็คือ บ่อน้ำแร่ทอง เพื่อไปแช่เท้ากันหลังจากที่เราเดินเหนื่อยเมื่อยล้ากันมา 2 วัน อิอิ คุณสมบัติของบ่อน้ำแร่ทอง ก็คือช่วยอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และอาการบาดเจ็บของไขข้อ แหม่ พอดีเลยกำลังไขข้ออ่อนแรง อิอิ ที่เราเห็นว่าน้ำเป็นสีทองน้ำตาลๆ เพราะมีแร่ธาตุเหล็กสูง ค่ะ
   
ตรงบ่อทองที่เค้านั่งแช่เท้ากัน อันนี้เค้าให้แช่ฟรีนะคะ แต่ถ้าใครสนใจอยากแช่ทั้งตัวเค้าก็มีจ้า เข้าไปติดต่อด้านในได้เลย ที่หมู่บ้านอาริมะออนเซ็นแห่งนี้
ไม่ได้มีแค่น้ำแร่บ่อทองเท่านั้นน้า ยังมีน้ำแร่บ่อเงินด้วย คุณสมบัติของบ่อเงินช่วยให้ระบบไหลเวียนและระบบเผาผลาญอาหาร ทำงานได้ดี และ ลดอาการบวมด้วย อุ๊ยๆ แบบนี้เราก็อยากลองแช่ดูบ้าง ทุกวันนี้ที่บวมไม่ใช่เพราะอ้วนแน่ๆ เลย 555 แต่วันที่เราไปเป็นวันที่บ่อเงินเค้าปิดพอดีเลย
แช่เท้ากันหายเมื่อยพอสมควรแล้ว ได้เวลาเดินสำรวจของกิน เอ๊ย สำรวจรอบๆ กันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง ที่หมู่บ้านอาริมะออนเซ็น ทางเดินจะเป็นทางเนินๆ เขาๆ หน่อยนะคะ ใครมาก็เตรียมไขข้อกันมาดีๆ อิอิ ตามทางที่เราเดินเล่นมาเรื่อยๆ ก็จะเจอทั้งร้านขายของฝาก ร้านอาหาร โรงแรมน่ารักๆ อยู่เรียงรายตลอดเส้นทางเลย
และแล้วเราก็มาจอดอยู่ที่หน้าร้านเป้าหมาย ร้านนี้เค้าขายซอฟครีม รสถั่วเหลือง ต้องลองซะหน่อยแล้ว ปกติจะเจอแต่รสนม หรือ รสชาเขียว
เราซื้อมาลอง 1 อัน ราคา 350 เยน รสชาติเหมือนน้ำเต้าหู้เลย ที่สำคัญไม่หวานมากถูกใจเลย ใครมาเทียวแล้วเจอก็ลองซื้อทานกันน้า
เดินมาอีกไม่ไกลเราก็มาเจอตู้กดน้ำ และมีสิ่งที่เราเดินตามหาอยู่ เพราะเป็น ของดี ของเด่นของที่นี่ นั้นก็คือ อาริมะไซเดอร์ เค้าใช้น้ำแร่ของที่นี่มาทำเลยน้า 
ราคาขวดละ 250 เยน กดมาจากตู้เย็นเจี๊ยบเลยจ้า รสชาติจะซ่าๆ แบบว่าซ่าสะใจมาก กลิ่นคล้ายๆ ครีมโซดา แต่หวานน้อยมาก ชอบๆ ถ้าใครไปที่อาริมะออนเซ็น ห้ามพลาดเลยน้า
แล้วเราก็เดินมาติดกับดักที่ร้านขายของฝาก เค้ามีของจุกจิกๆ ขายเยอะเลย แต่เราก็ไปสะดุดที่ลูกอมอาริมะไซเดอร์ มาถึงที่เราต้องเอาให้สุด ลองซื้อมา
กระปุกนึง(จริงๆที่ซื้อเพราะชอบกระปุก ^^’) ราคา 324 เยน ลองชิมแล้วก็หวานนิดๆ กลิ่นคล้ายๆ กับอาริมะไซเดอร์ ตอนแรกคิดว่ามันจะซ่าๆ ด้วย เหมือนกินลูกอมโค้กตอนเด็กๆ เลยแอบผิดหวังนิดๆ ><’
