Day4: Tiger's nest-> Paro
วันนี้ตื่นกันเช้าหน่อยค่ะ รับอาหารเช้าที่โรงแรมแพคเตรียมไว้ให้ มีแซนด์วิช ไข่ต้ม กับน้ำส้ม (สามารถติดต่อให้ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ได้ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ) น้องไกด์ก็มารอรับตามเวลานัดคือประมาณตีห้า เพื่อออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ง Tiger's nest หรือ Taktsang Monastery กันค่ะ นั่งรถกันมาไม่ถึงชั่วโมงก็มาถึง วันนี้อากาศดี น่าจะประมาณ 10-15 องศา เดินได้สบายๆ ยืดเส้น ยืดสายกันเล็กน้อย น้ำพร้อม ขนมพร้อม เราก็พร้อมมุ่งหน้าขึ้นเขาไปสู่รังเสือกันเลยค่ะ
ก่อนขึ้นเขาต้องมีอาวุธประจำกายก่อนค่ะ ใครไม่ได้เอา trekking stick มา ที่นี่เค้ามีให้เช่าไม้ค้ำ ราคาประมาณ 50NU (25บาท) แนะนำว่าควรเช่าค่ะ มันจะช่วยได้มากเลย ในรูปคือน้องไกด์เข้าไปเช่าให้(เราไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มนะคะ)
ระยะทางขึ้นเขาโดยรวมประมาณ 7กม. จะสามารถเช่าม้าขี่ไปได้ในช่วงแรก ประมาณ3.5 กม. หลังจากนั้นจะต้องเดินเอง ชาวคณะเราส่วนใหญ่เลือกเดินค่ะ ทางไม่ลำบาก ใครเคยไปภูกระดึงอันนี้ก็จะคล้ายๆกัน แต่เดินง่ายกว่ามาก และสบายเพราะไม่ร้อน แต่ก็มีเพื่อนคนนึงที่ขอนั่งม้าไปก่อน สอบถามได้ความว่าไม่น่ากลัวนะคะ น้องม้าเดินเรียบร้อยมาก ใครเลือกนั่งม้าก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเองเพิ่มเติมนะคะ จำไม่ได้แล้วว่าเท่าไหร่ แต่ไม่แพงมาก
เราก็ไปเจอกันที่จุดพักกลางทาง(นั่งม้าจะมาถึงก่อนประมาณ 15นาที) แล้วเดินช่วงสุดท้ายขึ้นสู่ทัคซังพร้อมกันค่ะ
วิวจากจุดพัก ทัคซัง ยังคงเห็นอยู่ไกลๆค่ะ
ทางช่วงท้ายจะเป็นทางบันไดขึ้นลงนะคะ เดินง่ายแต่เหนื่อยมากกกกก
ทัคซังใกล้เข้ามาทุกที เด็กจิ๋วก็ขึ้นได้นะคะ เห็นน้องหนูขึ้นมาชิลๆแบบนี้ ป้าๆยอมแพ้เลยค่ะ
สุดท้ายก็มาถึงวัดทัคซังจนได้ เราใช้เวลาเดินขึ้นกันประมาณ สองชั่วโมงครึ่ง วัดทัคซังเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ของชาวภูฏาน ตั้งอยู่บนหน้าผา สร้างตามตำนานความเชื่อว่า หลังท่านกูรูรินโปเช ตรัสรู้ที่นี่ ได้ขี่นางเสือลงจากหน้าผา เพื่อมาสั่งสอนและปราบความชั่วร้ายบนโลก หน้าผาตรงนี้จึงเชื่อว่าเป็นรังเสือ หรือ Tiger's nest นั่นเอง วัดข้างในมีสถาปัตยกรรมแบบภูฏาน และองค์พระโพธิสัตว์ปางต่างๆ มากมาย สวยคุ้มกับที่เดินเหนื่อย แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป อยากเห็นต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง ขากลับเราใช้เวลาเดินลง รวมเวลากินอาหารกลางวันด้วย ประมาณสองชั่วโมงค่ะ
