ต่อจากกระทู้เก่าค่า
วันที่ 1 อุเมดะ-Jizoin วัดต้นกำเนิดอิคคิวซัง-วัดจิ้งหรีด-อาราชิยามะ
https://ppantip.com/topic/37229018
วันที่ 2 ปราสาทนิโจ-ร้านราเมงไฟลุก-เดินเล่น Kawaramachi-ศาลเจ้าYasaka-ดองกี้อุเมดะ
https://ppantip.com/topic/37241485
วันที่ 3 Rokkosan-เล่นสกีที่snow park-Kobe Port Tower & Kobe Harborland-ประดับไฟ Kobe Luminarie
https://ppantip.com/topic/37243596
วันที่ 4 Dotonbori-บุกชั้นขนมใต้ดินห้างฯHankyu- ชิงช้าสวรรค์ HAP FIVE -PABLO-Hankyu 3 bankai
https://ppantip.com/topic/37243625
วันที่ 3 Rokkosan-เล่นสกีที่snow park-Kobe Port Tower &Kobe Harborland -ประดับไฟ Kobe Luminarie
เช้าวันที่ 3 เราเริ่มใช้ Hanshin Tourist Pass นั่งรถไฟจากอุเมดะ สาย Hanshin ไปโกเบกันค่ะ
รอขึ้นรอบ 9:10 ทางไป Kobe-Sannomiya ค่ะ เราจะไปลงสถานี Hanshin-migake ตามข้างล่างนี้
ในช่วงเช้าเราจะไปภูเขา Rokko กันก่อนค่ะ เลยเตรียมบัตร Rokkosan Tourist Pass (1,000เยน)มาด้วย
บางคนอาจจะตกใจกับราคาเล็กน้อย ว่าทำไมค่อนข้างแพง ดังนั้นจึงขอแจกแจงว่าใน 1,000 เยนนี้มีรวมค่าอะไรบ้างนะคะ
1.Kobe City bus อันนี้ใช้ต่อเมื่อไปถึงสถานี Hanshin-migake ที่เป็นจุดขึ้นรถบัสไปภูเขา Rokko ค่ะ ราคาปกติเที่ยวละ 210 เยน
2.Rokko Cable Car หลังจากซิตี้บัสไปส่งถึงเคเบิ้ลคาร์ เราก็จะใช้บัตรนี้ขึ้นเขากัน ราคาปกติเที่ยวละ 590 เยน
3.Rokko sanjo Bus หลังจากลงเคเบิลคาร์ จะมีบัสที่วิ่งบนเขาไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตั๋วอันนี้ขึ้นได้ไม่จำกัดรอบเลย ราคาปกติเที่ยวละ 240 เยน
4. Rokko Cable Car สำหรับขาลงจากเขา ราคาปกติเที่ยวละ 590 เยน
5.Kobe City bus สำหรับนั่งบัสกลับมายังสถานี Hanshin-migake ราคาปกติเที่ยวละ 210 เยน
บอกเลยว่า 1,000 เยน คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม!! เพราะถ้าเดินทางโดยไม่มีพาสรวมทั้งหมดแล้ว2,080 เยนค่ะ ประหยัดไปตั้ง 1,080 เยนแหน่ะ
ที่อธิบายไปเมื่อกี้ อาจจะมีคนงง ในแผ่นพับที่ให้มาพร้อมกับบัตร จะมีเขียนอธิบายอย่างละเอียดไว้เป็นภาษาอังกฤษ เข้าใจง่ายมากๆค่ะ
พอมาถึงสถานี Hanshin-migake เราก็เดินตามลูกศรลงมา เป็นทางออกไว้ขึ้นรถบัส โดยบัสที่ไป Rokko Cable Car จะอยู่เบอร์ 16 ค่ะ
หลังจากที่นั่งรถบัสมากันเกือบครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงสถานีขึ้นเคเบิ้ลคาร์แล้วจ้า อากาศก็เริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆ
เคเบิ้ลคาร์วินเทลมากๆอ่ะ แถมตอนนี้เขาจัดเทศกาลคริสมาสต์ด้วย สีรถเป็นสีแดงกับสีเขียวพอดี เข้ากับบรรยากาศสุดๆเลย
นั่งเคเบิ้ลคาร์ประมาณ 10 นาที กินลมชมวิวระหว่างทางไปเรียบร้อยก็มาถึงบนเขาเป็นที่เรียบร้อย อากาศหนาวสะใจสุดๆ แล้ววิวก็สวยสุดๆเช่นกัน ไปขึ้นรถบัสกันต่อดีกว่าค่า
