ได้รับจดหมายขอให้ชำระหนี้ก่อนส่งดำเนินคดีตามกฏหมายจาก True Vision เมื่อเช้า ซึ่งน่าจะเหมือนกับหลายๆคนที่เคยได้รับ และจะได้รับในอนาคต ว่ามียอดค้างชำระหลังจากยกเลิกบริการ ทรู วิชั่น ไปเมื่อกลางปีที่แล้ว ...... ผมไม่คิดว่าระบบจะมั่วยอดค่าบริการ ผมเชื่อว่ายอดนั้นถูกต้อง ด้วยระบบของบริษัทใหญ่ขนาดนี้คงจะไม่มามั่วเงินไม่กี่บาทกับอดีตลูกค้า(รวมถึงลูกค้าปัจจุบัน)
… แต่ในกระบวนการขอให้ชำระหนี้นั้น มันมีวิธีมากมาย ยิ่งคุณเป็นบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและนี่มันปี 2018 แล้ว .... ทำไมถึงต้องใช้การส่งจดหมายมาขู่ฟ้อง? ผมเชื่อว่าหลายๆคนน่าจะเคยได้รับจดหมายแบบนี้และเสียความรู้สึกกับการปฏิบัติกับลูกค้า และอดีตลูกค้าเป็นอย่างมาก
หลังจากได้รับจดหมาย วันนี้ผมได้ไปทำการชำระเงินที่ค้างอยู่ที่ช๊อปของ ทรู ที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า และแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่พอใจและขอข้องเรียน อยากจะได้คำตอบถึงนโยบายการทำงานและปรัชญาในการทำดูแลลูกค้าของ True
เริ่มด้วยการชำระหนี้ก่อน เพราะผมไม่ได้ติดใจเรื่องยอดที่ค้างชำระและเชื่อว่าระบบของบริษัทใหญ่ขนาดนี้โปร่งใสและเชื่อถือได้แน่นอน
คำถามที่สอบถามจากพนักงานก็คือ ระหว่างช่วงปีที่ผ่านมา ผมทำการจ่ายค่าบริการอื่นๆผ่านตู้ชำระเงินของทรู และช่องทางออนไลน์ทุกเดือน ทำไมยอดนี้ถึงไม่ขึ้นมาให้จ่าย? ... ได้รับคำตอบว่า เมื่อลูกค้ายกเลิกการใช้บริการ รายชื่อจะถูกถอดออกจากระบบทันที .... เพื่ออะไรครับ? ทำให้ลูกค้าจ่ายเงินยากขึ้น?
ระหว่างที่เป็นลูกค้า หากมียอดค้างชำระ โดยปรกติทรูจะโทรมาสอบถาม แล้วทำไมยอดนี้ถึงไม่โทรมา? เครื่อข่ายโทรศัพท์ของคุณก็มี โทรมาจะเก็บเงินค่าโทรปลายทางผมก็ยินดีจ่ายให้นะ ทำไมไม่โทรมาแจ้ง?
พนักงานแจ้งว่ามีใบแจ้งหนี้ส่งไปยังบ้านของลูกค้า .... ครับ ผมไม่ได้รับ หรือ ผมอาจจะไม่ได้เปิด ซึ่งถ้าผมไม่ได้เปิดแน่นอนว่ามันคือความผิดของผม ... แต่ผมถามกลับว่าในปี 2018 คุณยังเปิดจดหมายแจ้งค่าบริการและใบเสร็จรับเงินทั้งหลายทุกฉบับอยู่ไหม? .... ไม่ได้จะแก้ตัว แต่มันพิสูจน์ไม่ได้ว่ามีการส่งใบแจ้งมาจริงๆ ไม่มีหลักฐานการเซ็นต์รับจดหมายฉบับนั้นเกิดขึ้น และผมถามกลับไปที่ตัวพนักงานเองว่าตัวคุณเองเปิดดูหรือไม่?
