เกริ่นนำก่อนครับ ว่ารีวิวนี้เป็นครั้งแรกในการรีวิวอาหารอย่างเป็นทางการครับ และเรื่องรสชาติอาหารเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลครับ

ร้านที่ไปครั้งนี้คือ ร้าน Met Cafe ตั้งอยู่ตรงในซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55) หาง่ายอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลคามิลเลียน https://goo.gl/maps/tri2Lqd6Rm92

ตอนแรกเห็นนึกว่าร้านขายดอกไม้กับเสื้อผ้าครับ จัดร้านน่ารัก (มารู้ระหว่างที่เจ้าของร้านแนะนำคือ ตัวเจ้าของร้านเป็นดีไซน์เนอร์ที่รักการทำอาหารและอีกคนชอบจัดดอกไม้ เลยมีเสื้อผ้าที่ออกแบบ และการจัดดอกไม้ที่เข้ากับร้านครับ)
บรรยากาศในร้านรู้สึกเหมือนกินข้าวอยู่ในสวนเลย





ในส่วนเมนูอาหารทำได้น่ารัก แปลกตาเหมือนนั่งดูแมกกาซีนอ่านเพลิน ๆ





ร้าน Met cafe อาหารจะค่อนข้างหลากหลายจากหลายๆที่ ไม่ใช่แค่อาหารตะวันตก อาหารไทย เวียดนาม และยังมีอาหารแอฟริกันด้วย ซึ่งเป็นจานแนะนำในรีวิวด้วยครับ

อาหารที่เจ้าของร้านแนะนำมี ซุปหัวหอม เพนเน่ผัดกับสะตอกุ้งย่าง ไก่ย่างสไตล์แอฟริกัน เฝอเนื้อ ส่วนขนมหวานมี 2 อย่างคือ ทาร์ตกล้วย กับ Apple Croustade

อาหารจานแรก รองท้อง "ซุปหัวหอม" Met's 6 Hour Onion Soup


เห็นทีแรก ชอบเรื่องการใช้ภาชนะมากครับ รสชาติยังไม่รู้ แต่โปะด้วยชีสเยอะมาก

พอได้ลองทานตอนร้อน รสชาติ ออกเค็มนิดๆ และมีกลิ่นของซุปวัว กินร้อนๆกับขนมปังจะเข้ากันดี (ที่ร้านมีเสิร์ฟให้) ตักขึ้นมาตอนร้อนๆนี่ ชีสยืดมาเลยครับ ชีสให้เยอะจริงๆ แต่มีอย่างอื่นรออยู่อีกเลยไม่กล้ากินเยอะ เดี๋ยวอิ่มก่อน
โดยรวมแล้วเป็นซุปหัวหอมที่ดี แต่ถ้าคนกินชีสไม่เก่งแนะนำให้บอกน้องจดออเดอร์ให้ลดชีสครับ

พยายามจะถ่ายให้ดูสีของซุปและชีสที่ให้มา

เริ่มอาหารจานหลัก เพนเน่ผัดกับสะตอกุ้งย่าง
ผัดสะตอกับพวกข้าว เคยกินมาก่อนครับ แต่กับเพนเน่พึ่งเคยกินครั้งแรก รสชาติพริกแกงหอมไม่เผ็ดเกินไป คลุกเคล้าได้เข้ากันมีหมูสับด้วย กะปิใส่ได้พอดีๆ กินเพนเน่พร้อมกับสะตอก็มันๆ เป็นจานที่ชอบที่สุด กินแล้วไม่รู้สึกเลี่ยน กุ้งก็ย่างได้ดี สด

จานต่อมา เฝอเนื้อ (Australian Ribeye Pho)

