Day2: Dochula-> Gangtey Valley
วันที่ดีมักจะเริ่มต้นด้วยอาหารและกาแฟที่ดี วันนี้ก็เช่นกัน เริ่มต้นวันด้วยอาหารเช้าจากโรงแรม และวิวสวยๆค่ะ
อาหารเช้าที่โรงแรมเป็นหมี่ผัดสไตล์ภูฏาน ที่เรียกว่า thukpa ค่ะ รสชาดดี มีพวกไส้กรอก และผักต่างๆ ตักแบบบุฟเฟ่ นอกจากนี้ก็สามารถสั่งเป็นอาหารเช้าพวกไข่ดาว ออมเลตหรือขนมปังปิ้งก็ได้ค่ะ หลังจากโหลดอาหารกันเรียบร้อย ก็เตรียมตัวไป Dochula กันต่อเลยค่า
Dochula pass หรือ Dochula 108 chortens เป็นอนุสรณ์แห่งความสันติ สร้างเสร็จในปี 2004 จากเหตุการณ์ขับไล่กบฏแบ่งแยกดินแดนจากอินเดียได้สำเร็จ ประกอบไปด้วยเจดีย์หรือสถูปองค์เล็กๆ 108 องค์ เป็นlandmark สำคัญที่นทท.ชอบไป วันที่เราไปนี่นักท่องเที่ยวเต็มไปหมดเลยค่ะ หามุมถ่ายรูปแบบไม่ติดคนอื่นยากมากจริงๆ
จุดต่อไปคือ Phunaka Dzong หรือ ซองประจำเมืองพูนาคา ที่นี่จะมีDzong อยู่ประจำทุกเมืองค่ะ เป็นเหมือนศูนย์ราชการประจำเมือง และเป็นที่ทรงงานของพระมหากษัตริย์ด้วยค่ะ จริงๆแล้ว นทท. จะสามารถเข้าไปชมข้างในได้บางจุด แต่เราไม่ได้ไปนะคะ ดูเวลาแล้วไม่น่าจะทัน เพราะเรามีเป้าหมายอยู่ที่หมู่บ้านกานเทย์ซึ่งไกลมาก เสร็จจากจุดนี้ เราแวะกินข้าวกลางวันกันระหว่างทาง ก่อนจะต้องนั่งรถขึ้นเขายาวๆ เพื่อไปสู่หมู่บ้าน Gangtey Valley ระหว่างนี้เราเตือนน้องไกด์เรื่องซิมการ์ด ว่าคงต้องซื้อก่อนจะออกจากเมือง น้องไกด์แวะซื้อให้เครือข่าย Tashi ค่ะ แต่ด้วยเหตุผลอัลลัยก็ไม่รู้ ซิมที่เราซื้อมาดันใช้ไม่ได้ซะงั้น ToT ก็เลยตัดสินใจกันว่าช่างเหอะ อยู่แบบofflineกันซักวันสองวันละกัน โชคดีที่ชาวคณะเราไม่มีใครติดsocial ก็เลยพ้นวิกฤตนี้มาได้ 555
คำแนะนำนะคะ Sim card ควรซื้อและจัดการสัญญาณให้เรียบร้อยตั้งแต่ในเมืองทิมพูเลยค่ะ
โฉมหน้าเจ้าซิมเจ้าปัญหา จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยค่ะว่าทำไมน้องไม่function
หลังจากนั่งรถขึ้นเขามาอีกประมาณ 5-6 ชม เราก็จะมาถึงจุดหมายปลายทางของวันนี้ละคะ Gangtey Valley นั่นเองงง หมู่บ้านกานเทย์ เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม และชาวบ้านยังมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม คือส่วนใหญ่ทำไร่เลี้ยงสัตว์ และนี่ก็คือ Home stay ที่เราจะมาพักกันคืนนี้ ชื่อว่า Rada Pensum Farm House
คุณลุง Host ต้อนรับพวกเราด้วย butter tea ให้ความอบอุ่น และเด็กน้อย ลูกๆหลานๆก็ต้อนรับด้วยความสดใสค่ะ
เราไปถึงตอนใกล้ๆค่ำ ก่อนมื้อเย็น มีเวลาออกเดินเล่นนิดหน่อย เห็นแสงลอดหน้าต่างบานเล็กๆออกมา เราก็สงสัยว่าคืออะไร เข้าไปดูปรากฏว่าเป็น มินิมาร์ทนะคะซิส มีทุกสิ่งที่เราจะคิดออกขายอยู่ ตั้งแต่ผักสด ไข่ไก่ ขนม เครื่องดื่ม เครื่องใช้จิปาถะ เอาเป็นว่าจุดนี้ 7-11 ก็ยังสู้ไม่ได้เลยค่า
และนี่ก็คือ Hightlight ของคืนนี้ค่ะ แถ่น แทน แท้นนนน
Hot stone Bathing!!
