มันอาจจะยาวไปซักนิด ต้องขออภัย *
สำหรับคนที่อยากรู้จักเรา ขอร้องอ่านเถอะ ^^
แต่ถ้าไม่อ่าน ก็เลื่อนลงไปอ่านข้อ 6 -7 ได้เลยค่ะ ~~~~~~
ต้องขออธิบายก่อนว่า เราคือผู้หญิงคนนึง ที่ "รักและซื่อสัตย์ ทุ่มเทกับความรักมาก " เรามีแฟนที่คบกันมา ตอนนี้ครบ 11 ปีเค้าคือรักแรก และคนแรกในทุกอย่าง และทุกเรื่อง ก่อนหน้านี้ก็เคยมีแฟน แต่มีในวัยเรียนที่ช่วยกันเรียนมากกว่าที่จะเรียกว่า "รัก "แบบจริงจัง
ปัจจุบัน เรามีลูก 1 คน
* *** สิ่งที่เราจะเล่าต่อไปนี้มันอาจจะเหมือนละคร แต่มันคือ ชีวิตจริงของเราเอง **** 🙏🙏🙏🙏
เราเกิดมาในครอบครัวที่แตกเเยก ทั้งพี่ฟป้าน้าอาครอบครอบแยกกันอยู่ทั้ทั้งหมดกระจายไปทึ่ว แย่ยิ่งกว่านั้น พ่อไปทางแม่ไปทาง แม่มีแฟนใหม่ พ่อมีแฟนใหม่ แค่นี้ก็ฟังดูแย่แล้วเนอะ !!! อ้าว แล้วเราอยู่กับใครหล่ะ *** === ตอบ เราอยู่กับยาย 2 คน ยายเราส่งเราไปโรงเรียนประจำ เราอยู่ โรงเรียนประจำตั้งแต่ ป.4 -ม.2 เดือนนึงให้กลับบ้าน 1 ครั้ง ครั้งละ 2 วัน เราจึงเลือกที่จะไม่กลับ เพราะเปลืองเงินค่ารถ ปิดเทอมถึงจะกลับบ้าน ยายเราเป็นคนถือศิลธรรมมะธรรมโม ยายอยากที่จะไปบวชนานแล้วแต่ติดที่เราอยังอยู่ พอจบม. 2 เราจึงขอยาย ย้ายรร.กลับมาเรียนแถวบ้าน เพราะจะได้ช่วยอะไรยายได้บ้าง งานบ้าน ทำนู่นทำนี่ จนเรียนถึง ม. 5 เราเคยได้ยินยายคุยกับแม่ชีแม่ชีท่านชวนยายไปบวช เรามานั่งคิด ยายเราอยากที่จะไปบวช แต่เค้าก็ต้องมาคอยห่วงเรา ท่านจึงไม่สมดังหวังที่ปรารถนา พอจบม.5 เราโทรหาแม่ของเรา ว่าอยากย้าย รร. แม่ก็ไม่ติดอะไร อ่ะ เดี๋ยวสรุปให้ดีกว่าเนอะ เล่าไป ไม่จบแน่ ^^
สรุป =หลังจากจบ ม. 5 เราย้าย รร.ไปอีกแห่ง และเริ่มต้น โดยการใช้ชีวิตคนเดียว หาเงินเรียนเองทั้งหมด อ่อ ลืมบอก เราคุยกับแฟนคนนี้ตั้งแต่เราขึ้น ม.4 เค้าคอยให้คำปรึกษา คอยคุยคอยเป็นกำลังใจ ในเรื่องที่เราต้องเจอ จนจบม. 