เฝอชามนี้ เนื้อที่ใช้เป็นของออสเตรเลีย น้ำซุปก็ใช้กระดูกวัวต้มนานเป็นสิบชั่วโมงครับ มาพร้อมเครื่องเคียง เครื่องปรุงและผักสด
รสชาติ ตอนยังไม่ปรุงผมว่าน้ำซุปค่อนข้างติดหวาน ส่วนตัวไม่กินหวาน เส้นลวกได้ดี ส่วนเนื้อก็หั่นได้ใหญ่และบาง (เค้าไม่ได้ใช้การลวกเค้าใช้ความร้อนของน้ำซุปราดลงบนเนื้อครับ เนื้อเลยได้ความนุ่มและหวาน)

แต่พอลองปรุงด้วยน้ำส้มสายชู น้ำกะปิ และมีเครื่องเคียงเป็นหอมดอง ผมว่ารสชาติน้ำซุปกับดีขึ้น ไม่หวานไปแล้ว

ชามนี้คนชอบสายเนื้อ ผมว่าน่าลองครับ

อาหารคาวจานสุดท้าย Signature ของร้านเลยครับ "African Rhapsody Chicken" ผมเรียกไก่ย่างสไตล์แอฟริกัน จานนี้มีดีที่น้ำพริกครับ

พอมาเสิร์ฟตอนแรกงงว่าทำไมมีกล้วยหอมย่าง เจ้าของร้านเลยแนะนำวิธีทานครับ ในชุดจะมีข้าวสวย กล้วยย่าง และน้ำพริกสูตรของทางร้าน พริกที่ใช้เป็นพริกเม็กซิกันครับ หอมร้อนมาก

วิธีกินคือเอาข้าวมาคลุกผสมกับน้ำยำสีขาวและเขียว(น่าจะทำจากใบโหระพา) และพริกเม็กซิกันนิดหน่อย ตอนกินก็กินพร้อมกันกับกล้วยและไก่พร้อมพริก จะได้รสชาติของทุกอย่างพร้อมกันเลย ส่วนตัวแล้วชอบกลิ่นของพริกนี้มันหอมติดปากและคอครับ ไม่เผ็ดขนาดพริกขี้หนูไทย

ส่วนเนื้อไก่ใช้เนื้อติดสะโพกย่างครับ ย่างได้ดีเลย เนื้อนุ่มแห้งพอดี รสชาติอร่อย กินเปล่าๆก็ได้
ถ้าได้มาร้านนี้ผมแนะนำให้ลองสั่งกินดูครับ แปลกและอร่อย

มาถึงขนมหวาน จานแรกที่มาคือ ทาร์ตกล้วยโปะด้วยไอศครีมวานิลาทำเองของทางร้าน (Banana Butterscotch upside down tart)

ส่วนตัวของหวานไม่ใช่ทางเลย แต่ได้ลองกินแล้วผิดคาด กลายเป็นจานแรกที่ต้องสั่งถ้ามารอบหน้า เนื้อแป้งอบได้กำลังดีกรอบและนุ่มกินพร้อมกับกล้วยอบและไอศครีมฟินมากเลย มันร้อนๆเย็นๆหวานๆหอมๆ เออมันใช่เลย

จานสุดท้าย "Apple Croustade" แป้งอบใส่ไอศครีมวางบนแอปเปิ้ลฝานบางๆอบราดคาราเมล ไอศครีมรสที่ใช้คือ รัมเรซิน

ตอนลองทานคือแป้งทำได้บางและกรอบ อบมาใหม่ๆหอมครับ กินพร้อมกับไอศครีมและแอปเปิ้ลอบก็อร่อย แต่ส่วนตัวชอบจานแรกมากกว่ากินแล้วรู้สึกสดชื่นกว่า

บทสรุป ตามคหสต. ขอแบ่งรวมๆ ตามข้างล่างนี้ครับ
1. สถานที่ ให้คะแนนเต็มกับการจัดร้านความตั้งใจนำเสนอ ร้านมีที่จอดรถด้านหลังสะดวกครับไม่ต้องจอดริมถนน
2. คุณภาพอาหาร ดีมาก
3. รสชาติ ดี
4. ราคา จากเมนูที่ได้ลองทานก็ราคา 300 บาทขึ้นทุกจาน
5. ความหลากหลายของอาหาร คือเหมาะกับทุกเพศทุกวัยครับ