รถเมล์
ที่ปล่อยแบบเรียงหน้ากระดาน (เสนอแบบพาวเวอร์พ้อย 11 นาที)
https://www.youtube.com/watch?v=wQneEiKrkZg&t=78s
ตามวิธีนี้รถเมล์สามารถวิ่งได้ 25 กม. / ชม. ในเวลาเร่งด่วน
รถเมล์ วิ่งเร็วขึ้น 3 เท่า (ทำให้วิ่งเร็วกว่ารถเก๋ง (ในเวลาเร่งด่วน) มากๆ)
รถเมล์ วิ่งได้รอบมากขึ้น 3 เท่า (ทำให้เวลาในการรอรถเมล์ที่ป้ายน้อยลง 3 เท่า)
ถ้ามีผู้ใช้รถเก๋งเปลี่ยนมาใช้รถเมล์มากขึ้น (มากๆ) จะทำให้ท้ายแถวรถเก๋งติด หดสั้นลงมากๆเช่นกัน
จึงทำให้รถเมล์สามารถวิ่งได้เร็วเท่ารถไฟฟ้าที่วิ่งใน 1 ชม.
หมายเหตุ
รถเมล์ แบบปัจจุบันวิ่งได้เฉลี่ย 8 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน
เดินยังได้ 5 กม. / ชม. แล้ว (ดีกว่าเดินหน่อยเดียว)
รถเก๋งวิ่งได้เฉลี่ย 15 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน
รถไฟฟ้าวิ่งได้เฉลี่ย 35 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน แต่ต้อง (หักเวลา ฟรี 17 นาที)
รถเมล์ (ตามวิธีในวีดีโอ) วิ่งได้เฉลี่ย 25 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน
การ (หักเวลาฟรี 17 นาที) ของรถไฟฟ้า
ถ้านับจาก
ขับรถเก๋งถึงที่จอดแล้วจร (หาที่จอดในเวลาเร่งด่วน) รวมประมาณ 5 นาที
เดินจากป้ายรถเมล์ หรือ ที่จอดแล้วจร ไปขึ้นสถานีรถไฟฟ้า รวมประมาณ 3 นาที
ซื้อตั๋ว ต่อคิว (ในเวลาเร่งด่วน) อีกประมาณ 5 - 10 นาที
ถึงแล้วต้องเดินลงสถานีรถไฟฟ้า เพื่อไปขึ้นรถเมล์ หรือไปขับรถออกอีกรวมประมาณ 3 นาที
ดังนั้น การขึ้นรถไฟฟ้า จึงต้องเสียเวลา (ไปฟรีๆ อย่างน้อย) ประมาณ 17 นาที (ในเวลาเร่งด่วน)
(แต่รถเมล์ ไม่มีขั้นตอนเหล่านี้เลย)
ดังนั้น 60 นาที ของรถไฟฟ้าจึงเหลือแค่ 43 นาที
43 นาที รถไฟฟ้าจะวิ่งได้เพียงประมาณ 25 ก ม. / ในเวลาเร่งด่วน
แต่รถเมล์ (ตามวิธีนี้) วิ่งได้ประมาณ 25 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน
เพราะ
รถเมล์ (ตามวิธีนี้) วิ่งอยู่ในช่องบัสเลน
และ
รถเมล์ (ตามวิธีนี้) ทุกๆคันจะติดไฟแดงเพียง (ประมาณ) 1.30 นาที เท่านั้น
ดังนั้น 60 นาที รถเมล์และรถไฟฟ้าจึงวิ่งได้ 25 กม. เท่ากัน แน่นอน
ถ้ายิ่งวิ่งในระยะสั้นๆ รถเมล์ยิ่งได้เปรียบ เช่น
ถ้า 30 นาที
30 นาที รถเมล์ตามวิธีนี้ จะวิ่งได้ 12.5 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน
30 นาที รถไฟฟ้า จริงๆจะวิ่งได้ 17.5 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน
แต่เมื่อหักเวลาฟรี 17 นาที จึงเหลือเพียง 30 - 17 = 13 นาที
13 นาที รถไฟฟ้าจะวิ่งได้ 7.6 กม.
