เพื่อนๆ คนไหนเคยคิดว่า รูปหล่อ เป็นแต้มต่อให้กับชีวิต อาจจะต้องคิดใหม่ได้แล้วนะครับ เพราะถึงแม้แต่ก่อนการหน้าตาดีจะช่วยให้เราดูโดดเด่น น่าสนใจ ไปที่ไหนใครๆ ก็รัก ใครๆ ก็ชม แต่ทุกวันนี้เค้าด้มีการวิจัยออกมาแล้วนะว่า หน้าตาที่ดูดีของคุณผู้ชายทั้งหลาย อาจเป็นตัวทำลายอนาคตของตัวเองซะอย่างงั้น เพราะถ้าหล่อมากเกินไปในสายตาผู้บริหารนี่อาจถึงขั้นอดได้งาน หรือตกงานได้เลย!!!
.
สำหรับใครที่ขี้เกียจอ่านสามารถดูคลิปแทนได้เลยน้าาา : )
.
เรื่องนี้มีที่มาที่ไปจาก การศึกษาของคณะบริหารธุรกิจ University College London และ University of Maryland ในสหรัฐอเมริกา เค้าบอกเอาไว้ว่า ผู้ชายที่มีความหล่อเหลาระดับพระเจ้า หรือขั้นเป็นต่อเรียกพี่ มักจะโดนพวกเจ้านายหรือผู้บริหารระดับสูงมองว่าคนเหล่านี้เป็นภัยคุกคามกับบริษัทมากกว่าจะเป็นข้อดี ทำให้คนหล่อๆ เหล่านี้จะไม่ค่อยโดนโปรโมท หรือเลื่อนขั้น หรือถ้าเกิดมีอะไรที่เค้าจะมอบให้เป็นพิเศษ คนหล่อๆ เหล่านี้ก็มักจะโดนมองข้ามนั่นเอง
.
ซึ่งจากการวิจัยครั้งนี้ของทั้ง 2 มหาวิทยาลัยเค้าก็ได้พบว่า เวลาที่นายจ้างผู้ชาย ตัดสินใจว่าจะรับลูกจ้างหนุ่มๆ เข้าทำงาน มันมักจะมีเรื่องแง่ลบเกิดขึ้นในใจของผู้ว่าจ้างเสมอ เหมือนเป็นการตั้งแง่เอาไว้ก่อนเลยว่าจะทำได้มั้ย จะตั้งใจรึเปล่า จะทำงานดีไม่ดี
.
แต่ถ้าเป็นลูกจ้างผู้หญิงมาสมัครนี่ เจ้านายจะเปลี่ยนชุดความคิดทันทีครับ เค้าจะไปใช้อีกเซ็ตความคิดนึงในการพิจารณา ทำให้ถ้าสาวๆ ได้สัมภาษณ์กับผู้บริหารผู้ชาย ก็จะมีโอกาสได้งานมากกว่านั่นเอง เพื่อนๆ คนไหนจะไปสมัครงานก็ลองเช็กดูนะว่ามันจริงตามนี้รึเปล่า
.
โดยเรื่องนี้อ่ะครับ ศาสตราจารย์ Sun Young Lee ซึ่งเป็นหัวหน้าที่นำร่องในการวิจัยเรื่องนี้ของมหาวิทยาลัย Maryland แกก็ได้ออกมาบอกถึงเหตุการณ์สุดเหยียดนี้ว่า ที่มันเป็นแบบนั้นก็เพราะ เพวกผู้บริหารเค้าอยากจะจ้างคนที่เค้าสามารถควบคุม ดูแล และอยู่ใต้การบังคับบัญชาของเค้าได้อย่างเต็มที่ ไม่อยากให้มีอะไรมางัดคานอำนาจในการทำงานของเค้า ทำให้เค้ารู้สึกตะหงิดๆ ทุกทีที่มีผู้ชายหน้าตาดีมาสมัครงาน เพราะนั่นหมายความว่าผู้สมัครที่หล่อๆ จะมีภาษี มีแต้มต่อมากกว่า และอาจสั่นคลอนต่ออำนาจการปกครองต่างๆ ของเค้าได้
.
