PTT ทุ่มงบ 2.64 แสนลบ. ลงทุนในอีอีซี หวังต่อยอดธุรกิจ
กลุ่ม"ปตท." วางงบ 2.64 แสนล้านบาท ขยายการลงทุนใน EEC หวังเร่งการเติบโต ระบุยังไม่ตัดสินใจเข้าประมูลโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 และท่าเรืออู่ตะเภา ขอศึกษาความเสี่ยงและพันธมิตร ด้าน " พีทีที โกลบอล เคมิคอล" วางงบลงทุนปีนี้ 4 หมื่นล้านบาท ในโครงการ Olefins Reconfiguration พร้อมศึกษาร่วมทุนโรงงานรีไซเคิลพลาสติก จ.ระยอง มูลค่า 2 พันล้านบาท ขณะที่รายได้ปีนี้ทรงตัว หลังกำลังผลิตหายจากการปิดปรับปรุงโรงงาน 2 แห่ง
*** กลุ่ม ปตท.ทุ่ม 2.6 แสนลบ.รุก EEC
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท. วางงบลงทุนรวม 264,226 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ประกอบด้วย
การลงทุนโครงการในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) จำนวน 4,100ล้านบาท
การลงทุนท่อก๊าซเส้นที่ 5 จำนวน 17,207ล้านบาท
โครงการส่วนต่อขยายก๊าซเพื่อใช้ในโครงการ EECi จำนวน 727ล้านบาท
โครงการ Cold Energy Utilization มูลค่า 219 ล้านบาท
โครงการคลัง LNG เฟส 2 มูลค่า 31,912 ล้านบาท
โครงการปรับปรุงกระบวนการผลิตโอเลฟินส์ เป็นการก่อสร้างโครงการโอเลฟินส์ ของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC มูลค่า 14,400 ล้านบาท
โครงการผลิตสารโพรพิลีน ออกไซด์ และ โครงการผลิตสารโพลีออลส์ (Polyols Project) หรือโครงการ PO/Polyols ของ PTTGC มูลค่า 15,500ล้านบาท
โครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project หรือ (CFP) มูลค่า 128,743 ล้านบาท ฃ
โครงการ Jetty Expansion ของ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP มูลค่า 2,328 ล้านบาท
โครงการ เพิ่มกำลังการผลิตพาราไซลีน 41,200ล้านบาท และโครงการ Ultra Clean fuel มูลค่า 7,890 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทจะได้มีการลงทุนเพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน ช่วง 5 ปี (ปี62-66) จำนวน 58,832 ล้านบาท
*** วางงบ 5 ปี เร่งการเติบโต
นอกจากนี้ ในช่วง 5 ปี PTT จะใช้เงินลงทุนภายใต้กลุ่มบริษัทที่ถือหุ้น 100% จำนวน 167,114 ล้านบาท ในการลงทุนธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ธุรกิจก๊าซ ท่อส่งก๊าซ อีกทั้งได้เตรียมงบลงทุน Provision จำนวน 187,616 ล้านบาท เพื่อเป็นการเร่งการเติบโตทางธุรกิจ
ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้ลงทุนก่อสร้างโครงการจัดตั้งโครงการ "EECi" เพื่อจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมในหลายด้านเพื่อต่อยอดไปสู่การพัฒนาในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมของ New S -Curve โดยมีมูลค่าลงทุนเบื้องต้นประมาณ 2,000ล้านบาท จากมูลค่าโครงการทั้งหมดภายใต้งบลงทุน 5 ปี (62-66) ประมาณ 4,100ล้านบาท
*** เล็งประมูลแหลมฉบังเฟส 3
ทั้งนี้ บริษัทได้เข้าร่วมกับ บริษัท กัลฟ์ เอนเนอร์จี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เพื่อเข้าประมูลโครงการพัฒนาท่ามาบตาพุดเฟส 3 เพื่อเป็นการรองรับการนำเข้า LNG
ส่วนการเข้าประมูลโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 และท่าเรืออู่ตะเภา ขณะนี้ยังไม่ตัดสินใจประมูล โดยยังอยู่ระหว่างการศึกษา ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาความเสี่ยงและคัดเลือกพันธมิตร
***ออกหุ้นกู้ครั้งแรกรอบ 4 ปี
บริษัทแผนที่จะออก และเสนอขายหุ้นกู้เพื่อนำเงินไปลงทุนในโครงการที่มีโอกาสจะได้รับการพัฒนา หลังจากที่บริษัท ไม่ได้มีการออกหุ้นมานานกว่า 3-4 ปี โดยขณะนี้บริษัทมีเงินสดในมือ ประมาณ 1.3-1.4แสนล้านบาท และปี 62 จะต้องเสียภาษีสำหรับรายการขายสินทรัพย์ให้กับ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR ประมาณ 16, 000ล้านบาท และชำระคืนเงินกู้ 26,000 ล้านบาท รวมถึงจะต้องลงทุน 30,000 ล้านบาท และจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น 50,000 ล้านบาท