6 เข้ามหาลัย เราจึงเข้า กรุงเทพ มาเรียนต่อมหาลัย โดยการชักชวนของพี่สาวแฟน เเละเราจึงเริ่มต้นใช้ชีวิต และไปหาผู้ใหญ่ให้ผู้ใหญ่รับรู้อย่างถูกต้อง เราแยกออกมาอยู่หอพัก ส่วนเค้าก็สมัครเข้างานแห่งนึงเช่นกัน เราก็ทั้งทำงานพาร์ทไทม์ และเรียนไปด้วย คือเหนื่อยมากแบบสายตัวแทบขาด ค่าใช้จ่ายเยอะไปหมด แต่เรามีความมุ่งมั่นว่า เราจะอยู่ด้วยด้วยตัวของเราเองโดยไม่แบมือขอใครเด็ดขาด ผ่านไปหนึ่งปี ขึ้นปี 2เหมือนจะดี แต่ด้วยร่างกายเราไม่ได้พักผ่อนและเเย่มาก เราจึงดรอปเรียนกลางคันปี 2 เพราะค่าใช้จ่ายไม่พอ ค่าเทอม ค่ากินค่าอยู่ แฟนเราก็ต้องผ่อนรถต้องให้ที่บ้าน+กับพึ่งเริ่มทำงานเงินเดือนสตาร์ทน้อย เราจึงต้องหยุดเรียนและมาทำงาน แต่ก็ยังหวังว่าสักวันจะกลับมาเรียนให้ได้เพราะอายุยังน้อย เราหางานทำไปเรื่อย ให้พอได้ประสบการณ์ ทุกทาง ทั้งงาน บริการ งานขาย งานเอกสาร ธุรการบัญชี คือให้ได้หลากหลายไว้พอติดตัว เรากับแฟนคบกันไปซักพักจนกำลังจะเข้าปีที่ 7 เราจับได้ว่าเเฟนเรามีคนอื่น ในช่วงนึงที่เราทะเลาะกัน เราเริ่มสังเกตุจากหลายๆอย่างๆว่าเปลี่ยนไป จนเราขอลดสถานะเป็นแค่เพื่อน เค้าก็ยอมแต่ไม่นาน เค้าก็ขอกลับมาคืนดีและบอกเลิกให้เราฟังต่อหน้า ด้วยความที่เรารัก เราก็อยากให้โอกาส จึงคืนดีกัน แต่เเล้ว เราก็มีลางสังหรอีก จนมันจับได้ และวนเวียนแบบนี้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เค้าทำกับเรา จนนับครั้งไม่ได้แล้ว (กับผญ.คนเดิม) ซึ่งตอนสุดท้าย เรารู้มาว่าผญ.ยอมที่เป็นรองเรา ยอมเป็นน้อยเรานั่นเอง จนเเฟนเรามาสารภาพว่าทำผญ.คนนั้นท้อง เเละเค้าตัดสินใจที่จะเอาออก และเค้าจะเลิกขาดกับคนนั้น ซึ่งตอนแรกเราตกใจมากนะ ชา และทำอะไรไม่ถูกเลย แฟนเราตอนแรกเค้าก็ไม่กล้าบอก เพราะเราเคยบอกว่า ช่วงเวลาที่เราลดสถานะนั้นคือเราไม่ได้เป็นอะไรกันคุณจะไปเที่ยวหรือมีใครเราไม่ห้ามแต่ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ และเลิกยุ่งและเลิกติดต่อเรา เราช๊อคมากในสิ่งที่เค้าบอกและตัดสินใจที่จะเอาเด็กออก ชีวิตคนคนนึงที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ต้องมาเจอแบบนี้ เราตัดสินใจทันทีที่จะรักษาระยะห่าง ระหว่างเรากับแฟน แต่ในใจก็รักและผูกพันธ์มากเค้าบอกเค้าจะไม่ยอมปล่อยเราไปไหน เรายังคุยปรึกษากัน ช่วงนั้นเค้าเหมือนซึมเศร้าเพราะไม่รู้จะหันไปคุยกับใคร เค้าก็มาคุยกับเราความรู้สึกมันก็เกิดขึ้นอีก คือเรารักเค้ามากจริงๆ แต่ก็ยังนึกว่า