ความรู้สึกในใจเวลาที่ได้ลิ้มรสธรรม หรืออาการแตกฉานทางธรรม บางครั้งบางที มันทำให้ผู้ศึกษาเกิดอาการสำคัญตนชึ้นมาบ้างไหมครับ
อุปมาเหมือนเราค้นพบขุมทรัพย์ล้ำค่า ได้ถือครอง ธรรมะ ที่คนทั่วไปเอื้อมไม่ถึง แต่เราเสาะแสวงหา จนได้มา พอมองย้อนกลับไป เราจะเห็นคนอื่นด้อยค่าลงหรือเปล่า
ด้อยค่าในที่นี้ ยกตัวอย่างเช่น มองว่าเขามีมิจฉาฑิฐิ หรือมองว่าคนอื่นยังมัวเมาในกิเลส แต่เราได้เข้าถึงธรรมแล้ว กระจ่างแจ้งแก่ใจแล้ว
หรือหากเราเห็นคนที่แสดงธรรม (ซึ่งคงไม่ใช่พระพุทธเจ้า) เราก็อาจเกิดความกังขา ว่าโมฆบุรุษนี้หาญกล้าดีอย่างไร มาเทียวสอนคนอื่น เขารู้ธรรมกระจ่างแจ้งแค่ไหน เราอาจถึงขั้นปรารถนายั่วยุให้เขาเผยความอ่อนด้อยทางธรรมออกมา เราจะรู้สึกยินดีไหมยิ่งถ้าได้พิสูจน์ว่าเขาเห็นผิด แล้วเราเห็นถูกต้องจริงแท้
ท้ายที่สุด ถ้าเราเป็นเพียงมนุษย์ที่ไม่ได้พบธรรม หรือพบธรรมแต่เอาธรรมเป็นเครื่องมือพอกพูนอัตตา มันก็ยังอยู่ในวังวนของกองทุกข์อยู่ดีหรือเปล่า
แต่ในเบื้องต้น หากเป็นคนไม่เคยพบธรรม แล้วพบธรรม ยังมองเห็นตัวเองได้ง่าย แต่ถ้าได้พบธรรม แล้วใช้ธรรมเป็นเครื่องพอกพูนอัตตา มันเห็นตัวเองได้ยากมากเลย ใช่ไหมครับ
ผมรู้สึกอย่างนั้น เวลาที่กลับมาย้อนดูตัวเอง เราหลงยึดติดกับธรรมที่เราศึกษามา ในบางครั้งความรู้สึกหรือความคิดมันหนาแน่นมาก มันคลายความยึดลงได้ยากมาก แต่ใครจะทุกข์เพราะสิ่งนี้มาก ได้เท่าตัวเรา
เพราะสุดท้าย เรื่องธรรมมันก็มีอยู่ ทางพ้นทุกข์มันอาจจะมีอยู่แล้ว แต่เราคงไม่สามารถเข้าใจความซับซ้อนที่เกิดขึ้นในตัวเองนี้ได้อย่างหมดจด แต่พอมอง พิจารณาไปสักพัก ไม่มีใครเขามาทุกข์ร้อนกับเราด้วยในเรื่องนั้น เป็นเราที่พอกพูนเราเอง และเป็นเราที่เป็นทุกข์เอง ซึ่งกว่าจะเข้าใจได้ว่าตัวเองเป็นทุกข์ ก็ยังต้องใช้เวลานานมาก
ถ้าเราใช้ธรรมเป็นเครื่องมือพอกพูนอัตตา ท้ายที่สุดคนทุกข์ มันไม่ใช่เราหรือครับ
อุปมาเหมือนเราค้นพบขุมทรัพย์ล้ำค่า ได้ถือครอง ธรรมะ ที่คนทั่วไปเอื้อมไม่ถึง แต่เราเสาะแสวงหา จนได้มา พอมองย้อนกลับไป เราจะเห็นคนอื่นด้อยค่าลงหรือเปล่า
ด้อยค่าในที่นี้ ยกตัวอย่างเช่น มองว่าเขามีมิจฉาฑิฐิ หรือมองว่าคนอื่นยังมัวเมาในกิเลส แต่เราได้เข้าถึงธรรมแล้ว กระจ่างแจ้งแก่ใจแล้ว
หรือหากเราเห็นคนที่แสดงธรรม (ซึ่งคงไม่ใช่พระพุทธเจ้า) เราก็อาจเกิดความกังขา ว่าโมฆบุรุษนี้หาญกล้าดีอย่างไร มาเทียวสอนคนอื่น เขารู้ธรรมกระจ่างแจ้งแค่ไหน เราอาจถึงขั้นปรารถนายั่วยุให้เขาเผยความอ่อนด้อยทางธรรมออกมา เราจะรู้สึกยินดีไหมยิ่งถ้าได้พิสูจน์ว่าเขาเห็นผิด แล้วเราเห็นถูกต้องจริงแท้
ท้ายที่สุด ถ้าเราเป็นเพียงมนุษย์ที่ไม่ได้พบธรรม หรือพบธรรมแต่เอาธรรมเป็นเครื่องมือพอกพูนอัตตา มันก็ยังอยู่ในวังวนของกองทุกข์อยู่ดีหรือเปล่า
แต่ในเบื้องต้น หากเป็นคนไม่เคยพบธรรม แล้วพบธรรม ยังมองเห็นตัวเองได้ง่าย แต่ถ้าได้พบธรรม แล้วใช้ธรรมเป็นเครื่องพอกพูนอัตตา มันเห็นตัวเองได้ยากมากเลย ใช่ไหมครับ
ผมรู้สึกอย่างนั้น เวลาที่กลับมาย้อนดูตัวเอง เราหลงยึดติดกับธรรมที่เราศึกษามา ในบางครั้งความรู้สึกหรือความคิดมันหนาแน่นมาก มันคลายความยึดลงได้ยากมาก แต่ใครจะทุกข์เพราะสิ่งนี้มาก ได้เท่าตัวเรา
เพราะสุดท้าย เรื่องธรรมมันก็มีอยู่ ทางพ้นทุกข์มันอาจจะมีอยู่แล้ว แต่เราคงไม่สามารถเข้าใจความซับซ้อนที่เกิดขึ้นในตัวเองนี้ได้อย่างหมดจด แต่พอมอง พิจารณาไปสักพัก ไม่มีใครเขามาทุกข์ร้อนกับเราด้วยในเรื่องนั้น เป็นเราที่พอกพูนเราเอง และเป็นเราที่เป็นทุกข์เอง ซึ่งกว่าจะเข้าใจได้ว่าตัวเองเป็นทุกข์ ก็ยังต้องใช้เวลานานมาก