และแล้ว ในที่สุดเราก็มาถึง Rokkosan Snow Park!!! หลายต่อมากเลยจริงๆ แต่ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด ถ้าเรามีบัตร Rokkosan Tourist pass อ่านะ ฉีกตั๋วไปเรื่อยๆ ชิวๆ
ก่อนอื่นเราขอบอกเหตุผลก่อน ว่าทำไมถึงเลือกมาเล่นสกีที่นี่…
อย่างแรก คือ ลานสกีที่ใกล้ตัวเมืองที่สุด ก็คือที่ Snow Park แห่งนี้ค่ะ เรามีเวลาไม่กี่วัน และมาต้นเดือนธันวาด้วย ในคันไซหิมะยังไม่ตกใจช่วงนี้ แต่เนื่องจากที่นี่ใช้หิมะเทียม (ใช้เครื่องผลิต) จึงเปิดให้เล่นเร็วกว่าปกติ คือ เดือนพฤศจิกายน และปิดฤดูกาลช้าปกติ คือ เดือนเมษายนค่ะ ถ้าใครอยากจะมาเล่นช่วงนี้ก็มาได้เลย ไม่ต้องรอหิมะจริงตก
แต่ก็เออนะ บางคนอาจจะเถียงว่า “มาทั้งที ทำไมไม่ไปเล่นหิมะจริง” ไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอหิมะจริงนะ แต่เราขอสารภาพว่า เรากับเพื่อนไม่เคยเล่นสกีกันมาก่อนค่ะ แต่ด้วยความที่อยากจะเล่นและมากันแค่สองคน เลยเลือกลานที่ดูปลอดภัย และมีคนสอนให้ด้วย อย่างที่ Snow Park แห่งนี้ค่ะ
ค่าใช้จ่ายต่างๆ ขอเล่าคร่าวๆตามคอร์สที่เราเลือกนะ
1.ค่าเข้า Day time Ticket ผู้ใหญ่ 2,100 เยน
2.ค่าลิฟต์ แบบครั้งเดียว 150 เยน (ถ้าแบบทั้งวัน 3,100 เยน)
3.ค่าเรียนสกี คอร์สสำหรับคนเพิ่งเริ่ม เวลา 11:00-13:00 ราคา 3,500 เยนต่อคน
4.ค่าเช่าชุดสกีแบบครบชุด (กระดานสกี ไม้ รองเท้า ชุดท่อนบนล่าง ถุงมือ) 4,650 เยน
ถ้าใครต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม ก็กดเข้าไปดูในเว็บได้ เวอร์ชั่นอังกฤษจะมีอธิบายน้อยกว่าภาษาญี่ปุ่น
https://www.rokkosan.com/en/ski/
ที่สำคัญ ที่นี่ไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้าเหมือนลานสกีอื่นๆ คิดอยากจะเล่นก็ไปเลย แบบพวกเรา55
ไม่พูดพร่ำทำเพลง เรารีบมายืมชุด ยืมรองเท้ากันดีกว่าค่า ที่นี่มีชุดให้เลือกเยอะมากๆๆ มีทุกไซส์เลยจริงๆ แยกตามไซส์ S M L XL นะ ชุดเด็กน้อยก็มีด้วย ที่สำคัญลายชุดสวยดี ไม่ใช่สีสลิ่มเหมือนชุดสกีทั่วไป 55
เข้าห้องเปลี่ยนชุดกันเลยดีกว่า ที่นี่มีล็อกเกอร์ให้เก็บของ ราคา 200 เยน เก็บได้ทั้งวันถ้าจะเล่นทั้งวัน
หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว ด้วยความที่ว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ใส่รองเท้าสกี ก็ไม่รู้จะใส่ยังไง ที่นี่เขาก็มีวีดีโอซับภาษาอังกฤษเปิดให้ใส่ตามด้วย เข้าใจง่ายมากๆ คนโง่อย่างเราก็ยังใส่ตามได้ อิอิ
พอเตรียมตัวพร้อมแล้ว เราก็มาพบกับอาจารย์สอนค่ะ อาจารย์พูดอังกฤษได้บ้าง แต่เขาก็จะมีแผ่นป้ายคล้องคอเป็นภาษาอังกฤษคอยสื่อสารกับเรา ก็ถือว่าไม่ลำบากอะไร สื่อสารกันรู้เรื่องค่ะ
อุปกรณ์พร้อมแล้ว อาจารย์พร้อมแล้ว ไปเรียนกันเลยค่า!!