ถ้า 15 นาที
15 นาที รถเมล์ตามวิธีนี้ จะวิ่งได้ 6 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน
15 นาที รถไฟฟ้า จริงๆจะวิ่งได้ 9 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน
แต่เมื่อหักเวลาฟรี 17 นาที จึงเหลือเพียง 15 - 17 = - 2 นาที
- 2 นาที รถไฟฟ้า กำลังรอคิวอยู่ (ยังไม่ได้ขึ้นรถไฟฟ้า)
ดังนั้น
รถเมล์วิ่งเร็วกว่ารถไฟฟ้ามากๆ แน่นอน เพราะรถไฟฟ้า
จะต้องหักเวลา 17 นาที (ในเวลาเร่งด่วนนี้เสมอ)
และถ้ามีนักวิชาการ หรือ นัก วิทยาศาสตร์ ที่เก่งๆ หรือ ดัง หรือ ประชาชน
(คนอยากนั่งรถเมล์) หลายคนเห็นด้วย ก็จะช่วยให้วิธีนี้ เกิดขึ้นได้
ดังนั้น
ขอเชิญ ศ. หรือ ดร. หรือ นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ คนกวาดถนน ถึงนายก
เด็ก หรือ ผู้ใหญ่ เรียนมาก หรือ น้อย ก็ได้ เห็นด้วยหรือเห็นต่าง ก็ได้
โปรดช่วยแสดงความเห็น เพื่อมาถกเถียงกัน
ต า ม ห ลั ก เ ห ตุ ผ ล และ วิ ท ย า ศ า ส ต ร์
เรื่องบางเรื่อง (ที่ยากๆ) ไม่สามารถ ใช้เสียงส่วนใหญ่ มาตัดสินถูกผิดได้
เช่น การดูเพชรแท้ เพชรเทียม การดูทองปลอม ทองแท้ และ เรื่อง วิธีแก้รถติดใน วีดีโอ นี้ เป็นต้น
เพราะเรื่องเหล่านี้ จะต้องใช้ผู้มีความรู้ (เชียวชาญมากๆ)
ในเรื่องนั้นๆ มาตัดสินถูกและผิด (ไม่ใช่ใช้เสียงส่วนใหญ่)
ผมจบแค่ ม. 3 (เชื่อว่ารถเมล์เท่านั้น ที่จะสามารถแก้ปัญหาจราจรได้ในทันที)
ถึงจะเป็น 1 ใน 100 หรือ 1 ใน ล้าน ถ้าความคิดนั้นมันถูกมันก็ต้องถูก
รัฐบาล หรือ รัฐบาลใหม่ จะต้องรีบซื้อรถเมล์ใหม่ มาใช้มากๆ
(ถ้าได้ 5000 หรือ 10000 คันได้ยิ่งดีครับ)
เพราะ ยิ่งมีรถเมล์ (ใหม่) เพิ่มมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้สัดส่วนของรถเมล์เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
วิธีปล่อยรถเมล์แบบเรียงหน้ากระดาน
สามารถใช้ได้ในถนนทุกแบบ เช่น
ในถนนที่ไม่มีสัญญาณไฟ ก็เพิ่มสัญญาณไฟแบบในวีดีโอนี้ลงไป
ส่วนในถนนที่มีสัญญาณไฟอยู่แล้ว ก็ให้เพิ่มสัญญาณไฟแบบในวีดีโอนี้ลงไปเช่นกัน
ติดตั้งแสนง่าย (ตั้งเช้าเย็นเสร็จ) อาจทดลองในถนนใหญ่ๆ หรือในถนนที่มีปัญหาจราจรน้อยๆ
ก่อนก็ได้ ทาสีช่องบัสเลน จบ
ยกเว้นที่ทำไม่ได้
ในถนน 2 เลน (ไป 1 เลน กลับ 1 เลน และ ในสี่แยกแบบติดๆกัน (เช่น 50 ม. เป็นต้น))
หมายเหตุ
มอเตอร์ไซด์ และ แท็กซี่ และ รถอื่นๆ ในที่นี่ (ในวีดีโอนี้) จะเรียกสั้นๆ ว่า รถเก๋ง ทั้งหมด
รถตู้ และรถสาธารณะอื่นๆ เช่น สองแถวในซอย ในที่นี่ (ในวีดีโอนี้) จะเรียกสั้นๆ ว่า รถเมล์ ทั้งหมด
วิธีปล่อยรถเมล์แบบเรียงหน้ากระดานนี้ จะต้องมีเจ้าหน้าที่
คอยเปลี่ยนสัญญาณไฟ (คอยปล่อยรถเมล์ และ รถเก๋ง ในทุกๆแยก ซึ่งมีไม่เท่ากัน)
เช่น
ถ้าแยกไหนรถเก๋งมาก ก็ปล่อยนาน 2 นาทีก็ได้
แยกไหนรถเก๋งน้อย ก็ปล่อย 3 วินาทีก็ได้ หรือถ้าไม่มีเลย ก็ข้ามไป
ส่วนรถเมล์ก็เช่นเดียวกัน
นักคิด นักเขียน นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ เห็นด้วยหรือเห็นต่าง
โปรดชี้แนะ สั่งสอน หรือ แลกเปลี่ยนด้วยครับ
1 ชม. รถเมล์กับรถไฟฟ้าวิ่งได้เท่ากัน (25 กม.) เพราะ ????
