Day 3 Drive to Gangtey.
วันนี้เราจะมุ่งหน้าไปที่กังเต หุบเขาพร็อบจิกาค่ะ ก่อนจะออกเดินทาง ไกด์พาเราไปซื้อชุดประจำชาติของผู้หญิงที่เรียกว่า Kira ที่ร้านขายผ้าในตัวเมืองก่อนค่ะ สำหรับชุดประจำชาติของผู้ชายเรียกว่า Gho ค่ะ ในทุกๆวันเราจะเห็นชาวภูฏานใส่ชุดประจำชาติเดินอยู่ตามที่ต่างๆ เด็กที่นี่เวลาไปโรงเรียนก็ใส่ชุดประจำชาติ หรือแม้แต่สถานที่ราชการก็ตาม รัฐบาลของภูฏานนั้นได้รณรงค์ให้ชาวภูฏานใส่ชุดประจำชาติเป็นชุดประจำวันค่ะ
หลังจากที่ได้คีร่าสวยๆมากันคนละชุด เราขอให้ไก ด์พาเราไปสนามกีฬาแห่งชาติ Changlimithang Stadium เพื่อไปชมการยิงธนู กีฬาประจำชาติของคนที่นี่กันค่ะ
พระพุทธรูปปางลีลาในสวนสาธารณะหลังสนามกีฬาค่ะ ป้ายข้างๆเขียนติดว่า เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมเกล้าถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
ระหว่างทางที่เรามุ่งหน้าไปยังกังเตจะมีจุดพักรถคือ Dochula pass สถูป 108 องค์ ช่องเขาบนถนนทิมพู-พูนาคา เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถชมเทือกเขาหิมาลัยได้จากจุดนี้ค่ะ นอกจากนี้ยังมีวัดและร้านอาหารด้วยค่ะ
คู่รักหวานแหวว5555
ในขณะที่เราเดินถ่ายรูปอยู่แถวๆนั้น เราเจอกับคนไทยที่นั่งข้างเราไฟล์ทขามาค่ะ โลกกลมอีกแล้ว พี่เขาใส่เสื้อตัวเดิมเราเลยจำได้ เลยแวะไปถ่ายรูปเป็นที่ระทึกสักหน่อย555 หลังจากแวะชมเสร็จเรียบร้อย เราก็ออกเดินทางไปยัง Punakha โดยแวะพักรับประทานอาหารกลางวันที่ Lobesa hotel ค่ะ อาหารที่นี่จะเป็นแบบบุฟเฟต์ให้เราเลือกตักได้ตามสบายเลยค่ะ
หลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อย เราก็ออกเดินทางไปยังเมือง Gangtey ค่ะต่อค่ะ เริ่มเข้าเขตป่าสน อากาศเริ่มเย็นลง เราเริ่มเห็นหมู่บ้าน เห็นเด็กๆกำลังเดินกลับโรงเรียน หุบเขา Phobjika เป็นหนึ่งในหุบเขาที่สวยที่สุดในภูฏานเลยก็ว่าได้ค่ะ รถของเราวิ่งผ่านหมู่บ้านเล็กๆ เห็นทุ่งมันฝรั่งเป็นระยะ ในฤดูหนาวจะมีนกกระเรียนคอดำที่อพยพมาจากธิเบตมา ณ หุบเขาแห่งนี้ค่ะ
ถ่ายจากในรถ ภาพเลยออกมาไม่ค่อยสวยค่ะ ต้องขออภัยนะคะ
คืนนี้เราค้างกันที่ Dewachen hotel ค่ะ
ที่นี่อากาศค่อนข้างเย็นเลยต้องมีฟืนไว้จุดเตาผิงค่ะ
โฉมหน้าโรงแรมกลางหุบเขาค่ะ
อาหารภูฏานค่ะ มีผัดผัก ผัดเห็ด แล้วก็มันฝรั่งผัดชีส เรียกว่า Kewa datsi ค่ะ
Day Four Sightseeing in Gangtey.
