อยากสอนพ่อเรื่องอคติ ต้องทำยังไงคะ

ไม่รู้เป็นเรื่องที่เหมาะที่ควรหรือเปล่านะคะ ที่อยากจะสอนพ่อของตัวเองแบบนั้น แต่เราถูกเลี้ยงมาแบบคุยกันได้ทุกเรื่องจริงๆ พ่อและลูกเป็นที่ปรึกษาให้กันได้ หากผิดอีกฝ่ายตำหนิได้สอนได้ตักเตือนกัน แต่มีเรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม่ลงรอยกัน แล้วเราไม่รู้จะบอกพ่อยังไง เหมือนไม่ฟังเหตุผลกันและกันเลย หากไม่สมควรขออภัยด้วยนะคะ ...

               เรื่องมีอยู่ว่า พ่อเราทำงานกับเจ้านายคนหนึ่งค่ะ จากที่ฟังพ่อเล่าเหมือนไม่ค่อยชอบใจเจ้านายคนนี้เท่าไหร่ ด้วยเพราะคำสั่งที่ไม่เป็นธรรมหลายอย่าง พ่อว่าเจ้านายคนนี้ลูกน้องพากันเกลียดไปหมด พาลให้พ่อไม่มีความสุขในการทำงานค่ะ กลับบ้านมาเล่าให้เราฟังประจำ เราก็อยากเรียนให้จบไวๆเพื่อจะเอาพ่อออกจากสังคมงานที่น่าอึดอัดนี้ค่ะ แต่ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามระยะเวลา

               ปัญหาอยู่ที่ว่า เราก็ไม่มีความสุขกับการต้องมาฟังอะไรเหล่านี้ค่ะ ฟังความเกลียดความเครียดที่มาจากพ่อ พาลให้เราไม่มีสมาธิเรียนเท่าไหร่ และกลัวจะเป็นคนเกลียดไปด้วย จนมาถึงเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องนี้ ไร้สาระทั้งปวงแต่ก็เถียงกันจนแทบจะแตกหัก อาจเป็นเพราะเราเครียดไม่อยากฟังอะไรเหล่านี้อีก อยากให้มันจบๆไป

               เจ้านายคนใหม่พ่อ ทำอะไรก็เหมือนฝนฟ้าเป็นใจค่ะ เหมือนเป็นคนมีบุญ อยากจะทำกิจกรรมอะไรฝนไม่เคยขัดข้อง ลูกน้องอยากให้ฝนตกๆไปจะได้ยกเลิกกิจกรรม
               เรา : พ่ออคติไปเอง เกลียดเขาเลยคิดว่าอะไรเข้าข้างเขาไปหมด
               พ่อ : ก็มันจริง หน้าฝนแท้ๆเขาทำกิจกรรมอะไรฝนไม่ขัด สำเร็จลุล่วงตลอด
               เรา : คิดไปเอง เดือนนึงทำ 4 วัน อาทิตย์ละครั้ง ทำไม่นาน ชั่วโมงสองชั่วโมง ลองทำทุกวันสิต้องโดนฝนบ้างแหละ
               พ่อ : แล้วทำไมวันเวลาที่เขาเลือกทุกครั้งไม่เคยโดน
               เรา : ก็มันน้อยครั้งไง ฝนไม่ได้ตกทุกวัน ไม่ได้ตกทั้งวัน แบบนี้เราไปตลาดทุกวันจันทร์ กับอาทิตย์ ช่วงเย็นฝนไม่เคยตกเลย ทั้งๆที่เมฆก็ครึ้มน่าจะตก แม่ค้าทั้งตลาดคงมีบุญน่าดู เราก็มีบุญนะพ่อไปตลาดกลับถึงบ้านแล้วฝนพึ่งตก มีครั้งสองครั้งในหนึ่งเดือนเองที่หนีฝนจากตลาด
               พ่อ : ดูพ่อไปวิ่งทุกวัน บางทีก็ยังต้องหนีฝนกลับบ้านเลย ทั้งๆที่คิดว่าจะไม่ตกแท้ๆ เหมือนฟ้าแกล้ง
               เรา : ก็พ่อไปวิ่งทุกวัน มันก็ต้องมีโดนบ้างใน 1 เดือนครั้งสองครั้ง ลองพ่อวิ่งอาทิตย์ละครั้งบ้างสิ พ่อคงแทบไม่โดนเหมือนกัน พาลโกรธฟ้าฝนเสียได้เนอะคนเรา ธรรมชาติแท้ๆ
               พ่อ : เถียงอะไรข้างๆคูๆ
               เรา : ...

               ไม่รู้จะอธิบายยังไงค่ะ เหตุผลของเรา และเหตุผลของพ่อ เราอยากจะเป็นกลางปราศจากอคติให้มากที่สุด เพราะเราไม่ได้ชอบ ไม่ได้เกลียด ไม่ได้มีความรู้สึกใดๆต่อเจ้านายพ่อค่ะ แต่พ่อเหมือนอคติล้วนๆ เห็นในสิ่งที่ตัวเองอยากเห็น ไม่เห็นในสิ่งที่ควรเห็น บางทีเจ้านายพ่อออกมาตากผ้าหน้าบ้านฝนก็อาจตกใส่ก็ได้ บางทีพึ่งล้างรถเสร็จฝนตกเลอะเทอะก็ได้ แต่พ่อไม่ได้เห็น พ่อไม่ได้เห็นเวลาที่อะไรๆไม่เข้าข้างเจ้านาย ไม่ได้เห็นเวลาเจ้านายท้อแท้โชคชะตาไม่เข้าข้าง เลยพาลคิดว่าคนบางคนอะไรก็เป็นใจจริงๆ

               เรามองว่าทุกคนมีโอกาสดีๆในชีวิตค่ะ และก็มีเรื่องราวแย่ๆได้เหมือนกันหมด อยู่ที่เราจะให้ค่ากับสิ่งไหนมากกว่า เวลาได้สิ่งดีๆมาทำไมไม่คิดว่าโชคเข้าข้างตัวเองบ้าง เห้ยเราก็มีบุญนะเนี่ย กลับไม่มองจุดนั้น ไม่ให้คุณค่าในตัวเองสิ่งที่ตัวเองมี กลับไปมองจุดที่คนมีอื่นเขามี แต่เราไม่อยากให้เขามีด้วยอคติ "ความเกลียด" แค่นั้นเอง

               ถ้าพ่อหลุดพ้นจากสิ่งนี้ได้ เราว่าพ่อจะมีความสุขกับการทำงานมากกว่านี้ค่ะ แล้วเราซึ่งเป็นลูกก็จะพลอยมีความสุขไปด้วย เราไม่รู้จะบอกพ่อยังไงค่ะ ใครมีความคิดเห็นดีๆพอจะชี้ทางให้เราได้บ้างคะ ตอนนี้รู้สึกเป็นทุกข์มากจริงๆ หรือเราเองที่มีอคติ จนตอนนี้เราเหมือนจะเริ่มโกรธบ้างแล้ว เพราะไม่เข้าใจในเหตุผลของพ่อ เราอยากหลุดพ้นวงจรที่น่าเครียดนี้จริงๆค่ะ

               ขอบคุณนะคะ ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่