Happy Times in
อุ ท ย า น แ ห่ ง ช า ติ ภู ก ร ะ ดึ ง จ. เ ล ย
ถึงมันจะไม่สวยที่สุด แต่มันมีความทรงจำมากที่สุด
เพราะทุกการเดินทาง มีความสวยงามรออยู่
สวัสดีครับกระทู้ที่ 8 ของผม 27 ครั้งนี้ผมใช้ชื่อว่า “ปล่อยใจที่ภูกระดึง 2018” ผมห่างหายจากการเที่ยวและทำรีวิวไป 5 เดือนเต็มๆ ครั้งนี้ทางสะดวก เงินสะพัด เลยจัดทริปที่ไม่เคยคิดจะไปเหยียบ เลยจริงๆ เพราะเคยได้ยินแต่ละคนที่ไปมา กลับมาบ่นทุกคน แต่สิ่งที่ทุกคนกลับมาบ่นให้ฟัง เค้าบ่นทั้งที่ตัวเองมีรอยยิ้ม ก็แสดงว่า มันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น ทริปนี้เป็นทริป ”ปล่อยใจ” เพราะผมกับเพื่อนสาว ต้องการที่จะนำใจช้ำๆ ไปปล่อยทิ้งไว้ที่ภูกระดึง และลงมาจากเขาพร้อมกับพลังและใจดวงใหม่ และ #กูพร้อมแล้ว ใช่แล้วครับ มีปัญหาเรื่องความรักทั้งคู่ ฮ่าๆๆๆๆ ทริปนี้เป็นความคิดของเพื่อน “แนน” เพื่อนสาวของผม และนางกลัวว่าผมจะไม่ขึ้นไปกับนาง เลยพูดดักพร้อมรูปประกอบมาใน line ว่า “ ดูสิ ขนาดเด็ก 6 ขวบยังไปได้” นี่แหละครับ ที่มาของกระทู้รีวิวในครั้งนี้…….
ฝากกระทู้ก่อนหน้านี้ด้วยครับ
ขาค้อ ภูทับเบิก
https://ppantip.com/topic/37059474
ดอยเสมอดาว - อ. ปัว – เมืองน่าน
https://ppantip.com/topic/37202042
โตเกียว ญี่ปุ่น ตามล่าฟูจิซัง
https://ppantip.com/topic/37386383
เขื่อเชี่ยวหลาน
https://ppantip.com/topic/37453215
Street food ครั้งแรก กับความอร่อย 100 ปี ที่ ตลาดบ้านใหม่ 2018
https://ppantip.com/topic/37515467
Squirrel house บ้านกระรอกในป่าคอนกรีต
https://ppantip.com/topic/37855022
Hatsukoi " รักรูปถ่ายที่ฉันไม่ได้ตั้งใจถ่าย "
https://ppantip.com/topic/38033898
สำหรับรีวิวครั้งนี้ก็เช่นเคยครับ 27 จะเน้นรูป และ มุมถ่ายรูปต่างๆที่ภูกระดึง ส่วน detail ของกิน และ การเดินทางอาจจะไม่ละเอียดมากนักครับ จะพยายามเขียนให้ละเอียดเท่าที่ผมจะเขียนได้ละกัน
สิ่งที่ต้องทราบ ก่อนขึ้นภูกระดึง
1. อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม ของทุกปี
ปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 30 กันยายน ของทุกปี ครับ
2. จำหน่ายบัตร ตั้งแต่เวลา 07:00น.-13:30น. ของทุกวัน เพราะ ทางอุทยานไม่อนุญาตให้ขึ้นภูกระดึงหลังบ่าย 2 เพราะกว่าจะใช้เวลาขึ้นไปหลังแปร ก็มืดแล้วครับ มันอันตราย ราคาตั๋ว ผู้ใหญ่ 40 B เด็ก 20 B และค่ารถ คันละ 30 บาท
3. สำหรับที่พักอาศัย หากใครรักความสบาย อยากได้ที่พักเป็นบ้าน ทางอุทยาน มีบ้านพักบริการทั้งหมด 21 หลัง รองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 170 คน มีทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านเรือนแถวครับ สามารถจองได้ผ่าน
