Winter is Coming ! พอพูดถึงญี่ปุ่นหน้าหนาว ภาพของบ้านเรือนและสถานที่เที่ยวสวย ๆ ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนก็แว็บเข้ามาในหัว !
แค่คิดก็อยากจะกดจองตั๋วไปซะเดี๋ยวนี้แล้วค่ะคุณผู้โชมม
และหนึ่งในภูมิภาคที่เหมาะแก่การเดินทางไปเที่ยวในช่วงฤดูหนาวก็ต้องยกให้
“TOHOKU (โทโฮคุ)” ภูมิภาคที่อยู่ทางภาคเหนือของประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งประกอบไปด้วย 6 เมือง ได้แก่ อิวาเตะ อากิตะ ยามากาตะ อาโอโมริ ฟุกุชิมะ และ มิยางิ แต่ละเมืองล้วนมีธรรมชาติที่น่าหลงใหล น่าเที่ยวทุกเมือง
โดยเฉพาะช่วงพีคสุด ก็คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เพราะหลาย ๆ สถานที่ท่องเที่ยวและธรรมชาติของเมืองของโทโฮคุจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโปรยปราย ได้เที่ยวที่สวย ๆ ท่ามกลางบรรยากาศหนาว ๆ บอกเลยฟินสุด
วันนี้เราเลยขออาสาพาเพื่อน ๆ ไปพบกับ 9 กิจกรรมที่น่าทำในโทโฮคุ ที่จะมาสร้างความประทับใจช่วงฤดูหนาว รับรองว่าทั้งสวยทั้งสนุก
ที่สำคัญทุกกิจกรรมที่เราจะพาไปทำนั้นสามารถเดินทางง่าย ๆ ด้วยรถไฟความเร็วสูงที่ครอบคลุมทุกเมือง สะดวกสบาย แค่ใช้พาสโดยสารรถไฟ
JR EAST PASS (Tohoku area) แบบ 5 วัน ใบเดียวก็ช่วยให้เราได้เที่ยวญี่ปุ่นในแถบโทโฮคุได้ไม่อั้น เพราะไม่จำกัดจำนวนเที่ยว !
แม้จะอยู่ต่างเมือง แต่เราก็ยังสามารถวาร์ปไปได้สบาย ๆ ไม่ว่าจะเล่นหิมะ / ชมซากุระ / แช่ออนเซ็น / ตะลุยแหล่งอาหารทะเลสด ๆ
ป่ะ พร้อมแล้วไปเที่ยวกัน
1.ล่องเรือชมวิวแม่น้ำโมกามิ/ช่องเขาเกบิเค
กิจกรรมสุด Wow ! ในหน้าหนาวแบบนี้ ต้องยกให้กับกิจกรรมล่องเรือชมวิวแม่น้ำ เราจะได้นั่งอยู่บนเรือขนาดเล็ก ภายในเรือจะมีโต๊ะเตี้ย ๆ ที่เรียกว่า
“โคทัตสึ” ด้านล่างจะมีเครื่องทำความร้อนและผ้าห่ม ช่วยให้ความอบอุ่นสบายแก่เท้าขณะนั่งชมวิวสุดอลังตลอดริมสองฝั่งแม่น้ำ ซึ่งวิวที่เราจะได้เห็นเนี่ยเรียกได้ว่าหาชมยากมาก ไม่ว่าจะหันมองไปทางไหนก็จะเจอกับต้นไม้และภูเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน หรือวิวหน้าผาสูงใหญ่
หลายสิบเมตรรูปร่างแปลกตาท่ามกลางหิมะโปรยปราย สวยงามราวกับได้นั่งอยู่บนสวรรค์ น่าอัศจรรย์สุด ๆ ไปเลยล่ะ
และเส้นทางล่องเรือยอดนิยมที่แรกก็คือ
แม่น้ำโมกามิ เป็นแม่น้ำที่อยู่ในจังหวัดยามากาตะ ที่นี่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุด
และเป็นแหล่งน้ำสำคัญของเมืองยามากาตะ โดยเรือจะล่องไปตามแม่น้ำแบบทางเดียว ซึ่งสถานที่ขึ้นและลงเรือก็จะแตกต่างกันค่ะ
การเดินทาง : จากรถไฟสายริคุโอตะวันตก ( JR East Japan Rikuu West ) ไปลงที่สถานี JR Furukuchi แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
Image credit
www.tohokukanko.jp
ช่องเขาเกบิเค เป็นอีกหนึ่งเส้นทางธรรมชาติยอดนิยมของเมืองอิวาเตะ มาที่นี่เพื่อน ๆ จะสามารถใช้เวลาในการล่องเรือแบบไป-กลับ พร้อมสำรวจความสวยงามน่าประทับใจของหน้าผาสูงใหญ่รูปทรงแปลก ๆ ตลอดสองข้างทาง บอกเลยว่าเป็นภาพที่จะทำให้เรารู้สึกราวกับได้อยู่ในเทพนิยาย
ได้ตลอดเส้นทางในระยะเวลา 90 นาที
การเดินทาง : จาก JR สายโอฟุนาโตะ (JR Ofunato Line) ไปลงที่สถานี JR เกบิเค (JR Geibikei Station) แล้วเดินต่อไปประมาณ 5 นาที
