500 days of summer ซัมเมอร์ของฉัน 500 วัน ไม่ลืมเธอ [2009]
เป็นเรื่องราว 500 วันของชายหนุ่ม ทอม แฮนซัน ผู้ซึ่งเชื่อในรักแท้ยิ่งกว่าสิ่งใดๆในโลกนี้และเค้าเชื่อว่า ความรักเท่านั้น ที่จะทำให้เขามีความสุข และหญิงสาว ซัมเมอร์ ฟิน ผู้ซึ่งไม่เคยเชื่อในพรหมลิขิต เธอมีของ 2 สิ่งที่เธอรักมากที่สุดคือ ผมดำยาว และอีกสิ่งคือ เธอสามารถตัดผมดำยาวนั้นได้โดยไม่มีความรู้สึกใดๆ โดยหนังพูดถึงเรื่องของชายหนุ่มที่ได้มาพบเจอกับหญิงสาว และนั่นมีเพียงสิ่งเดียวที่จะสามารถอธิบายการพบกันของทั้งคู่ได้ว่ามันคือ “พรหมลิขิต” ทอม ชายหนุ่มทำงานในออฟฟิศทำงานเกี่ยวกับการเขียน คิดคำอวยพรในการ์ดอวยพรเนื่องในโอกาศต่างๆ ซึ่งเขาทำงานได้ดีที่เดียวและโดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง แม้แท้จริงแล้วสิ่งที่เขาใฝ่ฝันคือการเป็นสถาปนิก วันหนึ่ง ทอม ได้พบกับ ซัมเมอร์ หญิงสาวผู้เพียบพร้อมไปด้วยเสน่ห์และความสวย นั่นทำให้ ทอม ผู้ชายธรรมดาคนนึงตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่แรกพบ ครั้งแรกที่ ทอม และซัมเมอร์ คุยกันคือในลิฟต์ และนั่นเป็นก้าวแรกของการสานสัมพันธ์ของทั้งคู่ “คุณจะรู้เมื่อรักใครสักคน” จากเพื่อนร่วมงานกลายเป็นเพื่อนสนิท จนพัฒนาขึ้นเป็นคู่นอน แต่ซัมเมอร์ไม่เคยที่จะบอก สถานะ ให้ชัดเจน เธอพอใจกับความสัมพันธ์นั้น(ประมาณว่า ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันแบบไหน) แต่ทอม กลับคิดว่า นี่แหละคือคู่ชีวิต ความรู้สึกที่เกิดจากความรักทำให้ทอมเกิดความรู้สึกที่เขาสรุปว่ามันคืออาการของ “คนตกหลุมรัก” ทอม สามารถเข้าไปในโลกของซัมเมอร์ โลกที่น้อยคนนักจะได้เข้าถึง นั่นทำให้ทอม เชื่อว่า 500 วัน ไม่ลืมเธอ เขาสามารถทำให้เธอรู้จักความรักได้แล้ว ทั้งคู่ดูเหมือนคู่รักที่หวานแหวว ปานจะกลืนกิน จนนานวันเข้า ทอม ต้องการทราบว่า แท้จริงแล้วความสัมพันธ์คืออะไร ทั้งที่ก่อนหน้าเขากลัวว่าคำตอบที่ได้จะทำร้ายความฝันอันแสนหวานตลอดมาที่เขาสร้างขึ้น นั่นทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แปรเปลี่ยนไป หรือบางที มันอาจไม่เคยเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ทีแรกแล้ว หนังเล่าเรื่องราวตัดสลับไปมา ในระหว่าง 500 วัน ไม่เรียงลำดับก่อน-หลัง โดยหนังเลือกที่จะนำเสนอช่วงเลาที่แสนสุขและช่วงเวลาที่แสนเศร้า
จากหนังเรื่องนี้ คือใช่ คือโดน ! ชอบความคิดของนางเอกมาก มุมมองความรักของซัมเมอและทอมต่างกันมากๆ
แต่วันนี้จะยกเอาคำพูดของนางเอกมาคนเดียวละกันเนาะ เพราะนี่ชอบมาก ชอบในมุมมองที่ว่า นางเอกอยู่กับความเป็นจริง
ไม่ใช่สิ่งเพ้อฝันแบบที่ทอมคิด ไปดูคำพูดจากตัวละครกันเลยยย >>>>
" คุณไม่เชื่อว่าผู้หญิงมีความสุขกับการเป็นอิสระและไม่ขึ้นกับใครหรอ ? " - Summer
" ฉันแค่รู้สึกอึดอัดกับการเป็นแฟนใคร... จริงๆแล้วฉันรู้สึกอึดอัดกับการเป็นอะไรของใครทั้งนั้น " - Summer
" ฉันชอบเป็นอิสระ ความสัมพันธ์น่ะยุ่งยากและทำให้คนเสียความรู้สึก ใครจะอยากมี เรายังอายุน้อย เราอยู่ในเมืองที่สุดเมืองหนึ่งในโลก
ก็น่าจะหาความสุขใส่ตัวในขณะที่ทำได้ แล้วเก็บเรื่องจริงจังไว้ทีหลัง " - Summer