เดินต่อได้แค่ประมาณ 10 เมตร เราก็เจอกับดักอีกแล้ว . . .เรามาเจอร้านขาย โคะโระเกะ มีหลายใส้เลย เราเลือกใส้มันบดผสมเนื้อราคา 130เยน
รสชาติดีเลยค่ะ เนื้อบดที่เค้าผสมมาก็หอมๆ แป้งด้านนอกกรอบ ไม่อมน้ำมันเลย จริงๆ ร้านนี้เค้าเป็นร้านขายเนื้ออยู่แล้วด้วย
เราสามารถสั่งเนื้อที่ร้านให้เค้าทำให้ แล้วนั่งทานในร้านได้ด้วย 
หลังจากกินอิ่มกันไปหลายอย่างละ ตอนนี้ขอใช้พลังงานที่สะสมมาบ้าง โดยการเดินขึ้นบันไดไปขอพรที่วัดออนเซนจิ ดูบันไดนั้นซี ^^'
ตะกายขึ้นมาจนได้ ฮึบๆ 
ด้านบนนี้มีต้นซากุระกำลังฟลูบูมสวยเลยค่า ถึงจะมีแค่ไม่กี่ต้น แต่ก็สวยมากจริงๆ ค่ะ
ขอพร ถ่ายรูปซากุระ กันหนำใจละ เดี๋ยวเราจะไปขึ้นRopeway เพื่อจะขึ้นไปบนเขาRokkosan กัน ค่า จากตรงวัดออนเซนจิเราก็เปิด Google map โดยตั้งไปที่ Arima Onsen Station ระยะทางประมาณ1 กิโลเมตร แต่เป็น 1 กิโลเมตร ที่ทางเขาลาดชัน แถมเราเดินผิดดันไปเดินฝั่งถนนที่รถวิ่ง แทนที่จะเดินไปฝั่งที่เค้าไว้ให้คนเดินขึ้น 555
จริงๆ ต้องเดินขึ้นทางลูกศรสีชมพู แต่เราดันเดินตรงไปทางลูกศรสีเขียว ^^' ผลก็คือเดินไปหลบรถไป แฮร่ๆ 
แผนที่หมู่บ้านที่มีแต่ภาษาญี่ปุ่น เง้อออ พอจะช่วยอะไรได้ไหม ^^'
ในที่สุดก็ถึงจนได้ พอเรามาถึงที่สถานี Ropeway ก็เดินเข้าไปด้านในเผื่อซื้อตั๋วที่จะขึ้นRopeway ขึ้นไปเที่ยวบน Rokkosan  ตั๋วที่เราซื้อเป็นแบบแพคเกจ สามารถใช้นั่ง Ropeway จากฝั่ง อาริมะออนเซ็น ขึ้นไปบน Rokkosanและ นั่งกระเช้า(ลักษณะเป็นรถ Tram) ลงจากRokkosanด้าน Kobe และ ใช้นั่ง Rokko Sanjo Bus บนเขาเพื่อเที่ยวตามจุดต่างๆ บนเขาได้ตลอดทั้งวันกี่รอบก็ได้ ราคาพาส ที่เราซื้อ คือ 1,750 เยน แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงราคา และ รูปแบบของPass ลองเช็คที่หน้างานอีกทีน้า หรือ จะเข้าไปเช็คที่เวบของ Rokkosan ตามนี้ได้เลย https://www.rokkosan.com/en/pass/
ได้ Pass มาเรียบร้อยแล้ว เราไปรอขึ้น Ropeway  กันดีกว่า วันนี้เป็นวันธรรมดา คนไม่เยอะมากค่ะ รอไม่นาน รอบที่เราขึ้นไป ก็มีคนนั่งพอดีๆ ค่ะ ^^
จะมีเจ้าหน้าที่พาเราขึ้นไปนะคะ อยู่กับเราในกระเช้า และคอยบรรยาย(ภาษาญี่ปุ่น) 555  ฟังไม่รู้เรื่องหรอก แต่เวลาเค้าพูดแล้วชี้ไปทางไหนเราก็หันไปมองตาม เหมือนเค้าจะชี้ให้เราดูวิว ต้นไม้ ต้นซากุระ อะไรประมาณนั้น