Image credit
www.tohokukanko.jp
2. ชม “ซากุระหิมะ” ในอุทยานปราสาทฮิโรซากิ และงานเทศกาลหิมะสุดตื่นตา
ใครที่ไม่อยากพลาดชมความสวยงามของดอกซากุระที่บานสะพรั่งในหน้าหนาว ก็ต้องลองแวะมาที่อุทยานปราสาทฮิโรซากิเลยค่ะ เพราะที่นี่
เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องจุดชมซากุระที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลย โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวเนี่ย เพื่อน ๆ จะได้เห็นวิวต้นซากุระหลายพันต้น
ที่จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะบรรยากาศนี่สวยซะจนอยากหยุดเวลาไว้ที่นี่เลย
นอกจากนั้นในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ เค้าจะมีการประดับไฟบนต้นไม้บริเวณทางออกโอเตะมงด้วย สวยม๊ากก
Image credit
www.facebook.com/TohokuTourism
และใครที่ไปเที่ยวในช่วงระหว่างวันที่ 8-11 กุมภาพันธ์ 2020 ที่นี่จะมีการจัดงานเทศกาลหิมะฮิโรซากิ (弘前城雪燈籠まつり) ซึ่งเป็นหนึ่งในเทศกาลหิมะที่มีความสำคัญในโทโฮคุ เราจะได้ชื่นชมกับศิลปะของหิมะในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การปั้นหิมะให้เป็นรูปร่างที่สวยงาม รวมถึงได้ชมโคมไฟหิมะที่ปั้นด้วยมือ ซึ่งเป็นผลงานจากคนในชุมชนอีกด้วย มากันให้ได้นะคะ !
การเดินทาง: จากสถานีสายหลัก JR โออุ (Ou Main Line) ให้ไปลงที่สถานี JR ฮิโรซากิ (JR Hirosaki Station) จากนั้นนั่งรถบัสต่อมาประมาณ
10 นาที ลงป้ายชิยาคุโชะมาเอะ (Shiyakusho-mae) แล้วเดินต่ออีก 4 นาที
Image credit
www.tohokukanko.jp
นอกจากนี้ในอุทยานปราสาทฮิโรซากิยังมีการจัดงานแสดงไฟ และการฉายภาพลงบนประติมากรรมหิมะด้วย
Image credit
www.tohokukanko.jp
3. เดินเที่ยวท่ามกลางปีศาจหิมะขนาดยักษ์
ยกให้เป็นพิกัดที่น่าตื่นตาตื่นใจ และดูพิศวงมาก ๆ เลยสำหรับ “ปีศาจหิมะ” ปรากฏการณ์หิมะรูปทรงประหลาด ซึ่งเกิดขึ้นในหลาย ๆ ที่
ในเขตโทโฮคุ เช่น บริเวณภูเขาโมริโยชิยามะในอาคิตะ , บริเวณภูเขาฮัคโคดะในอาโอโมริ แต่จุดที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือ ภูเขาซาโอในเมืองยามากาตะค่ะ
ที่มาของชื่อ “ปีศาจหิมะ” หรือที่เรียกกันว่า Juhyou มาจากปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากการสะสมของน้ำแข็งและหิมะบนต้นไม้เป็นจำนวนมาก
เมื่อผ่านไปช่วงเวลาหนึ่งก็จะทำให้เกิดเป็นรูปร่างแปลก ๆ คล้ายปีศาจ ยิ่งตอนกลางคืนจะมีการประดับไฟให้ดูสวยงามด้วย มองไปมองมาก็น่าแอบพิศวง
ใช่เล่น
Image credit
www.tohokukanko.jp
การเดินทางมาเมืองซาโอ : นั่งรถไฟ JR ชินคันเซ็น มาลงสถานียามากาตะ (Yamagata Station) แล้วต่อรถบัสมาอีกราว ๆ 40 นาที
การเดินทางมาเมืองภูเขาฮัคโคดะ : จากสถานี JR อาโอโมริ (JR Aomori Station) หรือสถานี JR ชินอาโอโมริ (JR Shin-Aomori Station) (สามารถใช้กับ JR East Pass พื้นที่โทโฮคุ) จากนั้นต่อรถบัส JR โทโฮคุ มาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง
การเดินทางมาภูเขาโมริโยชิ : จากสถานีอานิไอของรถไฟสายอาคิตะ ไนริคุ จูคัง (ไม่ใช่รถไฟของ JR ไม่สามารถใช้กับ JR East Pass ได้) แล้วนั่ง Taxi ต่อมาอีกประมาณ 20 นาที
Image credit
www.tohokukanko.jp
4. แช่ออนเซ็นสุดฟิน !