http://nps.dnp.go.th/
และสำหรับใครที่จะไปแบบ ชิลๆ กางเต็นท์นอนแบบผม ก็มีบริการเต็นท์พร้อมเครื่องนอนให้เช่า แต่นักท่องเที่ยวจะต้องติดต่อจองเต็นท์กับทางอุทยานฯในวันที่มาถึง ณ บริเวณที่ทำการอุทยานศรีฐาน ด้านล่างก่อนที่จะขึ้นภูครับ
และถ้าคุณนำเต็นท์มาเองจะเสียค่ากาง สถานที่ 30 B/ คืน ครับ
ราคาเครื่องนอนที่มีให้เช่าบนภูกระดึง (ติดต่อขอเช่าได้ที่ทำการอุทยานฯ ศูนย์วังกวางด้านบนภูกระดึง) ง่ายๆเลยคือ ใครขึ้นถึงก่อนได้จองเต็นท์ก่อนนั่นเอง ฮ่าๆๆๆๆๆ แต่คุณไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีเต็นท์เหลือนะครับ เพราะทางอุทยานบอกกับเราว่า สามารถจุคนได้ถึง 5,000 คนครับ
- เต็นท์โดมขนาด 3 คน ราคา 225 B / คืน
- เต็นท์โดมใหญ่ขนาด 6 คน ราคา 450 B / คืน
- เต็นท์เคบิ้นขนาด 6 คน ราคา 450 B / คืน
เครื่องนอนที่มีบริการให้เช่า
- ถุงนอน ราคาถุงละ 30 B / คืน
- แผ่นรองนอน ราคาแผ่นละ 20 B / คืน
- หมอน ราคาใบละ 10 B / คืน
4. สิ่งที่ทุกท่านต้องเตรียมนอกจาก ร่างกายที่มีกล้ามเนื้ออยู่บ้างของท่านแล้ว ก็มีอุปกรณ์สำคัญดังนี้ แล้วพยายามคิดตามว่ามันสำคัญกับคุณรึป่าว
- รองเท้าผ้าใบ สำหรับวิ่งหรือเดินป่า เน้นคู่ที่มีดอกหน้าสัมผัสเยอะๆนะครับ กันการลื่นได้
- รองเท้าแตะครับ พกไว้สำหรับเดินไปทานข้าวหรือเข้าห้องน้ำยามวิการ
- ไฟฉาย สำหรับส่องกลางคืน บอกก่อนเลยไฟที่อุทยานตรงทางเดินมีน้อยครับ
- ทิชชูเปียก เป็นอีกสิ่งที่อย่ามองข้าม นอกจากจะใช้เช็ดหน้า หรือทำธุระห้องน้ำแล้ว ยังใช้สำหรับเช็ดแผล กรณีมีแผลนะครับ
- ยา จำเป็นมากครับ ไม่ว่าจะเป็นยาแก้แพ้อากาศ ยาแก้ไข้ พารา และรวมถึงยาคลายกล้ามเนื้อ
- ยานวด แบบ เจล หรือแบบ สเปรย์ เพื่อคลายกล้ามเนื้อ และลดการอักเสพของกล้ามเนื้อได้ดี
- สเปรย์ กันทากกันแมลง เช่น ซอฟเฟล ฉีดใส่ขาไว้กันทากเกาะ หรือโดนเกาะแล้วฉีดใส่ตัวทากเค้าจะหลุดไปเอง อาจจะใช้มะนาว ก็ช่วยได้นะครับ อาจ
จะรำบากตอนพกพา เพราะหากคุณไปช่วงต้นเดือนตุลา ฤดูฝน ทากจะชุมมากครับ
- ปูนขาว ไว้โรยรอบเต็นท์ เพื่อป้องกันทากและแมลงต่างๆไม่ให้เข้าเต็นท์
- ถุงเท้ากันทาก ถามว่าจำเป็นมั้ย สำหรับผมไม่ค่อยจำเป็นครับ ไม่ได้กลัวทากขนาดนั้น
- เสื้อกันฝน กรณีคุณไปช่วงหน้าฝน และเสื้อแขนยาวหรือเสื้อกันหนาว ควรนำติดตัวไว้สักตัวนะครับ เพราะเวลากลางคืน อุณหภูมิจะลดลงเยอะครับ หนาวทีเดียว
- Power bank หรือ อุปกรณ์ชาร์จแบตสำรอง เพราะด้านบน ชาร์จ ครั้งละ 20 บาทครับ
- หากใครพกกล้องถ่ายรูปไปด้วย อาจจะต้องพกถุงหุ้ม กรณีที่คุณไปหน้าฝน ควรนำ Dry bag กันความชื้นครับ ไปด้วยครับ
