
มันไม่ยุ่งหรอก ถ้าตีความกันตามรัฐธรรมนูญ จะมาอ้างว่าตั้งใจจะเขียนให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ หรือว่าเจตนารมณ์ต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มันอ้างไม่ได้ เพราะไม่มีบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 128 (5) เขียนไว้ชัดเจนว่า สส.พึงมีใน(5) จะตัองไม่มากกว่า (2) ก็ยังมีคนตะแบงว่าใน (2) ต้องผ่านขั้นตอน (5),(6),(7) ก่อนถึงจะวนกลับมาเป็น สส.พึงมีใน(2) อีกที ทำให้พรรคเล็กๆที่ได้ 3 หมื่นคะแนนได้สส.ด้วยเพราะผ่านขั้นตอนปรับเศษตาม (7) และวนย้อนกลับมาหา (2) อีกทีจึงทำให้สส.ที่ได้ไม่เกินสส.พึงมีใน(2)
การคิดลักษณะเป็นการคิดที่วนลูป ไปตีความว่า (2)คือผลลัพท์สุดท้าย จริงๆแล้ว (2) คือข้อมูลดิบเบื้องต้น และผ่านขั้นตอน (3)~(7) ทำให้ได้ผลลัพท์ที่แท้จริงอยู่ที่ (4),(5),(6) และ (7) แล้วแต่ว่าขึ้นอยู่กับ condition ไหน สังเกตดูจากรูป คำจำกัดความของ (2) อยู่บนขีดสีแดงซึ่งเป็นความหมายของ สส.พึงมีเบื้องต้น ส่วนประโยคหลังที่ขีดด้วยเส้นสีฟ้าเป็นการนำเอาข้อมูลดิบจาก (2) ไปคำนวณต่อเพื่อให้เกิดผลลัพท์ใน (5),(6) และ (7) และโปรดสังเกตใน (3) ที่นำ (2) มาใช้ก็ยังมีคำว่าเบื้องต้นอยู่ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้เกิด condition (5) มา รัฐธรรมนูญกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าต้องนำสส.ปาร์ตี้ลิสต์ไปจัดสรรให้กับพรรคการเมืองที่ได้สส.เขตต่ำกว่า(2) แต่ต้องไม่เกิน (2) ซึ่งยังเป็นข้อมูลดิบอยู่
อยากถามคนที่คิดว่า (2) ต้องรอ (7) ก่อนถึงจะได้ผลลัพท์ที่แท้จริงของ(2) ถ้าต้องรออย่างนั้นขั้นตอน (3) มันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร และถ้า(2)มีการเปลี่ยนเพราะ (7) แล้วอย่างนั้นมันต้องทำ (3) ใหม่หรือไม่ เพราะตัวเลขของ (2) เปลี่ยนไป จึงเป็นการคิดที่วนลูปไม่จบสิ้น
การคำนวณสส.ปาร์ตี้ลิสต์ รู้สึกจะออกทะเลไปไกลแล้ว ขนาดที่ว่าอ้างเจตนารมณ์กันเลยทีเดียว
มันไม่ยุ่งหรอก ถ้าตีความกันตามรัฐธรรมนูญ จะมาอ้างว่าตั้งใจจะเขียนให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ หรือว่าเจตนารมณ์ต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มันอ้างไม่ได้ เพราะไม่มีบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 128 (5) เขียนไว้ชัดเจนว่า สส.พึงมีใน(5) จะตัองไม่มากกว่า (2) ก็ยังมีคนตะแบงว่าใน (2) ต้องผ่านขั้นตอน (5),(6),(7) ก่อนถึงจะวนกลับมาเป็น สส.พึงมีใน(2) อีกที ทำให้พรรคเล็กๆที่ได้ 3 หมื่นคะแนนได้สส.ด้วยเพราะผ่านขั้นตอนปรับเศษตาม (7) และวนย้อนกลับมาหา (2) อีกทีจึงทำให้สส.ที่ได้ไม่เกินสส.พึงมีใน(2)
การคิดลักษณะเป็นการคิดที่วนลูป ไปตีความว่า (2)คือผลลัพท์สุดท้าย จริงๆแล้ว (2) คือข้อมูลดิบเบื้องต้น และผ่านขั้นตอน (3)~(7) ทำให้ได้ผลลัพท์ที่แท้จริงอยู่ที่ (4),(5),(6) และ (7) แล้วแต่ว่าขึ้นอยู่กับ condition ไหน สังเกตดูจากรูป คำจำกัดความของ (2) อยู่บนขีดสีแดงซึ่งเป็นความหมายของ สส.พึงมีเบื้องต้น ส่วนประโยคหลังที่ขีดด้วยเส้นสีฟ้าเป็นการนำเอาข้อมูลดิบจาก (2) ไปคำนวณต่อเพื่อให้เกิดผลลัพท์ใน (5),(6) และ (7) และโปรดสังเกตใน (3) ที่นำ (2) มาใช้ก็ยังมีคำว่าเบื้องต้นอยู่ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้เกิด condition (5) มา รัฐธรรมนูญกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าต้องนำสส.ปาร์ตี้ลิสต์ไปจัดสรรให้กับพรรคการเมืองที่ได้สส.เขตต่ำกว่า(2) แต่ต้องไม่เกิน (2) ซึ่งยังเป็นข้อมูลดิบอยู่
อยากถามคนที่คิดว่า (2) ต้องรอ (7) ก่อนถึงจะได้ผลลัพท์ที่แท้จริงของ(2) ถ้าต้องรออย่างนั้นขั้นตอน (3) มันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร และถ้า(2)มีการเปลี่ยนเพราะ (7) แล้วอย่างนั้นมันต้องทำ (3) ใหม่หรือไม่ เพราะตัวเลขของ (2) เปลี่ยนไป จึงเป็นการคิดที่วนลูปไม่จบสิ้น