ช่วงฤดูหนาวและหิมะตกแบบนี้ กิจกรรมที่ห้ามพลาดเลย นั่นก็คือการไปนอนแช่ออนเซ็นที่แสนสบายพร้อมชื่นชมกับทิวทัศน์อันงดงาม
ของภูเขาน้อยใหญ่ที่มีหิมะเต็มไปหมด นอกจากเราจะได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่แล้ว บรรยากาศตอนกลางคืนของเมืองต่าง ๆ ก็สวยงามไม่แพ้กัน
และแหล่งแช่ออนเซ็นที่ห้ามพลาดเลย ก็คือ กินซังออนเซ็น ที่นี่เป็นเมืองน้ำพุร้อนเก่าแก่ ที่มีความสวยงามเป็นอันดับท็อป ๆ ของโทโฮคุเลยค่ะ เมื่อมาที่นี่นอกจากเราจะได้ลงไปแช่ออนเซ็นให้ฟินแล้ว ยังสามารถเดินออกมาชมบรรยากาศในตอนกลางคืนท่ามกลางแสงไฟสีเหลืองส่องสว่างทั่วเมือง พร้อมชมหิมะตกได้ วิวนี่งดงาม จนทำให้นึกถึงฉากในภาพยนตร์ของสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) เลยค่ะ
การเดินทาง : จากยามากาตะชินคันเซ็น ให้ลงสถานี JR โออิชิดะ (JR Oishida Station) แล้วต่อรถบัสมาอีกประมาณ 35 นาที
Image credit
www.tohokukanko.jp
แหล่งแช่ออนเซ็นอีกหนึ่งแห่ง ที่เราขอแนะนำก็คือ นิวโตะออนเซ็น เมืองอาคิตะ ที่นี่คือบ่อออนเซ็นแบบโบราณ เป็นลักษณะบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้ง
ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เราสามารถแช่น้ำไปแล้วชมภาพของวิวหิมะไปด้วย แถมมีความส่วนตัวมากจนเรารู้สึกเหมือนได้ถูกตัดขาด
จากโลกภายนอกไปเลยล่ะ
การเดินทาง : จากชินคันเซ็นอาคิตะ ไปลงที่สถานี JR ทาซาวาโกะ (JR Tazawako Station) ต่อด้วยนั่งรถบัส โดยใช้เวลาประมาณ 50 นาที
Image credit
www.nyutoonsenkyo.com
5. เดินเที่ยวเส้นทางกำแพงหิมะ
แม้จะผ่านพ้นช่วงฤดูหนาวมาแล้วเราก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับหิมะได้ด้วยนะ เพราะในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม จะมีเส้นทางกำแพงหิมะ
ขนาดใหญ่ที่ชื่อว่าเส้นทางฮาจิมันไต แอสไปต์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่เกิดจากการนำหิมะออกจากถนน จนเกิดเป็นแนวกำแพงหิมะสองฝั่งยาวสุดลูกหูลูกตา เราสามารถมองกำแพงหิมะขนาดใหญ่นี้ได้จากกระจกรถบัส หรือจะลงมาถ่ายรูปและสัมผัสกับหิมะก็ได้ (ถ้าไม่กลัวตัวแข็งไปซะก่อนนะคะ แฮ่ )
Image credit
www.tohokukanko.jp
การเดินทางมายังเส้นทาง ฮาจิมันไต แอสไปต์ : ให้บริการโดยโทโฮคุชินคันเซ็น หรืออาคิตะชินคันเซ็น ลงที่สถานี JR โมริโอกะ (JR Morioka Station) ต่อด้วยนั่งรสบัสใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
Image credit
www.tohokukanko.jp
[BR] หนาวนี้ฉันต้องได้ไปญี่ปุ่น ! ชี้เป้า 9 กิจกรรมน่าทำใน TOHOKU เที่ยวง่ายเก็บได้ครบทุกเมือง
แค่คิดก็อยากจะกดจองตั๋วไปซะเดี๋ยวนี้แล้วค่ะคุณผู้โชมม