[CR] [รีวิวรูปเยอะ] ตะลอนเที่ยวแวะเล่นสกีที่เกียวโต-โกเบ-โอซาก้าใน 4 วัน {Part 3}
วันที่ 1 อุเมดะ-Jizoin วัดต้นกำเนิดอิคคิวซัง-วัดจิ้งหรีด-อาราชิยามะ
https://ppantip.com/topic/37229018
วันที่ 2 ปราสาทนิโจ-ร้านราเมงไฟลุก-เดินเล่น Kawaramachi-ศาลเจ้าYasaka-ดองกี้อุเมดะ
https://ppantip.com/topic/37241485
วันที่ 3 Rokkosan-เล่นสกีที่snow park-Kobe Port Tower & Kobe Harborland-ประดับไฟ Kobe Luminarie
https://ppantip.com/topic/37243596
วันที่ 4 Dotonbori-บุกชั้นขนมใต้ดินห้างฯHankyu- ชิงช้าสวรรค์ HAP FIVE -PABLO-Hankyu 3 bankai
https://ppantip.com/topic/37243625
วันที่ 3 Rokkosan-เล่นสกีที่snow park-Kobe Port Tower &Kobe Harborland -ประดับไฟ Kobe Luminarie
เช้าวันที่ 3 เราเริ่มใช้ Hanshin Tourist Pass นั่งรถไฟจากอุเมดะ สาย Hanshin ไปโกเบกันค่ะ
รอขึ้นรอบ 9:10 ทางไป Kobe-Sannomiya ค่ะ เราจะไปลงสถานี Hanshin-migake ตามข้างล่างนี้
ในช่วงเช้าเราจะไปภูเขา Rokko กันก่อนค่ะ เลยเตรียมบัตร Rokkosan Tourist Pass (1,000เยน)มาด้วย
บางคนอาจจะตกใจกับราคาเล็กน้อย ว่าทำไมค่อนข้างแพง ดังนั้นจึงขอแจกแจงว่าใน 1,000 เยนนี้มีรวมค่าอะไรบ้างนะคะ
1.Kobe City bus อันนี้ใช้ต่อเมื่อไปถึงสถานี Hanshin-migake ที่เป็นจุดขึ้นรถบัสไปภูเขา Rokko ค่ะ ราคาปกติเที่ยวละ 210 เยน
2.Rokko Cable Car หลังจากซิตี้บัสไปส่งถึงเคเบิ้ลคาร์ เราก็จะใช้บัตรนี้ขึ้นเขากัน ราคาปกติเที่ยวละ 590 เยน
3.Rokko sanjo Bus หลังจากลงเคเบิลคาร์ จะมีบัสที่วิ่งบนเขาไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตั๋วอันนี้ขึ้นได้ไม่จำกัดรอบเลย ราคาปกติเที่ยวละ 240 เยน
4. Rokko Cable Car สำหรับขาลงจากเขา ราคาปกติเที่ยวละ 590 เยน
5.Kobe City bus สำหรับนั่งบัสกลับมายังสถานี Hanshin-migake ราคาปกติเที่ยวละ 210 เยน
บอกเลยว่า 1,000 เยน คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม!! เพราะถ้าเดินทางโดยไม่มีพาสรวมทั้งหมดแล้ว2,080 เยนค่ะ ประหยัดไปตั้ง 1,080 เยนแหน่ะ
ที่อธิบายไปเมื่อกี้ อาจจะมีคนงง ในแผ่นพับที่ให้มาพร้อมกับบัตร จะมีเขียนอธิบายอย่างละเอียดไว้เป็นภาษาอังกฤษ เข้าใจง่ายมากๆค่ะ
พอมาถึงสถานี Hanshin-migake เราก็เดินตามลูกศรลงมา เป็นทางออกไว้ขึ้นรถบัส โดยบัสที่ไป Rokko Cable Car จะอยู่เบอร์ 16 ค่ะ
หลังจากที่นั่งรถบัสมากันเกือบครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงสถานีขึ้นเคเบิ้ลคาร์แล้วจ้า อากาศก็เริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆ
เคเบิ้ลคาร์วินเทลมากๆอ่ะ แถมตอนนี้เขาจัดเทศกาลคริสมาสต์ด้วย สีรถเป็นสีแดงกับสีเขียวพอดี เข้ากับบรรยากาศสุดๆเลย