ที่ปล่อยแบบเรียงหน้ากระดาน (เสนอแบบพาวเวอร์พ้อย 11 นาที)
https://www.youtube.com/watch?v=wQneEiKrkZg&t=78s
ตามวิธีนี้รถเมล์สามารถวิ่งได้ 25 กม. / ชม. ในเวลาเร่งด่วน
รถเมล์ วิ่งเร็วขึ้น 3 เท่า (ทำให้วิ่งเร็วกว่ารถเก๋ง (ในเวลาเร่งด่วน) มากๆ)
รถเมล์ วิ่งได้รอบมากขึ้น 3 เท่า (ทำให้เวลาในการรอรถเมล์ที่ป้ายน้อยลง 3 เท่า)
ถ้ามีผู้ใช้รถเก๋งเปลี่ยนมาใช้รถเมล์มากขึ้น (มากๆ) จะทำให้ท้ายแถวรถเก๋งติด หดสั้นลงมากๆเช่นกัน
จึงทำให้รถเมล์สามารถวิ่งได้เร็วเท่ารถไฟฟ้าที่วิ่งใน 1 ชม.
หมายเหตุ
รถเมล์ แบบปัจจุบันวิ่งได้เฉลี่ย 8 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน
เดินยังได้ 5 กม. / ชม. แล้ว (ดีกว่าเดินหน่อยเดียว)
รถเก๋งวิ่งได้เฉลี่ย 15 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน
รถไฟฟ้าวิ่งได้เฉลี่ย 35 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน แต่ต้อง (หักเวลา ฟรี 17 นาที)
รถเมล์ (ตามวิธีในวีดีโอ) วิ่งได้เฉลี่ย 25 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน
การ (หักเวลาฟรี 17 นาที) ของรถไฟฟ้า
ถ้านับจาก
ขับรถเก๋งถึงที่จอดแล้วจร (หาที่จอดในเวลาเร่งด่วน) รวมประมาณ 5 นาที
เดินจากป้ายรถเมล์ หรือ ที่จอดแล้วจร ไปขึ้นสถานีรถไฟฟ้า รวมประมาณ 3 นาที
ซื้อตั๋ว ต่อคิว (ในเวลาเร่งด่วน) อีกประมาณ 5 - 10 นาที
ถึงแล้วต้องเดินลงสถานีรถไฟฟ้า เพื่อไปขึ้นรถเมล์ หรือไปขับรถออกอีกรวมประมาณ 3 นาที
ดังนั้น การขึ้นรถไฟฟ้า จึงต้องเสียเวลา (ไปฟรีๆ อย่างน้อย) ประมาณ 17 นาที (ในเวลาเร่งด่วน)
(แต่รถเมล์ ไม่มีขั้นตอนเหล่านี้เลย)
ดังนั้น 60 นาที ของรถไฟฟ้าจึงเหลือแค่ 43 นาที
43 นาที รถไฟฟ้าจะวิ่งได้เพียงประมาณ 25 ก ม. / ในเวลาเร่งด่วน
แต่รถเมล์ (ตามวิธีนี้) วิ่งได้ประมาณ 25 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน
เพราะ
รถเมล์ (ตามวิธีนี้) วิ่งอยู่ในช่องบัสเลน
และ
รถเมล์ (ตามวิธีนี้) ทุกๆคันจะติดไฟแดงเพียง (ประมาณ) 1.30 นาที เท่านั้น
ดังนั้น 60 นาที รถเมล์และรถไฟฟ้าจึงวิ่งได้ 25 กม. เท่ากัน แน่นอน
ถ้ายิ่งวิ่งในระยะสั้นๆ รถเมล์ยิ่งได้เปรียบ เช่น
ถ้า 30 นาที
30 นาที รถเมล์ตามวิธีนี้ จะวิ่งได้ 12.5 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน
30 นาที รถไฟฟ้า จริงๆจะวิ่งได้ 17.5 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน
แต่เมื่อหักเวลาฟรี 17 นาที จึงเหลือเพียง 30 - 17 = 13 นาที
13 นาที รถไฟฟ้าจะวิ่งได้ 7.6 กม.
