https://weblink.set.or.th/dat/news/202407/1586NWS050720241752240346T.pdf?_gl=1*3hb1lq*_gcl_au*MTEwNTI0ODE5NC4xNzE4MTE1Njg3*_ga*NzMyMTQ3NzEuMTcwMjM2OTU2OA..*_ga_ET2H60H2CB*MTcyMDE4ODUzMS42MC4xLjE3MjAxODg1NTkuMzIuMC4w
รายละเอียดของธุรกรรม
ชื่อบริษัท: บริษัท อีโคลด์จํากัด
ลักษณะการ บริษัท อีโคลด์ จํากัด ลงทุนในธุรกิจขุดเหมือง Cryptocurrency โดยใช้พลังงานสะอาด (Clean
ดําเนินธุรกิจ: Cryptocurrency Mining) จุดประสงค์ของโครงการนําร่องนี้เพื่อเพิ่มโอกาสในการดําเนินธุรกิจ
และเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงขึ้น เพื่อลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
โดยการกําจัดคาร์บอน (Decarbonization) จากเชื้อเพลิงฟอสซิล
ทุนจดทะเบียน 5,000,000 บาท (ห้าล้านบาทถ้วน) โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10.0 บาท จํานวน 500,000 หุ้น
#NRF #ทันหุ้น-บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า บริษัท อีโคลด์ จำกัด หรือ EKOLD ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่ NRF ถือหุ้น 60% และบริษัท บี จีสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ B ถือหุ้น 40% ซึ่งได้ประมาณการเงินลงทุนไว้ที่ 700 ล้านบาท ในรูปแบบการให้เงินกู้ยืมตามสัดส่วนการถือหุ้นและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของโครงการ
ทั้งนี้ บริษัท อีโคลด์ ประกอบธุรกิจลงทุนในธุรกิจขุดเหมือง Cryptocurrency โดยใช้พลังงานสะอาด จากโรงไฟฟ้าชีวมวลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจและเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงขึ้น เพื่อลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโดยการกำจัดคาร์บอน จากเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยบริษัทมีแผนการลงทุนในเครื่องขุดประมาณ 2,200 เครื่อง คาดว่าจะขุดบิตคอยน์ได้ประมาณ 50-55 BTC ต่อเดือน และจะเริ่มดำเนินการเฟสแรกภายในปี 2565 อีกทั้งบริษัทได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงซื้อขายไฟฟ้ากับผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด จำนวน 10 เมกะวัตต์ เพื่อรองรับการดำเนินการดังกล่าวนี้
นอกจากนี้ได้ดำเนินธุรกิจการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ สำหรับขนส่งสินค้าภาคอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร, ศูนย์กระจายสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ, การนำสินค้าออกจากคลังสินค้า ตลอดจนทำ Platform (Online/AI) ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินงานใด ๆ
สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ เป็นการเริ่มต้นนำเทคโนโลยี Blockchain มาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจในระยะยาวและเป็นการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ในการมีส่วนร่วมต่อสู้ภาวะโลกร้อน โดยคาดว่าจะสามารถนำเทคโนโลยี Blockchain มาต่อยอดกับธุรกิจหลักของบริษัทในอนาคต เช่น การเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ลดต้นทุนภาคการผลิต สามารถเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้โปร่งใสและมีเสถียรภาพมากขึ้น เป็นต้น เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม
nrf ขายเหมือง bitcoin แล้ว
รายละเอียดของธุรกรรม
ชื่อบริษัท: บริษัท อีโคลด์จํากัด
ลักษณะการ บริษัท อีโคลด์ จํากัด ลงทุนในธุรกิจขุดเหมือง Cryptocurrency โดยใช้พลังงานสะอาด (Clean
ดําเนินธุรกิจ: Cryptocurrency Mining) จุดประสงค์ของโครงการนําร่องนี้เพื่อเพิ่มโอกาสในการดําเนินธุรกิจ
และเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงขึ้น เพื่อลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
โดยการกําจัดคาร์บอน (Decarbonization) จากเชื้อเพลิงฟอสซิล
ทุนจดทะเบียน 5,000,000 บาท (ห้าล้านบาทถ้วน) โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10.0 บาท จํานวน 500,000 หุ้น
#NRF #ทันหุ้น-บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า บริษัท อีโคลด์ จำกัด หรือ EKOLD ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่ NRF ถือหุ้น 60% และบริษัท บี จีสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ B ถือหุ้น 40% ซึ่งได้ประมาณการเงินลงทุนไว้ที่ 700 ล้านบาท ในรูปแบบการให้เงินกู้ยืมตามสัดส่วนการถือหุ้นและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของโครงการ
ทั้งนี้ บริษัท อีโคลด์ ประกอบธุรกิจลงทุนในธุรกิจขุดเหมือง Cryptocurrency โดยใช้พลังงานสะอาด จากโรงไฟฟ้าชีวมวลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจและเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงขึ้น เพื่อลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโดยการกำจัดคาร์บอน จากเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยบริษัทมีแผนการลงทุนในเครื่องขุดประมาณ 2,200 เครื่อง คาดว่าจะขุดบิตคอยน์ได้ประมาณ 50-55 BTC ต่อเดือน และจะเริ่มดำเนินการเฟสแรกภายในปี 2565 อีกทั้งบริษัทได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงซื้อขายไฟฟ้ากับผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด จำนวน 10 เมกะวัตต์ เพื่อรองรับการดำเนินการดังกล่าวนี้
นอกจากนี้ได้ดำเนินธุรกิจการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ สำหรับขนส่งสินค้าภาคอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร, ศูนย์กระจายสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ, การนำสินค้าออกจากคลังสินค้า ตลอดจนทำ Platform (Online/AI) ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินงานใด ๆ
สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ เป็นการเริ่มต้นนำเทคโนโลยี Blockchain มาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจในระยะยาวและเป็นการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ในการมีส่วนร่วมต่อสู้ภาวะโลกร้อน โดยคาดว่าจะสามารถนำเทคโนโลยี Blockchain มาต่อยอดกับธุรกิจหลักของบริษัทในอนาคต เช่น การเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ลดต้นทุนภาคการผลิต สามารถเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้โปร่งใสและมีเสถียรภาพมากขึ้น เป็นต้น เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม