ภาพยนต์เจ็บจี๊ดๆ ที่ตราตรึงใจของใครหลายๆคน ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม
เมื่อ ทอม หนุ่มขี้มโนที่เชื่อในพรหมลิขิต มาเจอกับ ซัมเมอร์ สาวสวยที่ไม่เชื่อในความรัก
แค่แอตติจูดเรื่องความรักก็ไปคนละทางแล้ว แบบนี้มันจะสมหวังหรอ ... แน่นอนว่า ... ไม่ ...
น่าจะเป็นหนังเรื่องเดียวที่คนดูรุมประณามนางเอกตลอดกาล
ไม่นานนี้จขกท มีโอกาสได้ดูอีกรอบ ครั้งนี้จขกท. ไม่ได้รู้สึกแบบเดิม
จขกท. มองว่ามันเป็นเรื่องของ การกำหนดนิยามเรื่องความสัมพันธ์
สำหรับจขกท. ซัมเมอร์คือคนที่แฟร์มาก(?) เพราะนางออกตัวก่อนเลยว่า คบกับฉัน เราเป็นกันได้แค่นี้นะ
ไม่ว่านางจะมีกิจกรรมหรรษาอะไรที่มันดูเกินเลยมากแค่ไหน ยังไงก็แค่เพื่อนกัน
แต่กลับเป็นทอม ที่ปากตอบตกลง แต่ใจมันก็อดไม่ได้ที่จะคิดเกินเลยมากกว่านั้น
และเริ่มถือสิทธิ์เกินขอบเขตที่ตกลงกันไว้แต่แรก
จนในที่สุดทั้งคู่ก็ไปกันต่อไม่ได้
ปัญหาของทอม ก็คือทอมรับไม่ได้กับรูปแบบความสัมพันธ์อึนๆ มึนๆ แบบนี้ของซัมเมอร์
ทอม คาดหวังที่จะเปลี่ยนซัมเมอร์ให้คิดเรื่องความสัมพันธ์ แบบเดียวกับที่เขาต้องการ
ในขณะที่ซัมเมอร์ ก็คาดหวังว่าทอมจะยอมรับเรื่องนี้อย่างที่เธอบอกเช่นกัน
ปัญหาที่เหมือนกันคือ
ทั้งสองคนต่างคาดหวังให้อีกฝ่ายเป็นในแบบที่พวกเขาต้องการ
แต่จากคำพูดในฉากหนึ่งที่ซัมเมอร์มาหาทอมที่ห้องเพื่อ ขอโทษ
แปลว่า ลึกๆ แล้ว ซัมเมอร์เข้าใจทอม
แต่ทอม ไม่เคยเข้าใจซัมเมอร์
คนอื่น ก็ไม่เข้าใจซัมเมอร์
และคนดู ก็ไม่เข้าใจซัมเมอร์
ทุกคนเลยเกลียด นังซัมเมอร์ !!!
หลายคนตีความว่า ซัมเมอร์เป็นนังหญิงชั่วววววว
คนหลายใจ !!! ให้ความหวังกันทำไม !!! ได้ฉันแล้วก็เท !!!!!!!!!
ไปๆ มาๆ ฟูมฟายกับเรื่องของตัวเองล้วนๆ 555
ในมุมมองของจขกท. ซัมเมอร์ ไม่ได้ตั้งใจให้ความหวัง ไม่เคยนอกใจทอม ไม่ใช่คนเจ้าชู้
แต่เป็นคนที่
“กลัวความสัมพันธ์”
เพราะตอนเด็ก ซัมเมอร์เห็นภาพพ่อแม่ที่หย่าร้างกัน เกิดเป็นแผลในจิตใจ
เลยมองว่า การมีสถานะความสัมพันธ์ ย่อมมาคู่กับ การเลิกลา และความเจ็บปวด
ถ้าไม่มีสถานะ ก็ไม่ต้องเลิก ไม่ต้องเจ็บปวด
เธอเลยตั้งปณิธานให้ทุกคนที่เข้ามา อยู่ได้แค่ใน friend (for benefit) zone !