ยังก่อนเดี๋ยวเราก็เจอแบบเดิมอีก เจ็บนะ จนผ่านไป ในช่วงนึงเค้าจะเป็นคนที่คอยตามคอยโทรหาเราตลอดหลังจากที่เราถอยออกมาก้าวนึง ชวนไปเที่ยวที่ไกลๆ ไปกัน2คน และธรรมดาแหล่ะ ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมันเลยนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาด้วยกัน และเค้าขอคืนดี บรรยากาศก็พาไป จนมีอะไรกับเค้า แต่หลังจากนั้นที่กลับมา เหมือนโชคชะตาเล่นตลก เราตั้งครรภ์ เราป้องกันแต่สาเหตุที่มาอาจผิดพลาดบางอย่าง เราตัดสินใจลองบอกกับเค้า เราท้องนะ "ในใจคิดว่าเค้าจะบอกให้เราเอาเด็กออกมั้ย เเต่ผลคือไม่เค้ากลับดีใจขึ้นมา ว่าจะเป็นพ่อคน เราตกใจนะ เพราะคิดว่าเค้าจะคิดเหมือนคนนั้น เราตัดข้อเสียเค้าออกและลองเริ่มต้นกันใหม่ ทุกอย่างก็เหมือนจะดี แต่ต้องกลับมารู้ว่า ทั้งสองคนมันแอบไปคุยกัน และยอมที่จะเป็นน้อย ทั้งทั้งที่ิเรากับแฟนมีลูก แต่งงาน จดทะเบียนถูกต้อง ขนาดแฟนเราอยู่กลับลูกลางานมาเป็นอาทิตย์ ผญ.คนนั้นก็ยอมที่จะรอแฟนเรา ทุกวันนี้ เรารู้ทุกอย่างแต่เราเก็บ และเชื่อในสิ่งที่ผิดรึเปล่าไม่รู้ ว่าซักวันเค้าจะคิดได้ *"ทุกอย่างที่เราทำ เพื่อลูกอยากให้ลูกมีพร้อมทุกอย่าง " พร้อมหน้าพร้อมตา แต่ยิ่งนานวันเหมือนจะ เค้าก็ยังหลบๆซ่อนๆโกหกอยู่แบบนี้ เราเองเลี้ยงลูกคนเดียวก็เหนื่อยิปล. เราอยู่บ้านแฟน ตจว แฟนทำ กทม กลับอาทิตย์ละครั้งหรือ 2อาทิตย์ครั้งหรือเราขึ้นมาบ้าน แฟนอยู่กลับ ลุง ที่ กทมค่ะ
****** กระทู้นี่อาจยาวไปซักหน่อย เราแค่อยากชี้แจง ให้ฟังเพื่อที่จะได้รู้ที่มาที่ไปนะคะ ***
เหตุผลที่เราไปไหนไม่ได้ในตอนนี้คือ
1. เราไม่มีที่ไป ถูกแล้วค่ะ เพราะยายไปบวช บ้านยายโดนลูกพี่ลูกน้องเอาไปเข้าธนาคาร จนบ้านหลุดแม่ก็มีสามีใหม่ จึงทำให้เราไม่สามารถไปอยู่ด้วยได้
2.ทำไมถึงไม่ฟ้องชู้ เราอยากทำค่ะ ผู้ใหญ่ทางบ้านแฟนดีกับเรามาก เค้าช่วยเหลือเราทุกอย่าง เราจึงทำไม่ลง
3.ตอนนี่ลูกเรายังไม่เข้า รร. เราจึงยังไม่ได้ทำงาน คงไปตามจิกราวีไม่ได้หรอกค่ะ และไม่ใช่นิสัยส่วนตัวที่ต้องใช้กำลังเพื่อแย่งใคร
