[CR] Akita in The Winter : อาคิตะหน้าหนาว ก็จะขาวประมาณนี้

ว่ากันว่าอาคิตะ (Akita) เป็นจังหวัดที่มีหิมะตก “หนาแน่น” มากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
เพราะกิตติศัพท์ที่เลื่องลือกันอย่างหนาหูนี่แหล่ะ… ที่ทำให้เราตัดสินใจไปเที่ยวจังหวัดอาคิตะ ในหน้าหนาว…
เหตุผล ก็มีอยู่เพียงเท่านี้จริง ๆ

แต่หลังจากที่ใช้เวลา 4 วัน 3 คืน ในการเที่ยวอาคิตะ  ก็ทำให้เราได้รู้ว่า… การไปดูหิมะ คงไม่ใช่เพียงแค่เหตุผลเดียว สำหรับการมาเยือน Akita ในครั้งต่อไป


.
อาคิตะ (Akita) เป็นจังหวัดที่อยู่ทางตอนเหนือ ในภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ห่างจากเมืองโตเกียวประมาณ 609 กิโลเมตร มีประชากรราว ๆ 1,026,983 คน และผู้คนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม

จังหวัดนี้มีความโดดเด่นในหลาย ๆ ด้าน นอกเหนือจากประเพณีและวัฒนธรรม กับสุนัขสายพันธ์อาคิตะสุดคิ้วท์แล้ว ก็เห็นจะเป็นด้านธรรมชาตินี่แหล่ะ ที่โดดเด่นเกินกว่าใคร ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ ภูเขา หรือแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติ ที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก จนหลาย ๆ จังหวัดอาจจะต้องมองค้อน…

และด้วยความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ บวกกับชัยภูมิที่ตั้งนี่เอง จึงทำให้สภาพอากาศของจังหวัดนี้ หนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี แถมยังเป็นจังหวัดที่มีการบันทึกเอาไว้ว่า เป็นจังหวัดที่มีหิมะหนาแน่นมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นอีกด้วยนะ
เอาเป็นว่า… ใครที่อยากจะเจอหิมะแบบสาแก่ใจ รบกวนเรียนเชิญมาที่จังหวัดนี้ได้เลยค่ะ…




.
Plan Trip
ด้วยเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด (14 -16 กุมภาพันธ์ 2561) แต่มีหลายสถานที่ที่อยากไปเหลือเกิน เราเลยแก้ปัญหาด้วยการ…ไปมันซะทุกที่นี่แหล่ะ ง่ายดี… แผนการเที่ยวจังหวัดอาคิตะ คร่าว ๆ ของเรา จึงออกมาหน้าตาประมาณนี้

วันที่ 1 – เดินทางมาเมืองอาคิตะ ในช่วงเย็น เข้าพักที่ Toyoko Inn Akita-eki Higashi-guchi
วันที่ 2 – เที่ยว Nyuto Onsen ในครึ่งวันเช้า หลังจากนั้น นั่งรถเที่ยวรอบทะเลสาบ Tazawa ครึ่งวันบ่าย (แอบแทรก Kakunodate ได้ในช่วงเย็น)
วันที่ 3 – ไปชม Snow Monsters ที่ หุบเขา Moriyoshi หลังจากนั้น ไปเทศกาลหิมะที่เมือง Yokote
วันที่ 4 – เชคเอาท์ออกจากที่พักที่ Toyoko Inn Akita-eki Higashi-guchi แล้วเดินทางเข้าโตเกียว

จากที่เห็น วันแรกกับวันสุดท้าย จะเป็นวันที่เข้าเชคอิน-เชคเอาท์ออกจากโรงแรมเท่านั้น เท่ากับว่าเราได้เที่ยวอาคิตะ จริง ๆ ทั้งหมด 2 วันเต็ม… และเป็น 2 วันที่โปรแกรมอัดแน่นยิ่งกว่าหน้าที่เพิ่งไปฉีดโบท็อกซ์มาซะอีก…
ถ้าใครจะลอกแผน ก็สามารถทำได้ แต่ก็ต้องตื่นเช้าทุกวัน และแอบเหนื่อยเอาการอยู่… #เตือนแล้วนะ