อ้าว แต่พ่อแม่ของทอมก็เลิกลาเหมือนกันนะ
ทอมโตมา เขาไม่ได้กลัวความสัมพันธ์เหมือนซัมเมอร์
แต่กลับโหยหามันแทน
หนังได้บอกอย่างหนึ่งในตรงนี้ว่า
เด็กแต่ละคนเจอสถานการณ์เดียวกัน ไม่จำเป็นต้องโตมาเป็นคนประเภทเดียวกัน
ทอม ถูกตั้งมาเป็นตัวละครที่แทนความรู้สึกเจ็บๆ ของคนดู (ทุกคนเลยอิน)
ส่วนซัมเมอร์ คือปัญหาของความรักที่เราไม่ค่อยเข้าใจ
ในฉากช่วงหลังๆ ซัมเมอร์มีท่าทีสื่อให้เห็นว่า ทอมไม่เคยพยายามจะเข้าใจเธอเลย
สิ่งที่ทอมทำคือการตีความไปเองว่าที่เขาทำแบบนั้นแบบนี้ มันดี เธอคงชอบ
แต่จะมีประโยชน์อะไร ถ้าเราคาดหวังกับความสัมพันธ์ โดยไม่เคยคิดที่จะเข้าใจกัน ?
บางทีสิ่งที่ซัมเมอร์ต้องการอาจเป็นเรื่องของความเข้าใจที่ทอมมองข้ามไป
เพราะทอมคิดว่า ไม่ว่าใครๆ ก็ควรคิดแบบเขาไม่ใช่หรือ?
ความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดมันถูกที่ไหนกัน ???
แต่แล้วทำไมพอเลิกกับทอม
เธอถึงเริ่มต้นและแต่งงานกับผู้ชายคนใหม่เร็วขนาดนั้นล่ะะะ
ไหนบอกไม่ชอบผูกมัดงัยยยยย นังคนชั่วววววววววววววววว
คำพูดนึงที่ซัมเมอร์บอกกับทอมเรื่องนี้ได้ชัดเจนที่สุด น่าจะเป็นประโยคนี้
“ I just woke up one day, and I knew.
What I was never sure of with you ”
———————————————————————————————-
Credit: Blockdit เพจ พาเพลิน
https://www.blockdit.com/articles/5c49e50be3f4014f172dee1e
มองคนละมุมใน (500) Days of Summer : เราต่างคาดหวังให้อีกฝ่ายเป็นในแบบที่เราต้องการ
ภาพยนต์เจ็บจี๊ดๆ ที่ตราตรึงใจของใครหลายๆคน ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม
เมื่อ ทอม หนุ่มขี้มโนที่เชื่อในพรหมลิขิต มาเจอกับ ซัมเมอร์ สาวสวยที่ไม่เชื่อในความรัก
แค่แอตติจูดเรื่องความรักก็ไปคนละทางแล้ว แบบนี้มันจะสมหวังหรอ ... แน่นอนว่า ... ไม่ ...
น่าจะเป็นหนังเรื่องเดียวที่คนดูรุมประณามนางเอกตลอดกาล
ไม่นานนี้จขกท มีโอกาสได้ดูอีกรอบ ครั้งนี้จขกท. ไม่ได้รู้สึกแบบเดิม
จขกท. มองว่ามันเป็นเรื่องของ การกำหนดนิยามเรื่องความสัมพันธ์
สำหรับจขกท. ซัมเมอร์คือคนที่แฟร์มาก(?) เพราะนางออกตัวก่อนเลยว่า คบกับฉัน เราเป็นกันได้แค่นี้นะ
ไม่ว่านางจะมีกิจกรรมหรรษาอะไรที่มันดูเกินเลยมากแค่ไหน ยังไงก็แค่เพื่อนกัน
แต่กลับเป็นทอม ที่ปากตอบตกลง แต่ใจมันก็อดไม่ได้ที่จะคิดเกินเลยมากกว่านั้น
และเริ่มถือสิทธิ์เกินขอบเขตที่ตกลงกันไว้แต่แรก
จนในที่สุดทั้งคู่ก็ไปกันต่อไม่ได้
ปัญหาของทอม ก็คือทอมรับไม่ได้กับรูปแบบความสัมพันธ์อึนๆ มึนๆ แบบนี้ของซัมเมอร์
ทอม คาดหวังที่จะเปลี่ยนซัมเมอร์ให้คิดเรื่องความสัมพันธ์ แบบเดียวกับที่เขาต้องการ
ในขณะที่ซัมเมอร์ ก็คาดหวังว่าทอมจะยอมรับเรื่องนี้อย่างที่เธอบอกเช่นกัน
ปัญหาที่เหมือนกันคือ ทั้งสองคนต่างคาดหวังให้อีกฝ่ายเป็นในแบบที่พวกเขาต้องการ
แต่จากคำพูดในฉากหนึ่งที่ซัมเมอร์มาหาทอมที่ห้องเพื่อ ขอโทษ
แปลว่า ลึกๆ แล้ว ซัมเมอร์เข้าใจทอม
แต่ทอม ไม่เคยเข้าใจซัมเมอร์
คนอื่น ก็ไม่เข้าใจซัมเมอร์
และคนดู ก็ไม่เข้าใจซัมเมอร์
ทุกคนเลยเกลียด นังซัมเมอร์ !!!