เช้าวันที่ 4 โปรแกรมวันนี้คือ Gangtey Nature Trial ไกด์พาเราไปที่ Gangtey Goenpa วัดบนเนินเขาซึ่งเป็นวัดเก่าแก่วันหนึ่งของภูฏานเลยก็ว่าได้ค่ะ
บรรยากาศในหมู่บ้านค่ะ
หลังจากนั้นเราก็เดินตามไกด์ไปเพื่อบุกป่าฝ่าดงไปที่จุดชมวิวค่ะ โดยเราเดินลัดเลาะเข้าไปในหมู่บ้าน
ระหว่างทางเราเจอดอกไม้หลายชนิดค่ะ รวมถึงสตรอเบอรรี่ด้วย
รถที่เห็นอยู่ไกลๆนั้นเป็นรถที่เราใช้ทัวร์ในครั้งนี้ค่ะ
วิวสวยมากค่ะ เป็นวิวที่ จขกท ชอบมากที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ หลังจากที่รับประทานอาหารเที่ยงที่โรงแรม เราก็ไปกันต่อที่ Black neck crane centre ศูนย์นกกระเรียนคอดำ เราได้ชมสารคดีสั้นประมาณ 15 นาที แล้วก็เดินสำรวจแหล่งเรียนรู้ภายในศูนย์ค่ะ มีทั้งกล้องส่องทางไกล ประวัติ และข้อมูลพื้นฐาน ตัวสตั๊ฟของนกกระเรียนคอดำตัวจริงไว้ค่ะ เราสามารถบริจาคเงินได้โดยการซื้อของที่ระลึกหรือหนังสือก็มีค่ะ จะหยอดตู้ก็ได้ ตามสะดวกค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่าเลี้ยงนกกระเรียนคอดำตัวนึงไว้ที่ศูนย์ค่ะ เราก็เลยออกมาดูของจริงกัน
Day Five Drive to Bumthang.
เราออกเดินทางจาก Gangtey ไปยัง Bumthang ค่ะ ซึ่งอยู่ในภูฏานตอนกลางค่ะ เป็นเมืองที่มีวัดสำคัญอยู่มากกว่าที่อื่นในภูฏาน โดยเราจะเดินทางไปกันที่ Kurjey Lhakhang และ Jambay Lhakhang ค่ะ ระหว่างทางไกด์พาเราแวะชมสถูปสไตล์เนปาล เหมือนว่าที่นี่จะมีงานของหมู่บ้านด้วย เราเลยลงไปดูกันหน่อยค่ะ
ด้านซ้ายคือชาเนยของที่นี่เรียกว่า Suja ค่ะ ส่วนด้านขวาเป็นขนมที่ทำมาจากข้าว อร่อยดีค่ะ
เราแวะทานอาหารเที่ยงกันที่ Tashi Ninjay Guest House ที่ Trongsa ค่ะ ซึ่งร้านอยู่ใกล้ๆกับ Trongsa Dzong ค่ะ
หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว เราก็เดินทางกันต่อ ก่อนที่จะเข้าสู่เมือง Bumthang ไกด์พาเราจอดแวะชมผลิตภัณฑ์จากขนจามรีค่ะ
ในที่สุดเราก็มาถึงแล้วค่ะ Bumthang วิวสวยไม่แพ้หุบเขา Gangtey กับ Phobjika เลยค่ะ
คืนนี้เราพักที่ River Lodge ค่ะ รอบๆที่พักมีต้นกุหลาบหลากหลายสีเต็มไปหมด ดูๆไปก็สวยอีกแบบนึง หลังจากที่เราเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ไกด์ก็มาชวนเราไปที่วัดแห่งหนึ่งค่ะ เหมือนว่าที่วัดจะมีพิธีสำคัญของกูรูรินโปเช ตอนที่เรานั่งรถกำลังเข้าเมือง ระหว่างทางเราเห็นธงสีแดงตั้งอยู่ที่วัดบนเขาค่ะ คิดว่าเขาอาจจะมีงานสำคัญก็เป็นได้ค่ะ