ลุงHost จะเผาหินภูเขาไฟไว้รอเราตั้งแต่ก่อนกินข้าว เพื่อให้ร้อนพอดีในเวลาที่เราจะแช่ตัว เค้าจะถามเราก่อนนะคะว่าเราอยากจะแช่มั้ย เพราะส่วนนี้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ตกคนละประมาณ 300 บาท ซึ่งทางเราก็โอเค เวลาแช่ เค้าก็จะเอาหินร้อนใส่ไปที่อ่างอาบน้ำจากด้านนอก(ไม่มีรูปนะคะ) ให้มันร้อนมาถึงอ่างด้านใน ลุงบอกว่าหินที่เอามาใช้นี้เป็นหินชนิดพิเศษ เมื่อเผาแล้วแช่น้ำ ก็จะมีแร่ธาตุละลายออกมา ดีต่อสุขภาพ แล้วตอนจะแช่จริง เค้าก็จะเอาใบสมุนไพรพื้นบ้าน มาขยี้ๆแล้วใส่ลงไปในน้ำ ให้มันมีไอระเหยอออกมาด้วย กลิ่นจะออกผ่อนคลายๆ ลุงโฆษณาว่าการแช่น้ำแบบนี้ จะช่วยลดอาการปวดเมื่อยได้ ซึ่งทางเราลองแล้ว คอนเฟิร์มว่าจริง แช่เสร็จรู้สึกสบายตัว อารมณ์ดี ชาวคณะทุกคนฟินมาก อันนี้คือเกินความคาดหมาย ใครมีโอกาสได้มา เราแนะนำให้ลองค่ะ หลังจากแช่น้ำเสร็จ ลุงมีเสิร์ฟเหล้าหมักเองให้ด้วย ลองดมดูแล้วกลิ่นคล้ายๆ40ดีกรีบ้านเรา แต่ชิมแล้วพบว่ารสเบากว่ามาก จิบไปเรื่อยๆ เม้ากับเพื่อนไปเพลินๆ เหล้าหมดตอนไหนไม่รู้ตัวเลยค่ะ
และนี่คือโฉมหน้าของที่นอนคืนนี้ ผ้าห่มหนา อุ่น และเช่นเคยค่ะ รูปตอนสภาพดีๆไม่มีนะคะ 5555
วันที่สองของเราก็ขอจบลงเพียงเท่านี้ ไว้ไปเที่ยวกันต่อพรุ่งนี้ค่ะ ^^
สำหรับวันอื่นๆ ติดตามได้ตามนี้ค่าาา
Day1: BKK->Paro->Thimpu-> Big Bhudda-> City tour//
https://ppantip.com/topic/38388480
Day2: Dochula-> Gangtey Valley
Day3: Phobjika Valley-> Paro //
https://ppantip.com/topic/38389357
Day4: Tiger nest-> Paro //
https://ppantip.com/topic/38389462
Bhutan- A piece of heaven on earth รีวิวภูฏาน ฉบับ tourist visa/Day2
วันที่ดีมักจะเริ่มต้นด้วยอาหารและกาแฟที่ดี วันนี้ก็เช่นกัน เริ่มต้นวันด้วยอาหารเช้าจากโรงแรม และวิวสวยๆค่ะ
อาหารเช้าที่โรงแรมเป็นหมี่ผัดสไตล์ภูฏาน ที่เรียกว่า thukpa ค่ะ รสชาดดี มีพวกไส้กรอก และผักต่างๆ ตักแบบบุฟเฟ่ นอกจากนี้ก็สามารถสั่งเป็นอาหารเช้าพวกไข่ดาว ออมเลตหรือขนมปังปิ้งก็ได้ค่ะ หลังจากโหลดอาหารกันเรียบร้อย ก็เตรียมตัวไป Dochula กันต่อเลยค่า