- สำหรับอาหารแห้ง คิดว่านำมาม่าคัพไป สะดวกสุดครับ เพราะ ด้านบนมีบริการน้ำร้อน 5 B เพราะ มาม่าคัพด้านบนก็ 35 B แล้วครับ ถ้านำไปได้จะดีมาก
ตารางเที่ยว 3วัน 2 คืน
สำหรับแผนการใช้จ่ายของผมครับ มีดังนี้ครับ คุณสามารถนำไปดัดแปลงได้
สำหรับทริปนี้ ผมเดินทางโดยใช้รถส่วนตัวครับ เพราะสะดวก แต่รถส่วนตัวจะออก start ที่ จ.ขอนแก่น ฮ่าๆๆๆ คือผมต้องเดินทางจากกรุงเทพ ไป จ.ขอนแก่น ไปหาเพื่อนสาวของผม และเราจะ เดินทางโดยใช้รถส่วนตัวที่ขอนแก่นไป จ. เลยกัน ใช้เวลาเพียง 2 hr.
สำหรับการเดินทาง ผมจะบอกวิธีการเดินทางดังนี้นะครับ
1. การเดินทางโดยรถยนต์
1.1 ให้เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี เพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก หล่มเก่า ด่านซ้าย ภูเรือ และ อำเภอเมืองเลย เลี้ยวเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 เลย-ขอนแก่น หลังจากนั้นก็เลี้ยวเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2019 เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
1.2 ให้ใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา จนไปถึง จังหวัดขอนแก่น เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 ผ่านอำเภอภูผาม่าน และ ผ่านตำบลผานกเค้า เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
1.3 ให้เดินทางผ่าน จังหวัดสระบุรี อำเภอปากช่อง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 201 ผ่าน จังหวัดชัยภูมิ อำเภอภูเขียว แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ผ่านอำเภอชุมแพ หลังจากนั้นก็เดินทางเช่นเดียวกับเส้นทางที่ 2
2. การเดินทางโดยรถประจำทาง
การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง ให้ขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (หมอชิต 2) สายกรุงเทพ - เมืองเลย ลงรถที่ผานกเค้า หรือสถานีขนส่งอำเภอภูกระดึง และก็ต่อรถสองแถวเข้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ติดต่อสอบถามข้อมูลรถโดยสารได้ที่ โทร.0-2936-2852-66 อัตราค่าโดยสาร
1.รถปรับอากาศ VIP 24 ที่นั่ง ราคา 590 บาท
2.รถปรับอากาศ VIP 32 ที่นั่ง ราคา 449 บาท
3.รถปรับอากาศ ชั้น 1 ราคา 258 บาท
4.รถปรับอากาศ ชั้น 2 ราคา 280 บาท
เมื่อลงรถที่ผานกเค้า ให้ต่อรถสองแถวจากผานกเค้า ก็จะถึงอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ราคา 30 บาท / คน
3. การเดินทางโดยรถไฟ
