สวัสดีครับ มีเรื่องกลุ้มใจอยากปรึกษากึ่งระบาย
ทำงานด้าน supply chain กึ่งๆ จัดซื้อ มา 8 ปี และทุกอย่างกำลังลงตัวมีแพลนจะศึกษาต่อด้าน CPIM/APICS เพื่อเอามาช่วยพัฒนาทีม
จู่ๆ ฟ้าผ่า นายใหญ่สั่งให้ไปทำงานด้านการผลิต อยู่กับเอนจิเนีย และอยู่กับเครื่องจักร โดยให้เหตุว่า อยากให้เรียนรู้งานรอบด้าน จะได้เติบโตขึ้น
ผ่านมาเกือบครึ่งปี ทุกวันพูดได้ว่า กินไม่ได้นอนไม่หลับ ทำงานด้วยความทุกข์ เพราะผมไม่ได้มีความรู้ด้านเอนจิเนียเลย โดยที่ทีมใหม่นี้ มีผจกอีกคนอยู่ ทำงานคู่กับผม ซึ่งเขาก็มองว่าผมเป็นคู่แข่ง ทำไมนายต้องให้มาเรียนรู้งาน เขาเลยไม่ช่วยไม่แนะนำอะไร และรวมกลุ่มก้อนของแผนกนี้ให้แอนตี้ผม เวลาผมมีไอเดียจะปรับปรุงอะไร ก็จะทำเป็นไม่เห็น หรือไม่รับรู้ตลอดเวลา
ผมก็อาศัยความอดทน พยายามทำทุกอย่างให้ดีเพื่อองค์กร และถ้าหากทีมเดิมมีปัญหาผมก็ยังอยู่ช่วยทีมของแผนกเดิมได้ตลอด
แต่วันนี้ถึงจุดแตกหัก ผมเครียด จนผมรู้สึกว่าไม่อยากไปทำงาน ไม่มีความสุข เพราะไปก็เจอปัญหาเดิม ๆ ผมห่างพ่อแม่ ห่างครอบครัวมาเพื่อเอาเวลามาทุ่มเทให้กับตำแหน่งงานใหม่ สุขภาพโทรมลง จากที่เมื่อก่อนพอมีเวลาให้กับตัวเองบ้าง แผนกใหม่นั้น พอผมทำพลาดก็พร้อมจะซ้ำและบอกว่า นายเอามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง
ผมเลยบอกนายตามตรงว่า ขอกลับไปทำงานแผนกเดิมที่พร้อมต้อนรับผมอยู่ตลอด แต่นายกลับบอกว่า ถ้าผมกลับมาก็เท่ากับว่า ผมย่ำอยู่ที่เดิม และแสดงว่าผมไม่เจ๋ง และเก่งจริง นายบอกว่า ยอมรัยได้ว่าผมทำได้ดีในแผนกเดิม และคงไม่มีใครดีเท่า แต่แผนกใหม่ที่ให้ไปก็อยากจะมห้ผมพิสูจน์ตัวเองว่าจะทำได้ดีเหมือนกันมั๊ย แต่ถ้าไม่ได้อนาคตผมที่นี่ก็จะไม่มี ผมเสียใจมาก นายพูดทำให้ผมสับสนมาก
ว่าจริงๆ คือ หลอกใช้ผม หรือหวังดีกับผมกันแน่
วันนี้ผมจะลาพักร้อน เพื่อสมัครงานใหม่ ก็บอกผมว่า ห้ามลานะ ลาไม่ได้ เพราะต้องอยู่ช่วยทำงาน ช่วยทำโปรเจค คือ แทบทุกวันนายจะต้องการให้ผมอยู่ช่วย พอทำไม่ได้ก็บอกทำไมไม่มีโลจิค นายคาดหวังกว่านี้นะ พอทำได้แกก็จะเฉยๆ ผมสับสนมากว่านายคิดอะไรกันแน่
ผมควรจะลาออกจริงๆ และตัดในใช่มั๊ยครับ แต่จริงๆ ผมก็ยังอยากกลับไปทำงานแผนกเดิมนะ แต่คงหมดโอกาสแล้วจริงๆ
