เรามีปัญหากับเรื่องความอ้วนค่ะ
ไม่ได้เป็นปัญหากับตัวเองนะคะ แต่มันเป็นปัญหากับคนอื่นมากกว่ามั้ง
เราแต่งงานแล้วมีลูกหนึ่งคน โดยรูปร่างตัวเองปกติก็สูงใหญ่อยู่แล้ว
แต่ตอนนี้น้ำหนัก 68 ส่วนสูง 167 ก็อ้วนแหละ แต่ตัวเราเองไม่ได้เดือดร้อนนะ
คนที่เดือดร้อนน่าจะเป็นสามีเรามากกว่า พูดอยู่นั่นแหละ พูดจนเรารู้สึกว่าเป็นปมด้อยไปแล้ว
ตัวเขาออกกำลังกายอย่างงั้นอย่างงี้ ดูคลิปนี้สิเขาลดแบบนั้นแบบนี้ คนนั้นผอมดูดี
คนนั้นดูแลตัวเองดี คนนั้นคนนี้เขายังทำได้ แล้วงัย...โว้ยเบื่อจะฟัง
อยากให้เราไปออกกำลังกาย ไปเข้ายิม ดูแลตัวเองมากกว่านี้
เขาบอกเพราะเราไม่เห็นสนใจดูแลตัวเองเหมือนคนอื่นๆ ...คือ
พอเราฟังบ่อยๆ เข้า เราก็เบื่อนะถ้ามันจะอ้วนแบบนี้แล้วรับไม่ได้
เราก็อยู่คนเดียวได้นะ ดีกว่าต้องมานอยรู้สึกเป็นปมด้อยทุกวัน
การที่จะดูแลตัวเองเข้ายิม ออกกำลังกายทุกวันนี่มันยากเหมือนกันนะสำหรับเรา
เช้าตื่นมาก็ดูเรื่องลูกส่งไปโรงเรียนเสร็จ กลับมาทำงานบ้านก็ครึ่งวันแล้ว
กว่าจะได้มาทำงานหาตังเลี้ยงปากเลี้ยงท้องอีก แปปเดียวก็เวลาเย็นรับลูกกลับบ้าน
มันก็ขี้เกียจจะทำไรแล้วป่าว โดยรวมแล้วเรื่องที่เราต้องรับผิดชอบเป็นหลักเลย
ก็คือเรื่องงานบ้าน เรื่องต่างๆในบ้านทุกอย่าง ตั้งแต่ทำความสะอาด ซักผ้า รีดผ้า
จ่ายค่าใช้จ่าย อะไรต้องจ่ายเมื่อไร ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าบ้าน ต้องจำคนเดียว
สามีไม่ต้องทำอะไร นานๆทีถ้าเราติดงานจริงๆ ก็จะทำบ้าง
เรื่องลูก สามีก็ช่วยนะคะ เท่าที่เขาทำได้ เรื่องงานของตัวเองก็ปวดหัวเราทำบัญชีอิสระ
เราไม่ได้ใช้เงินสามีนะคะ สามีไม่ได้ให้เงินเราใช้ จะให้ในส่วนของลูก
แค่เขาใช้ในงานกับส่วนตัวของเขาก็หมดแล้ว เราหาเองใช้เองรับผิดชอบตัวเอง
งานที่เราต้องรับผิดชอบก็ไม่น้อยนะคะ
ส่วนสามีเราเขาก็ตื่นมาออกกำลังกาย เขาเป็นคนตื่นเช้ารักสุขภาพ ดูแลลูกนิดหน่อย
แล้วก็ไปทำงาน กลับบ้านเย็นไม่ต้องทำอะไร เล่นเกมส์ กินเหล้า ประมาณนี้
วันไหนเขาหยุดเขาก็ว่าง ไปตีกอล์ฟได้สบายๆ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร
แล้วเราละทำแบบนี้บ้างได้ป่าว
พอมันโดนแบบนี้สะสมมานานๆ เราก็เบื่อมากจริงๆนะ อยากจะขอแยกกันอยู่เลย
เราจะได้ไม่ต้องมานอยอะไรแบบนี้อีก จะอ้วนจนตัวแตกก็ได้ ไม่ต้องแคร์ใครป่ะ
จะได้เหนื่อยน้อยลงด้วย คิดว่าจะดีไหมคะ