ฟังแบบนี้อาจดูเหมือนเค้าอคติใช่มั้ยครับ แต่มองอีกนัยนึงมันก็อาจจะเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็ได้ เพราะพวกผู้ชายหล่อๆ ก็มักจะมีของกันทั้งนั้นแหละ อย่างน้อยๆ เลยก็จะมีความมั่นใจมากกว่าคนอื่นหลายเท่า ทำอะไรก็กล้าทำ ตัดสินใจเด็ดขาด ซึ่งก็จริงของเค้าแหละครับที่ทำให้มีโอกาสงัดข้อกับหัวหน้าสูง ควบคุมยาก
.
เพราะอย่าลืมนะครับว่า กว่าคนเราจะหล่อขึ้นมาได้ มันต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง ถ้าใครที่หล่อมาแต่เกิด เอออันนี้ถือว่าโชคดี แต่คนที่หล่อส่วนใหญ่ล้วนมือพื้นฐานเหมือนกันคือ “บ้านรวย” พ่อแม่มีฐานะ ทำให้ส่งลูกเรียนดีๆ สูงๆ ได้ และมีเงินเอาไว้ดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ไอพวกความขาว ความหน้าใสเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากการเลี้ยงดูดีๆ มีครีม มีการบำรุงนู่นนี่นั่นทั้งนั้นแหละครับ
.
เพราะแบบนี้แหละทำให้คนหล่อส่วนใหญ่โดนเพ่งเล็งว่าจะมั่นหน้ามั่นโหนก ทำงานเก่ง ฉลาดเกินควบคุมอะไรแบบนั้น
.
แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับ คิดยังไงกับเรื่องนี้บ้าง มันจริงป่ะที่คนหล่อจะต้องดูแลยาก และคิดว่ามันมีจริงๆ รึเปล่าพวกเจ้านายที่พอเห็นใครหล่อก็เกิดอคติขึ้นมาทันที คอมเมนท์มาพูดคุยกันใต้คลิปนี้ได้เลยน้า เดี๋ยวผมะเข้าไปอ่านทุกอันอย่างแน่นอน
หล่อมากไป ก็ทำให้ตกงาน เหตุผลบ้าอะไรวะเนี่ย
.
สำหรับใครที่ขี้เกียจอ่านสามารถดูคลิปแทนได้เลยน้าาา : )
.
เรื่องนี้มีที่มาที่ไปจาก การศึกษาของคณะบริหารธุรกิจ University College London และ University of Maryland ในสหรัฐอเมริกา เค้าบอกเอาไว้ว่า ผู้ชายที่มีความหล่อเหลาระดับพระเจ้า หรือขั้นเป็นต่อเรียกพี่ มักจะโดนพวกเจ้านายหรือผู้บริหารระดับสูงมองว่าคนเหล่านี้เป็นภัยคุกคามกับบริษัทมากกว่าจะเป็นข้อดี ทำให้คนหล่อๆ เหล่านี้จะไม่ค่อยโดนโปรโมท หรือเลื่อนขั้น หรือถ้าเกิดมีอะไรที่เค้าจะมอบให้เป็นพิเศษ คนหล่อๆ เหล่านี้ก็มักจะโดนมองข้ามนั่นเอง
.
ซึ่งจากการวิจัยครั้งนี้ของทั้ง 2 มหาวิทยาลัยเค้าก็ได้พบว่า เวลาที่นายจ้างผู้ชาย ตัดสินใจว่าจะรับลูกจ้างหนุ่มๆ เข้าทำงาน มันมักจะมีเรื่องแง่ลบเกิดขึ้นในใจของผู้ว่าจ้างเสมอ เหมือนเป็นการตั้งแง่เอาไว้ก่อนเลยว่าจะทำได้มั้ย จะตั้งใจรึเปล่า จะทำงานดีไม่ดี
.
