เรื่องของเรื่อง คือผมกับแฟนปล่อยเช่าบ้านที่ตอนแรกตั้งใจจะซื้อมาอยู่อาศัย ซึ่งตอนหลังมีเหตุให้ต้องกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่แฟน

ซึ่งบ้านที่ซื้อเป็นหมู่บ้านที่เป็นลักษณะทาวน์โฮม 3 ชั้น ซึ่งติดกันกับบ้านหลังอื่น เราใช้บริการเอเยนซี่ช่วยหาลูกค้าให้ หลังจากที่พยายามหาลูกค้าเองมา 2 ปี

ลูกค้าที่เอเยนซี่หามาให้ เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่เพิ่งเรียนจบ อายุประมาณ 25-26 ซึ่งเราก็สอบถามประวัติคร่าว เช่น ทำงานอะไร จะมาอยู่กี่คน ซึ่งน้องเค้าก็แจ้งว่าเค้าทำงานตัดต่อวีดีโอ(เป็นยูทูปเบอร์) อยู่อาศัยกันจริงๆแค่ 3-4 คน แต่จะมีเพื่อนๆที่เป็นทีมงานไปมาบ้าง ซึ่งเราดูแล้วก็ไม่น่ามีปัญหา จึงตกลงให้เช่า

น้องเค้าย้ายเข้ามาอยู่วันที่ 5 ม.ค. ซึ่งเราเข้าใจว่าน้องน่าจะแค่ตัดต่อวีดีโอ ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่เนื่องด้วยที่น้องยังเด็ก อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าบางอย่างไม่ควรทำ เช่น บางทีจอดรถหน้าบ้านไม่ชิดขอบทาง ทำให้เลยไปทางถนนเยอะ จนโดนเพื่อนบ้านว่ามาทางเรา เราก็เตือนน้องไป น้องก็รับฟังและรีบเคลื่อนรถให้

แต่ปัญหาที่เป็นต้นเหตุจนทำให้ผมมีปัญหากับข้างบ้าน คือเรื่องเสียงดัง น้องเค้าดันไปเสียงดังช่วงกลางคืนหลังจากชาวบ้านเค้าหลับนอน อันนี้น้องมันผิดจริงๆ มันดันทำคลิปไวรัล มีดีดกีต้าร์ โวยวาย ตอนกลางคืน ทำให้ผมกับแฟนโดนข้างบ้านและนิติหมู่บ้านเรียกมาคุยเพื่อหาทางออก

ข้างบ้านยืนยันจะให้ทางผมยกเลิกสัญญากับน้องเค้าให้ได้หากเสียงดังอีกครั้ง แต่ทางผมอยากจะขอคุยกับน้องๆเค้าก่อน โดยอาจจะทำสัญญาเพิ่มเติมไปว่าหากสร้างความรำคาญทางผมมีสิทธิ์ยกเลิกสัญญาโดยไม่ต้องคืนเงินมัดจำ โดยจะเป็นลักษณะการแจ้งเตือน 3 ครั้ง ครบ 3 ครั้งมีผลทันที

คือทางผมก็รับฟังปัญหาทุกฝ่าย ไม่นิ่งนอนใจ ช่วยพูดคุย ตักเตือนให้ แต่จะให้ผมยกเลิกสัญญาง่ายๆ โดยไม่มีทางออกให้ผม ผมก็ไม่ ok เหมือนกัน กว่าจะหาคนมาเช่าได้ ไม่ใช่ง่ายๆ ไหนที่ลงทุนติดแอร์ ซ่อมแซมบ้าน และจ่ายค่าเอเยนซี่ไปอีก เช่ายังไม่ถึงเดือน จะมาบังคับให้ผมยกเลิกสัญญา ใครจะมาช่วยผมตรงนี้ได้ ทั้งๆที่ผมก็พยายามแก้ปัญหาให้ทุกอย่าง

จะมีทางไหนบ้างที่จะ win-win ทุกฝ่ายครับ