ตอนที่ผ่านมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ 24 : ชายลึกลับ
https://ppantip.com/topic/38288795
=====================================================================================
ตอนที่ 25 : ผู้กระทำ?
พอชายลึกลับปรากฏตัวก็เกิดเรื่องขึ้นตามมา
สามวันหลังจากนั้นเกิดเหตุขึ้นที่ชั้นสองของตึกอุตสาหกรรมที่เป็นบ่อนพนัน
แม็กกี้ผู้คุมตึกอุตสาหกรรมที่ชั้นนี้ต้องอารมณ์แปรเปลี่ยน ความยียวนขี้เล่นที่เคยมีหายไปหมด
สี่ขุนพล เฮอมิต ใหญ่ และสู้คราใดต้องปราชัย เชน ผู้คุมตึกอุตสาหกรรมอีกคน ต้องรีบรุดมาดูที่นี่
“เกิดอะไร!!”
ทั้งสองพูดประโยคเดียวกัน แล้วตรงไปหาแม็กกี้ทันที
“แม็กกี้นี่มันอะไรกันเนี่ย..” เชนเอ่ยถาม
“ไม่รู้” แม็กกี้ส่ายหน้าท่าทางไม่สบอารมณ์ “แต่ยังไงฉันต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นทำ”
“อืม..” เชนมองเขา
ซึ่งขณะที่ทั้งสองคุยกัน ใหญ่ก็เดินสำรวจพื้นที่กระจัดกระจายนั้น แล้วพูดขึ้นว่า
“ของมีค่ายังอยู่ มีแต่ของเสียหายอย่างเดียว แสดงว่าคนทำมันไม่ต้องการเงินหรือของอะไร แต่มันต้องการจะหยามพวกสายอุตสาหกรรม”
“ครับ” ทั้งสองผู้คุมตึกอุตสาหกรรมรับคำ แล้วแม็กกี้ก็ถามขึ้นว่า
“พี่ใหญ่คิดว่าเป็นใครล่ะครับ ที่กล้ามาหยามพวกเราถึงเพียงนี้”
ฤาษีหนุ่มส่ายหน้า “ยังไม่รู้ ปกติแล้วที่ตึกอุตสาหกรรมแห่งนี้ก็ไม่มีใครกล้ามายุ่งอยู่แล้ว”
“อืม.. มันจะเป็นใครนั้น ผมไม่สนหรอก” แม็กกี้พูดต่อทันที “แต่ถ้าผมรู้ว่าเป็นใคร ผมจะจัดการมันแน่!”
“แล้วเมื่อวานมีใครมาที่ตึกอุตฯของเราบ้างล่ะ?” ใหญ่ถาม
“ก็ไม่มีใครเท่าไหร่นะครับ” หนุ่มนักเล่นเกมตอบ “นักพนันที่มาก็ขาประจำของเรา พวกนั้นคงไม่กล้าทำอะไรแบบนี้หรอก”
“ยังมีใครอีกมั้ย?”
“มีอีกก็เป็นคุณพี่แอล เขามาเล่นพนันได้สักพัก แล้วก็กลับไป”
“แอลเหรอ..” ใหญ่ทำท่าครุ่นคิด “ไม่น่าใช่มัน เพราะมันนั่งรถเข็น ไม่สามารถทำข้าวของเสียหายถึงขนาดนี้ได้ อีกทั้งบริเวณนี้ก็ไม่มีรอยล้อรถเข็นสักเท่าไหร่ด้วย”
“เกี่ยวอะไรกับรอยล้อหรือครับ?” เชนเอ่ยถาม
“ก็ถ้าทำลายข้าวของถึงขนาดนี้ต้องมีการขยับมากกว่านี้ แต่นี่มีแค่รอยนิด ๆ หน่อย ๆ คงไม่ใช่มันหรอก อีกทั้งมันก็เป็นผู้รักษาการณ์แทนแจ็ค คงไม่กล้าทำร้ายพวกเดียวกันแน่”
“แล้วเรื่องนี้พี่ใหญ่จะจัดการยังไงครับ?” เชนถามต่อ
“คงต้องหาตัวการก่อน ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอะไร”
“ยังมีอีกคนที่มาที่นี่ครับ” แม็กกี้พูดสวนขึ้นมา
“ใคร?”