สุดท้ายประเด็นที่อยากจะได้รับคำตอบจากทางทรูก็คือ นโยบายการเรียกค่าบริการย้อนหลังของคุณ คือการใช้จดหมายขู่ฟ้องอย่างเดียวใช่ไหม? ทั้งๆที่วิธีอื่นๆที่สะดวก รวดเร็ว ก็มีมากมาย อีกทั้งตัวบริษัทเองก็เป็นผู้นำด้านการสื่อสารอยู่แล้ว ทำไมยังเลือกที่จะใช้วิธีส่งจดหมายเพื่อขู่จะดำเนินการทางกฏหมาย?
ทำไมขณะที่เป็นลูกค้าคุณเรียกค่าบริการด้วยมาตรฐานแบบหนึ่ง พอเลิกเป็นลูกค้า(ซึ่งจริงๆยังเป็นอยู่ในบริการด้านอื่นๆอยู่)คุณกลับปฏิบัติกับลูกค้าด้วยอีกมาตรฐานหนึ่ง ....
นี่คือปรัชญาในการดำเนินกิจการ และดูแลลูกค้าของบริษัทใช่หรือไม่? ผมเองยินดีจ่ายค่าบริการทั้งหมดที่เกิดขึ้นจริง และผมเชื่อว่าลูกค้าจำนวนมากก็ยินดีจะจ่ายเช่นกัน แต่กระบวนการในการแจ้งหนี้นั้นมีวิธีการง่ายๆและให้เกียรติลูกค้ามากมายหลายวิธี ทำไมถึงใช้วิธีนี้ ทั้งๆที่ตัวบริษัทคุณเองก็เคยแสดงให้เห็นมาแล้วว่าสามารถใช้วิธีเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สุดท้ายได้รับการแจ้งจากพนักงานว่าถ้าทำการร้องเรียนที่สาขาจะต้องเขียนเรื่องด้วยลายมือ ผมเลยขอมาพิมพ์ในพันทิพย์แทนเพราะสะดวกกว่า และการร้องเรียนในพันทิพย์นั้นจะได้รับการตอบที่เร็วกว่า
ต้องขอขอบคุณ วรธัช นุ่มดี จากสาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้ามากๆที่ให้บริการ รวมถึงให้ข้อมูลต่างๆในวันนี้ ผมประทับใจในการให้บริการมากๆครับ
True บริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร กับการทวงค่าบริการค้างชำระในปี 2018 ด้วยจดหมายขู่ฟ้อง
… แต่ในกระบวนการขอให้ชำระหนี้นั้น มันมีวิธีมากมาย ยิ่งคุณเป็นบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและนี่มันปี 2018 แล้ว .... ทำไมถึงต้องใช้การส่งจดหมายมาขู่ฟ้อง? ผมเชื่อว่าหลายๆคนน่าจะเคยได้รับจดหมายแบบนี้และเสียความรู้สึกกับการปฏิบัติกับลูกค้า และอดีตลูกค้าเป็นอย่างมาก
หลังจากได้รับจดหมาย วันนี้ผมได้ไปทำการชำระเงินที่ค้างอยู่ที่ช๊อปของ ทรู ที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า และแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่พอใจและขอข้องเรียน อยากจะได้คำตอบถึงนโยบายการทำงานและปรัชญาในการทำดูแลลูกค้าของ True
เริ่มด้วยการชำระหนี้ก่อน เพราะผมไม่ได้ติดใจเรื่องยอดที่ค้างชำระและเชื่อว่าระบบของบริษัทใหญ่ขนาดนี้โปร่งใสและเชื่อถือได้แน่นอน
คำถามที่สอบถามจากพนักงานก็คือ ระหว่างช่วงปีที่ผ่านมา ผมทำการจ่ายค่าบริการอื่นๆผ่านตู้ชำระเงินของทรู และช่องทางออนไลน์ทุกเดือน ทำไมยอดนี้ถึงไม่ขึ้นมาให้จ่าย? ... ได้รับคำตอบว่า เมื่อลูกค้ายกเลิกการใช้บริการ รายชื่อจะถูกถอดออกจากระบบทันที .... เพื่ออะไรครับ? ทำให้ลูกค้าจ่ายเงินยากขึ้น?