ถ้า 15 นาที
15 นาที รถเมล์ตามวิธีนี้ จะวิ่งได้ 6 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน
15 นาที รถไฟฟ้า จริงๆจะวิ่งได้ 9 กม. / ชม. / ในเวลาเร่งด่วน
แต่เมื่อหักเวลาฟรี 17 นาที จึงเหลือเพียง 15 - 17 = - 2 นาที
- 2 นาที รถไฟฟ้า กำลังรอคิวอยู่ (ยังไม่ได้ขึ้นรถไฟฟ้า)
ดังนั้น
รถเมล์วิ่งเร็วกว่ารถไฟฟ้ามากๆ แน่นอน เพราะรถไฟฟ้า
จะต้องหักเวลา 17 นาที (ในเวลาเร่งด่วนนี้เสมอ)
และถ้ามีนักวิชาการ หรือ นัก วิทยาศาสตร์ ที่เก่งๆ หรือ ดัง หรือ ประชาชน
(คนอยากนั่งรถเมล์) หลายคนเห็นด้วย ก็จะช่วยให้วิธีนี้ เกิดขึ้นได้
ดังนั้น
ขอเชิญ ศ. หรือ ดร. หรือ นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ คนกวาดถนน ถึงนายก
เด็ก หรือ ผู้ใหญ่ เรียนมาก หรือ น้อย ก็ได้ เห็นด้วยหรือเห็นต่าง ก็ได้
โปรดช่วยแสดงความเห็น เพื่อมาถกเถียงกัน
ต า ม ห ลั ก เ ห ตุ ผ ล และ วิ ท ย า ศ า ส ต ร์
เรื่องบางเรื่อง (ที่ยากๆ) ไม่สามารถ ใช้เสียงส่วนใหญ่ มาตัดสินถูกผิดได้
เช่น การดูเพชรแท้ เพชรเทียม การดูทองปลอม ทองแท้ และ เรื่อง วิธีแก้รถติดใน วีดีโอ นี้ เป็นต้น
เพราะเรื่องเหล่านี้ จะต้องใช้ผู้มีความรู้ (เชียวชาญมากๆ)
ในเรื่องนั้นๆ มาตัดสินถูกและผิด (ไม่ใช่ใช้เสียงส่วนใหญ่)
ผมจบแค่ ม. 3 (เชื่อว่ารถเมล์เท่านั้น ที่จะสามารถแก้ปัญหาจราจรได้ในทันที)
ถึงจะเป็น 1 ใน 100 หรือ 1 ใน ล้าน ถ้าความคิดนั้นมันถูกมันก็ต้องถูก
รัฐบาล หรือ รัฐบาลใหม่ จะต้องรีบซื้อรถเมล์ใหม่ มาใช้มากๆ
(ถ้าได้ 5000 หรือ 10000 คันได้ยิ่งดีครับ)
เพราะ ยิ่งมีรถเมล์ (ใหม่) เพิ่มมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้สัดส่วนของรถเมล์เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
วิธีปล่อยรถเมล์แบบเรียงหน้ากระดาน
สามารถใช้ได้ในถนนทุกแบบ เช่น
ในถนนที่ไม่มีสัญญาณไฟ ก็เพิ่มสัญญาณไฟแบบในวีดีโอนี้ลงไป
ส่วนในถนนที่มีสัญญาณไฟอยู่แล้ว ก็ให้เพิ่มสัญญาณไฟแบบในวีดีโอนี้ลงไปเช่นกัน
ติดตั้งแสนง่าย (ตั้งเช้าเย็นเสร็จ) อาจทดลองในถนนใหญ่ๆ หรือในถนนที่มีปัญหาจราจรน้อยๆ
ก่อนก็ได้ ทาสีช่องบัสเลน จบ
ยกเว้นที่ทำไม่ได้
ในถนน 2 เลน (ไป 1 เลน กลับ 1 เลน และ ในสี่แยกแบบติดๆกัน (เช่น 50 ม. เป็นต้น))
หมายเหตุ
มอเตอร์ไซด์ และ แท็กซี่ และ รถอื่นๆ ในที่นี่ (ในวีดีโอนี้) จะเรียกสั้นๆ ว่า รถเก๋ง ทั้งหมด
รถตู้ และรถสาธารณะอื่นๆ เช่น สองแถวในซอย ในที่นี่ (ในวีดีโอนี้) จะเรียกสั้นๆ ว่า รถเมล์ ทั้งหมด
วิธีปล่อยรถเมล์แบบเรียงหน้ากระดานนี้ จะต้องมีเจ้าหน้าที่
คอยเปลี่ยนสัญญาณไฟ (คอยปล่อยรถเมล์ และ รถเก๋ง ในทุกๆแยก ซึ่งมีไม่เท่ากัน)
เช่น
ถ้าแยกไหนรถเก๋งมาก ก็ปล่อยนาน 2 นาทีก็ได้
แยกไหนรถเก๋งน้อย ก็ปล่อย 3 วินาทีก็ได้ หรือถ้าไม่มีเลย ก็ข้ามไป
ส่วนรถเมล์ก็เช่นเดียวกัน
นักคิด นักเขียน นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ เห็นด้วยหรือเห็นต่าง
โปรดชี้แนะ สั่งสอน หรือ แลกเปลี่ยนด้วยครับ