JR East Pass (Tohoku Area)
สำหรับการเดินทาง เราใช้ JR East Pass (Tohoku Area) เป็นพาสที่สามารถขึ้นรถไฟสาย JR แบบไม่จำกัดรอบ เป็นระยะเวลา 5 วัน แบบไม่ติดต่อกัน ช่วงเวลาการใช้บัตรภายใน 14 วัน นับจากวันที่ไปแลกพาส สามารถใช้ได้ในแถบภูมิภาค Kanto และ Tohoku โดยเราซื้อมาในราคาประมาณ 19,000 เยน



DAY 1

เราเริ่มออกสตาร์ทจากเมืองฟุคุชิมะ และเดินทางมาถึงเมืองอาคิตะ ประมาณ 6 โมงเย็นเห็นจะได้
วิวจากรถไฟ ที่เมืองฟุคุชิมะ และเซนได แทบจะไม่มีหิมะเลย แต่พอเริ่มเข้าเขตจังหวัดอาคิตะ เท่านั้นแหละหิมะมาเต็มแบบไม่ต้องพยายามมองหาเลยค่ะ…


.
มาถึงที่ ก็ขอปั๊มตราสัญลักษณ์เมืองอาคิตะ เก็บสะสมไว้ซักหน่อย…


.
เราเลือกพักที่ Toyoko Inn Akita-eki Higashi-guchi ทั้งหมด 3 คืนเลย เพราะว่าสะดวกสุด ๆ สามารถเดินจากสถานีรถไฟ เข้าตัวอาคารได้เลย ราคาก็ไม่ได้แรงมาก แถมชั้นล่างก็มีมินิมาร์ทเปิด 24 ชั่วโมงอีกด้วย อย่างน้อยก็ไม่อดตายล่ะทีนี้…


.
เช็คอินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาพักผ่อนเอาแรง เพื่อที่จะไปตะลุยหิมะในวันพรุ่งนี้


DAY 2

หลังจากหลับ ๆ ตื่น ๆ เนื่องจากยังไม่ชินกับการนอนต่างที่ เราตื่นมาตอน 6 โมงเช้าแบบเพลีย ๆ  อาบน้ำ แต่งตัว แล้วขึ้นรถไฟ ไปยังสถานที่แรกของทริปอาคิตะในครั้งนี้ นั่นก็คือ…

Nyuto Onsen

Nyuto Onsen ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Towada-Hachimantai เมือง Semboku โดยชื่อ “Nyuto” นั้น แปลตรงตัวได้ว่า “หัวนม” ที่ตั้งชื่อแบบนั้น ก็เพราะว่า หุบเขาของ Nyuto Onsen มียอดเขาคล้าย ๆ กับหัวนมของผู้หญิง… ซึ่งเราเห็นภาพแล้ว ก็เหมือนจริง ๆ อย่างที่เค้าว่านะ…

ที่นี่เป็นออนเซ็นที่โด่งดังมาก เพราะเป็นออนเซ็นที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และเงียบสงบ ช่วงที่พีคที่สุด สวยงามที่สุด ก็คือช่วงปลายเดือนตุลาคม ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่หุบเขาแห่งนี้ จะถูกแต่งแต้มไปด้วยสีอันฉูดฉาดของใบไม้ เป็นภาพที่สวยงามแปลกตา ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ให้มาสัมผัสที่แห่งนี้

ที่นี่ มีเรียวกังเก่าแก่อยู่ที่หุบเขาแห่งนี้กว่า 8 แห่งด้วยกัน เรียวกังที่โด่งดังที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้น Tsuru no yu onsen เรียวกังที่เราหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องมาให้ได้…

วิธีเดินทางจากโตเกียว :
จากสถานี Tokyo นั่งชินคันเซ็นมาลงที่สถานี Tazawako ใช้เวลาประมาณ 160 นาที (ใช้ JR Pass ได้)
หลังจากนั้น ต่อรถบัส Nyuto Line ที่ป้ายหมายเลข 1 บริเวณขวามือของสถานี Tazawako

เราเริ่มออกเดินทางจากสถานี Akita ไปสถานี Tazawako รอบ 7 โมงเช้า อารมณ์เหมือนละเมอไปขึ้นรถไฟยังไงอย่างงั้น