Dochula pass หรือ Dochula 108 chortens เป็นอนุสรณ์แห่งความสันติ สร้างเสร็จในปี 2004 จากเหตุการณ์ขับไล่กบฏแบ่งแยกดินแดนจากอินเดียได้สำเร็จ ประกอบไปด้วยเจดีย์หรือสถูปองค์เล็กๆ 108 องค์ เป็นlandmark สำคัญที่นทท.ชอบไป วันที่เราไปนี่นักท่องเที่ยวเต็มไปหมดเลยค่ะ หามุมถ่ายรูปแบบไม่ติดคนอื่นยากมากจริงๆ
จุดต่อไปคือ Phunaka Dzong หรือ ซองประจำเมืองพูนาคา ที่นี่จะมีDzong อยู่ประจำทุกเมืองค่ะ เป็นเหมือนศูนย์ราชการประจำเมือง และเป็นที่ทรงงานของพระมหากษัตริย์ด้วยค่ะ จริงๆแล้ว นทท. จะสามารถเข้าไปชมข้างในได้บางจุด แต่เราไม่ได้ไปนะคะ ดูเวลาแล้วไม่น่าจะทัน เพราะเรามีเป้าหมายอยู่ที่หมู่บ้านกานเทย์ซึ่งไกลมาก เสร็จจากจุดนี้ เราแวะกินข้าวกลางวันกันระหว่างทาง ก่อนจะต้องนั่งรถขึ้นเขายาวๆ เพื่อไปสู่หมู่บ้าน Gangtey Valley ระหว่างนี้เราเตือนน้องไกด์เรื่องซิมการ์ด ว่าคงต้องซื้อก่อนจะออกจากเมือง น้องไกด์แวะซื้อให้เครือข่าย Tashi ค่ะ แต่ด้วยเหตุผลอัลลัยก็ไม่รู้ ซิมที่เราซื้อมาดันใช้ไม่ได้ซะงั้น ToT ก็เลยตัดสินใจกันว่าช่างเหอะ อยู่แบบofflineกันซักวันสองวันละกัน โชคดีที่ชาวคณะเราไม่มีใครติดsocial ก็เลยพ้นวิกฤตนี้มาได้ 555
คำแนะนำนะคะ Sim card ควรซื้อและจัดการสัญญาณให้เรียบร้อยตั้งแต่ในเมืองทิมพูเลยค่ะ
โฉมหน้าเจ้าซิมเจ้าปัญหา จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยค่ะว่าทำไมน้องไม่function
หลังจากนั่งรถขึ้นเขามาอีกประมาณ 5-6 ชม เราก็จะมาถึงจุดหมายปลายทางของวันนี้ละคะ Gangtey Valley นั่นเองงง หมู่บ้านกานเทย์ เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม และชาวบ้านยังมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม คือส่วนใหญ่ทำไร่เลี้ยงสัตว์ และนี่ก็คือ Home stay ที่เราจะมาพักกันคืนนี้ ชื่อว่า Rada Pensum Farm House
คุณลุง Host ต้อนรับพวกเราด้วย butter tea ให้ความอบอุ่น และเด็กน้อย ลูกๆหลานๆก็ต้อนรับด้วยความสดใสค่ะ
เราไปถึงตอนใกล้ๆค่ำ ก่อนมื้อเย็น มีเวลาออกเดินเล่นนิดหน่อย เห็นแสงลอดหน้าต่างบานเล็กๆออกมา เราก็สงสัยว่าคืออะไร เข้าไปดูปรากฏว่าเป็น มินิมาร์ทนะคะซิส มีทุกสิ่งที่เราจะคิดออกขายอยู่ ตั้งแต่ผักสด ไข่ไก่ ขนม เครื่องดื่ม เครื่องใช้จิปาถะ เอาเป็นว่าจุดนี้ 7-11 ก็ยังสู้ไม่ได้เลยค่า
และนี่ก็คือ Hightlight ของคืนนี้ค่ะ แถ่น แทน แท้นนนน
Hot stone Bathing!!