หน้าตาอาหารเช้าของโรมแรมค่ะ ที่บุมตังนั้นจะขึ้นชื่อเรื่องชีสค่ะ ส่วนแผ่นสีน้ำตาลที่อยู่ในจานคือแพนเค้กที่ทำเองค่ะ
หลังจากที่ทานอาหรเช้าแล้ว เราก็มุ่งหน้าไป Kurjey Lhakhang วัดที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งของภูฏานค่ะ ที่วัดนี้มีพระแก้วมรกตจากประเทศไทยอยู่ด้วยค่ะ
หลังจากที่ชมวัดเป็นที่เรียบร้อย คนขับรถเราก็ชวนเราไปที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ค่ะ พอเราไปถึงก็มีลามะและชาวบ้านอยู่กลุ่มหนึ่งกำลังต่อแถวรองน้ำเพื่อไปใช้ค่ะ น้ำเป็นน้ำแร่ธรรมชาติจากภูเขา สามารถดื่มได้ค่ะ ตอนแรกเราเองก็ไม่กล้า แต่พอลองแล้วน้ำไม่มีสี กลิ่น รส เลยค่ะ เย็นมาก เหมือนแช่มาจากตู้เย็น5555 หลังจากที่ได้น้ำไปกันคนละขวดสองขวด เราเดินทางไปต่อกันที่ Jambay Lhakhang เราได้มีโอกาสไปจุดเทียนเนยกันที่วัดนี้ค่ะ ภายในวัดจัดงานอะไรสักอย่าง มีชาวบ้านมาสวดมนต์กันเต็มเลยค่ะ มีเด็กๆวิ่งเล่นกันด้วย น่ารักเชียว
สถานที่สุดท้ายของวันนี้คือ Mebar Tsho ทะเลสาบแองน้ําในชองหินกลางลําธารค่ะ
Day seven Drive to Punakha
วันนี้เรานั่งรถออกจาก Bumthang เพื่อเดินทางกลับไปยัง Punakha ค่ะ เนื่องจากช่วงที่เราไปกำลังถนน ทำให้ใช้เวลาค่อนข้างนานค่ะ เราได้แวะพักค้างคืนที่ Kichu resort Wangdue รีสอร์ทที่นี่ร่มรื่นดีค่ะ มีแม่น้ำไหนผ่าน พนักงานบริการดี เฟรนลี่มากค่ะ ประทับใจค่ะ เราเองก็ได้เจอกับน้องคนหนึ่งเป็นพนักงานที่นี่ อายุย่างเข้า 20 บ้านเกิดน้องอยู่ที่ Trashiyangtse ถ้าจำไม่ผิดเหมือนน้องจะเป็นพี่ชายคนโตค่ะ เรียนจบแล้วมาหางานทำในเมือง ตอนแรกน้องทำอยู่ที่ Kichu resort Paro แต่ได้ย้ายมาทำที่วังดีค่ะ เห็นน้องน่ารักขยันทำงานแบบนี้ เราก็ทิปน้องไปนิดหน่อยค่ะ ตั้งแต่อยู่ภูฏานมาเราสังเกตได้ว่าพนักงานโรงแรม ร้านอาหาร จะมีเด็กอายุประมาณนี้ทำงานค่ะ บางคนก็ไม่ได้เรียนต่อ ต้องมาหางานทำ ส่วนเด็กบางคนที่เป็นลูกคนมีเงิน บ้างก็จะมาเรียนต่างประเทศอย่างอินเดียหรือประเทศไทยค่ะ
ตอนหน้าจะพาทุกคนไปชมซองที่สวยที่สุดในภูฏานและงานดอกไม้ที่พาโรกันค่ะ
http://ppantip.com/topic/35287496 10 วัน ฝันที่เป็นจริง "BHUTAN" The Land of the Thunder Dragon Part 3
http://ppantip.com/topic/35280476 Part 1
