PAGE | โตแล้ว จะดูหนังเรื่องอะไรก็ได้
www.facebook.com/tohlaew
จะรีวิวยังไงก็ได้ 03
(500) Days of Summer | พรหมคงไม่ลิขิตให้ได้ทุกอย่าง
ว่ากันว่า (500) Days of Summer คือหนังที่รวบรวมความจริงของคนอกหักเอาไว้มากที่สุดเรื่องหนึ่ง
มากไปกว่านั้น มันยังรวบรวมเอาความจริงของความรักเอาไว้พอๆกัน
ทอม ชายหนุ่มผู้เชื่อมั่นในพรหมลิขิตและโหยหาความรักมาเติมเต็มชีวิต ได้พบกับ ซัมเมอร์ หญิงสาวผู้ซึ่งไม่เคยเชื่อในรักแท้ รักอิสระและไม่อยากที่จะมีความสัมพันธ์ฉันท์คู่รักกับใคร เธอไม่แน่ใจกระทั่งว่าความรักคืออะไรเลยด้วยซ้ำ – ไม่รู้ว่าใช่พรหมลิขิตไหม แต่ทอมก็ตกหลุมรักซัมเมอร์ไปแล้วตั้งแต่แรกเห็น
หนังแสดงภาพตลอดระยะเวลา 500 วันที่ชายหนุ่มและหญิงสาวพบกันโดยไม่เรียงตามลำดับเวลา จากความสัมพันธ์แบบเพื่อนร่วมงานกลายเป็นเพื่อนสนิท จนพัฒนากลายเป็นคู่นอน กระนั้นซัมเมอร์ก็ไม่เคยที่จะบอกสถานะที่ชัดเจนระหว่างเธอกับทอม เธอพอใจกับความสัมพันธ์ที่ไม่ผูกมัด ความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องมีชื่อเรียก กลับเป็นทอมเองที่คิดว่า เธอคือรักแท้หนึ่งเดียวที่เขาตามหา เธอคือโลกทั้งใบของเขา
ประเด็นคือเขาคิดไปเองว่า เธอก็คงเห็นเขาเป็นโลกทั้งใบของเธอเช่นกัน
สุดท้ายเมื่อต้องเลิกรากัน โลกใบที่ทอมสร้างขึ้นก็พังทลายลง ไม่พอ ชีวิตของทอมก็พังทลายลงด้วย
หนังเรื่องนี้สร้างผลกระทบทางจิตใจให้กับคนดูหลายๆคน โดยเฉพาะคนที่ชอบ ‘คิดไปเอง’ แบบทอม น่าจะเคยประสบกับเหตุการณ์แบบในซีนงานเลี้ยงที่บ้านนางเอก ที่หนังใช้วิธีการเล่าแบบแบ่งกรอบออกเป็นสองกรอบ กรอบหนึ่งเขียนว่า ความคาดหวัง อีกกรอบเขียนว่า ความจริง ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในสองกรอบนี้ย่อมแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
และทั้งๆที่กรอบทั้งสองก็อยู่ข้างๆกัน แต่ทอมกลับไม่เคยมองเห็นกรอบของความจริงเลยแม้แต่ครั้งเดียว
การเชื่อในพรหมลิขิต ไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่การเชื่อมากเกินไป-แบบทอม ไม่ต่างจากการติดอยู่ในกรอบแห่งความเพ้อฝัน กรอบที่เราสร้างมันขึ้นมาเอง – ซึ่งผิดเต็มๆ
เพราะเราต่างไม่รู้ว่า ตกลงแล้วพรหมลิขิตมีจริงดังที่ใครๆเขาว่าไหม
กรอบของความเชื่อก็คงไม่ต่างกับความฝัน มันคือสิ่งที่เราสร้างขึ้น ที่สำคัญคือเราฝันในขณะที่หลับตา
เมื่อลืมตาขึ้น
สิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นคือความจริง
ขอฝากเพจอีกทีนะครับ เข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์กันได้ครับ
PAGE | โตแล้ว จะดูหนังเรื่องอะไรก็ได้
www.facebook.com/tohlaew