“ป๊อกกี้ไง มันมากับแกนี่..เชน”
“งั้นเหรอ..” ใหญ่พยักหน้ารับ เอามือลูบคาง
“ไม่ใช่! ป๊อกกี้ไม่มีทางทำเด็ดขาด” เชนรีบออกตัวแทนทันที
“ไม่รู้โว้ย!” แม็กกี้พูดใส่หนุ่มผมตั้ง “ถ้าเป็นมันฉันก็จัดการแน่ ถึงเป็นสี่ขุนพลก็ใช่ว่าจะชนะพวกเราสายอุตฯได้ง่าย ๆ”
ที่แม็กกี้บอกว่า “ถึงเป็นสี่ขุนพลก็ใช่ว่าจะชนะพวกเราสายอุตฯได้ง่าย ๆ” ก็เพราะว่าสายอุตสาหกรรมแห่งนี้เป็นที่รวมของผู้แข็งแกร่งมากที่สุดในโรงเรียนประจิมสวัสดิ์ ระดับฝีมือของแต่ละคนก็ไม่ธรรมดา ซึ่งถ้าเทียบกับสายอื่น ๆ ก็พบได้ว่าระดับสูงกว่ายิ่ง ดังนั้น ถ้าแม็กกี้สามารถเอาชนะป๊อกกี้ที่เป็นสี่ขุนพลได้ก็ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายใด ๆ
“ยังไงก็ไม่ใช่ป๊อกกี้!” เชนยังเถียงต่อ
“เอาน่า... พวกแกเงียบเถอะ” ใหญ่แทรกการเถียงของทั้งสอง แล้วหันไปหาหนุ่มนักเล่นเกม “แม็กกี้ แกก็หาข้อมูลเพิ่มหน่อยละกัน ได้เบาะแสอะไรบอกฉันด้วย”
เขาว่าแล้วก็ก้าวเดินขึ้นบันไดไปชั้นสามของตัวเอง
แม็กกี้เมื่อได้รับคำสั่งจากใหญ่อย่างนี้ เขาจึงเดินตรวจค้นพื้นที่ที่โดนทำลายนั้นอีกครั้ง ซึ่งเชนก็เช่นเดียวกัน เขาช่วยเพื่อนนักเล่นเกมค้นหาหลักฐานด้วย
แต่เหมือนจะไม่ได้ความอะไร เพราะไม่มีร่องรอยอะไรที่บ่งชี้ตัวผู้กระทำการครั้งนี้เลย อีกทั้งแม็กกี้ก็ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่สามารถตรวจค้นได้ละเอียดถี่ถ้วนอีกด้วย
“ไม่มีอารมณ์โว้ย! ไปหาอะไรเล่นแก้เครียดดีกว่า!”
แม็กกี้ว่าแล้วก็ก้าวเดินลงบันไดอย่างไม่สนใจใคร และไม่มีใครกล้าขัดด้วย ปล่อยให้เชนง่วนกับการหาหลักฐานต่อไป
สู้คราใดต้องปราชัย เชน ตรวจหาไปได้สักพักก็ยังไม่พบอะไร จึงหยุดค้นหา
แต่เมื่อเขาหยุดมือ สายตาก็บังเอิญมองเห็นสิ่งหนึ่งเข้า
พอเห็นของสิ่งของนั้น เชนต้องขยี้ตา เพื่อมองของสิ่งนั้นให้ชัดเจนอีกที
“เป็นไปไม่ได้”
หนุ่มผมตั้งเอ่ยออกมา แล้วเก็บของสิ่งนั้นเข้ากระเป๋ากางเกงอย่างรวดเร็ว
แต่ของที่เชนเห็นเป็นอะไร?
เหตุใดของสิ่งนั้นทำให้เชนต้องพูดเช่นนี้?
สักพักเชนก็เดินลงจากชั้นสองนี้ไปด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม
หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ชั้นสองของตึกอุตสาหกรรมก็เกิดเรื่องขึ้นอีก
คราวนี้เกิดเรื่องขึ้นภายในห้องชมรมฟุตบอลตึกเจ็ด
สปอร์ทแมน เจมส์ สี่ขุนพลแห่งสายพละ ผู้เป็นประธานชมรมฟุตบอล ต้องสีหน้าแปรเปลี่ยน อารมณ์ฉีดพุ่งจนหน้าแดงกล่ำ
ซึ่งพอเกิดเรื่องขึ้นที่นี่ จักรพรรดิ ปรี เสนาธิการ เจ และอัจฉริยะที่สอง แอล ก็รุดมาทันที
“ใครเป็นคนทำเนี่ย..” เจพูดขึ้นเมื่อเห็นสภาพห้องชมรมฟุตบอลที่ข้าวของถูกทำลาย กระจุยกระจาดเละเทะนั้น
“ยังไม่รู้” เจมส์ตอบเสียงเรียบแต่ดัง
“แล้วมีใครน่าสงสัยมั้ยล่ะ?” ปรีเอ่ยถาม
“ไม่รู้” เจมส์ตอบคำเดิม “แต่ถ้าฉันรู้ว่าใคร ฉันไม่เอาไว้แน่”
“อืม..”