เบื่อค่ะ แค่อ้วนนี่มันผิดมากหรืองัย
ไม่ได้เป็นปัญหากับตัวเองนะคะ แต่มันเป็นปัญหากับคนอื่นมากกว่ามั้ง
เราแต่งงานแล้วมีลูกหนึ่งคน โดยรูปร่างตัวเองปกติก็สูงใหญ่อยู่แล้ว
แต่ตอนนี้น้ำหนัก 68 ส่วนสูง 167 ก็อ้วนแหละ แต่ตัวเราเองไม่ได้เดือดร้อนนะ
คนที่เดือดร้อนน่าจะเป็นสามีเรามากกว่า พูดอยู่นั่นแหละ พูดจนเรารู้สึกว่าเป็นปมด้อยไปแล้ว
ตัวเขาออกกำลังกายอย่างงั้นอย่างงี้ ดูคลิปนี้สิเขาลดแบบนั้นแบบนี้ คนนั้นผอมดูดี
คนนั้นดูแลตัวเองดี คนนั้นคนนี้เขายังทำได้ แล้วงัย...โว้ยเบื่อจะฟัง
อยากให้เราไปออกกำลังกาย ไปเข้ายิม ดูแลตัวเองมากกว่านี้
เขาบอกเพราะเราไม่เห็นสนใจดูแลตัวเองเหมือนคนอื่นๆ ...คือ
พอเราฟังบ่อยๆ เข้า เราก็เบื่อนะถ้ามันจะอ้วนแบบนี้แล้วรับไม่ได้
เราก็อยู่คนเดียวได้นะ ดีกว่าต้องมานอยรู้สึกเป็นปมด้อยทุกวัน
การที่จะดูแลตัวเองเข้ายิม ออกกำลังกายทุกวันนี่มันยากเหมือนกันนะสำหรับเรา
เช้าตื่นมาก็ดูเรื่องลูกส่งไปโรงเรียนเสร็จ กลับมาทำงานบ้านก็ครึ่งวันแล้ว
กว่าจะได้มาทำงานหาตังเลี้ยงปากเลี้ยงท้องอีก แปปเดียวก็เวลาเย็นรับลูกกลับบ้าน
มันก็ขี้เกียจจะทำไรแล้วป่าว โดยรวมแล้วเรื่องที่เราต้องรับผิดชอบเป็นหลักเลย
ก็คือเรื่องงานบ้าน เรื่องต่างๆในบ้านทุกอย่าง ตั้งแต่ทำความสะอาด ซักผ้า รีดผ้า
จ่ายค่าใช้จ่าย อะไรต้องจ่ายเมื่อไร ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าบ้าน ต้องจำคนเดียว
สามีไม่ต้องทำอะไร นานๆทีถ้าเราติดงานจริงๆ ก็จะทำบ้าง
เรื่องลูก สามีก็ช่วยนะคะ เท่าที่เขาทำได้ เรื่องงานของตัวเองก็ปวดหัวเราทำบัญชีอิสระ
เราไม่ได้ใช้เงินสามีนะคะ สามีไม่ได้ให้เงินเราใช้ จะให้ในส่วนของลูก
แค่เขาใช้ในงานกับส่วนตัวของเขาก็หมดแล้ว เราหาเองใช้เองรับผิดชอบตัวเอง
งานที่เราต้องรับผิดชอบก็ไม่น้อยนะคะ
ส่วนสามีเราเขาก็ตื่นมาออกกำลังกาย เขาเป็นคนตื่นเช้ารักสุขภาพ ดูแลลูกนิดหน่อย
แล้วก็ไปทำงาน กลับบ้านเย็นไม่ต้องทำอะไร เล่นเกมส์ กินเหล้า ประมาณนี้
วันไหนเขาหยุดเขาก็ว่าง ไปตีกอล์ฟได้สบายๆ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร
แล้วเราละทำแบบนี้บ้างได้ป่าว
พอมันโดนแบบนี้สะสมมานานๆ เราก็เบื่อมากจริงๆนะ อยากจะขอแยกกันอยู่เลย
เราจะได้ไม่ต้องมานอยอะไรแบบนี้อีก จะอ้วนจนตัวแตกก็ได้ ไม่ต้องแคร์ใครป่ะ
จะได้เหนื่อยน้อยลงด้วย คิดว่าจะดีไหมคะ