และหนึ่งในภูมิภาคที่เหมาะแก่การเดินทางไปเที่ยวในช่วงฤดูหนาวก็ต้องยกให้ “TOHOKU (โทโฮคุ)” ภูมิภาคที่อยู่ทางภาคเหนือของประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งประกอบไปด้วย 6 เมือง ได้แก่ อิวาเตะ อากิตะ ยามากาตะ อาโอโมริ ฟุกุชิมะ และ มิยางิ แต่ละเมืองล้วนมีธรรมชาติที่น่าหลงใหล น่าเที่ยวทุกเมือง
โดยเฉพาะช่วงพีคสุด ก็คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เพราะหลาย ๆ สถานที่ท่องเที่ยวและธรรมชาติของเมืองของโทโฮคุจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโปรยปราย ได้เที่ยวที่สวย ๆ ท่ามกลางบรรยากาศหนาว ๆ บอกเลยฟินสุด
วันนี้เราเลยขออาสาพาเพื่อน ๆ ไปพบกับ 9 กิจกรรมที่น่าทำในโทโฮคุ ที่จะมาสร้างความประทับใจช่วงฤดูหนาว รับรองว่าทั้งสวยทั้งสนุก
ที่สำคัญทุกกิจกรรมที่เราจะพาไปทำนั้นสามารถเดินทางง่าย ๆ ด้วยรถไฟความเร็วสูงที่ครอบคลุมทุกเมือง สะดวกสบาย แค่ใช้พาสโดยสารรถไฟ
JR EAST PASS (Tohoku area) แบบ 5 วัน ใบเดียวก็ช่วยให้เราได้เที่ยวญี่ปุ่นในแถบโทโฮคุได้ไม่อั้น เพราะไม่จำกัดจำนวนเที่ยว !
แม้จะอยู่ต่างเมือง แต่เราก็ยังสามารถวาร์ปไปได้สบาย ๆ ไม่ว่าจะเล่นหิมะ / ชมซากุระ / แช่ออนเซ็น / ตะลุยแหล่งอาหารทะเลสด ๆ
ป่ะ พร้อมแล้วไปเที่ยวกัน
กิจกรรมสุด Wow ! ในหน้าหนาวแบบนี้ ต้องยกให้กับกิจกรรมล่องเรือชมวิวแม่น้ำ เราจะได้นั่งอยู่บนเรือขนาดเล็ก ภายในเรือจะมีโต๊ะเตี้ย ๆ ที่เรียกว่า
“โคทัตสึ” ด้านล่างจะมีเครื่องทำความร้อนและผ้าห่ม ช่วยให้ความอบอุ่นสบายแก่เท้าขณะนั่งชมวิวสุดอลังตลอดริมสองฝั่งแม่น้ำ ซึ่งวิวที่เราจะได้เห็นเนี่ยเรียกได้ว่าหาชมยากมาก ไม่ว่าจะหันมองไปทางไหนก็จะเจอกับต้นไม้และภูเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน หรือวิวหน้าผาสูงใหญ่
หลายสิบเมตรรูปร่างแปลกตาท่ามกลางหิมะโปรยปราย สวยงามราวกับได้นั่งอยู่บนสวรรค์ น่าอัศจรรย์สุด ๆ ไปเลยล่ะ
และเส้นทางล่องเรือยอดนิยมที่แรกก็คือ แม่น้ำโมกามิ เป็นแม่น้ำที่อยู่ในจังหวัดยามากาตะ ที่นี่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุด
และเป็นแหล่งน้ำสำคัญของเมืองยามากาตะ โดยเรือจะล่องไปตามแม่น้ำแบบทางเดียว ซึ่งสถานที่ขึ้นและลงเรือก็จะแตกต่างกันค่ะ
การเดินทาง : จากรถไฟสายริคุโอตะวันตก ( JR East Japan Rikuu West ) ไปลงที่สถานี JR Furukuchi แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
ช่องเขาเกบิเค เป็นอีกหนึ่งเส้นทางธรรมชาติยอดนิยมของเมืองอิวาเตะ มาที่นี่เพื่อน ๆ จะสามารถใช้เวลาในการล่องเรือแบบไป-กลับ พร้อมสำรวจความสวยงามน่าประทับใจของหน้าผาสูงใหญ่รูปทรงแปลก ๆ ตลอดสองข้างทาง บอกเลยว่าเป็นภาพที่จะทำให้เรารู้สึกราวกับได้อยู่ในเทพนิยาย