นอกจากนี้จะต้องมีการเตรียมเงินเพิ่มทุนให้ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกดั (มหาชน) หรือ GPSC ในการเข้าซื้อหุ้น และการให้กู้ยืม สำหรับการเข้าซื้อหุ้น บริษัทโกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW
*** PTTGC วางงบ 4 หมื่นลบ. ลงทุน Olefins Reconfiguration
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และนางสาวดวงกมล เศรษฐธนังรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยว่า ปีนี้ บริษัทวางงบลงทุนรวม 40,000 ล้านบาท แบ่งเป็นใช้ลงทุนในโครงการ Olefins Reconfiguration ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบที่บริษัทฯ มีอยู่แล้วและเป็นการต่อยอดธุรกิจปลายน้ำในอนาคตด้วยกำลังการผลิตเอทีลีน 500,000 ตัน และโพรพีลีน 250,000 ตัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ปี 2563 และโครงการ Propylene Oxide (PO) โครงการ Polyols ซึ่งเป็นการต่อยอดผลิตภัณฑ์โพรพีลีนไปสู่ผลิตภัณฑ์ปลายทางสาย Polyurethane ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างคาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2563 โดยทั้ง 2 โครงการนี้ใช้เงินลงทุนประมาณ 30,000 ล้านบาท
และ อีก 7,000 ล้านบาท ใช้ซ่อมบำรุงปรับปรุงโรงงานเดิม และส่วนที่เหลือใช้มองหาการเข้าลงทุนแบบควบรวมหรือซื้อกิจการ(M&A)
สำหรับโครงการผลิตผลิตภัณฑ์วิศวกรรมชั้นสูง PA9T และ HSBC เป็นความร่วมมือกับนักลงทุนจากญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัท คุราเร่ จีซี แอดวานซ์ แมททีเรียลส์ จำกัด เพื่อร่วมลงทุนในธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ ดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกวิศวกรรมชั้นสูง ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันการเติบโตในอนาคต คาดเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ปี 65
ด้านความคืบหน้าโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐฯ ซึ่งร่วมทุนกับ DAELIM เกาหลีใต้ ที่มีต้นทุนสูงขึ้นเพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดีทำให้การก่อสร้างแพงขึ้น คาดว่า 4-5 เดือน จะได้ข้อสรุปแนวทางแก้ไขต้นทุนค่าก่อสร้าง และคาดว่าปลายปี 2562 จะตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID)
*** เล็งลงทุนโรงงานรีไซเคิล
บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนโรงงานรีไซเคิลพลาสติก (Recycling Plant) ครบวงจรมาตรฐานสากลในระดับโลก บริเวณพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม จังหวัดระยอง กำลังการผลิต rPet 30,000 ตันต่อปี rHDPE 15,000 ตันต่อปี ซึ่งอยู่ระหว่างการคัดเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม รวมทั้งการจัดหาวัตถุดิบ (Waste Collection) ที่เหมาะสม โดยเป็นพันธมิตรจากยุโรปที่จะเข้าร่วมทุนในโครงการนี้เปิดโอกาสให้ถือหุ้น 30-50% มูลค่างบลงทุนร่วม 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มผลิตภายในปี 63
ปัจจุบันบริษัทมีเงิดสดในมือ 60,000 ล้านบาท และมีหนี้สถาบันการเงิน 95,000 ล้านบาท โดยมีแผนจะใช้คืนหนี้ ประมาณ 10,000 ล้านบาท/ปี ส่วนแผนงานการออกหุ้นกู้ใหม่อยู่ระหว่างการพิจารณา หากมีความจำเป็นในการลงทุน โดยบริษัทมีวงเงินออกหุ้นกู้ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีการออกหุ้นกู้แล้วเพียง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