การเดินทางโดยรถไฟ เมื่อขึ้นรถไฟที่ที่สถานีรถไฟหัวลำโพงถึงสถานีรถไฟขอนแก่น ต่อรถโดยสารสาย ขอนแก่น - เลย ก็จะถึงอำเภอภูกระดึงแล้วต่อรถสองแถวเข้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ติดต่อสอบถามข้อมูลรถไฟ โทร 0-2225-1300 ต่อ 5201 ,0-2223-0341-3 หรือติดต่อสอบถามโดยตรงที่อุทยานแห่งชาติกระดึง โทร. 0-4281-0833, 0-4281-0834
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://park.dnp.go.th/visitor/
ทริปนี้เราเดินทางเมื่อวันที่ 13/10/2018 – 16/10/2018
Day1 13/10/2018
ออก start รถจาก จ.ขอนแก่น 4.00 ถึง บริเวณปั้ม ปตท. สาขา ผานกเค้า ก็ประมาณ 6.00 น.ครับ แวะพักหาไรรองท้องก่อนเข้าอุทยานโชคดีเจอร้านคุณลุงขายไก่ย่างพอดีเลยจัดไปสัก 5 ไม้รวด ฮ่าๆๆๆๆๆ

จากนั้นเดินทางไปนิดเดียวก็จะถึงทางเข้าอุทยานภูกระดึงแล้วครับ และก็ซื้อตั๋ว เข้าอุทยานครับ เด็ก 20 B ผู้ใหญ่ 40 B ค่ารถ 30 B ต่อคัน

ครั้งนี้มีน้องตามมาอีก 2 คนครับ รวมผู้ร่วมชะตากรรม ทั้งหมด 4 คน ก็คือ เพื่อนแนน เพื่อนสาวคนเดียวของผม และรุ่นน้องของนางอีก 2 คน คือ น้องเกมส์ และน้องกี้
หลังจากที่ขับรถเข้าอุทยานมาถึงแล้ว ก็จอดรถ ลงทะเบียนรถ และซื้อบัตร จองเต็นท์ พร้อมกับทำประกัน ครับ

ตรงจุดด้านล่างนี้จ่ายค่าธรรมเนียม เฉพาะกางเต็นท์ หรือ จองที่พักครับ แล้วค่อยขึ้นไปเลือกเต็นท์ กับ เช่าเครื่องนอนด้านใน ตรงข้างบนภู อีกทีครับ
จากนั้นเดินตรงดิ่งไปด้านหลังครับ เพื่อที่จะจ้างลูกหาบ 1 กิโล 30 B แนะนำใครไม่ฟิตจริงๆ ใช้บริการพี่ลูกหาบเถอะครับ แล้วคุณจะคิดเหมือนผม เมื่อคุณเหนื่อยมากๆจริงๆ แค่น้ำขวดเล็กที่ถืออยู่ในมือคุณยังอยากจะทิ้งมันเลยครับ ฮ่าๆๆๆ
เดินไปซื้อตั๋ว ใบละ 5 บาท และเขียนชื่อ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ และติดไว้กับกระเป๋า หากมาเป็นกลุ่ม เหมือนผมก็ใช้ชื่อ และเบอร์โทรคนเดียวกัน เพื่อความสะดวกในการติดต่อครับ จากนั้นต่อแถวช่างน้ำหนัก และฉีกตั๋ว นำหางตั๋วไปติดต่อเพื่อรับกระเป๋าด้านบนครับ พร้อมกับจ่ายเงิน (ตอนจ่าย พี่ลูกหาบจะไม่มีตังทอนนะครับ ถือตังไปพอดีจะดีที่สุด)

เราจะสังเกตได้ว่าลูกหาบมีทั้งเด็ก คนแก่ หนุ่ม สาว หลายวัยมาก พอสอบถามลูกหาบส่วนใหญ่ จะเป็นพี่ผู้ชายและพี่ผู้หญิงวัยกลางคน ซึ่งพี่ๆก็คือชาวบ้านท้องถิ่นที่เขามีที่กันแถวนั้นแหละครับ มาทำอาชีพเสริมโดยผู้ชายจะสามารถรับน้ำหนักต่อคน คือ 40-70 กิโลกรัม ส่วน ผู้หญิงจะรับน้ำหนัก 25-40 กิโลกรัมครับ

ก่อนจะเดินขึ้น ผมและน้องๆ ฟังเพลงนี้มาตลอดทาง เป็นเพลงที่เราเปิดบ่อยมาในทริปนี้ ด้วยทำนองและการใช้คำของเพลง ความอินของเรา เราขอยกให้เพลงนี้ครับ
ซ่อนกลิ่น - พี่มี่
https://www.youtube.com/watch?v=M7ovvi6UdcI&start_radio=1&list=RDM7ovvi6UdcI