ลุงHost จะเผาหินภูเขาไฟไว้รอเราตั้งแต่ก่อนกินข้าว เพื่อให้ร้อนพอดีในเวลาที่เราจะแช่ตัว เค้าจะถามเราก่อนนะคะว่าเราอยากจะแช่มั้ย เพราะส่วนนี้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ตกคนละประมาณ 300 บาท ซึ่งทางเราก็โอเค เวลาแช่ เค้าก็จะเอาหินร้อนใส่ไปที่อ่างอาบน้ำจากด้านนอก(ไม่มีรูปนะคะ) ให้มันร้อนมาถึงอ่างด้านใน ลุงบอกว่าหินที่เอามาใช้นี้เป็นหินชนิดพิเศษ เมื่อเผาแล้วแช่น้ำ ก็จะมีแร่ธาตุละลายออกมา ดีต่อสุขภาพ แล้วตอนจะแช่จริง เค้าก็จะเอาใบสมุนไพรพื้นบ้าน มาขยี้ๆแล้วใส่ลงไปในน้ำ ให้มันมีไอระเหยอออกมาด้วย กลิ่นจะออกผ่อนคลายๆ ลุงโฆษณาว่าการแช่น้ำแบบนี้ จะช่วยลดอาการปวดเมื่อยได้ ซึ่งทางเราลองแล้ว คอนเฟิร์มว่าจริง แช่เสร็จรู้สึกสบายตัว อารมณ์ดี ชาวคณะทุกคนฟินมาก อันนี้คือเกินความคาดหมาย ใครมีโอกาสได้มา เราแนะนำให้ลองค่ะ หลังจากแช่น้ำเสร็จ ลุงมีเสิร์ฟเหล้าหมักเองให้ด้วย ลองดมดูแล้วกลิ่นคล้ายๆ40ดีกรีบ้านเรา แต่ชิมแล้วพบว่ารสเบากว่ามาก จิบไปเรื่อยๆ เม้ากับเพื่อนไปเพลินๆ เหล้าหมดตอนไหนไม่รู้ตัวเลยค่ะ
และนี่คือโฉมหน้าของที่นอนคืนนี้ ผ้าห่มหนา อุ่น และเช่นเคยค่ะ รูปตอนสภาพดีๆไม่มีนะคะ 5555
วันที่สองของเราก็ขอจบลงเพียงเท่านี้ ไว้ไปเที่ยวกันต่อพรุ่งนี้ค่ะ ^^
สำหรับวันอื่นๆ ติดตามได้ตามนี้ค่าาา
Day1: BKK->Paro->Thimpu-> Big Bhudda-> City tour// https://ppantip.com/topic/38388480
Day2: Dochula-> Gangtey Valley
Day3: Phobjika Valley-> Paro // https://ppantip.com/topic/38389357
Day4: Tiger nest-> Paro // https://ppantip.com/topic/38389462