“ฉันว่าเราลองหาหลักฐานดีมั้ย? เผื่อเจออะไรที่บ่งชี้คนทำได้” แอลพูดขึ้นบ้าง
“ก็ดี ช่วยกันหาเถอะ” ปรีเห็นด้วย
ดังนั้น ทั้งหมดจึงช่วยกันหาหลักฐานร่วมกับเจมส์และสมาชิกชมรมฟุตบอล
พวกเขาตรวจค้นดูทุกซอกทุกมุมภายในห้องชมรมฟุตบอล แต่แล้วก็มีสมาชิกของชมรมฟุตบอลคนหนึ่งพบเจอสิ่งของบางอย่าง
“พี่เจมส์ ผมเจอนี่ครับ” เขานำของที่พบให้เจมส์ทันที
เมื่อหนุ่มนักกีฬารับของสิ่งนั้นมาก็ต้องประหลาดใจ เพราะไม่มีทางพบของสิ่งนี้ที่ห้องชมรมฟุตบอลนี้แน่
มันคือ บุหรี่มวนหนึ่งที่สูบไปแล้วครึ่งหนึ่ง
เหตุที่ไม่มีทางพบบุหรี่ที่ห้องชมรมฟุตบอลก็เพราะว่าที่ชมรมฟุตบอลนี้มีกฎว่า สมาชิกทุกคนห้ามสูบบุหรี่เด็ดขาด ดังนั้น ไม่มีทางจะพบเจอบุหรี่ภายในห้องชมรมฟุตบอลอย่างแน่นอน
“ยี่ห้อลัคกี้สไตรท์นี่” เจมส์พูดขึ้น เมื่อสังเกตดูยี่ห้อบุหรี่บริเวณก้นกรองบุหรี่มวนนี้ ซึ่งพบเป็นยี่ห้อลัคกี้สไตรท์
เมื่อปรีได้ยินเจมส์พูดถึงยี่ห้อบุหรี่ก็มีอาการตกใจ รีบขอบุหรี่มวนนั้นจากหนุ่มนักกีฬาทันที
“จะเป็นไปได้หรือนี่” ปรีครุ่นคิด พลางจ้องมองบุหรี่มวนนั้นอย่างละเอียด
“ทำไมล่ะ?” เจเอ่ยถาม เพราะไม่เข้าใจที่ปรีพูด
“ก็..” ปรีพยายามจะอธิบาย แต่เจมส์กลับพูดสวนขึ้นมาก่อน
“ใหญ่เป็นคนทำหรือนี่..”
“หา!” เจตกใจ “เป็นใหญ่ได้ไง?”
“ก็อย่างนี้ไงเจ” แอลพูดขึ้นมา “ในโรงเรียนประจิมสวัสดิ์น่ะ ถึงจะมีคนสูบบุหรี่เยอะ แต่ก็ไม่มีใครที่สูบบุหรี่ยี่ห้อลัคกี้สไตรท์ เพราะเป็นบุหรี่ที่ค่อนข้างหายาก ไม่มีขายโดยทั่วไป ซึ่งผู้ที่สูบบุหรี่ลัคกี้สไตรท์มีเพียงคนเดียว นั่นคือ ใหญ่”
“แต่ก็ใช่ว่าคนทำจะเป็นใหญ่นี่”
“อืม.. มันก็ใช่” แอลบอก “แต่ก็ขึ้นอยู่กับเจมส์ว่าจะทำอย่างไร เพราะเรื่องนี้มันอยู่ในความรับผิดชอบของเขา”
พอพูดถึงตอนนี้ เจมส์กลับมีสีหน้าดีขึ้นราวกับอารมณ์ที่พุ่งพ่านเมื่อกี้จางหายไป เขาดึงซิปเสื้อแจ็คเก็ตยี่ห้ออาดิดาสที่ใส่อยู่ขึ้น พร้อมพูดขึ้นว่า
“ถ้าเป็นใหญ่ก็ดี.. อยากสู้กับมันมานานแล้ว”
(มีต่อครับ)
TWO TOP สองอันตราย - [บทความวุ่นวายในประจิม] - ตอนที่ 25 : ผู้กระทำ?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
=====================================================================================
ตอนที่ 25 : ผู้กระทำ?