8.00 น. เริ่มขึ้นภูครับ ตื่นเต้นมาก เรามาดูดีกว่าว่า เราต้องขึ้นและแวะที่ไหนบ้าง เพื่อรักษาเวลา ไม่ให้ช้า และเหนื่อยจนเกินไป
[CR] ปล่อยใจที่ ภูกระดึง 2018 ( 3วัน 2 คืน)
อุ ท ย า น แ ห่ ง ช า ติ ภู ก ร ะ ดึ ง จ. เ ล ย
ถึงมันจะไม่สวยที่สุด แต่มันมีความทรงจำมากที่สุด
เพราะทุกการเดินทาง มีความสวยงามรออยู่
สวัสดีครับกระทู้ที่ 8 ของผม 27 ครั้งนี้ผมใช้ชื่อว่า “ปล่อยใจที่ภูกระดึง 2018” ผมห่างหายจากการเที่ยวและทำรีวิวไป 5 เดือนเต็มๆ ครั้งนี้ทางสะดวก เงินสะพัด เลยจัดทริปที่ไม่เคยคิดจะไปเหยียบ เลยจริงๆ เพราะเคยได้ยินแต่ละคนที่ไปมา กลับมาบ่นทุกคน แต่สิ่งที่ทุกคนกลับมาบ่นให้ฟัง เค้าบ่นทั้งที่ตัวเองมีรอยยิ้ม ก็แสดงว่า มันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น ทริปนี้เป็นทริป ”ปล่อยใจ” เพราะผมกับเพื่อนสาว ต้องการที่จะนำใจช้ำๆ ไปปล่อยทิ้งไว้ที่ภูกระดึง และลงมาจากเขาพร้อมกับพลังและใจดวงใหม่ และ #กูพร้อมแล้ว ใช่แล้วครับ มีปัญหาเรื่องความรักทั้งคู่ ฮ่าๆๆๆๆ ทริปนี้เป็นความคิดของเพื่อน “แนน” เพื่อนสาวของผม และนางกลัวว่าผมจะไม่ขึ้นไปกับนาง เลยพูดดักพร้อมรูปประกอบมาใน line ว่า “ ดูสิ ขนาดเด็ก 6 ขวบยังไปได้” นี่แหละครับ ที่มาของกระทู้รีวิวในครั้งนี้…….
ฝากกระทู้ก่อนหน้านี้ด้วยครับ
ขาค้อ ภูทับเบิก https://ppantip.com/topic/37059474
ดอยเสมอดาว - อ. ปัว – เมืองน่าน https://ppantip.com/topic/37202042
โตเกียว ญี่ปุ่น ตามล่าฟูจิซัง https://ppantip.com/topic/37386383
เขื่อเชี่ยวหลาน https://ppantip.com/topic/37453215
Street food ครั้งแรก กับความอร่อย 100 ปี ที่ ตลาดบ้านใหม่ 2018 https://ppantip.com/topic/37515467
Squirrel house บ้านกระรอกในป่าคอนกรีต https://ppantip.com/topic/37855022
Hatsukoi " รักรูปถ่ายที่ฉันไม่ได้ตั้งใจถ่าย " https://ppantip.com/topic/38033898
สิ่งที่ต้องทราบ ก่อนขึ้นภูกระดึง
1. อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม ของทุกปี
ปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 30 กันยายน ของทุกปี ครับ
2. จำหน่ายบัตร ตั้งแต่เวลา 07:00น.-13:30น. ของทุกวัน เพราะ ทางอุทยานไม่อนุญาตให้ขึ้นภูกระดึงหลังบ่าย 2 เพราะกว่าจะใช้เวลาขึ้นไปหลังแปร ก็มืดแล้วครับ มันอันตราย ราคาตั๋ว ผู้ใหญ่ 40 B เด็ก 20 B และค่ารถ คันละ 30 บาท
3. สำหรับที่พักอาศัย หากใครรักความสบาย อยากได้ที่พักเป็นบ้าน ทางอุทยาน มีบ้านพักบริการทั้งหมด 21 หลัง รองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 170 คน มีทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านเรือนแถวครับ สามารถจองได้ผ่าน http://nps.dnp.go.th/