[CR] 10 วัน ฝันที่เป็นจริง "BHUTAN" The Land of the Thunder Dragon Part 2
วันนี้เราจะมุ่งหน้าไปที่กังเต หุบเขาพร็อบจิกาค่ะ ก่อนจะออกเดินทาง ไกด์พาเราไปซื้อชุดประจำชาติของผู้หญิงที่เรียกว่า Kira ที่ร้านขายผ้าในตัวเมืองก่อนค่ะ สำหรับชุดประจำชาติของผู้ชายเรียกว่า Gho ค่ะ ในทุกๆวันเราจะเห็นชาวภูฏานใส่ชุดประจำชาติเดินอยู่ตามที่ต่างๆ เด็กที่นี่เวลาไปโรงเรียนก็ใส่ชุดประจำชาติ หรือแม้แต่สถานที่ราชการก็ตาม รัฐบาลของภูฏานนั้นได้รณรงค์ให้ชาวภูฏานใส่ชุดประจำชาติเป็นชุดประจำวันค่ะ
ในขณะที่เราเดินถ่ายรูปอยู่แถวๆนั้น เราเจอกับคนไทยที่นั่งข้างเราไฟล์ทขามาค่ะ โลกกลมอีกแล้ว พี่เขาใส่เสื้อตัวเดิมเราเลยจำได้ เลยแวะไปถ่ายรูปเป็นที่ระทึกสักหน่อย555 หลังจากแวะชมเสร็จเรียบร้อย เราก็ออกเดินทางไปยัง Punakha โดยแวะพักรับประทานอาหารกลางวันที่ Lobesa hotel ค่ะ อาหารที่นี่จะเป็นแบบบุฟเฟต์ให้เราเลือกตักได้ตามสบายเลยค่ะ
หลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อย เราก็ออกเดินทางไปยังเมือง Gangtey ค่ะต่อค่ะ เริ่มเข้าเขตป่าสน อากาศเริ่มเย็นลง เราเริ่มเห็นหมู่บ้าน เห็นเด็กๆกำลังเดินกลับโรงเรียน หุบเขา Phobjika เป็นหนึ่งในหุบเขาที่สวยที่สุดในภูฏานเลยก็ว่าได้ค่ะ รถของเราวิ่งผ่านหมู่บ้านเล็กๆ เห็นทุ่งมันฝรั่งเป็นระยะ ในฤดูหนาวจะมีนกกระเรียนคอดำที่อพยพมาจากธิเบตมา ณ หุบเขาแห่งนี้ค่ะ
Day Four Sightseeing in Gangtey.
เช้าวันที่ 4 โปรแกรมวันนี้คือ Gangtey Nature Trial ไกด์พาเราไปที่ Gangtey Goenpa วัดบนเนินเขาซึ่งเป็นวัดเก่าแก่วันหนึ่งของภูฏานเลยก็ว่าได้ค่ะ
วิวสวยมากค่ะ เป็นวิวที่ จขกท ชอบมากที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ หลังจากที่รับประทานอาหารเที่ยงที่โรงแรม เราก็ไปกันต่อที่ Black neck crane centre ศูนย์นกกระเรียนคอดำ เราได้ชมสารคดีสั้นประมาณ 15 นาที แล้วก็เดินสำรวจแหล่งเรียนรู้ภายในศูนย์ค่ะ มีทั้งกล้องส่องทางไกล ประวัติ และข้อมูลพื้นฐาน ตัวสตั๊ฟของนกกระเรียนคอดำตัวจริงไว้ค่ะ เราสามารถบริจาคเงินได้โดยการซื้อของที่ระลึกหรือหนังสือก็มีค่ะ จะหยอดตู้ก็ได้ ตามสะดวกค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่าเลี้ยงนกกระเรียนคอดำตัวนึงไว้ที่ศูนย์ค่ะ เราก็เลยออกมาดูของจริงกัน
Day Five Drive to Bumthang.