ได้ตลอดเส้นทางในระยะเวลา 90 นาที
การเดินทาง : จาก JR สายโอฟุนาโตะ (JR Ofunato Line) ไปลงที่สถานี JR เกบิเค (JR Geibikei Station) แล้วเดินต่อไปประมาณ 5 นาที
ใครที่ไม่อยากพลาดชมความสวยงามของดอกซากุระที่บานสะพรั่งในหน้าหนาว ก็ต้องลองแวะมาที่อุทยานปราสาทฮิโรซากิเลยค่ะ เพราะที่นี่
เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องจุดชมซากุระที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลย โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวเนี่ย เพื่อน ๆ จะได้เห็นวิวต้นซากุระหลายพันต้น
ที่จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะบรรยากาศนี่สวยซะจนอยากหยุดเวลาไว้ที่นี่เลย
นอกจากนั้นในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ เค้าจะมีการประดับไฟบนต้นไม้บริเวณทางออกโอเตะมงด้วย สวยม๊ากก
และใครที่ไปเที่ยวในช่วงระหว่างวันที่ 8-11 กุมภาพันธ์ 2020 ที่นี่จะมีการจัดงานเทศกาลหิมะฮิโรซากิ (弘前城雪燈籠まつり) ซึ่งเป็นหนึ่งในเทศกาลหิมะที่มีความสำคัญในโทโฮคุ เราจะได้ชื่นชมกับศิลปะของหิมะในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การปั้นหิมะให้เป็นรูปร่างที่สวยงาม รวมถึงได้ชมโคมไฟหิมะที่ปั้นด้วยมือ ซึ่งเป็นผลงานจากคนในชุมชนอีกด้วย มากันให้ได้นะคะ !
การเดินทาง: จากสถานีสายหลัก JR โออุ (Ou Main Line) ให้ไปลงที่สถานี JR ฮิโรซากิ (JR Hirosaki Station) จากนั้นนั่งรถบัสต่อมาประมาณ
10 นาที ลงป้ายชิยาคุโชะมาเอะ (Shiyakusho-mae) แล้วเดินต่ออีก 4 นาที
นอกจากนี้ในอุทยานปราสาทฮิโรซากิยังมีการจัดงานแสดงไฟ และการฉายภาพลงบนประติมากรรมหิมะด้วย
ยกให้เป็นพิกัดที่น่าตื่นตาตื่นใจ และดูพิศวงมาก ๆ เลยสำหรับ “ปีศาจหิมะ” ปรากฏการณ์หิมะรูปทรงประหลาด ซึ่งเกิดขึ้นในหลาย ๆ ที่
ในเขตโทโฮคุ เช่น บริเวณภูเขาโมริโยชิยามะในอาคิตะ , บริเวณภูเขาฮัคโคดะในอาโอโมริ แต่จุดที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือ ภูเขาซาโอในเมืองยามากาตะค่ะ
ที่มาของชื่อ “ปีศาจหิมะ” หรือที่เรียกกันว่า Juhyou มาจากปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากการสะสมของน้ำแข็งและหิมะบนต้นไม้เป็นจำนวนมาก
เมื่อผ่านไปช่วงเวลาหนึ่งก็จะทำให้เกิดเป็นรูปร่างแปลก ๆ คล้ายปีศาจ ยิ่งตอนกลางคืนจะมีการประดับไฟให้ดูสวยงามด้วย มองไปมองมาก็น่าแอบพิศวง
ใช่เล่น
การเดินทางมาเมืองซาโอ : นั่งรถไฟ JR ชินคันเซ็น มาลงสถานียามากาตะ (Yamagata Station) แล้วต่อรถบัสมาอีกราว ๆ 40 นาที