หลายคนตีความว่า ซัมเมอร์เป็นนังหญิงชั่วววววว
คนหลายใจ !!! ให้ความหวังกันทำไม !!! ได้ฉันแล้วก็เท !!!!!!!!!
ไปๆ มาๆ ฟูมฟายกับเรื่องของตัวเองล้วนๆ 555
ในมุมมองของจขกท. ซัมเมอร์ ไม่ได้ตั้งใจให้ความหวัง ไม่เคยนอกใจทอม ไม่ใช่คนเจ้าชู้
แต่เป็นคนที่ “กลัวความสัมพันธ์”
เพราะตอนเด็ก ซัมเมอร์เห็นภาพพ่อแม่ที่หย่าร้างกัน เกิดเป็นแผลในจิตใจ
เลยมองว่า การมีสถานะความสัมพันธ์ ย่อมมาคู่กับ การเลิกลา และความเจ็บปวด
ถ้าไม่มีสถานะ ก็ไม่ต้องเลิก ไม่ต้องเจ็บปวด
เธอเลยตั้งปณิธานให้ทุกคนที่เข้ามา อยู่ได้แค่ใน friend (for benefit) zone !
อ้าว แต่พ่อแม่ของทอมก็เลิกลาเหมือนกันนะ
ทอมโตมา เขาไม่ได้กลัวความสัมพันธ์เหมือนซัมเมอร์
แต่กลับโหยหามันแทน
หนังได้บอกอย่างหนึ่งในตรงนี้ว่า
เด็กแต่ละคนเจอสถานการณ์เดียวกัน ไม่จำเป็นต้องโตมาเป็นคนประเภทเดียวกัน
ทอม ถูกตั้งมาเป็นตัวละครที่แทนความรู้สึกเจ็บๆ ของคนดู (ทุกคนเลยอิน)
ส่วนซัมเมอร์ คือปัญหาของความรักที่เราไม่ค่อยเข้าใจ
ในฉากช่วงหลังๆ ซัมเมอร์มีท่าทีสื่อให้เห็นว่า ทอมไม่เคยพยายามจะเข้าใจเธอเลย
สิ่งที่ทอมทำคือการตีความไปเองว่าที่เขาทำแบบนั้นแบบนี้ มันดี เธอคงชอบ
แต่จะมีประโยชน์อะไร ถ้าเราคาดหวังกับความสัมพันธ์ โดยไม่เคยคิดที่จะเข้าใจกัน ?
บางทีสิ่งที่ซัมเมอร์ต้องการอาจเป็นเรื่องของความเข้าใจที่ทอมมองข้ามไป
เพราะทอมคิดว่า ไม่ว่าใครๆ ก็ควรคิดแบบเขาไม่ใช่หรือ?
ความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดมันถูกที่ไหนกัน ???
แต่แล้วทำไมพอเลิกกับทอม
เธอถึงเริ่มต้นและแต่งงานกับผู้ชายคนใหม่เร็วขนาดนั้นล่ะะะ
ไหนบอกไม่ชอบผูกมัดงัยยยยย นังคนชั่วววววววววววววววว
คำพูดนึงที่ซัมเมอร์บอกกับทอมเรื่องนี้ได้ชัดเจนที่สุด น่าจะเป็นประโยคนี้
“ I just woke up one day, and I knew.
What I was never sure of with you ”
———————————————————————————————-
Credit: Blockdit เพจ พาเพลิน
https://www.blockdit.com/articles/5c49e50be3f4014f172dee1e