รับคริสต์มาสกับข้าวเหนียวมูนสตรอว์เบอร์รี่ซานต้า พร้อมแจกสูตรหุงข้าวเหนียวด้วยไมโครเวฟ ไม่ต้องแช่ข้ามคืน ได้กินใน30นาที

โอกาสต้อนรับวันคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึงผมเลยคิดว่าอยากทำขนมไว้เซอร์ไพรส์คุณภรรยาที่ทำงานหนัก และดูแลผมมาตลอดทั้งปี ประกอบกับมีหนึ่งในข่าวดีของคนไทยต้อนรับปีใหม่ เมื่อทางCNN ได้ประกาศให้ข้าวเหนียวมะม่วง และ ทับทิมกรอบ ของไทยเป็นหนึ่งใน50สุดยอดขนมหวานของโลกที่ต้องได้กินสักครั้ง  

แต่แน่นอนว่าหน้านี้ไม่ใช่หน้าของมะม่วง ผมเลยลองนำข้าวเหนียวมูนมาประยุกต์กินกับสตรอว์เบอร์รี่แทน และตกแต่งเป็นซานต้าให้เข้ากับเทศกาลแห่งความสุขที่กำลังจะมาถึงออกมาเป็นเมนูนี้ครับ


*** เมนูนี้ทำด้วยไมโครเวฟทั้งหมดนะครับ****
***เนื่องจากว่าไม่ได้ถ่ายรูปประกอบไว้เลยจึงขอแคปภาพจากวิดีโอมาใช้แทนครับ***


หุงข้าวเหนียวด้วยไมโครเวฟ

ก่อนอื่นมาเริ่มกันด้วยการหุงข้าวเหนียวก่อนนะครับ วิธีนี้ทำได้ง่ายและประหยัดเวลามาก ๆ เพราะอย่างที่เรารู้กันว่าปกติการหุงข้าวเหนียวจะหุงกับหวด และต้องแช่น้ำทิ้งไว้ข้ามคืนถึงจะหุงได้ แต่การหุงด้วยไมโครเวฟจะใช้เวลาประมาณ30-40นาทีเท่านั้นเอง ส่วนข้าวเหนียวแนะนำเป็นข้าวเหนียวเขี้ยวงูเก่าจะดูดน้ำมูนได้ดีกว่าครับ

*** แต่การหุงด้วยไมโครเวฟจะมีข้อเสียที่ข้าวจะไม่นุ่มฟู เรียงเม็ดสวย เท่าการหุงปกติ (แต่ก็ไม่ได้แย่นะครับ) ถือว่าเก็บไว้เป็นหนึ่งทางเลือกยามต้องการกินข้าวเหนียวแบบฉุกเฉินได้ครับ ***

การหุงข้าวเหนียวขั้นตอนแรกให้นำมาซาว 2-3 น้ำให้สะอาดก่อนนะครับ จากนั้นนำมาขัดกับก้อนสารส้มเบา ๆ (เลือกที่ก้อนใหญ่หน่อยจะช่วยให้ขัดได้ดีและทั่วถึงกว่า)  เพราะไม่อย่างนั้นข้าวเหนียวจะหัก การขัดกับสารส้มจะทำให้ข้าวเหนียวขาวใสเวลาเอาไปมูนครับ (แต่ถ้าเราหุงเพื่อกินกับไก่ย่างส้มตำ ไม่จำเป็นต้องขัดกับสารส้มก็ได้นะครับ) ขัดไปประมาณ 5นาที แล้วซาวข้าวเหนียวอีก 2-3 ครั้ง จนน้ำใสนะครับ

จากนั้นแช่ข้าวเหนียวในน้ำเดือดจัด ๆ 20 - 30 นาที ปิดฝาไว้ (ถ้าไม่มีหม้อหรือกาต้มน้ำ ก็เอาน้ำเข้าไมโครเวฟจนร้อนจัดแล้วนำแช่ข้าวก็ได้ครับ) พอครบ 20 นาทีให้เทน้ำออกเหลือแค่ปริ่ม ๆ ขอบข้าวเหนียวเท่านั้น ไม่อย่างนั้นข้าวจะแฉะ นำเข้าไมโครเวฟแรงสุด 10-12 นาที  ก็จะได้ข้าวเหนียวร้อน ๆแล้วครับ