ระหว่างทางจะเห็นสถูปเล็กๆ ตามก้อนหินเป็นระยะ สอบถามน้องไกด์ได้ความว่า เป็นสถูปที่มีคนเอามาวางเพื่อสะเดาะเคราะห์ ขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไป
อีกสิ่งหนึ่งที่จะเห็นได้ตลอดในภูฏาน ก็คือ prayer flags หรือธงอธิษฐานค่ะ โดยทั่วไปจะมีห้าสี แต่ละสีแทน ดิน น้ำ ลม ไฟ ชีวิต แต่บางคนก็บอกว่าแทน ดิน น้ำ ลม ไฟ ไม้ คนที่นี่จะนิยมนำมาผูกขึงไว้ในสถานที่ที่มีลดพัดผ่าน ตามความเชื่อคือทุกครั้งที่ลมพัดผ่าน ก็จะเป็นการกระจายบทสวดและคำอธิษฐานไปตามสายลมค่ะ
ลงเขามาก็จะเจอชาวบ้านเอาของที่ระลึกมาขายมากมาย เลือกซื้อกันตามสะดวกเลย แต่อย่าลืมต่อราคากันก่อนนะคะ
ลงจากรังเสือแล้ว น้องไกด์จะพาเราไปต่อด้วยโปรแกรมแต่งชุดประจำชาติ (ของผู้ชายเรียกว่าโก และของผู้หญิงเรียกว่าไคร่า) และถ่ายรูปริมพาโรซองและแม่น้ำพาโรค่ะ โปรแกรมนี้เพื่อนสาวของเราฟินมาก ถือว่าเป็นหนึ่งใน bucket list ของนางเลยทีเดียว
ต่อด้วยโปรแกรมซื้อของฝากในเมืองค่ะ shopping กันตามสะดวกเลยค่า
เย็นนี้กลับโรงแรม กินข้าวเย็นกันที่นั่น และเตรียมตัวเดินทางกลับตอนเช้าวันพรุ่งนี้ ซึ่งเราเลือกไฟล์ทเช้าที่สุดของวัน(ประมาณ7โมง) น้องไกด์มารับที่โรงแรมและส่งที่สนามบินเรียบร้อย กลับถึงกทม.ประมาณเที่ยง โดยสวัสดิภาพกันทุกคนค่ะ
ข้อแนะนำเล็กน้อย ใครที่แลกเงินมาเยอะอาจจะเจอปัญหาเรื่องแลกกลับนะคะ โดยเฉพาะพวกที่บินเช้ามากๆอย่างเรา เพราะจุดแลกเงินในสนามบินเค้ายังไม่เปิด ถ้าให้ดีก็ควรเตรียมเรื่องแลกเงินเสียตั้งแต่วันก่อนกลับเลยค่ะ
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ไปเที่ยวด้วยกัน และ special thanks ให้น้องไกด์และคนขับรถทั้งสองคนที่พาไปเที่ยวและช่วยดูแลกลุ่มของเราเป็นอย่างดี ทั้งตอนนี้เดินไปPhobjika valleyและขึ้น tiger's nest น้องช่วยแบกกระเป๋าเป้ให้เพื่อนเราตลอดทาง(จริงๆเค้าไม่ทำก็ได้นะคะ และไม่ควรขอให้เค้าทำด้วย) เพราะกลัวว่านางยังเจ็บขาอยู่จากที่เท้าแพลงในวันแรก ชาวคณะคุยกันว่าเราโชคดีที่เจอไกด์ที่nice และเป็นมิตรแบบนี้ สรุปแล้วเป็นทริปที่ชาวคณะประทับใจค่ะ ใครชอบเที่ยวแนวธรรมชาติหน่อย เมืองสงบ ผู้คนค่อนข้างnice มีวัฒนธรรม ประเพณีเฉพาะตัวแนะนำว่าควรมาเลยค่ะ ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงหน่อย แต่ไม่บานปลายนะคะ เท่าไหนเท่านั้น
ขอบคุณที่อ่านจนจบ หวังว่าจะสนุก และเป็นประโยชน์กับคนที่อยากไปค่ะ
สำหรับวันอื่นๆ ติดตามได้ตามนี้ค่าาา
Day1: BKK->Paro->Thimpu-> Big Bhudda-> City tour//
https://ppantip.com/topic/38388480
Day2: Dochula-> Gangtey Valley//
https://ppantip.com/topic/38389261
Day3: Phobjika Valley-> Paro //
https://ppantip.com/topic/38389357
Day4: Tiger nest-> Paro