พอชายลึกลับปรากฏตัวก็เกิดเรื่องขึ้นตามมา
สามวันหลังจากนั้นเกิดเหตุขึ้นที่ชั้นสองของตึกอุตสาหกรรมที่เป็นบ่อนพนัน
แม็กกี้ผู้คุมตึกอุตสาหกรรมที่ชั้นนี้ต้องอารมณ์แปรเปลี่ยน ความยียวนขี้เล่นที่เคยมีหายไปหมด
สี่ขุนพล เฮอมิต ใหญ่ และสู้คราใดต้องปราชัย เชน ผู้คุมตึกอุตสาหกรรมอีกคน ต้องรีบรุดมาดูที่นี่
“เกิดอะไร!!”
ทั้งสองพูดประโยคเดียวกัน แล้วตรงไปหาแม็กกี้ทันที
“แม็กกี้นี่มันอะไรกันเนี่ย..” เชนเอ่ยถาม
“ไม่รู้” แม็กกี้ส่ายหน้าท่าทางไม่สบอารมณ์ “แต่ยังไงฉันต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นทำ”
“อืม..” เชนมองเขา
ซึ่งขณะที่ทั้งสองคุยกัน ใหญ่ก็เดินสำรวจพื้นที่กระจัดกระจายนั้น แล้วพูดขึ้นว่า
“ของมีค่ายังอยู่ มีแต่ของเสียหายอย่างเดียว แสดงว่าคนทำมันไม่ต้องการเงินหรือของอะไร แต่มันต้องการจะหยามพวกสายอุตสาหกรรม”
“ครับ” ทั้งสองผู้คุมตึกอุตสาหกรรมรับคำ แล้วแม็กกี้ก็ถามขึ้นว่า
“พี่ใหญ่คิดว่าเป็นใครล่ะครับ ที่กล้ามาหยามพวกเราถึงเพียงนี้”
ฤาษีหนุ่มส่ายหน้า “ยังไม่รู้ ปกติแล้วที่ตึกอุตสาหกรรมแห่งนี้ก็ไม่มีใครกล้ามายุ่งอยู่แล้ว”
“อืม.. มันจะเป็นใครนั้น ผมไม่สนหรอก” แม็กกี้พูดต่อทันที “แต่ถ้าผมรู้ว่าเป็นใคร ผมจะจัดการมันแน่!”
“แล้วเมื่อวานมีใครมาที่ตึกอุตฯของเราบ้างล่ะ?” ใหญ่ถาม
“ก็ไม่มีใครเท่าไหร่นะครับ” หนุ่มนักเล่นเกมตอบ “นักพนันที่มาก็ขาประจำของเรา พวกนั้นคงไม่กล้าทำอะไรแบบนี้หรอก”
“ยังมีใครอีกมั้ย?”
“มีอีกก็เป็นคุณพี่แอล เขามาเล่นพนันได้สักพัก แล้วก็กลับไป”
“แอลเหรอ..” ใหญ่ทำท่าครุ่นคิด “ไม่น่าใช่มัน เพราะมันนั่งรถเข็น ไม่สามารถทำข้าวของเสียหายถึงขนาดนี้ได้ อีกทั้งบริเวณนี้ก็ไม่มีรอยล้อรถเข็นสักเท่าไหร่ด้วย”
“เกี่ยวอะไรกับรอยล้อหรือครับ?” เชนเอ่ยถาม
“ก็ถ้าทำลายข้าวของถึงขนาดนี้ต้องมีการขยับมากกว่านี้ แต่นี่มีแค่รอยนิด ๆ หน่อย ๆ คงไม่ใช่มันหรอก อีกทั้งมันก็เป็นผู้รักษาการณ์แทนแจ็ค คงไม่กล้าทำร้ายพวกเดียวกันแน่”
“แล้วเรื่องนี้พี่ใหญ่จะจัดการยังไงครับ?” เชนถามต่อ
“คงต้องหาตัวการก่อน ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอะไร”
“ยังมีอีกคนที่มาที่นี่ครับ” แม็กกี้พูดสวนขึ้นมา
“ใคร?”