เครียดกับการทำงานที่ไม่ถนัด แต่หัวหน้าบอกว่าถ้าเจ๋งจริงต้องทำได้
ทำงานด้าน supply chain กึ่งๆ จัดซื้อ มา 8 ปี และทุกอย่างกำลังลงตัวมีแพลนจะศึกษาต่อด้าน CPIM/APICS เพื่อเอามาช่วยพัฒนาทีม
จู่ๆ ฟ้าผ่า นายใหญ่สั่งให้ไปทำงานด้านการผลิต อยู่กับเอนจิเนีย และอยู่กับเครื่องจักร โดยให้เหตุว่า อยากให้เรียนรู้งานรอบด้าน จะได้เติบโตขึ้น
ผ่านมาเกือบครึ่งปี ทุกวันพูดได้ว่า กินไม่ได้นอนไม่หลับ ทำงานด้วยความทุกข์ เพราะผมไม่ได้มีความรู้ด้านเอนจิเนียเลย โดยที่ทีมใหม่นี้ มีผจกอีกคนอยู่ ทำงานคู่กับผม ซึ่งเขาก็มองว่าผมเป็นคู่แข่ง ทำไมนายต้องให้มาเรียนรู้งาน เขาเลยไม่ช่วยไม่แนะนำอะไร และรวมกลุ่มก้อนของแผนกนี้ให้แอนตี้ผม เวลาผมมีไอเดียจะปรับปรุงอะไร ก็จะทำเป็นไม่เห็น หรือไม่รับรู้ตลอดเวลา
ผมก็อาศัยความอดทน พยายามทำทุกอย่างให้ดีเพื่อองค์กร และถ้าหากทีมเดิมมีปัญหาผมก็ยังอยู่ช่วยทีมของแผนกเดิมได้ตลอด
แต่วันนี้ถึงจุดแตกหัก ผมเครียด จนผมรู้สึกว่าไม่อยากไปทำงาน ไม่มีความสุข เพราะไปก็เจอปัญหาเดิม ๆ ผมห่างพ่อแม่ ห่างครอบครัวมาเพื่อเอาเวลามาทุ่มเทให้กับตำแหน่งงานใหม่ สุขภาพโทรมลง จากที่เมื่อก่อนพอมีเวลาให้กับตัวเองบ้าง แผนกใหม่นั้น พอผมทำพลาดก็พร้อมจะซ้ำและบอกว่า นายเอามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง
ผมเลยบอกนายตามตรงว่า ขอกลับไปทำงานแผนกเดิมที่พร้อมต้อนรับผมอยู่ตลอด แต่นายกลับบอกว่า ถ้าผมกลับมาก็เท่ากับว่า ผมย่ำอยู่ที่เดิม และแสดงว่าผมไม่เจ๋ง และเก่งจริง นายบอกว่า ยอมรัยได้ว่าผมทำได้ดีในแผนกเดิม และคงไม่มีใครดีเท่า แต่แผนกใหม่ที่ให้ไปก็อยากจะมห้ผมพิสูจน์ตัวเองว่าจะทำได้ดีเหมือนกันมั๊ย แต่ถ้าไม่ได้อนาคตผมที่นี่ก็จะไม่มี ผมเสียใจมาก นายพูดทำให้ผมสับสนมาก
ว่าจริงๆ คือ หลอกใช้ผม หรือหวังดีกับผมกันแน่
วันนี้ผมจะลาพักร้อน เพื่อสมัครงานใหม่ ก็บอกผมว่า ห้ามลานะ ลาไม่ได้ เพราะต้องอยู่ช่วยทำงาน ช่วยทำโปรเจค คือ แทบทุกวันนายจะต้องการให้ผมอยู่ช่วย พอทำไม่ได้ก็บอกทำไมไม่มีโลจิค นายคาดหวังกว่านี้นะ พอทำได้แกก็จะเฉยๆ ผมสับสนมากว่านายคิดอะไรกันแน่
ผมควรจะลาออกจริงๆ และตัดในใช่มั๊ยครับ แต่จริงๆ ผมก็ยังอยากกลับไปทำงานแผนกเดิมนะ แต่คงหมดโอกาสแล้วจริงๆ