" แล้วถ้าคุณตกหลุมรักใครขึ้นมาล่ะ " - Tom
" ความหมายของคำว่ารักคืออะไรล่ะ " - Summer
" ฉันเคยมีแฟน แต่ฉันคิดว่าไม่เคยรู้จักคำนั้น " - Summer
" ความรักไม่มีจริงหรอก มันเป็นแค่เรื่องเพ้อฝันน่ะ " - Summer
" เราแค่เป็นเพื่อนกัน "- Summer
" ฉันชอบคุณนะ แต่ฉันยังไม่อยากมีแฟน " - Summer
" เพื่อนคนเดียวที่เขามีตอนนี้ก็คือความเศร้า หรือเรียกอีกอย่างได้ว่า คือ ความทุกข์ ความทุกข์ทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด"
" ใจนึงผมก็อยากจะลืมเธอ แต่อีกใจนึง ผมรู้ว่าเธอเป็นคนเดียวในโลก ที่จะทำให้ผมมีความสุขได้ " - Tom
" ฉันตื่นขึ้นมาในเช้าวันนึง แล้วฉันก็รู้ ว่าคุณไม่ใช่ " - Summer
" ความบังเอิญต่างหากทุกสิ่งเกิดจากความบังเอิญ "
[CR] คำพูดดีๆจาก 500 Days of Summer
เป็นเรื่องราว 500 วันของชายหนุ่ม ทอม แฮนซัน ผู้ซึ่งเชื่อในรักแท้ยิ่งกว่าสิ่งใดๆในโลกนี้และเค้าเชื่อว่า ความรักเท่านั้น ที่จะทำให้เขามีความสุข และหญิงสาว ซัมเมอร์ ฟิน ผู้ซึ่งไม่เคยเชื่อในพรหมลิขิต เธอมีของ 2 สิ่งที่เธอรักมากที่สุดคือ ผมดำยาว และอีกสิ่งคือ เธอสามารถตัดผมดำยาวนั้นได้โดยไม่มีความรู้สึกใดๆ โดยหนังพูดถึงเรื่องของชายหนุ่มที่ได้มาพบเจอกับหญิงสาว และนั่นมีเพียงสิ่งเดียวที่จะสามารถอธิบายการพบกันของทั้งคู่ได้ว่ามันคือ “พรหมลิขิต” ทอม ชายหนุ่มทำงานในออฟฟิศทำงานเกี่ยวกับการเขียน คิดคำอวยพรในการ์ดอวยพรเนื่องในโอกาศต่างๆ ซึ่งเขาทำงานได้ดีที่เดียวและโดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง แม้แท้จริงแล้วสิ่งที่เขาใฝ่ฝันคือการเป็นสถาปนิก วันหนึ่ง ทอม ได้พบกับ ซัมเมอร์ หญิงสาวผู้เพียบพร้อมไปด้วยเสน่ห์และความสวย นั่นทำให้ ทอม ผู้ชายธรรมดาคนนึงตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่แรกพบ ครั้งแรกที่ ทอม และซัมเมอร์ คุยกันคือในลิฟต์ และนั่นเป็นก้าวแรกของการสานสัมพันธ์ของทั้งคู่ “คุณจะรู้เมื่อรักใครสักคน” จากเพื่อนร่วมงานกลายเป็นเพื่อนสนิท จนพัฒนาขึ้นเป็นคู่นอน แต่ซัมเมอร์ไม่เคยที่จะบอก สถานะ ให้ชัดเจน เธอพอใจกับความสัมพันธ์นั้น(ประมาณว่า ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันแบบไหน) แต่ทอม กลับคิดว่า นี่แหละคือคู่ชีวิต ความรู้สึกที่เกิดจากความรักทำให้ทอมเกิดความรู้สึกที่เขาสรุปว่ามันคืออาการของ “คนตกหลุมรัก” ทอม สามารถเข้าไปในโลกของซัมเมอร์ โลกที่น้อยคนนักจะได้เข้าถึง นั่นทำให้ทอม เชื่อว่า 500 วัน ไม่ลืมเธอ เขาสามารถทำให้เธอรู้จักความรักได้แล้ว ทั้งคู่ดูเหมือนคู่รักที่หวานแหวว ปานจะกลืนกิน จนนานวันเข้า ทอม ต้องการทราบว่า แท้จริงแล้วความสัมพันธ์คืออะไร ทั้งที่ก่อนหน้าเขากลัวว่าคำตอบที่ได้จะทำร้ายความฝันอันแสนหวานตลอดมาที่เขาสร้างขึ้น นั่นทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แปรเปลี่ยนไป หรือบางที มันอาจไม่เคยเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ทีแรกแล้ว หนังเล่าเรื่องราวตัดสลับไปมา ในระหว่าง 500 วัน ไม่เรียงลำดับก่อน-หลัง โดยหนังเลือกที่จะนำเสนอช่วงเลาที่แสนสุขและช่วงเวลาที่แสนเศร้า