นั่งเคเบิ้ลคาร์ประมาณ 10 นาที กินลมชมวิวระหว่างทางไปเรียบร้อยก็มาถึงบนเขาเป็นที่เรียบร้อย อากาศหนาวสะใจสุดๆ แล้ววิวก็สวยสุดๆเช่นกัน ไปขึ้นรถบัสกันต่อดีกว่าค่า
และแล้ว ในที่สุดเราก็มาถึง Rokkosan Snow Park!!! หลายต่อมากเลยจริงๆ แต่ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด ถ้าเรามีบัตร Rokkosan Tourist pass อ่านะ ฉีกตั๋วไปเรื่อยๆ ชิวๆ
ก่อนอื่นเราขอบอกเหตุผลก่อน ว่าทำไมถึงเลือกมาเล่นสกีที่นี่…
อย่างแรก คือ ลานสกีที่ใกล้ตัวเมืองที่สุด ก็คือที่ Snow Park แห่งนี้ค่ะ เรามีเวลาไม่กี่วัน และมาต้นเดือนธันวาด้วย ในคันไซหิมะยังไม่ตกใจช่วงนี้ แต่เนื่องจากที่นี่ใช้หิมะเทียม (ใช้เครื่องผลิต) จึงเปิดให้เล่นเร็วกว่าปกติ คือ เดือนพฤศจิกายน และปิดฤดูกาลช้าปกติ คือ เดือนเมษายนค่ะ ถ้าใครอยากจะมาเล่นช่วงนี้ก็มาได้เลย ไม่ต้องรอหิมะจริงตก
แต่ก็เออนะ บางคนอาจจะเถียงว่า “มาทั้งที ทำไมไม่ไปเล่นหิมะจริง” ไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอหิมะจริงนะ แต่เราขอสารภาพว่า เรากับเพื่อนไม่เคยเล่นสกีกันมาก่อนค่ะ แต่ด้วยความที่อยากจะเล่นและมากันแค่สองคน เลยเลือกลานที่ดูปลอดภัย และมีคนสอนให้ด้วย อย่างที่ Snow Park แห่งนี้ค่ะ
ค่าใช้จ่ายต่างๆ ขอเล่าคร่าวๆตามคอร์สที่เราเลือกนะ
1.ค่าเข้า Day time Ticket ผู้ใหญ่ 2,100 เยน
2.ค่าลิฟต์ แบบครั้งเดียว 150 เยน (ถ้าแบบทั้งวัน 3,100 เยน)
3.ค่าเรียนสกี คอร์สสำหรับคนเพิ่งเริ่ม เวลา 11:00-13:00 ราคา 3,500 เยนต่อคน
4.ค่าเช่าชุดสกีแบบครบชุด (กระดานสกี ไม้ รองเท้า ชุดท่อนบนล่าง ถุงมือ) 4,650 เยน
ถ้าใครต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม ก็กดเข้าไปดูในเว็บได้ เวอร์ชั่นอังกฤษจะมีอธิบายน้อยกว่าภาษาญี่ปุ่น
https://www.rokkosan.com/en/ski/
ที่สำคัญ ที่นี่ไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้าเหมือนลานสกีอื่นๆ คิดอยากจะเล่นก็ไปเลย แบบพวกเรา55
ไม่พูดพร่ำทำเพลง เรารีบมายืมชุด ยืมรองเท้ากันดีกว่าค่า ที่นี่มีชุดให้เลือกเยอะมากๆๆ มีทุกไซส์เลยจริงๆ แยกตามไซส์ S M L XL นะ ชุดเด็กน้อยก็มีด้วย ที่สำคัญลายชุดสวยดี ไม่ใช่สีสลิ่มเหมือนชุดสกีทั่วไป 55
เข้าห้องเปลี่ยนชุดกันเลยดีกว่า ที่นี่มีล็อกเกอร์ให้เก็บของ ราคา 200 เยน เก็บได้ทั้งวันถ้าจะเล่นทั้งวัน
หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว ด้วยความที่ว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ใส่รองเท้าสกี ก็ไม่รู้จะใส่ยังไง ที่นี่เขาก็มีวีดีโอซับภาษาอังกฤษเปิดให้ใส่ตามด้วย เข้าใจง่ายมากๆ คนโง่อย่างเราก็ยังใส่ตามได้ อิอิ
พอเตรียมตัวพร้อมแล้ว เราก็มาพบกับอาจารย์สอนค่ะ อาจารย์พูดอังกฤษได้บ้าง แต่เขาก็จะมีแผ่นป้ายคล้องคอเป็นภาษาอังกฤษคอยสื่อสารกับเรา ก็ถือว่าไม่ลำบากอะไร สื่อสารกันรู้เรื่องค่ะ
อุปกรณ์พร้อมแล้ว อาจารย์พร้อมแล้ว ไปเรียนกันเลยค่า!!