และสำหรับใครที่จะไปแบบ ชิลๆ กางเต็นท์นอนแบบผม ก็มีบริการเต็นท์พร้อมเครื่องนอนให้เช่า แต่นักท่องเที่ยวจะต้องติดต่อจองเต็นท์กับทางอุทยานฯในวันที่มาถึง ณ บริเวณที่ทำการอุทยานศรีฐาน ด้านล่างก่อนที่จะขึ้นภูครับ
และถ้าคุณนำเต็นท์มาเองจะเสียค่ากาง สถานที่ 30 B/ คืน ครับ
ราคาเครื่องนอนที่มีให้เช่าบนภูกระดึง (ติดต่อขอเช่าได้ที่ทำการอุทยานฯ ศูนย์วังกวางด้านบนภูกระดึง) ง่ายๆเลยคือ ใครขึ้นถึงก่อนได้จองเต็นท์ก่อนนั่นเอง ฮ่าๆๆๆๆๆ แต่คุณไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีเต็นท์เหลือนะครับ เพราะทางอุทยานบอกกับเราว่า สามารถจุคนได้ถึง 5,000 คนครับ
- เต็นท์โดมขนาด 3 คน ราคา 225 B / คืน
- เต็นท์โดมใหญ่ขนาด 6 คน ราคา 450 B / คืน
- เต็นท์เคบิ้นขนาด 6 คน ราคา 450 B / คืน
เครื่องนอนที่มีบริการให้เช่า
- ถุงนอน ราคาถุงละ 30 B / คืน
- แผ่นรองนอน ราคาแผ่นละ 20 B / คืน
- หมอน ราคาใบละ 10 B / คืน
4. สิ่งที่ทุกท่านต้องเตรียมนอกจาก ร่างกายที่มีกล้ามเนื้ออยู่บ้างของท่านแล้ว ก็มีอุปกรณ์สำคัญดังนี้ แล้วพยายามคิดตามว่ามันสำคัญกับคุณรึป่าว
- รองเท้าผ้าใบ สำหรับวิ่งหรือเดินป่า เน้นคู่ที่มีดอกหน้าสัมผัสเยอะๆนะครับ กันการลื่นได้
- รองเท้าแตะครับ พกไว้สำหรับเดินไปทานข้าวหรือเข้าห้องน้ำยามวิการ
- ไฟฉาย สำหรับส่องกลางคืน บอกก่อนเลยไฟที่อุทยานตรงทางเดินมีน้อยครับ
- ทิชชูเปียก เป็นอีกสิ่งที่อย่ามองข้าม นอกจากจะใช้เช็ดหน้า หรือทำธุระห้องน้ำแล้ว ยังใช้สำหรับเช็ดแผล กรณีมีแผลนะครับ
- ยา จำเป็นมากครับ ไม่ว่าจะเป็นยาแก้แพ้อากาศ ยาแก้ไข้ พารา และรวมถึงยาคลายกล้ามเนื้อ
- ยานวด แบบ เจล หรือแบบ สเปรย์ เพื่อคลายกล้ามเนื้อ และลดการอักเสพของกล้ามเนื้อได้ดี
- สเปรย์ กันทากกันแมลง เช่น ซอฟเฟล ฉีดใส่ขาไว้กันทากเกาะ หรือโดนเกาะแล้วฉีดใส่ตัวทากเค้าจะหลุดไปเอง อาจจะใช้มะนาว ก็ช่วยได้นะครับ อาจ
จะรำบากตอนพกพา เพราะหากคุณไปช่วงต้นเดือนตุลา ฤดูฝน ทากจะชุมมากครับ
- ปูนขาว ไว้โรยรอบเต็นท์ เพื่อป้องกันทากและแมลงต่างๆไม่ให้เข้าเต็นท์
- ถุงเท้ากันทาก ถามว่าจำเป็นมั้ย สำหรับผมไม่ค่อยจำเป็นครับ ไม่ได้กลัวทากขนาดนั้น
- เสื้อกันฝน กรณีคุณไปช่วงหน้าฝน และเสื้อแขนยาวหรือเสื้อกันหนาว ควรนำติดตัวไว้สักตัวนะครับ เพราะเวลากลางคืน อุณหภูมิจะลดลงเยอะครับ หนาวทีเดียว
- Power bank หรือ อุปกรณ์ชาร์จแบตสำรอง เพราะด้านบน ชาร์จ ครั้งละ 20 บาทครับ
- หากใครพกกล้องถ่ายรูปไปด้วย อาจจะต้องพกถุงหุ้ม กรณีที่คุณไปหน้าฝน ควรนำ Dry bag กันความชื้นครับ ไปด้วยครับ
