ผมเคยเจอมาหลายเคสครับ บ้านที่อยู่นี้ก็เพิ่งย้ายมาอยู่ได้ปีนี้นับเข้าปีที่ 6 แต่แจ้งความไปหลายเจ้าแล้วครับ และตำรวจก็เข้ามาจัดการให้ทุกครั้งโดยที่เราไม่ได้ต้องเข้าไปเสี่ยงอะไรเลยครับ  ผมจะโทรแจ้ง 191 นะครับ  เวลาคุณตำรวจเค้าถามคุณเกี่ยวกับชื่อผู้แจ้ง คุณก็บอกคุณตำรวจว่าเราขอไม่บอกชื่อได้มั๊ย เพราะเกรงว่าจะมีอันตรายคุณตำรวจก็เข้าใจครับ เค้าจะโทรไปบอกตำรวจในพื้นที่อีกที ทีนี้ถ้าคุณตำรวจในพื้นที่ลงไปทำหน้าที่แล้ว กลุ่มที่ก่อเสียงดังก็จะหยุดเงียบไป บางทีคุณจะได้ยินเสียงต่อล้อต่อเถียงของคนพวกนั้นกับตำรวจบ้างครับ แต่ตำรวจเค้ามีวิธีจัดการ

ทีนี้ หลังจากที่คุณตำรวจจากไปแล้ว บางครั้งเสียงเงียบลงได้ชั่วคราว ก็กลับดังขึ้นอีก ให้คุณโทรกลับไปแจ้ง 191 อีกครับ ทางนั้นก็จะแจ้งกลับไปยัง สน. พื้นที่อีกครั้ง ถ้ากลุ่มที่ก่อความไม่สงบเงียบแล้วกลับดังอีก ก็ให้คุณทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ เรียกว่า ถ้าไม่หยุดส่งเสียงดัง พวกคุณตำรวจทั้งหลายก็ไม่ต้องนอนเช่นกันกับบ้านผมเหมือนกัน  แค่นี้ก็จะได้ผลแน่นอนครับ ผมเคยมาแล้วทั้งอดทนก่อน และทั้งแจ้งแล้วไม่ได้ผล แล้วก็นอนทนฟังยันตีสองตีสาม มีทั้งพวกกินเหล้า กระทั่งพวกใช้เครนมาถมที่เลย ผมแจ้งจนคุณตำรวจขอเจอผมตัวผม ตอนนั้นน่าจะประมาณตี 2 ได้ ผมก็ไม่รู้ทำไมหรอกนะครับแต่ผมไม่สนใจ เค้าอ้างว่าเค้าไม่เห็นมีใครทำเสียงดัง เขาจะให้ผมชี้ว่าซอยไหน พอดีมันคนละซอยกับซอยบ้านผมนะ แต่ที่ดินมันติดกันเลย(ทางเข้าคนละทาง) ผมก็ชี้ไปเลยข้ามรั้งสูง ๆ ของซอยไป แสงไปหน้ารถแทรกเตอร์มันก็สว่างอยู่ เสียงมันก็ดังอยู่ เค้าก็จนด้วยเหตุผล ต้องกลับไปสั่งให้ทางนั้นหยุดทำงาน ไม่งั้นผมก็ไม่ให้ตำรวจนอนเหมือนกันนะ

ก็จะดูเป็นกรณี ๆ ไปครับ เช่นถ้าเป็นช่วงเทศกาลก็จะไม่ยุ่ง ปล่อย ๆ ไปครับ ทำใจคนไทยด้วยกัน แต่ถ้านอกเทศกาลก็ไม่มีละเว้นครับ เพื่อนบ้านไม่เห็นมีใครกล้าแจ้งเลย แต่ผมคิดว่าการแจ้งตำรวจคือการระงับเหตุครับ ดีกว่าทนจนเราระงับใจไว้ไม่อยู่แล้วทำอะไรรุนแรงด้วยตนเองออกไป กฏหมายเค้าไม่ได้คุ้มครองการกระทำที่รุนแรงต่อผู้อื่นนะครับ แล้วความที่เราคิดกลัวไปก่อนนั้นจริง ๆ ก็เป็นเพียงแค่ความคิดครับ พฤติกรรมที่ทำซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ก็ทำให้บางคนคิดว่ามันเป็นปกติ และเป็นเรื่องธรรมดาที่ทำได้