แต่ถ้าเป็นลูกจ้างผู้หญิงมาสมัครนี่ เจ้านายจะเปลี่ยนชุดความคิดทันทีครับ เค้าจะไปใช้อีกเซ็ตความคิดนึงในการพิจารณา ทำให้ถ้าสาวๆ ได้สัมภาษณ์กับผู้บริหารผู้ชาย ก็จะมีโอกาสได้งานมากกว่านั่นเอง เพื่อนๆ คนไหนจะไปสมัครงานก็ลองเช็กดูนะว่ามันจริงตามนี้รึเปล่า
.
โดยเรื่องนี้อ่ะครับ ศาสตราจารย์ Sun Young Lee ซึ่งเป็นหัวหน้าที่นำร่องในการวิจัยเรื่องนี้ของมหาวิทยาลัย Maryland แกก็ได้ออกมาบอกถึงเหตุการณ์สุดเหยียดนี้ว่า ที่มันเป็นแบบนั้นก็เพราะ เพวกผู้บริหารเค้าอยากจะจ้างคนที่เค้าสามารถควบคุม ดูแล และอยู่ใต้การบังคับบัญชาของเค้าได้อย่างเต็มที่ ไม่อยากให้มีอะไรมางัดคานอำนาจในการทำงานของเค้า ทำให้เค้ารู้สึกตะหงิดๆ ทุกทีที่มีผู้ชายหน้าตาดีมาสมัครงาน เพราะนั่นหมายความว่าผู้สมัครที่หล่อๆ จะมีภาษี มีแต้มต่อมากกว่า และอาจสั่นคลอนต่ออำนาจการปกครองต่างๆ ของเค้าได้
.
ฟังแบบนี้อาจดูเหมือนเค้าอคติใช่มั้ยครับ แต่มองอีกนัยนึงมันก็อาจจะเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็ได้ เพราะพวกผู้ชายหล่อๆ ก็มักจะมีของกันทั้งนั้นแหละ อย่างน้อยๆ เลยก็จะมีความมั่นใจมากกว่าคนอื่นหลายเท่า ทำอะไรก็กล้าทำ ตัดสินใจเด็ดขาด ซึ่งก็จริงของเค้าแหละครับที่ทำให้มีโอกาสงัดข้อกับหัวหน้าสูง ควบคุมยาก
.
เพราะอย่าลืมนะครับว่า กว่าคนเราจะหล่อขึ้นมาได้ มันต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง ถ้าใครที่หล่อมาแต่เกิด เอออันนี้ถือว่าโชคดี แต่คนที่หล่อส่วนใหญ่ล้วนมือพื้นฐานเหมือนกันคือ “บ้านรวย” พ่อแม่มีฐานะ ทำให้ส่งลูกเรียนดีๆ สูงๆ ได้ และมีเงินเอาไว้ดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ไอพวกความขาว ความหน้าใสเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากการเลี้ยงดูดีๆ มีครีม มีการบำรุงนู่นนี่นั่นทั้งนั้นแหละครับ
.
เพราะแบบนี้แหละทำให้คนหล่อส่วนใหญ่โดนเพ่งเล็งว่าจะมั่นหน้ามั่นโหนก ทำงานเก่ง ฉลาดเกินควบคุมอะไรแบบนั้น
.
แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับ คิดยังไงกับเรื่องนี้บ้าง มันจริงป่ะที่คนหล่อจะต้องดูแลยาก และคิดว่ามันมีจริงๆ รึเปล่าพวกเจ้านายที่พอเห็นใครหล่อก็เกิดอคติขึ้นมาทันที คอมเมนท์มาพูดคุยกันใต้คลิปนี้ได้เลยน้า เดี๋ยวผมะเข้าไปอ่านทุกอันอย่างแน่นอน