บอกว่าไม่รัก แต่ร้องไห้ตอนเลิก

เราอยากจะรู้จากประสบการณ์ของเพื่อนๆ ในพันทิปค่ะ คือเราคบกับแฟนได้ประมาณ4ปี เราเลิกกันไป2ครั้ง ตอนนี้เราอยู่ม.6 แฟนเราอยู่ปี2 (เราเป็นทอม) เรารู้จักกันมาประมาณ6ปี แฟนเราบอกเลิก เพราะเขาไม่ได้รักเราแล้ว แต่เขาร้องไห้เสียใจที่ เรา2คนมากันได้แค่นี้ จริงๆ เรารู้สึกว่า มันไม่ได้เกิดจากความสัมพันธ์ของเรา แต่มันเกิดจากการที่ เขาไปอยู่นู้น แล้วมันอยู่คนเดียว ทำให้กลลายเป็นความเคยชิน อีกอย่าง เขาเอาจริงเอาจังกับการเรียนมาก ตอนปี1เกรดเขาออกมาได้ไม่ค่อยดี พอปี2เขาก็จริงจังกับการเรียน อ่านหนังสือ จนแทบไม่มีเวลาให้กัน แต่เราไม่เคยโกรธ ไม่เคยน้อยใจ เพราะต่างคนต่างมีหน้าที่ของตัวเอง มันเลยกลายเป็นความเคยชินใช่มั้ยคะ ส่วนตัวเราเองอ่ะ ความสัมพันธ์มันเป็นแบบนี้ แต่เราไม่เคยเลิกรักเขาเลย กลับกลายเป็นเขาที่เลิกรักเรา ทั้งๆที่เราไม่เคยนอกใจ ไม่ได้ทะเลาะกัน อาจจะด้วยความที่ว่า เราไม่ค่อยได้เจอกันด้วยรึเปล่าคะ ความสัมพันธ์มันเลยดูห่างเหินกัน เพราะเราจะได้เจอกันก็ตอนวันหยุด แต่ช่วงนี้ เขาเรียนหนัก ไม่ได้เจอกันประมาณ3เดือน แต่ยังทักหากันตลอด แต่พอเราจะโทรหา เขาก็บอกว่าไม่ว่าง จนเขาตัดสินใจมากบอกเลิกเรา เพราะเขาไม่ได้รักเราแล้ว เราก็เข้าใจนะคะ เพราะปกติเขาเป็นคนรักอิสระตัวเองมากๆ พอไปอยู่คนเดียว ออกไปใช้ชีวิต มันคงทำให้เขารู้สึกสบายใจ แต่เราก็ไม่เข้าใจว่า เราพลาดตรงไหน ทุกวันนี้เรายังทบทวนตัวเองอยู่เลยนะคะ เขาบอกว่า เรามีเขามาทั้งชีวิต อยากให้ไปเริ่มต้นใหม่ไปเรียนรู้จากคนอื่นบ้าง เพราะชีวิตเรายังอีกยาวไกล แต่ถ้าสมมุติว่าเราตายขึ้นมาล่ะคะ เขาจะเสียใจมั้ย ตอนนี้เราพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง คือเรากำลังอยูในช่วงสอบเข้ามหาลัย ซึ่งก็จะไปมหาลัยเดียวกันกับเขาเราอยากทำให้ตัวเองมั่นคงก่อนจะไปเอาเค้าคืน ซึ่งก่อนจะไปเขาบอกว่า เราอาจจะวนเวียนกันอยู่แบบนี้ หรือจะจีบกันใหม่ก็ไม่รู้ แต่ไม่ต้องรอ เสียเวลา พอเราถามว่า ถ้าอนาคตเรากลับมาเจอกันในวันที่โตกว่านี้ จะให้โอกาสเรามั้ย เค้าก็บอกว่า ยังตอบไม่ได้ ไม่อยากให้ความหวัง ทุกคนว่า เราพอมีหวังมั้ยคะ คือจริงๆเราสามารถอยู่คนเดียวไปจนตายได้นะคะ เพราะเราคิดไว้ว่า อนาคตเราจะไปบวช แต่ขอสะสางเรื่องครอบครัวก่อน แต่พอมีเค้าแล้ว มันทำให้เราอยากมีเค้ามากกว่าการอยู่คนเดียวไปจนตาย ทุกคนว่า เราควรรอ แบบมีอนาคตแบบนี้ดีมั้ยคะ 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่