*** คาดรายได้ปีนี้ทรงตัว
บริษัทคาดรายได้ปีนี้ จะใกล้เคียงกับปี 61 เนื่องจากมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มเข้ามาจากการเข้าถือหุ้นในบริษัท Siam Mitsui PTA Co., ltd. (SMPC เปลี่ยนชื่อเป็น GCM-PTA)และ Thai PET Resin Co., ltd.(TPRC) ซึ่งดำเนินธุรกิจ PTA และ PET เพื่อต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพาราไซลีน(PX) และโมโนเอทิลีนไกลคอล (MEG) เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้ากลุ่มขวดบรรจุภัณฑ์อย่างครบวงจร จะช่วยหนุนกำลังการผลิตเพิ่มเข้ามาประมาณ 10%
อย่างไรก็ตามภาพรวมของต้นทุนปิโตรเคมีปรับตัวสูงขึ้น และบริษัทฯ มีการปิดปรับปรุงโรงงานโดย Q2/62 มีแผนปิดปรับปรุงโรงอะโรเมติกส์จำนวน 30 วัน คาดว่าทั้งปี 2562 กำลังการผลิตจะเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 87% จากปี 2561 อยู่ที่93% และปิดปรับปรุงโรงกลั่นช่วงQ4/62 จำนวน 50 วัน ส่งผลให้ทั้งปี คาดว่าจะมีกำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 86% จากปี 61 อยู่ที่ระดับ 100% ซึ่งการปิดปรับปรุงโรงงานทั้ง 2 แห่งทำให้กำลังการผลิตหายไป 8% จึงเป็นปัจจัยกดดันให้รายได้ปีนี้ใกล้เคียงกับปีก่อน
"ภาพรวมรายได้ปีนี้คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีก่อน เพราะปิดปรับปรุงโรงงาน แต่มีกำลังการผลิตใหม่เข้ามาชดเชยส่วนที่หายไปได้ "
สำหรับโครงการ Project Max ที่ทำ EBITDA ได้ตามเป้าหมาย 10,800 ล้าน ซึ่งปีก่อนบันทึกไปแล้ว 6,500 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะมี EBITDA บันทึกเข้ามาประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท
ด้านราคาผลิตภัณฑ์กลุ่มโอเลฟินส์ปีนี้คาดว่าจะอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 1,200 เหรียญสหรัฐต่อตัน จากปี 2561 อยู่ที่ระดับ 1,300 เหรียญสหรัฐ และในส่วนของ Spread อะโรเมติกส์ปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ที่ 220-230 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 197 ดอลลาร์สหรัฐ
https://www.efinancethai.com/hotnews/hotnewsmain.aspx?release=y&name=MGl5RUE2cHgyblFCOXBlUlRHSU14QT09
DCA ลงทุนหุ้นกลุ่ม PTT ดีไหม....หุ้นรัฐวิสาหกิจ หุ้นพลังงานของประเทศ หุ้นที่มีจ้าว(ของใหญ่คือรัฐ)
กลุ่ม"ปตท." วางงบ 2.64 แสนล้านบาท ขยายการลงทุนใน EEC หวังเร่งการเติบโต ระบุยังไม่ตัดสินใจเข้าประมูลโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 และท่าเรืออู่ตะเภา ขอศึกษาความเสี่ยงและพันธมิตร ด้าน " พีทีที โกลบอล เคมิคอล" วางงบลงทุนปีนี้ 4 หมื่นล้านบาท ในโครงการ Olefins Reconfiguration พร้อมศึกษาร่วมทุนโรงงานรีไซเคิลพลาสติก จ.ระยอง มูลค่า 2 พันล้านบาท ขณะที่รายได้ปีนี้ทรงตัว หลังกำลังผลิตหายจากการปิดปรับปรุงโรงงาน 2 แห่ง
*** กลุ่ม ปตท.ทุ่ม 2.6 แสนลบ.รุก EEC
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท. วางงบลงทุนรวม 264,226 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ประกอบด้วย
การลงทุนโครงการในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) จำนวน 4,100ล้านบาท
การลงทุนท่อก๊าซเส้นที่ 5 จำนวน 17,207ล้านบาท
โครงการส่วนต่อขยายก๊าซเพื่อใช้ในโครงการ EECi จำนวน 727ล้านบาท
โครงการ Cold Energy Utilization มูลค่า 219 ล้านบาท
โครงการคลัง LNG เฟส 2 มูลค่า 31,912 ล้านบาท
โครงการปรับปรุงกระบวนการผลิตโอเลฟินส์ เป็นการก่อสร้างโครงการโอเลฟินส์ ของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC มูลค่า 14,400 ล้านบาท
โครงการผลิตสารโพรพิลีน ออกไซด์ และ โครงการผลิตสารโพลีออลส์ (Polyols Project) หรือโครงการ PO/Polyols ของ PTTGC มูลค่า 15,500ล้านบาท
โครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project หรือ (CFP) มูลค่า 128,743 ล้านบาท ฃ
โครงการ Jetty Expansion ของ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP มูลค่า 2,328 ล้านบาท
โครงการ เพิ่มกำลังการผลิตพาราไซลีน 41,200ล้านบาท และโครงการ Ultra Clean fuel มูลค่า 7,890 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทจะได้มีการลงทุนเพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน ช่วง 5 ปี (ปี62-66) จำนวน 58,832 ล้านบาท