- สำหรับอาหารแห้ง คิดว่านำมาม่าคัพไป สะดวกสุดครับ เพราะ ด้านบนมีบริการน้ำร้อน 5 B เพราะ มาม่าคัพด้านบนก็ 35 B แล้วครับ ถ้านำไปได้จะดีมาก
ตารางเที่ยว 3วัน 2 คืน
สำหรับแผนการใช้จ่ายของผมครับ มีดังนี้ครับ คุณสามารถนำไปดัดแปลงได้
สำหรับทริปนี้ ผมเดินทางโดยใช้รถส่วนตัวครับ เพราะสะดวก แต่รถส่วนตัวจะออก start ที่ จ.ขอนแก่น ฮ่าๆๆๆ คือผมต้องเดินทางจากกรุงเทพ ไป จ.ขอนแก่น ไปหาเพื่อนสาวของผม และเราจะ เดินทางโดยใช้รถส่วนตัวที่ขอนแก่นไป จ. เลยกัน ใช้เวลาเพียง 2 hr.
สำหรับการเดินทาง ผมจะบอกวิธีการเดินทางดังนี้นะครับ
1. การเดินทางโดยรถยนต์
1.1 ให้เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี เพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก หล่มเก่า ด่านซ้าย ภูเรือ และ อำเภอเมืองเลย เลี้ยวเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 เลย-ขอนแก่น หลังจากนั้นก็เลี้ยวเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2019 เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
1.2 ให้ใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา จนไปถึง จังหวัดขอนแก่น เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 ผ่านอำเภอภูผาม่าน และ ผ่านตำบลผานกเค้า เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
1.3 ให้เดินทางผ่าน จังหวัดสระบุรี อำเภอปากช่อง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 201 ผ่าน จังหวัดชัยภูมิ อำเภอภูเขียว แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ผ่านอำเภอชุมแพ หลังจากนั้นก็เดินทางเช่นเดียวกับเส้นทางที่ 2
2. การเดินทางโดยรถประจำทาง
การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง ให้ขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (หมอชิต 2) สายกรุงเทพ - เมืองเลย ลงรถที่ผานกเค้า หรือสถานีขนส่งอำเภอภูกระดึง และก็ต่อรถสองแถวเข้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ติดต่อสอบถามข้อมูลรถโดยสารได้ที่ โทร.0-2936-2852-66 อัตราค่าโดยสาร
1.รถปรับอากาศ VIP 24 ที่นั่ง ราคา 590 บาท
2.รถปรับอากาศ VIP 32 ที่นั่ง ราคา 449 บาท
3.รถปรับอากาศ ชั้น 1 ราคา 258 บาท
4.รถปรับอากาศ ชั้น 2 ราคา 280 บาท
เมื่อลงรถที่ผานกเค้า ให้ต่อรถสองแถวจากผานกเค้า ก็จะถึงอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ราคา 30 บาท / คน
3. การเดินทางโดยรถไฟ
การเดินทางโดยรถไฟ เมื่อขึ้นรถไฟที่ที่สถานีรถไฟหัวลำโพงถึงสถานีรถไฟขอนแก่น ต่อรถโดยสารสาย ขอนแก่น - เลย ก็จะถึงอำเภอภูกระดึงแล้วต่อรถสองแถวเข้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ติดต่อสอบถามข้อมูลรถไฟ โทร 0-2225-1300 ต่อ 5201 ,0-2223-0341-3 หรือติดต่อสอบถามโดยตรงที่อุทยานแห่งชาติกระดึง โทร. 0-4281-0833, 0-4281-0834