.
ใช้เวลาไม่เกินชั่วโมง ก็เดินทางมาถึงสถานี Tazawako บรรยากาศดูเงียบเหงาดีจัง…


.
จุดประสงค์หลักที่เรามาเที่ยว Nyuto Onsen ก็คือ เราอยากจะมาแช่ออนเซ็นน้ำนม ที่ Tsuru No Yu  มาก… เราทำการบ้านมาอย่างดี เมื่อมาถึงสถานี Tazawako แล้ว ให้รีบไปบอกทางพนักงาน Tourist Information ให้โทรไปบอกทางโรงแรม Tsuru No Yu ว่า จะมีคนไปใช้บริการ เพื่อทางโรงแรม จะได้เตรียมรถ Shuttle Bus มารับ…

“ขอโทษนะคะ วันนี้ Tsuru no yu onsen ปิดให้บริการค่ะ…”

สิ้นเสียงจากพนักงานศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่สถานี Tazawako ปุ๊บ..!! เราก็เกิดอาการมึนตื้บขึ้นมาทันที…
ผิดแผนกันตั้งแต่โปรแกรมแรกเลยอ่ะแกร๊…

หลังจากนั้นก็เกิดคำถามผุดขึ้นมาในหัวว่า… แล้วเราจะไปไหนดีหว่า…?

ยังไม่ทันสิ้นเสียงความคิดดี ทางพนักงานจึงไปหยิบโบรชัวร์มาให้ พร้อมกับอธิบายอย่างเป็นงานว่า “ยังมีออนเซ็นให้เลือกไปอีกหลายที่นะค๊า…”

ด้วยความที่ไม่ได้หาข้อมูลมาก่อน เราจึงตัดสินใจเลือก โดยดูจากรูปในโบรชัวร์ แล้วจิ้มไปที่ Ganiba Onsen
พิกัด : https://goo.gl/maps/LMYtbSBYwCm


.
หลังจากเลือกจุดหมายได้แล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกันอีกรอบ… พอออกมาจากสถานี Tazawako แล้ว ให้มองมาทางขวามือ


.
จะมีป้ายรถบัสแบบนี้อยู่ ให้ตรงปรี่มาที่ป้ายหมายเลข 1 ได้เลย


.
สำหรับรอบรถบัส Nyuto Line ไป Nyuto Onsen จะออกทุก ๆ 1 ชั่วโมงโดยประมาณ โดยรอบรถจากสถานี Tazawako มีรอบดังนี้

6 : 55 / 7:45 / 8:45 / 9:40 / 10:40 / 12.25 / 13:20 / 14:20 / 15:35 / 16:35 /17:20 / 18:20


.
นั่งรถมาที่ Ganiba Onsen ไม่ต้องกลัวหลง เพราะว่าให้มาลงที่ป้ายสุดท้ายได้เลย ค่าโดยสาร 820 เยน



Ganiba Onsen

Ganiba Onsen คือ 1 ใน 8 ออนเซ็นแห่งหุบเขา Nyuto จังหวัดอาคิตะ โดยก่อตั้งมาเมื่อปี ค.ศ. 1846
ออนเซ็นแห่งนี้โด่งดังมากในเรื่องสรรพคุณของน้ำ ที่ช่วยบรรเทาอาการของโรคหลายชนิด รวมถึงบ่อออนเซ็น ที่เค้าร่ำลือกันมาว่า เด็ดดวงพวงมาลัย วิวสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งใน Nyuto Onsen เลยทีเดียว

สำหรับชื่อของเรียวกังแห่งนี้ แปลได้ตรงตัวว่า ปู (เพราะคำว่า Ganiba มาจากคำว่า Kani (カニ) แปลว่าปู) เพราะว่าบริเวณนี้ พบเจอปูเป็นจำนวนมาก เลยนำมาตั้งเป็นชื่อเรียวกังไปซะเลย


.
เปิดประตูเข้ามา ก็จะเจอกับ Front Desk ที่พนักงาน เป็นหนุ่มญี่ปุ่นหน้าตาจิ้มลิ้ม พร้อมกับพูดภาษาอังกฤษ แนะนำการใช้บริการของที่นี่ได้อย่างฉะฉาน
ค่าบริการจะอยู่ที่ 600 เยน ส่วนผ้าเช็ดตัว ให้นำมาเอง ถ้าไม่มี ที่นี่ก็มีขายนะจ๊ะ…
ส่วนเวลาการใช้บริการคือ 9:00-17:00 น.