Bhutan- A piece of heaven on earth รีวิวภูฏาน ฉบับ tourist visa/Day4
วันนี้ตื่นกันเช้าหน่อยค่ะ รับอาหารเช้าที่โรงแรมแพคเตรียมไว้ให้ มีแซนด์วิช ไข่ต้ม กับน้ำส้ม (สามารถติดต่อให้ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ได้ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ) น้องไกด์ก็มารอรับตามเวลานัดคือประมาณตีห้า เพื่อออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ง Tiger's nest หรือ Taktsang Monastery กันค่ะ นั่งรถกันมาไม่ถึงชั่วโมงก็มาถึง วันนี้อากาศดี น่าจะประมาณ 10-15 องศา เดินได้สบายๆ ยืดเส้น ยืดสายกันเล็กน้อย น้ำพร้อม ขนมพร้อม เราก็พร้อมมุ่งหน้าขึ้นเขาไปสู่รังเสือกันเลยค่ะ
ก่อนขึ้นเขาต้องมีอาวุธประจำกายก่อนค่ะ ใครไม่ได้เอา trekking stick มา ที่นี่เค้ามีให้เช่าไม้ค้ำ ราคาประมาณ 50NU (25บาท) แนะนำว่าควรเช่าค่ะ มันจะช่วยได้มากเลย ในรูปคือน้องไกด์เข้าไปเช่าให้(เราไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มนะคะ)
ระยะทางขึ้นเขาโดยรวมประมาณ 7กม. จะสามารถเช่าม้าขี่ไปได้ในช่วงแรก ประมาณ3.5 กม. หลังจากนั้นจะต้องเดินเอง ชาวคณะเราส่วนใหญ่เลือกเดินค่ะ ทางไม่ลำบาก ใครเคยไปภูกระดึงอันนี้ก็จะคล้ายๆกัน แต่เดินง่ายกว่ามาก และสบายเพราะไม่ร้อน แต่ก็มีเพื่อนคนนึงที่ขอนั่งม้าไปก่อน สอบถามได้ความว่าไม่น่ากลัวนะคะ น้องม้าเดินเรียบร้อยมาก ใครเลือกนั่งม้าก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเองเพิ่มเติมนะคะ จำไม่ได้แล้วว่าเท่าไหร่ แต่ไม่แพงมาก
เราก็ไปเจอกันที่จุดพักกลางทาง(นั่งม้าจะมาถึงก่อนประมาณ 15นาที) แล้วเดินช่วงสุดท้ายขึ้นสู่ทัคซังพร้อมกันค่ะ
วิวจากจุดพัก ทัคซัง ยังคงเห็นอยู่ไกลๆค่ะ
ทางช่วงท้ายจะเป็นทางบันไดขึ้นลงนะคะ เดินง่ายแต่เหนื่อยมากกกกก
ทัคซังใกล้เข้ามาทุกที เด็กจิ๋วก็ขึ้นได้นะคะ เห็นน้องหนูขึ้นมาชิลๆแบบนี้ ป้าๆยอมแพ้เลยค่ะ
สุดท้ายก็มาถึงวัดทัคซังจนได้ เราใช้เวลาเดินขึ้นกันประมาณ สองชั่วโมงครึ่ง วัดทัคซังเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ของชาวภูฏาน ตั้งอยู่บนหน้าผา สร้างตามตำนานความเชื่อว่า หลังท่านกูรูรินโปเช ตรัสรู้ที่นี่ ได้ขี่นางเสือลงจากหน้าผา เพื่อมาสั่งสอนและปราบความชั่วร้ายบนโลก หน้าผาตรงนี้จึงเชื่อว่าเป็นรังเสือ หรือ Tiger's nest นั่นเอง วัดข้างในมีสถาปัตยกรรมแบบภูฏาน และองค์พระโพธิสัตว์ปางต่างๆ มากมาย สวยคุ้มกับที่เดินเหนื่อย แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป อยากเห็นต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง ขากลับเราใช้เวลาเดินลง รวมเวลากินอาหารกลางวันด้วย ประมาณสองชั่วโมงค่ะ