ขอบคุณข้อมูลจาก http://park.dnp.go.th/visitor/
Day1 13/10/2018
ออก start รถจาก จ.ขอนแก่น 4.00 ถึง บริเวณปั้ม ปตท. สาขา ผานกเค้า ก็ประมาณ 6.00 น.ครับ แวะพักหาไรรองท้องก่อนเข้าอุทยานโชคดีเจอร้านคุณลุงขายไก่ย่างพอดีเลยจัดไปสัก 5 ไม้รวด ฮ่าๆๆๆๆๆ
จากนั้นเดินทางไปนิดเดียวก็จะถึงทางเข้าอุทยานภูกระดึงแล้วครับ และก็ซื้อตั๋ว เข้าอุทยานครับ เด็ก 20 B ผู้ใหญ่ 40 B ค่ารถ 30 B ต่อคัน
ครั้งนี้มีน้องตามมาอีก 2 คนครับ รวมผู้ร่วมชะตากรรม ทั้งหมด 4 คน ก็คือ เพื่อนแนน เพื่อนสาวคนเดียวของผม และรุ่นน้องของนางอีก 2 คน คือ น้องเกมส์ และน้องกี้
หลังจากที่ขับรถเข้าอุทยานมาถึงแล้ว ก็จอดรถ ลงทะเบียนรถ และซื้อบัตร จองเต็นท์ พร้อมกับทำประกัน ครับ
ตรงจุดด้านล่างนี้จ่ายค่าธรรมเนียม เฉพาะกางเต็นท์ หรือ จองที่พักครับ แล้วค่อยขึ้นไปเลือกเต็นท์ กับ เช่าเครื่องนอนด้านใน ตรงข้างบนภู อีกทีครับ
จากนั้นเดินตรงดิ่งไปด้านหลังครับ เพื่อที่จะจ้างลูกหาบ 1 กิโล 30 B แนะนำใครไม่ฟิตจริงๆ ใช้บริการพี่ลูกหาบเถอะครับ แล้วคุณจะคิดเหมือนผม เมื่อคุณเหนื่อยมากๆจริงๆ แค่น้ำขวดเล็กที่ถืออยู่ในมือคุณยังอยากจะทิ้งมันเลยครับ ฮ่าๆๆๆ
เดินไปซื้อตั๋ว ใบละ 5 บาท และเขียนชื่อ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ และติดไว้กับกระเป๋า หากมาเป็นกลุ่ม เหมือนผมก็ใช้ชื่อ และเบอร์โทรคนเดียวกัน เพื่อความสะดวกในการติดต่อครับ จากนั้นต่อแถวช่างน้ำหนัก และฉีกตั๋ว นำหางตั๋วไปติดต่อเพื่อรับกระเป๋าด้านบนครับ พร้อมกับจ่ายเงิน (ตอนจ่าย พี่ลูกหาบจะไม่มีตังทอนนะครับ ถือตังไปพอดีจะดีที่สุด)
เราจะสังเกตได้ว่าลูกหาบมีทั้งเด็ก คนแก่ หนุ่ม สาว หลายวัยมาก พอสอบถามลูกหาบส่วนใหญ่ จะเป็นพี่ผู้ชายและพี่ผู้หญิงวัยกลางคน ซึ่งพี่ๆก็คือชาวบ้านท้องถิ่นที่เขามีที่กันแถวนั้นแหละครับ มาทำอาชีพเสริมโดยผู้ชายจะสามารถรับน้ำหนักต่อคน คือ 40-70 กิโลกรัม ส่วน ผู้หญิงจะรับน้ำหนัก 25-40 กิโลกรัมครับ
ก่อนจะเดินขึ้น ผมและน้องๆ ฟังเพลงนี้มาตลอดทาง เป็นเพลงที่เราเปิดบ่อยมาในทริปนี้ ด้วยทำนองและการใช้คำของเพลง ความอินของเรา เราขอยกให้เพลงนี้ครับ
ซ่อนกลิ่น - พี่มี่
https://www.youtube.com/watch?v=M7ovvi6UdcI&start_radio=1&list=RDM7ovvi6UdcI
8.00 น. เริ่มขึ้นภูครับ ตื่นเต้นมาก เรามาดูดีกว่าว่า เราต้องขึ้นและแวะที่ไหนบ้าง เพื่อรักษาเวลา ไม่ให้ช้า และเหนื่อยจนเกินไป
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น