4.แฟนเราความรับผิดชอบ ที่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ควรจะเป็นทั้งเเฟน และพ่อคนมันน้อยลงทุกวัน เค้าไม่กะตือรือร้น ไม่นึกถึงอนาคตว่าลูกต้องใช้จ่าย คิดอย่างเดียวว่าคนที่บ้านเค้ามีเดี๋ยวก็ให้
5.หลายๆ อย่างตอนนี้เราเหนื่อยมาก จนเราแทบจะชิน ว่า จะเอาไงก็เอากัน แต่อย่างว่าคนเรามันรักมันมีความรู้สึก เหมือนของตายเลยค่ะ อยากเริ่มใหม่ เเต่กลัวจะเป็นเหมือนเดิม อยากอยู่ต่อเเละให้โอกาศ แต่ก็คิดถ้าหากเค้ายังคิดไม่ได้ มันก็จมปักเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
6.อยากเปิดใจ ให้กับใครซักคนที่พร้อมจะรักและดูแลเราจริงๆ ขอจริงจังจริง ๆ ที่จะทำให้เราตกหลุมรักอีกครั้งได้มั้ย เราอยากจบจากตรงนี้ เหมือนเราไปไหนไม่ได้เลย
7.ใครอยากรู้จักเรามากขึ้น หลังไมค์ได้นะคะ
ปล. เรามั่นใจว่าเราก็หน้าตาดีระดับนึงนะ 5555 คุยให้กำลัง แลกเปลี่ยนกันความคิดได้นะคะ ถามอะไรมาตอบทุกคำถามค่ะ
8.เราตอนนี้อายุ 24 ไม่เคยเที่ยวผับ เข้าร้านเหล้า ไม่สูบบุหรี่ไม่กินแอลกอฮอล์ ค่ะ^^ ขอร้องอย่าหลอกเราเลยนะ แค่เรื่องที่เราเจอมันก็มากพอแล้ว เห็นใจกันนะคะ ขอบคุณค่ะ
ชีวิตสับสน อยากไปต่อ และอยากหยุด ในเวลาเดียวกัน
สำหรับคนที่อยากรู้จักเรา ขอร้องอ่านเถอะ ^^
แต่ถ้าไม่อ่าน ก็เลื่อนลงไปอ่านข้อ 6 -7 ได้เลยค่ะ ~~~~~~
ต้องขออธิบายก่อนว่า เราคือผู้หญิงคนนึง ที่ "รักและซื่อสัตย์ ทุ่มเทกับความรักมาก " เรามีแฟนที่คบกันมา ตอนนี้ครบ 11 ปีเค้าคือรักแรก และคนแรกในทุกอย่าง และทุกเรื่อง ก่อนหน้านี้ก็เคยมีแฟน แต่มีในวัยเรียนที่ช่วยกันเรียนมากกว่าที่จะเรียกว่า "รัก "แบบจริงจัง
ปัจจุบัน เรามีลูก 1 คน
* *** สิ่งที่เราจะเล่าต่อไปนี้มันอาจจะเหมือนละคร แต่มันคือ ชีวิตจริงของเราเอง **** 🙏🙏🙏🙏
เราเกิดมาในครอบครัวที่แตกเเยก ทั้งพี่ฟป้าน้าอาครอบครอบแยกกันอยู่ทั้ทั้งหมดกระจายไปทึ่ว แย่ยิ่งกว่านั้น พ่อไปทางแม่ไปทาง แม่มีแฟนใหม่ พ่อมีแฟนใหม่ แค่นี้ก็ฟังดูแย่แล้วเนอะ !!! อ้าว แล้วเราอยู่กับใครหล่ะ *** === ตอบ เราอยู่กับยาย 2 คน ยายเราส่งเราไปโรงเรียนประจำ เราอยู่ โรงเรียนประจำตั้งแต่ ป.4 -ม.2 เดือนนึงให้กลับบ้าน 1 ครั้ง ครั้งละ 2 วัน เราจึงเลือกที่จะไม่กลับ เพราะเปลืองเงินค่ารถ ปิดเทอมถึงจะกลับบ้าน ยายเราเป็นคนถือศิลธรรมมะธรรมโม ยายอยากที่จะไปบวชนานแล้วแต่ติดที่เราอยังอยู่ พอจบม. 