*** วางงบ 5 ปี เร่งการเติบโต
นอกจากนี้ ในช่วง 5 ปี PTT จะใช้เงินลงทุนภายใต้กลุ่มบริษัทที่ถือหุ้น 100% จำนวน 167,114 ล้านบาท ในการลงทุนธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ธุรกิจก๊าซ ท่อส่งก๊าซ อีกทั้งได้เตรียมงบลงทุน Provision จำนวน 187,616 ล้านบาท เพื่อเป็นการเร่งการเติบโตทางธุรกิจ
ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้ลงทุนก่อสร้างโครงการจัดตั้งโครงการ "EECi" เพื่อจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมในหลายด้านเพื่อต่อยอดไปสู่การพัฒนาในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมของ New S -Curve โดยมีมูลค่าลงทุนเบื้องต้นประมาณ 2,000ล้านบาท จากมูลค่าโครงการทั้งหมดภายใต้งบลงทุน 5 ปี (62-66) ประมาณ 4,100ล้านบาท
*** เล็งประมูลแหลมฉบังเฟส 3
ทั้งนี้ บริษัทได้เข้าร่วมกับ บริษัท กัลฟ์ เอนเนอร์จี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เพื่อเข้าประมูลโครงการพัฒนาท่ามาบตาพุดเฟส 3 เพื่อเป็นการรองรับการนำเข้า LNG
ส่วนการเข้าประมูลโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 และท่าเรืออู่ตะเภา ขณะนี้ยังไม่ตัดสินใจประมูล โดยยังอยู่ระหว่างการศึกษา ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาความเสี่ยงและคัดเลือกพันธมิตร
***ออกหุ้นกู้ครั้งแรกรอบ 4 ปี
บริษัทแผนที่จะออก และเสนอขายหุ้นกู้เพื่อนำเงินไปลงทุนในโครงการที่มีโอกาสจะได้รับการพัฒนา หลังจากที่บริษัท ไม่ได้มีการออกหุ้นมานานกว่า 3-4 ปี โดยขณะนี้บริษัทมีเงินสดในมือ ประมาณ 1.3-1.4แสนล้านบาท และปี 62 จะต้องเสียภาษีสำหรับรายการขายสินทรัพย์ให้กับ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR ประมาณ 16, 000ล้านบาท และชำระคืนเงินกู้ 26,000 ล้านบาท รวมถึงจะต้องลงทุน 30,000 ล้านบาท และจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น 50,000 ล้านบาท
นอกจากนี้จะต้องมีการเตรียมเงินเพิ่มทุนให้ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกดั (มหาชน) หรือ GPSC ในการเข้าซื้อหุ้น และการให้กู้ยืม สำหรับการเข้าซื้อหุ้น บริษัทโกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW
*** PTTGC วางงบ 4 หมื่นลบ. ลงทุน Olefins Reconfiguration
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และนางสาวดวงกมล เศรษฐธนังรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยว่า ปีนี้ บริษัทวางงบลงทุนรวม 40,000 ล้านบาท แบ่งเป็นใช้ลงทุนในโครงการ Olefins Reconfiguration ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบที่บริษัทฯ มีอยู่แล้วและเป็นการต่อยอดธุรกิจปลายน้ำในอนาคตด้วยกำลังการผลิตเอทีลีน 500,000 ตัน และโพรพีลีน 250,000 ตัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ปี 2563 และโครงการ Propylene Oxide (PO) โครงการ Polyols ซึ่งเป็นการต่อยอดผลิตภัณฑ์โพรพีลีนไปสู่ผลิตภัณฑ์ปลายทางสาย Polyurethane ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างคาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2563 โดยทั้ง 2 โครงการนี้ใช้เงินลงทุนประมาณ 30,000 ล้านบาท
และ อีก 7,000 ล้านบาท ใช้ซ่อมบำรุงปรับปรุงโรงงานเดิม และส่วนที่เหลือใช้มองหาการเข้าลงทุนแบบควบรวมหรือซื้อกิจการ(M&A)
สำหรับโครงการผลิตผลิตภัณฑ์วิศวกรรมชั้นสูง PA9T และ HSBC เป็นความร่วมมือกับนักลงทุนจากญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัท คุราเร่ จีซี แอดวานซ์ แมททีเรียลส์ จำกัด เพื่อร่วมลงทุนในธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ ดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกวิศวกรรมชั้นสูง ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันการเติบโตในอนาคต คาดเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ปี 65