ทำน้ำมูน
น้ำมูนจะประกอบด้วย
1. กะทิ  125 มล. (ใช้กะทิ500 มล. ต่อข้าวเหนียว 1 กก. สูตรนี้ผมใช้ข้าวเหนียว 250ก. ครับ)
2. น้ำตาล 75 ก. (สูตรนี้สำหรับคนที่กินไม่หวานมากนะครับ ใครชอบหวานเจี๊ยบชื่นใจให้เพิ่มน้ำตาลเป็น 85 ก. เลยครับ)
3. เกลือ 4 ก. (ขนมจากกะทิแบบนี้ตัดเค็มเล็กน้อยรสจะกลมกล่อมกว่าหวานอย่างเดียวครับ)

ผสมทุกอย่าง คนให้เข้ากันแล้วนำเข้าไมโครเวฟไฟอ่อนที่สุด 1 นาที 2-3 ครั้งจนน้ำตาลและเกลือละลายดี
***ระวังอย่าให้กะทิแตกมันนะครับ***

ขั้นตอนการมูน ต้องทำตอนที่ทั้งข้าวเหนียวและน้ำมูนของเรายังร้อนทั้งคู่นะครับ ไม่อย่างนั้นข้าวเหนียวจะไม่ดูดน้ำและแฉะด้วย

ให้เทน้ำมูนลงไปคลุกเคล้าให้ข้าวเหนียวกับน้ำเข้ากันทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นจึงคนข้าวเหนียวพลิกข้างล่างขึ้นมาให้โดนน้ำมูนทั่วถึงกันแล้วทิ้งไว้อีก 10 นาที ก็จะได้ข้าวเหนียวมูนแสนอร่อยแล้วครับ

น้ำราด
สุดท้ายกับน้ำราด
  - กะทิ 1/2 ถ้วยตวง
  - แป้งสาลี 1 1/2ช้อนชา (ใส่แป้งด้วยจะช่วยให้น้ำราดเกาะตัวผลไม้และข้าวเหนียวได้ดี)
  - เกลือ 1/2 ช้อนชา
  - น้ำตาล 2 ช้อนชา

ผสมทุกอย่าง คนให้เข้ากันแล้วนำเข้าไมโครเวฟไฟอ่อนที่สุด 1 นาที 2-3 ครั้งจนน้ำตาลและเกลือละลายดี
***ระวังอย่าให้กะทิแตกมันอีกเช่นกันนะครับ***

สุดท้ายเอาสตรอว์เบอร์รี่มาผ่าส่วนขั้วออกให้เหมือนหมวกซานต้านะครับ

ประกอบร่าง
มาถึงขั้นตอนการประกอบร่างเป็นซานต้ากันแล้ว
เริ่มจากปั้นข้าวเหนียวเป็นทรงสี่เหลี่ยมให้มีขนาดใหญ่กว่าสตรอว์เบอร์รี่ของเราพอสมควร

จากนั้นเอาสตรอว์เบอร์รี่มาตั้งไว้ข้างบนเป็นหมวกซานต้า

โรยรอบ ๆ หมวกด้วยถั่วเขียวทอดผ่าซีก

ใช้เมล็ดเจีย หรือ งาดำ ติดเป็นลูกตาและจมูก

สุดท้ายก่อนกินราดน้ำกะทิลงไป อร่อยชื่นใจแน่นอนครับ

วิธีทำแบบวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

หลังจากทำเสร็จตอนบ่าย ๆ รอภรรยากลับมากินตอนเย็น ปรากฏว่าคุณเธอชอบมากเลยครับ ไม่ยอมแตะต้องซานต้าน้อยเลยบอกว่าไม่กล้ากินเพราะน่ารักเกินไป แล้วหันไปกินข้าวเหนียวมูนในชามที่ยังไม่ได้ปั้นแทนจนเกลี้ยง ปล่อยให้ซานต้าน้อยแห้งคาจานเลยทีเดียว

สำหรับใครที่ต้องการติดตามสูตรอาหารไทย ขนมไทย หรือ อาหารไมโครเวฟจากผมและภรรยาสามารถเข้าไปติดตามได้ที่

YouTube
https://www.youtube.com/channel/UCHNOyk8mYn898nnHHubOFrQ?sub_confirmation=1

Facebook Fanpage
https://www.facebook.com/thairecipereview/

instragram
https://www.instagram.com/bloom_pc/

ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ติดตามและให้กำลังใจผมกับภรรยาเสมอมานะครับ โอกาสหน้าจะนำสูตรอาหารต่าง ๆ มาแบ่งปันกันอีกนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่