.
ด้วยความที่ไม่ได้หาข้อมูลมาก่อน เลยทำให้เราไม่รู้ว่าจะได้เจอกับอะไรบ้าง แล้วก็เจอกับเซอร์ไพรส์ที่เราปลื้มที่สุด
Ta Dah..!


.
ระหว่างทางไปบ่อออนเซ็น จะต้องเดินผ่านช่องทาง “กำแพงหิมะ” ที่มีความสูงกว่า 4 เมตร เป็นระยะทางประมาณ 50 เมตร
ณ.จุดนี้ อยากได้รูปเดี่ยวมาก… เสียดายที่มาคนเดียว


.
เชื่อแล้วว่า จังหวัดอาคิตะ เป็นจังหวัดที่หิมะตกสะสมสูงที่สุด เป็นลำดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น


.
เดินมาแป๊บเดียว บ่อออนเซ็นก็ค่อย ๆ เผยโฉมออกมาให้เห็น…


.
เอาจริง ๆ นะ นี่ตื่นเต้นมาก… อารมณ์เหมือนอยู่ในวันเดอร์แลนด์อะไรซักอย่าง แล้วก็เดินมาพบกับพาราไดซ์เข้าโดยบังเอิญ…


.
จากที่เห็น ไม่มีคนเลย บ่อนี้จึงตกเป็นของเราแต่เพียงผู้เดียว…
ทางด้านขวามือ จะเป็นห้องสำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้าแยกชายหญิง… ใช่แล้ว ที่นี่คือบ่อรวมนะ…

ที่นี่จะมีบ่อออนเซ็นหลัก ๆ อยู่ทั้งหมด 3 บ่อ คือ บ่อแยกชาย-หญิง และบ่อกลางแจ้งรวมชาย-หญิง สำหรับคนที่ไม่ได้เข้าพัก แต่ว่ามาใช้บริการแช่ออนเซ็นเพียงอย่างเดียว ก็จะสามารถใช้บริการได้แค่บ่อนี้เท่านั้น…


.
ไม่รู้ว่า เรากลายเป็นคนชอบแช่ออนเซ็นไปตั้งแต่เมื่อไหร่ สงสัยจะติดใจตั้งแต่ไปแช่ที่ Takaragawa Onsen ช่วงหน้าหนาวปีก่อนนู้น… ซึ่งถ้าให้เทียบกันระหว่าง 2 ที่นี้… Takaragawa Onsen จะบรรยากาศดีกว่า ถ่ายรูปสวยกว่า แต่ที่ Ganiba Onsen จะได้ความเป็นส่วนตัวกว่า…
แต่ถ้าเทียบความฟิน เราให้เต็มสิบทั้งคู่นะ…


.
แต่ถึงจะฟินแค่ไหน มันก็ต้องมีอะไรมาหักคะแนนกันบ้าง ตรงที่บ่อออนเซ็นกลางแจ้งของที่นี่ ไม่มีห้องอาบน้ำไว้ทำความสะอาดร่างกาย จึงทำให้หลังจากที่แช่ และแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะมีกลิ่นของน้ำติดตัวอยู่บาง ๆ ซึ่งทำให้เราแอบเซ็งอยู่พอสมควร เราจึงขอแนะนำว่า ควรมาแช่ที่นี่เป็นที่แรก แล้วค่อยไปแช่ที่อื่นต่อไป เพื่อที่จะได้ใช้ห้องอาบน้ำของที่อื่นล้างตัว…



โดยรวมแล้วเราค่อนข้างประทับใจที่นี่มากนะ คือไม่ได้คาดหวังอะไรแต่กลับสมหวังเกินคาด ถ้ามีโอกาสก็อยากจะลองมาพักที่นี่ดูซักครั้ง เพราะว่าติดใจกำแพงหิมะและบ่อออนเซ็นที่นีจริงๆ
ชื่อสินค้า:   เที่ยวอาคิตะด้วยตัวเอง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่