การเดินทางมาเมืองภูเขาฮัคโคดะ : จากสถานี JR อาโอโมริ (JR Aomori Station) หรือสถานี JR ชินอาโอโมริ (JR Shin-Aomori Station) (สามารถใช้กับ JR East Pass พื้นที่โทโฮคุ) จากนั้นต่อรถบัส JR โทโฮคุ มาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง
การเดินทางมาภูเขาโมริโยชิ : จากสถานีอานิไอของรถไฟสายอาคิตะ ไนริคุ จูคัง (ไม่ใช่รถไฟของ JR ไม่สามารถใช้กับ JR East Pass ได้) แล้วนั่ง Taxi ต่อมาอีกประมาณ 20 นาที
ช่วงฤดูหนาวและหิมะตกแบบนี้ กิจกรรมที่ห้ามพลาดเลย นั่นก็คือการไปนอนแช่ออนเซ็นที่แสนสบายพร้อมชื่นชมกับทิวทัศน์อันงดงาม
ของภูเขาน้อยใหญ่ที่มีหิมะเต็มไปหมด นอกจากเราจะได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่แล้ว บรรยากาศตอนกลางคืนของเมืองต่าง ๆ ก็สวยงามไม่แพ้กัน
และแหล่งแช่ออนเซ็นที่ห้ามพลาดเลย ก็คือ กินซังออนเซ็น ที่นี่เป็นเมืองน้ำพุร้อนเก่าแก่ ที่มีความสวยงามเป็นอันดับท็อป ๆ ของโทโฮคุเลยค่ะ เมื่อมาที่นี่นอกจากเราจะได้ลงไปแช่ออนเซ็นให้ฟินแล้ว ยังสามารถเดินออกมาชมบรรยากาศในตอนกลางคืนท่ามกลางแสงไฟสีเหลืองส่องสว่างทั่วเมือง พร้อมชมหิมะตกได้ วิวนี่งดงาม จนทำให้นึกถึงฉากในภาพยนตร์ของสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) เลยค่ะ
การเดินทาง : จากยามากาตะชินคันเซ็น ให้ลงสถานี JR โออิชิดะ (JR Oishida Station) แล้วต่อรถบัสมาอีกประมาณ 35 นาที
แหล่งแช่ออนเซ็นอีกหนึ่งแห่ง ที่เราขอแนะนำก็คือ นิวโตะออนเซ็น เมืองอาคิตะ ที่นี่คือบ่อออนเซ็นแบบโบราณ เป็นลักษณะบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้ง
ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เราสามารถแช่น้ำไปแล้วชมภาพของวิวหิมะไปด้วย แถมมีความส่วนตัวมากจนเรารู้สึกเหมือนได้ถูกตัดขาด
จากโลกภายนอกไปเลยล่ะ
การเดินทาง : จากชินคันเซ็นอาคิตะ ไปลงที่สถานี JR ทาซาวาโกะ (JR Tazawako Station) ต่อด้วยนั่งรถบัส โดยใช้เวลาประมาณ 50 นาที
แม้จะผ่านพ้นช่วงฤดูหนาวมาแล้วเราก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับหิมะได้ด้วยนะ เพราะในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม จะมีเส้นทางกำแพงหิมะ
ขนาดใหญ่ที่ชื่อว่าเส้นทางฮาจิมันไต แอสไปต์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่เกิดจากการนำหิมะออกจากถนน จนเกิดเป็นแนวกำแพงหิมะสองฝั่งยาวสุดลูกหูลูกตา เราสามารถมองกำแพงหิมะขนาดใหญ่นี้ได้จากกระจกรถบัส หรือจะลงมาถ่ายรูปและสัมผัสกับหิมะก็ได้ (ถ้าไม่กลัวตัวแข็งไปซะก่อนนะคะ แฮ่ )
การเดินทางมายังเส้นทาง ฮาจิมันไต แอสไปต์ : ให้บริการโดยโทโฮคุชินคันเซ็น หรืออาคิตะชินคันเซ็น ลงที่สถานี JR โมริโอกะ (JR Morioka Station) ต่อด้วยนั่งรสบัสใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน