สิ้นสังโยชน 10 ไม่ได้หมดกิเลส

บางท่านอาจจะคิดว่า ตนเองละสังโยชน์ 10 ได้ก็หมดกิเลสแล้ว แต่ปล่าว

นอกเหนือจากสังโยชน์ แล้วยังมีอนุสัยกิเลสอีก
อนุสัยกิเลสนี้ถ้าเราละได้เราก็จะได้สัญญาวิโมกข์มา
นอกจากอนุสัยแล้ว ยังมีอาสวะอีกอันอยู่ส่วนลึกสุด
อาสวะกิเลสนั้นสามารถดับได้ด้วยนิโรธสมาบัติ
นิโรธสามาบัตินั้น จะเป็นสมาบัติที่ดับอายตนะ ใจ
ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากสัญญาเวทนา ใจ(มโน) หรือดวงจิตผู้
ก็สร้างวิญญานขึ้นมาอีกที

หลายคนถ้าปฏิบัติจนถึงโค้งสุดท้ายแล้วอาจตะเคยเห็น จิตผู้รู้เป็นก้อนกลมๆเท่าผลมะนาว
ออกมาทำหน้าที่ของมัน หรืออาจจะสามารถเห็นได้ด้วยการโน้มจิตไปสู่อมตธาตุ ผู้รู้นี้ก็จะปรากฏ

นิโรธสามาบีติจะดับดวงจืตนี้ 4 ดวงที่ถูกสร้างมาจากอาสวะ 4 อย่างคือ ทิฏฐาสวะ กามาสวะ ภาวาสวะ และอวิชชาสวะ

เมื่อดับได้แล้ว จึงค่อยดับสัญญาเวทนาที่เหลือ

ดับสัญญาเวทนาอันแรก เป็นการดับทิฏฐิสาวะ เพิกถอนอวิชชานุสัยออกไปได้

ดับสัญญาเวทนาต่อไป เป็นการดับกามาสวะ

ดับสัญญาเวทนาขั้นต่อไปเป็นการดับภมาสวะ

และดับสัญญาเวทนาสุดท้าย คือ อวิชชาสวะ เป็นกิเลสธาตุที่ใหญ่กว่ากิเลสทั้งกลาย

การดับกิเลส ตัณหานุสัย อุปาทานที่เข้าไปนอนเนื่องในสัญญาเวทนานี้

จะเป็นการดับสังขารที่ปรุงแต่งใจ ภาษายาลีเรียกว่า มโนโมเนยยะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่