2 เราจึงขอยาย ย้ายรร.กลับมาเรียนแถวบ้าน เพราะจะได้ช่วยอะไรยายได้บ้าง งานบ้าน ทำนู่นทำนี่ จนเรียนถึง ม. 5 เราเคยได้ยินยายคุยกับแม่ชีแม่ชีท่านชวนยายไปบวช เรามานั่งคิด ยายเราอยากที่จะไปบวช แต่เค้าก็ต้องมาคอยห่วงเรา ท่านจึงไม่สมดังหวังที่ปรารถนา พอจบม.5 เราโทรหาแม่ของเรา ว่าอยากย้าย รร. แม่ก็ไม่ติดอะไร อ่ะ เดี๋ยวสรุปให้ดีกว่าเนอะ เล่าไป ไม่จบแน่ ^^
สรุป =หลังจากจบ ม. 5 เราย้าย รร.ไปอีกแห่ง และเริ่มต้น โดยการใช้ชีวิตคนเดียว หาเงินเรียนเองทั้งหมด อ่อ ลืมบอก เราคุยกับแฟนคนนี้ตั้งแต่เราขึ้น ม.4 เค้าคอยให้คำปรึกษา คอยคุยคอยเป็นกำลังใจ ในเรื่องที่เราต้องเจอ จนจบม. 6 เข้ามหาลัย เราจึงเข้า กรุงเทพ มาเรียนต่อมหาลัย โดยการชักชวนของพี่สาวแฟน เเละเราจึงเริ่มต้นใช้ชีวิต และไปหาผู้ใหญ่ให้ผู้ใหญ่รับรู้อย่างถูกต้อง เราแยกออกมาอยู่หอพัก ส่วนเค้าก็สมัครเข้างานแห่งนึงเช่นกัน เราก็ทั้งทำงานพาร์ทไทม์ และเรียนไปด้วย คือเหนื่อยมากแบบสายตัวแทบขาด ค่าใช้จ่ายเยอะไปหมด แต่เรามีความมุ่งมั่นว่า เราจะอยู่ด้วยด้วยตัวของเราเองโดยไม่แบมือขอใครเด็ดขาด ผ่านไปหนึ่งปี ขึ้นปี 2เหมือนจะดี แต่ด้วยร่างกายเราไม่ได้พักผ่อนและเเย่มาก เราจึงดรอปเรียนกลางคันปี 2 เพราะค่าใช้จ่ายไม่พอ ค่าเทอม ค่ากินค่าอยู่ แฟนเราก็ต้องผ่อนรถต้องให้ที่บ้าน+กับพึ่งเริ่มทำงานเงินเดือนสตาร์ทน้อย เราจึงต้องหยุดเรียนและมาทำงาน แต่ก็ยังหวังว่าสักวันจะกลับมาเรียนให้ได้เพราะอายุยังน้อย เราหางานทำไปเรื่อย ให้พอได้ประสบการณ์ ทุกทาง ทั้งงาน บริการ งานขาย งานเอกสาร ธุรการบัญชี คือให้ได้หลากหลายไว้พอติดตัว เรากับแฟนคบกันไปซักพักจนกำลังจะเข้าปีที่ 7 เราจับได้ว่าเเฟนเรามีคนอื่น ในช่วงนึงที่เราทะเลาะกัน เราเริ่มสังเกตุจากหลายๆอย่างๆว่าเปลี่ยนไป จนเราขอลดสถานะเป็นแค่เพื่อน เค้าก็ยอมแต่ไม่นาน เค้าก็ขอกลับมาคืนดีและบอกเลิกให้เราฟังต่อหน้า ด้วยความที่เรารัก เราก็อยากให้โอกาส จึงคืนดีกัน แต่เเล้ว เราก็มีลางสังหรอีก จนมันจับได้ และวนเวียนแบบนี้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เค้าทำกับเรา จนนับครั้งไม่ได้แล้ว (กับผญ.