ระหว่างทางจะเห็นสถูปเล็กๆ ตามก้อนหินเป็นระยะ สอบถามน้องไกด์ได้ความว่า เป็นสถูปที่มีคนเอามาวางเพื่อสะเดาะเคราะห์ ขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไป
อีกสิ่งหนึ่งที่จะเห็นได้ตลอดในภูฏาน ก็คือ prayer flags หรือธงอธิษฐานค่ะ โดยทั่วไปจะมีห้าสี แต่ละสีแทน ดิน น้ำ ลม ไฟ ชีวิต แต่บางคนก็บอกว่าแทน ดิน น้ำ ลม ไฟ ไม้ คนที่นี่จะนิยมนำมาผูกขึงไว้ในสถานที่ที่มีลดพัดผ่าน ตามความเชื่อคือทุกครั้งที่ลมพัดผ่าน ก็จะเป็นการกระจายบทสวดและคำอธิษฐานไปตามสายลมค่ะ
ลงเขามาก็จะเจอชาวบ้านเอาของที่ระลึกมาขายมากมาย เลือกซื้อกันตามสะดวกเลย แต่อย่าลืมต่อราคากันก่อนนะคะ
ลงจากรังเสือแล้ว น้องไกด์จะพาเราไปต่อด้วยโปรแกรมแต่งชุดประจำชาติ (ของผู้ชายเรียกว่าโก และของผู้หญิงเรียกว่าไคร่า) และถ่ายรูปริมพาโรซองและแม่น้ำพาโรค่ะ โปรแกรมนี้เพื่อนสาวของเราฟินมาก ถือว่าเป็นหนึ่งใน bucket list ของนางเลยทีเดียว
ต่อด้วยโปรแกรมซื้อของฝากในเมืองค่ะ shopping กันตามสะดวกเลยค่า
เย็นนี้กลับโรงแรม กินข้าวเย็นกันที่นั่น และเตรียมตัวเดินทางกลับตอนเช้าวันพรุ่งนี้ ซึ่งเราเลือกไฟล์ทเช้าที่สุดของวัน(ประมาณ7โมง) น้องไกด์มารับที่โรงแรมและส่งที่สนามบินเรียบร้อย กลับถึงกทม.ประมาณเที่ยง โดยสวัสดิภาพกันทุกคนค่ะ
ข้อแนะนำเล็กน้อย ใครที่แลกเงินมาเยอะอาจจะเจอปัญหาเรื่องแลกกลับนะคะ โดยเฉพาะพวกที่บินเช้ามากๆอย่างเรา เพราะจุดแลกเงินในสนามบินเค้ายังไม่เปิด ถ้าให้ดีก็ควรเตรียมเรื่องแลกเงินเสียตั้งแต่วันก่อนกลับเลยค่ะ
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ไปเที่ยวด้วยกัน และ special thanks ให้น้องไกด์และคนขับรถทั้งสองคนที่พาไปเที่ยวและช่วยดูแลกลุ่มของเราเป็นอย่างดี ทั้งตอนนี้เดินไปPhobjika valleyและขึ้น tiger's nest น้องช่วยแบกกระเป๋าเป้ให้เพื่อนเราตลอดทาง(จริงๆเค้าไม่ทำก็ได้นะคะ และไม่ควรขอให้เค้าทำด้วย) เพราะกลัวว่านางยังเจ็บขาอยู่จากที่เท้าแพลงในวันแรก ชาวคณะคุยกันว่าเราโชคดีที่เจอไกด์ที่nice และเป็นมิตรแบบนี้ สรุปแล้วเป็นทริปที่ชาวคณะประทับใจค่ะ ใครชอบเที่ยวแนวธรรมชาติหน่อย เมืองสงบ ผู้คนค่อนข้างnice มีวัฒนธรรม ประเพณีเฉพาะตัวแนะนำว่าควรมาเลยค่ะ ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงหน่อย แต่ไม่บานปลายนะคะ เท่าไหนเท่านั้น
ขอบคุณที่อ่านจนจบ หวังว่าจะสนุก และเป็นประโยชน์กับคนที่อยากไปค่ะ
สำหรับวันอื่นๆ ติดตามได้ตามนี้ค่าาา
Day1: BKK->Paro->Thimpu-> Big Bhudda-> City tour// https://ppantip.com/topic/38388480
Day2: Dochula-> Gangtey Valley// https://ppantip.com/topic/38389261
Day3: Phobjika Valley-> Paro // https://ppantip.com/topic/38389357
Day4: Tiger nest-> Paro