 วิวสวยมาก วันที่เราไปโชคดีที่อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าสวย
ใช้เวลาประมาณ 10 นาที เราก็ขึ้นมาถึงบนเขาแล้ว แนะนำเลยค่ะถ้าใครจะนั่งกระเช้าขึ้น Rokkosan ให้มาขึ้นฝั่ง  อาริมะออนเซ็น วิวสวยจริงๆ  
(ขากลับที่ลงอีกฝั่ง จะเป็นรถ Tram ไม่ค่อยเห็นวิวเท่าไหร่ค่ะ )ขึ้นมาถึงด้านบนแล้ว เราก็เดินออกมาด้านหน้าสถานี Ropeway จะมีป้าย Rokko Sanjo Bus เราก็ไปรอขึ้นบัสเพื่อที่จะไปเที่ยวตามจุดต่างๆ บนเขาได้เลย 
ขึ้นมาถึงด้านบนแล้ว เราก็เดินออกมาด้านหน้าสถานี Ropeway จะมีป้าย Rokko Sanjo Bus เราก็ไปรอขึ้นบัสเพื่อที่จะไปเที่ยวตามจุดต่างๆ บนเขาได้เลย 
โดยที่แรกที่เราจะไปก็คือ พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ที่เค้าสะสมกล่องดนตรีของเก่าอายุกว่าร้อยปี มีมากมายทั้งขนาดเล็ก และ ขนาดใหญ่ที่สูงถึง5 เมตร เลย
และระหว่างวันก็ยังมีการแสดงคอนเสิร์ต จากกล่องดนตรีด้วย โดยแต่ละรอบ การแสดงจะไม่เหมือนกัน สำหรับใครที่ชอบกล่องดนตรี แนะนำเลยค่ะว่าไม่ควรพลาด
แค่ได้ไปเดินดูกล่องดนตรีของเก่าหายาก แถมมีอายุกว่าร้อยปี  ก็คุ้มค่าแล้วค่ะ เราเลือกซื้อเป็นบัตรราคา 1,440 เยน สามารถเข้าชมสถานที่บน Rokkosan ได้ 3 จุด 
1. พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี 
2. Botanique garden
3. Rokko Shidare Observatory (อยู่บริเวณเดียวกับ Rokko Garden Terrace)
อีกแปบจะถึงเวลาแสดงคอนเสิร์ตกล่องดนตรีแล้ว เรารีบไปจองที่กันก่อนดีกว่า อ้อ เค้าไม่ให้ถ่ายรูป หรือ VDO ขณะที่ทำการแสดงนะคะ
แต่หลังจากแสดงจบ ก็ถ่ายได้ตามอัธยาศัย เลยค่า ไปชมกล่องดนตรีสวยๆ กันค่ะ
 
หลังจากที่ได้ดูการแสดงจนจบแล้ว แนะนำเลยค่ะ อยากให้มาดูกันเยอะๆ น้องพนักงานที่คอยดูแลจัดการแสดงคอนเสิร์ต แอคทีฟ มากๆ ตั้งใจมาก
ถึงจะพูดแต่ภาษาญี่ปุ่น แต่เค้าก็จะมีขึ้นโชว์รายละเอียดภาษาอังกฤษบ้าง เป็นบางส่วน เราก็พอจะจับใจความได้บ้างว่าการแสดงต้องการสื่ออะไร
หรือ บอกอะไรกับคนดู
ยังไม่จบน้า เดี๋ยวมาต่อด้านล่าง ค่า ^^

  

 
 
 

 
ชื่อสินค้า:   ญี่ปุ่น , Japan , kyoto , kansai , osaka , mie , kobe , hiroshima , okayama , ise , ซากุระ , sakura , เกียวโต , โอซาก้า , ฮิเมจิ , โกเบ , โอคายาม่า , ฮิโรชิม่า
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่