“ป๊อกกี้ไง มันมากับแกนี่..เชน”
“งั้นเหรอ..” ใหญ่พยักหน้ารับ เอามือลูบคาง
“ไม่ใช่! ป๊อกกี้ไม่มีทางทำเด็ดขาด” เชนรีบออกตัวแทนทันที
“ไม่รู้โว้ย!” แม็กกี้พูดใส่หนุ่มผมตั้ง “ถ้าเป็นมันฉันก็จัดการแน่ ถึงเป็นสี่ขุนพลก็ใช่ว่าจะชนะพวกเราสายอุตฯได้ง่าย ๆ”
ที่แม็กกี้บอกว่า “ถึงเป็นสี่ขุนพลก็ใช่ว่าจะชนะพวกเราสายอุตฯได้ง่าย ๆ” ก็เพราะว่าสายอุตสาหกรรมแห่งนี้เป็นที่รวมของผู้แข็งแกร่งมากที่สุดในโรงเรียนประจิมสวัสดิ์ ระดับฝีมือของแต่ละคนก็ไม่ธรรมดา ซึ่งถ้าเทียบกับสายอื่น ๆ ก็พบได้ว่าระดับสูงกว่ายิ่ง ดังนั้น ถ้าแม็กกี้สามารถเอาชนะป๊อกกี้ที่เป็นสี่ขุนพลได้ก็ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายใด ๆ
“ยังไงก็ไม่ใช่ป๊อกกี้!” เชนยังเถียงต่อ
“เอาน่า... พวกแกเงียบเถอะ” ใหญ่แทรกการเถียงของทั้งสอง แล้วหันไปหาหนุ่มนักเล่นเกม “แม็กกี้ แกก็หาข้อมูลเพิ่มหน่อยละกัน ได้เบาะแสอะไรบอกฉันด้วย”
เขาว่าแล้วก็ก้าวเดินขึ้นบันไดไปชั้นสามของตัวเอง
แม็กกี้เมื่อได้รับคำสั่งจากใหญ่อย่างนี้ เขาจึงเดินตรวจค้นพื้นที่ที่โดนทำลายนั้นอีกครั้ง ซึ่งเชนก็เช่นเดียวกัน เขาช่วยเพื่อนนักเล่นเกมค้นหาหลักฐานด้วย
แต่เหมือนจะไม่ได้ความอะไร เพราะไม่มีร่องรอยอะไรที่บ่งชี้ตัวผู้กระทำการครั้งนี้เลย อีกทั้งแม็กกี้ก็ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่สามารถตรวจค้นได้ละเอียดถี่ถ้วนอีกด้วย
“ไม่มีอารมณ์โว้ย! ไปหาอะไรเล่นแก้เครียดดีกว่า!”
แม็กกี้ว่าแล้วก็ก้าวเดินลงบันไดอย่างไม่สนใจใคร และไม่มีใครกล้าขัดด้วย ปล่อยให้เชนง่วนกับการหาหลักฐานต่อไป
สู้คราใดต้องปราชัย เชน ตรวจหาไปได้สักพักก็ยังไม่พบอะไร จึงหยุดค้นหา
แต่เมื่อเขาหยุดมือ สายตาก็บังเอิญมองเห็นสิ่งหนึ่งเข้า
พอเห็นของสิ่งของนั้น เชนต้องขยี้ตา เพื่อมองของสิ่งนั้นให้ชัดเจนอีกที
“เป็นไปไม่ได้”
หนุ่มผมตั้งเอ่ยออกมา แล้วเก็บของสิ่งนั้นเข้ากระเป๋ากางเกงอย่างรวดเร็ว
แต่ของที่เชนเห็นเป็นอะไร?
เหตุใดของสิ่งนั้นทำให้เชนต้องพูดเช่นนี้?
สักพักเชนก็เดินลงจากชั้นสองนี้ไปด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม
หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ชั้นสองของตึกอุตสาหกรรมก็เกิดเรื่องขึ้นอีก
คราวนี้เกิดเรื่องขึ้นภายในห้องชมรมฟุตบอลตึกเจ็ด
สปอร์ทแมน เจมส์ สี่ขุนพลแห่งสายพละ ผู้เป็นประธานชมรมฟุตบอล ต้องสีหน้าแปรเปลี่ยน อารมณ์ฉีดพุ่งจนหน้าแดงกล่ำ
ซึ่งพอเกิดเรื่องขึ้นที่นี่ จักรพรรดิ ปรี เสนาธิการ เจ และอัจฉริยะที่สอง แอล ก็รุดมาทันที
“ใครเป็นคนทำเนี่ย..” เจพูดขึ้นเมื่อเห็นสภาพห้องชมรมฟุตบอลที่ข้าวของถูกทำลาย กระจุยกระจาดเละเทะนั้น
“ยังไม่รู้” เจมส์ตอบเสียงเรียบแต่ดัง
“แล้วมีใครน่าสงสัยมั้ยล่ะ?” ปรีเอ่ยถาม
“ไม่รู้” เจมส์ตอบคำเดิม “แต่ถ้าฉันรู้ว่าใคร ฉันไม่เอาไว้แน่”
“อืม..”