ระหว่างที่เป็นลูกค้า หากมียอดค้างชำระ โดยปรกติทรูจะโทรมาสอบถาม แล้วทำไมยอดนี้ถึงไม่โทรมา? เครื่อข่ายโทรศัพท์ของคุณก็มี โทรมาจะเก็บเงินค่าโทรปลายทางผมก็ยินดีจ่ายให้นะ ทำไมไม่โทรมาแจ้ง?
พนักงานแจ้งว่ามีใบแจ้งหนี้ส่งไปยังบ้านของลูกค้า .... ครับ ผมไม่ได้รับ หรือ ผมอาจจะไม่ได้เปิด ซึ่งถ้าผมไม่ได้เปิดแน่นอนว่ามันคือความผิดของผม ... แต่ผมถามกลับว่าในปี 2018 คุณยังเปิดจดหมายแจ้งค่าบริการและใบเสร็จรับเงินทั้งหลายทุกฉบับอยู่ไหม? .... ไม่ได้จะแก้ตัว แต่มันพิสูจน์ไม่ได้ว่ามีการส่งใบแจ้งมาจริงๆ ไม่มีหลักฐานการเซ็นต์รับจดหมายฉบับนั้นเกิดขึ้น และผมถามกลับไปที่ตัวพนักงานเองว่าตัวคุณเองเปิดดูหรือไม่?
สุดท้ายประเด็นที่อยากจะได้รับคำตอบจากทางทรูก็คือ นโยบายการเรียกค่าบริการย้อนหลังของคุณ คือการใช้จดหมายขู่ฟ้องอย่างเดียวใช่ไหม? ทั้งๆที่วิธีอื่นๆที่สะดวก รวดเร็ว ก็มีมากมาย อีกทั้งตัวบริษัทเองก็เป็นผู้นำด้านการสื่อสารอยู่แล้ว ทำไมยังเลือกที่จะใช้วิธีส่งจดหมายเพื่อขู่จะดำเนินการทางกฏหมาย?
ทำไมขณะที่เป็นลูกค้าคุณเรียกค่าบริการด้วยมาตรฐานแบบหนึ่ง พอเลิกเป็นลูกค้า(ซึ่งจริงๆยังเป็นอยู่ในบริการด้านอื่นๆอยู่)คุณกลับปฏิบัติกับลูกค้าด้วยอีกมาตรฐานหนึ่ง ....
นี่คือปรัชญาในการดำเนินกิจการ และดูแลลูกค้าของบริษัทใช่หรือไม่? ผมเองยินดีจ่ายค่าบริการทั้งหมดที่เกิดขึ้นจริง และผมเชื่อว่าลูกค้าจำนวนมากก็ยินดีจะจ่ายเช่นกัน แต่กระบวนการในการแจ้งหนี้นั้นมีวิธีการง่ายๆและให้เกียรติลูกค้ามากมายหลายวิธี ทำไมถึงใช้วิธีนี้ ทั้งๆที่ตัวบริษัทคุณเองก็เคยแสดงให้เห็นมาแล้วว่าสามารถใช้วิธีเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สุดท้ายได้รับการแจ้งจากพนักงานว่าถ้าทำการร้องเรียนที่สาขาจะต้องเขียนเรื่องด้วยลายมือ ผมเลยขอมาพิมพ์ในพันทิพย์แทนเพราะสะดวกกว่า และการร้องเรียนในพันทิพย์นั้นจะได้รับการตอบที่เร็วกว่า
ต้องขอขอบคุณ วรธัช นุ่มดี จากสาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้ามากๆที่ให้บริการ รวมถึงให้ข้อมูลต่างๆในวันนี้ ผมประทับใจในการให้บริการมากๆครับ