จะรีวิวยังไงก็ได้ 03 | (500) Days of Summer | พรหมคงไม่ลิขิตให้ได้ทุกอย่าง
www.facebook.com/tohlaew
จะรีวิวยังไงก็ได้ 03
(500) Days of Summer | พรหมคงไม่ลิขิตให้ได้ทุกอย่าง
ว่ากันว่า (500) Days of Summer คือหนังที่รวบรวมความจริงของคนอกหักเอาไว้มากที่สุดเรื่องหนึ่ง
มากไปกว่านั้น มันยังรวบรวมเอาความจริงของความรักเอาไว้พอๆกัน
ทอม ชายหนุ่มผู้เชื่อมั่นในพรหมลิขิตและโหยหาความรักมาเติมเต็มชีวิต ได้พบกับ ซัมเมอร์ หญิงสาวผู้ซึ่งไม่เคยเชื่อในรักแท้ รักอิสระและไม่อยากที่จะมีความสัมพันธ์ฉันท์คู่รักกับใคร เธอไม่แน่ใจกระทั่งว่าความรักคืออะไรเลยด้วยซ้ำ – ไม่รู้ว่าใช่พรหมลิขิตไหม แต่ทอมก็ตกหลุมรักซัมเมอร์ไปแล้วตั้งแต่แรกเห็น
หนังแสดงภาพตลอดระยะเวลา 500 วันที่ชายหนุ่มและหญิงสาวพบกันโดยไม่เรียงตามลำดับเวลา จากความสัมพันธ์แบบเพื่อนร่วมงานกลายเป็นเพื่อนสนิท จนพัฒนากลายเป็นคู่นอน กระนั้นซัมเมอร์ก็ไม่เคยที่จะบอกสถานะที่ชัดเจนระหว่างเธอกับทอม เธอพอใจกับความสัมพันธ์ที่ไม่ผูกมัด ความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องมีชื่อเรียก กลับเป็นทอมเองที่คิดว่า เธอคือรักแท้หนึ่งเดียวที่เขาตามหา เธอคือโลกทั้งใบของเขา
ประเด็นคือเขาคิดไปเองว่า เธอก็คงเห็นเขาเป็นโลกทั้งใบของเธอเช่นกัน
สุดท้ายเมื่อต้องเลิกรากัน โลกใบที่ทอมสร้างขึ้นก็พังทลายลง ไม่พอ ชีวิตของทอมก็พังทลายลงด้วย
หนังเรื่องนี้สร้างผลกระทบทางจิตใจให้กับคนดูหลายๆคน โดยเฉพาะคนที่ชอบ ‘คิดไปเอง’ แบบทอม น่าจะเคยประสบกับเหตุการณ์แบบในซีนงานเลี้ยงที่บ้านนางเอก ที่หนังใช้วิธีการเล่าแบบแบ่งกรอบออกเป็นสองกรอบ กรอบหนึ่งเขียนว่า ความคาดหวัง อีกกรอบเขียนว่า ความจริง ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในสองกรอบนี้ย่อมแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
และทั้งๆที่กรอบทั้งสองก็อยู่ข้างๆกัน แต่ทอมกลับไม่เคยมองเห็นกรอบของความจริงเลยแม้แต่ครั้งเดียว
การเชื่อในพรหมลิขิต ไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่การเชื่อมากเกินไป-แบบทอม ไม่ต่างจากการติดอยู่ในกรอบแห่งความเพ้อฝัน กรอบที่เราสร้างมันขึ้นมาเอง – ซึ่งผิดเต็มๆ
เพราะเราต่างไม่รู้ว่า ตกลงแล้วพรหมลิขิตมีจริงดังที่ใครๆเขาว่าไหม
กรอบของความเชื่อก็คงไม่ต่างกับความฝัน มันคือสิ่งที่เราสร้างขึ้น ที่สำคัญคือเราฝันในขณะที่หลับตา
เมื่อลืมตาขึ้น
สิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นคือความจริง
ขอฝากเพจอีกทีนะครับ เข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์กันได้ครับ
PAGE | โตแล้ว จะดูหนังเรื่องอะไรก็ได้
www.facebook.com/tohlaew