ด้านความคืบหน้าโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐฯ ซึ่งร่วมทุนกับ DAELIM เกาหลีใต้ ที่มีต้นทุนสูงขึ้นเพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดีทำให้การก่อสร้างแพงขึ้น คาดว่า 4-5 เดือน จะได้ข้อสรุปแนวทางแก้ไขต้นทุนค่าก่อสร้าง และคาดว่าปลายปี 2562 จะตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID)
*** เล็งลงทุนโรงงานรีไซเคิล
บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนโรงงานรีไซเคิลพลาสติก (Recycling Plant) ครบวงจรมาตรฐานสากลในระดับโลก บริเวณพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม จังหวัดระยอง กำลังการผลิต rPet 30,000 ตันต่อปี rHDPE 15,000 ตันต่อปี ซึ่งอยู่ระหว่างการคัดเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม รวมทั้งการจัดหาวัตถุดิบ (Waste Collection) ที่เหมาะสม โดยเป็นพันธมิตรจากยุโรปที่จะเข้าร่วมทุนในโครงการนี้เปิดโอกาสให้ถือหุ้น 30-50% มูลค่างบลงทุนร่วม 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มผลิตภายในปี 63
ปัจจุบันบริษัทมีเงิดสดในมือ 60,000 ล้านบาท และมีหนี้สถาบันการเงิน 95,000 ล้านบาท โดยมีแผนจะใช้คืนหนี้ ประมาณ 10,000 ล้านบาท/ปี ส่วนแผนงานการออกหุ้นกู้ใหม่อยู่ระหว่างการพิจารณา หากมีความจำเป็นในการลงทุน โดยบริษัทมีวงเงินออกหุ้นกู้ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีการออกหุ้นกู้แล้วเพียง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
*** คาดรายได้ปีนี้ทรงตัว
บริษัทคาดรายได้ปีนี้ จะใกล้เคียงกับปี 61 เนื่องจากมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มเข้ามาจากการเข้าถือหุ้นในบริษัท Siam Mitsui PTA Co., ltd. (SMPC เปลี่ยนชื่อเป็น GCM-PTA)และ Thai PET Resin Co., ltd.(TPRC) ซึ่งดำเนินธุรกิจ PTA และ PET เพื่อต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพาราไซลีน(PX) และโมโนเอทิลีนไกลคอล (MEG) เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้ากลุ่มขวดบรรจุภัณฑ์อย่างครบวงจร จะช่วยหนุนกำลังการผลิตเพิ่มเข้ามาประมาณ 10%
อย่างไรก็ตามภาพรวมของต้นทุนปิโตรเคมีปรับตัวสูงขึ้น และบริษัทฯ มีการปิดปรับปรุงโรงงานโดย Q2/62 มีแผนปิดปรับปรุงโรงอะโรเมติกส์จำนวน 30 วัน คาดว่าทั้งปี 2562 กำลังการผลิตจะเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 87% จากปี 2561 อยู่ที่93% และปิดปรับปรุงโรงกลั่นช่วงQ4/62 จำนวน 50 วัน ส่งผลให้ทั้งปี คาดว่าจะมีกำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 86% จากปี 61 อยู่ที่ระดับ 100% ซึ่งการปิดปรับปรุงโรงงานทั้ง 2 แห่งทำให้กำลังการผลิตหายไป 8% จึงเป็นปัจจัยกดดันให้รายได้ปีนี้ใกล้เคียงกับปีก่อน
"ภาพรวมรายได้ปีนี้คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีก่อน เพราะปิดปรับปรุงโรงงาน แต่มีกำลังการผลิตใหม่เข้ามาชดเชยส่วนที่หายไปได้ "
สำหรับโครงการ Project Max ที่ทำ EBITDA ได้ตามเป้าหมาย 10,800 ล้าน ซึ่งปีก่อนบันทึกไปแล้ว 6,500 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะมี EBITDA บันทึกเข้ามาประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท
ด้านราคาผลิตภัณฑ์กลุ่มโอเลฟินส์ปีนี้คาดว่าจะอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 1,200 เหรียญสหรัฐต่อตัน จากปี 2561 อยู่ที่ระดับ 1,300 เหรียญสหรัฐ และในส่วนของ Spread อะโรเมติกส์ปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ที่ 220-230 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 197 ดอลลาร์สหรัฐ
https://www.efinancethai.com/hotnews/hotnewsmain.aspx?release=y&name=MGl5RUE2cHgyblFCOXBlUlRHSU14QT09