“ฉันว่าเราลองหาหลักฐานดีมั้ย? เผื่อเจออะไรที่บ่งชี้คนทำได้” แอลพูดขึ้นบ้าง
“ก็ดี ช่วยกันหาเถอะ” ปรีเห็นด้วย
ดังนั้น ทั้งหมดจึงช่วยกันหาหลักฐานร่วมกับเจมส์และสมาชิกชมรมฟุตบอล
พวกเขาตรวจค้นดูทุกซอกทุกมุมภายในห้องชมรมฟุตบอล แต่แล้วก็มีสมาชิกของชมรมฟุตบอลคนหนึ่งพบเจอสิ่งของบางอย่าง
“พี่เจมส์ ผมเจอนี่ครับ” เขานำของที่พบให้เจมส์ทันที
เมื่อหนุ่มนักกีฬารับของสิ่งนั้นมาก็ต้องประหลาดใจ เพราะไม่มีทางพบของสิ่งนี้ที่ห้องชมรมฟุตบอลนี้แน่
มันคือ บุหรี่มวนหนึ่งที่สูบไปแล้วครึ่งหนึ่ง
เหตุที่ไม่มีทางพบบุหรี่ที่ห้องชมรมฟุตบอลก็เพราะว่าที่ชมรมฟุตบอลนี้มีกฎว่า สมาชิกทุกคนห้ามสูบบุหรี่เด็ดขาด ดังนั้น ไม่มีทางจะพบเจอบุหรี่ภายในห้องชมรมฟุตบอลอย่างแน่นอน
“ยี่ห้อลัคกี้สไตรท์นี่” เจมส์พูดขึ้น เมื่อสังเกตดูยี่ห้อบุหรี่บริเวณก้นกรองบุหรี่มวนนี้ ซึ่งพบเป็นยี่ห้อลัคกี้สไตรท์
เมื่อปรีได้ยินเจมส์พูดถึงยี่ห้อบุหรี่ก็มีอาการตกใจ รีบขอบุหรี่มวนนั้นจากหนุ่มนักกีฬาทันที
“จะเป็นไปได้หรือนี่” ปรีครุ่นคิด พลางจ้องมองบุหรี่มวนนั้นอย่างละเอียด
“ทำไมล่ะ?” เจเอ่ยถาม เพราะไม่เข้าใจที่ปรีพูด
“ก็..” ปรีพยายามจะอธิบาย แต่เจมส์กลับพูดสวนขึ้นมาก่อน
“ใหญ่เป็นคนทำหรือนี่..”
“หา!” เจตกใจ “เป็นใหญ่ได้ไง?”
“ก็อย่างนี้ไงเจ” แอลพูดขึ้นมา “ในโรงเรียนประจิมสวัสดิ์น่ะ ถึงจะมีคนสูบบุหรี่เยอะ แต่ก็ไม่มีใครที่สูบบุหรี่ยี่ห้อลัคกี้สไตรท์ เพราะเป็นบุหรี่ที่ค่อนข้างหายาก ไม่มีขายโดยทั่วไป ซึ่งผู้ที่สูบบุหรี่ลัคกี้สไตรท์มีเพียงคนเดียว นั่นคือ ใหญ่”
“แต่ก็ใช่ว่าคนทำจะเป็นใหญ่นี่”
“อืม.. มันก็ใช่” แอลบอก “แต่ก็ขึ้นอยู่กับเจมส์ว่าจะทำอย่างไร เพราะเรื่องนี้มันอยู่ในความรับผิดชอบของเขา”
พอพูดถึงตอนนี้ เจมส์กลับมีสีหน้าดีขึ้นราวกับอารมณ์ที่พุ่งพ่านเมื่อกี้จางหายไป เขาดึงซิปเสื้อแจ็คเก็ตยี่ห้ออาดิดาสที่ใส่อยู่ขึ้น พร้อมพูดขึ้นว่า
“ถ้าเป็นใหญ่ก็ดี.. อยากสู้กับมันมานานแล้ว”
(มีต่อครับ)