เราออกเดินทางจาก Gangtey ไปยัง Bumthang ค่ะ ซึ่งอยู่ในภูฏานตอนกลางค่ะ เป็นเมืองที่มีวัดสำคัญอยู่มากกว่าที่อื่นในภูฏาน โดยเราจะเดินทางไปกันที่ Kurjey Lhakhang และ Jambay Lhakhang ค่ะ ระหว่างทางไกด์พาเราแวะชมสถูปสไตล์เนปาล เหมือนว่าที่นี่จะมีงานของหมู่บ้านด้วย เราเลยลงไปดูกันหน่อยค่ะ
หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว เราก็เดินทางกันต่อ ก่อนที่จะเข้าสู่เมือง Bumthang ไกด์พาเราจอดแวะชมผลิตภัณฑ์จากขนจามรีค่ะ
คืนนี้เราพักที่ River Lodge ค่ะ รอบๆที่พักมีต้นกุหลาบหลากหลายสีเต็มไปหมด ดูๆไปก็สวยอีกแบบนึง หลังจากที่เราเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ไกด์ก็มาชวนเราไปที่วัดแห่งหนึ่งค่ะ เหมือนว่าที่วัดจะมีพิธีสำคัญของกูรูรินโปเช ตอนที่เรานั่งรถกำลังเข้าเมือง ระหว่างทางเราเห็นธงสีแดงตั้งอยู่ที่วัดบนเขาค่ะ คิดว่าเขาอาจจะมีงานสำคัญก็เป็นได้ค่ะ
หลังจากที่ทานอาหรเช้าแล้ว เราก็มุ่งหน้าไป Kurjey Lhakhang วัดที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งของภูฏานค่ะ ที่วัดนี้มีพระแก้วมรกตจากประเทศไทยอยู่ด้วยค่ะ
หลังจากที่ชมวัดเป็นที่เรียบร้อย คนขับรถเราก็ชวนเราไปที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ค่ะ พอเราไปถึงก็มีลามะและชาวบ้านอยู่กลุ่มหนึ่งกำลังต่อแถวรองน้ำเพื่อไปใช้ค่ะ น้ำเป็นน้ำแร่ธรรมชาติจากภูเขา สามารถดื่มได้ค่ะ ตอนแรกเราเองก็ไม่กล้า แต่พอลองแล้วน้ำไม่มีสี กลิ่น รส เลยค่ะ เย็นมาก เหมือนแช่มาจากตู้เย็น5555 หลังจากที่ได้น้ำไปกันคนละขวดสองขวด เราเดินทางไปต่อกันที่ Jambay Lhakhang เราได้มีโอกาสไปจุดเทียนเนยกันที่วัดนี้ค่ะ ภายในวัดจัดงานอะไรสักอย่าง มีชาวบ้านมาสวดมนต์กันเต็มเลยค่ะ มีเด็กๆวิ่งเล่นกันด้วย น่ารักเชียว
Day seven Drive to Punakha
วันนี้เรานั่งรถออกจาก Bumthang เพื่อเดินทางกลับไปยัง Punakha ค่ะ เนื่องจากช่วงที่เราไปกำลังถนน ทำให้ใช้เวลาค่อนข้างนานค่ะ เราได้แวะพักค้างคืนที่ Kichu resort Wangdue รีสอร์ทที่นี่ร่มรื่นดีค่ะ มีแม่น้ำไหนผ่าน พนักงานบริการดี เฟรนลี่มากค่ะ ประทับใจค่ะ เราเองก็ได้เจอกับน้องคนหนึ่งเป็นพนักงานที่นี่ อายุย่างเข้า 20 บ้านเกิดน้องอยู่ที่ Trashiyangtse ถ้าจำไม่ผิดเหมือนน้องจะเป็นพี่ชายคนโตค่ะ เรียนจบแล้วมาหางานทำในเมือง ตอนแรกน้องทำอยู่ที่ Kichu resort Paro แต่ได้ย้ายมาทำที่วังดีค่ะ เห็นน้องน่ารักขยันทำงานแบบนี้ เราก็ทิปน้องไปนิดหน่อยค่ะ ตั้งแต่อยู่ภูฏานมาเราสังเกตได้ว่าพนักงานโรงแรม ร้านอาหาร จะมีเด็กอายุประมาณนี้ทำงานค่ะ บางคนก็ไม่ได้เรียนต่อ ต้องมาหางานทำ ส่วนเด็กบางคนที่เป็นลูกคนมีเงิน บ้างก็จะมาเรียนต่างประเทศอย่างอินเดียหรือประเทศไทยค่ะ
ตอนหน้าจะพาทุกคนไปชมซองที่สวยที่สุดในภูฏานและงานดอกไม้ที่พาโรกันค่ะ
http://ppantip.com/topic/35287496 10 วัน ฝันที่เป็นจริง "BHUTAN" The Land of the Thunder Dragon Part 3
http://ppantip.com/topic/35280476 Part 1