คนเดิม) ซึ่งตอนสุดท้าย เรารู้มาว่าผญ.ยอมที่เป็นรองเรา ยอมเป็นน้อยเรานั่นเอง จนเเฟนเรามาสารภาพว่าทำผญ.คนนั้นท้อง เเละเค้าตัดสินใจที่จะเอาออก และเค้าจะเลิกขาดกับคนนั้น ซึ่งตอนแรกเราตกใจมากนะ ชา และทำอะไรไม่ถูกเลย แฟนเราตอนแรกเค้าก็ไม่กล้าบอก เพราะเราเคยบอกว่า ช่วงเวลาที่เราลดสถานะนั้นคือเราไม่ได้เป็นอะไรกันคุณจะไปเที่ยวหรือมีใครเราไม่ห้ามแต่ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ และเลิกยุ่งและเลิกติดต่อเรา เราช๊อคมากในสิ่งที่เค้าบอกและตัดสินใจที่จะเอาเด็กออก ชีวิตคนคนนึงที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ต้องมาเจอแบบนี้ เราตัดสินใจทันทีที่จะรักษาระยะห่าง ระหว่างเรากับแฟน แต่ในใจก็รักและผูกพันธ์มากเค้าบอกเค้าจะไม่ยอมปล่อยเราไปไหน เรายังคุยปรึกษากัน ช่วงนั้นเค้าเหมือนซึมเศร้าเพราะไม่รู้จะหันไปคุยกับใคร เค้าก็มาคุยกับเราความรู้สึกมันก็เกิดขึ้นอีก คือเรารักเค้ามากจริงๆ แต่ก็ยังนึกว่า ยังก่อนเดี๋ยวเราก็เจอแบบเดิมอีก เจ็บนะ จนผ่านไป ในช่วงนึงเค้าจะเป็นคนที่คอยตามคอยโทรหาเราตลอดหลังจากที่เราถอยออกมาก้าวนึง ชวนไปเที่ยวที่ไกลๆ ไปกัน2คน และธรรมดาแหล่ะ ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมันเลยนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาด้วยกัน และเค้าขอคืนดี บรรยากาศก็พาไป จนมีอะไรกับเค้า แต่หลังจากนั้นที่กลับมา เหมือนโชคชะตาเล่นตลก เราตั้งครรภ์ เราป้องกันแต่สาเหตุที่มาอาจผิดพลาดบางอย่าง เราตัดสินใจลองบอกกับเค้า เราท้องนะ "ในใจคิดว่าเค้าจะบอกให้เราเอาเด็กออกมั้ย เเต่ผลคือไม่เค้ากลับดีใจขึ้นมา ว่าจะเป็นพ่อคน เราตกใจนะ เพราะคิดว่าเค้าจะคิดเหมือนคนนั้น เราตัดข้อเสียเค้าออกและลองเริ่มต้นกันใหม่ ทุกอย่างก็เหมือนจะดี แต่ต้องกลับมารู้ว่า ทั้งสองคนมันแอบไปคุยกัน และยอมที่จะเป็นน้อย ทั้งทั้งที่ิเรากับแฟนมีลูก แต่งงาน จดทะเบียนถูกต้อง ขนาดแฟนเราอยู่กลับลูกลางานมาเป็นอาทิตย์ ผญ.คนนั้นก็ยอมที่จะรอแฟนเรา ทุกวันนี้ เรารู้ทุกอย่างแต่เราเก็บ และเชื่อในสิ่งที่ผิดรึเปล่าไม่รู้ ว่าซักวันเค้าจะคิดได้ *"ทุกอย่างที่เราทำ เพื่อลูกอยากให้ลูกมีพร้อมทุกอย่าง " พร้อมหน้าพร้อมตา แต่ยิ่งนานวันเหมือนจะ เค้าก็ยังหลบๆซ่อนๆโกหกอยู่แบบนี้ เราเองเลี้ยงลูกคนเดียวก็เหนื่อยิปล. เราอยู่บ้านแฟน ตจว แฟนทำ กทม กลับอาทิตย์ละครั้งหรือ 2อาทิตย์ครั้งหรือเราขึ้นมาบ้าน แฟนอยู่กลับ ลุง ที่ กทมค่ะ
****** กระทู้นี่อาจยาวไปซักหน่อย เราแค่อยากชี้แจง ให้ฟังเพื่อที่จะได้รู้ที่มาที่ไปนะคะ ***
เหตุผลที่เราไปไหนไม่ได้ในตอนนี้คือ
1. เราไม่มีที่ไป ถูกแล้วค่ะ เพราะยายไปบวช บ้านยายโดนลูกพี่ลูกน้องเอาไปเข้าธนาคาร จนบ้านหลุดแม่ก็มีสามีใหม่ จึงทำให้เราไม่สามารถไปอยู่ด้วยได้
2.ทำไมถึงไม่ฟ้องชู้ เราอยากทำค่ะ ผู้ใหญ่ทางบ้านแฟนดีกับเรามาก เค้าช่วยเหลือเราทุกอย่าง เราจึงทำไม่ลง
3.ตอนนี่ลูกเรายังไม่เข้า รร. เราจึงยังไม่ได้ทำงาน คงไปตามจิกราวีไม่ได้หรอกค่ะ และไม่ใช่นิสัยส่วนตัวที่ต้องใช้กำลังเพื่อแย่งใคร
4.แฟนเราความรับผิดชอบ ที่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ี่ควรจะเป็นทั้งเเฟน และพ่อคนมันน้อยลงทุกวัน เค้าไม่กะตือรือร้น ไม่นึกถึงอนาคตว่าลูกต้องใช้จ่าย คิดอย่างเดียวว่าคนที่บ้านเค้ามีเดี๋ยวก็ให้
5.หลายๆ อย่างตอนนี้เราเหนื่อยมาก จนเราแทบจะชิน ว่า จะเอาไงก็เอากัน แต่อย่างว่าคนเรามันรักมันมีความรู้สึก เหมือนของตายเลยค่ะ อยากเริ่มใหม่ เเต่กลัวจะเป็นเหมือนเดิม อยากอยู่ต่อเเละให้โอกาศ แต่ก็คิดถ้าหากเค้ายังคิดไม่ได้ มันก็จมปักเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
6.อยากเปิดใจ ให้กับใครซักคนที่พร้อมจะรักและดูแลเราจริงๆ ขอจริงจังจริง ๆ ที่จะทำให้เราตกหลุมรักอีกครั้งได้มั้ย เราอยากจบจากตรงนี้ เหมือนเราไปไหนไม่ได้เลย
7.ใครอยากรู้จักเรามากขึ้น หลังไมค์ได้นะคะ
ปล. เรามั่นใจว่าเราก็หน้าตาดีระดับนึงนะ 5555 คุยให้กำลัง แลกเปลี่ยนกันความคิดได้นะคะ ถามอะไรมาตอบทุกคำถามค่ะ
8.เราตอนนี้อายุ 24 ไม่เคยเที่ยวผับ เข้าร้านเหล้า ไม่สูบบุหรี่ไม่กินแอลกอฮอล์ ค่ะ^^ ขอร้องอย่าหลอกเราเลยนะ แค่เรื่องที่เราเจอมันก็มากพอแล้ว เห็นใจกันนะคะ ขอบคุณค่ะ