อ.ส.ค.ผนึกกำลัง อ.ต.ก.หนุน Co-Brand เสริมแกร่งตลาดนมไทย-เดนมาร์คผงาดสู่ผู้นำอุตสาหกรรมนม


เพื่อสนองนโยบายการสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในเรื่อง “การผลิต นำการตลาด”  องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อ.ส.ค.)ได้จับมือกับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก)ในการใช้ทรัพยากรและความร่วมมือระหว่างกันของรัฐวิสาหกิจ เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการช่วยเหลือเกษตรกร เพิ่มช่องทางการจำหน่าย สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพและความปลอดภัย ก่อให้เกิดการผนึกกำลังในการสร้าง Brandและพัฒนาสู่การเป็น Co-Brand ในอนาคต

ดร.ณรงค์ฤทธิ์  วงศ์สุวรรณ  ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)  เปิดเผยว่า  เพื่อสนองนโยบายการตลาดนำการผลิตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์   อ.ส.ค.ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)ร่วมกับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก) ด้านการใช้ทรัพยากรและความร่วมมือระหว่างกันของรัฐวิสาหกิจ เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการช่วยเหลือเกษตรกร เพิ่มช่องทางการจำหน่าย สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพและความปลอดภัย ก่อให้เกิดการผนึกกำลังในการสร้าง Brand และพัฒนาสู่การเป็น Co-Brand ในอนาคต  
     โดยภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว อ.ต.ก.จะทำหน้าที่ในการขยายช่องทางทางการตลาดผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ นอกเหนือที่ อ.ส.ค.ได้ดำเนินการอยู่แล้ว เนื่องจาก อ.ต.ก.มีความมั่นใจในกระบวนการผลิตที่ได้คุณภาพมาตรฐานและเชื่อมั่นในแบรนด์ของ “ผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค” ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและมีฐานกลุ่มผู้บริโภคที่แน่นแฟ้นยืนยาวกว่า 56ปี  จึงน่าจะมีโอกาสในการขยายช่องทางการตลาดให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะตลาดในจีนซึ่งมีฐานผู้บริโภคกว้าง
“ปัจจุบันกลุ่มผู้บริโภคคนจีนมีความเชื่อมั่นในแบรนด์ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์หรือพระราชกรณียกิจของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยอยู่แล้ว ซึ่งนมไทย-เดนมาร์คเป็นผลิตภัณฑ์ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่9)และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ได้ให้การสนับสนุนและเป็นผู้ก่อตั้งฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์คขึ้น ทำให้คนจีนมีความศัทธาในสินค้าแบรนด์ไทย-เดนมาร์คเป็นทุนเดิม    รวมไปถึงแบรนด์จิตรลดาซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมของชาวจีนอย่างมาก” ผอ.อ.ส.ค.กล่าว
    ด้านนายกมลวิศว์  แก้วแฝก  ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก) กล่าวเพิ่มเติมว่า  อ.ต.ก. ก็ได้มีการวางแผนในการทำตลาดผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คและสินค้าด้านการเกษตรทั้งในตลาดภายในและต่างประเทศ  โดยในประเทศจะนำผลิตภัณฑ์จำหน่ายในร้านค้า อ.ต.ก. ที่จะเปิดใหม่ 20สาขาภายในปี 2561 นี้ ส่วนตลาดต่างประเทศวางแผนเข้าไปทำตลาดในประเทศจีนโดยขณะนี้อยู่ระหว่างหาแนวทางในการจดทะเบียนแบรนด์และคงตราสัญลักษณ์“ไทย-เดนมาร์ค” เอาไว้
  ทั้งนี้ ในปี 62 อ.ต.ก. วางเป้าเข้าไปขยายตลาด ร้านค้า อ.ต.ก. ควบคู่กับการทำตลาดผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คในจีนจำนวน 300 สาขา ระหว่างนี้ อ.ต.ก. และอ.ส.ค.จะทำแผนการตลาดร่วมกันเพื่อให้ความร่วมมือในครั้งนี้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและบรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้  โดยเฉพาะการเตรียมพร้อมในกำลังการผลิตที่ต้องมีความสม่ำเสมอ  เนื่องจากตลาดจีนเป็นตลาดที่ใหญ่ถ้าหากเป็นไปตามแผนจะสามารถทำยอดขายได้มูลค่ามหาศาลซึ่งนอกจากประเทศจีนแล้วในอนาคตมีแผนที่จะขยายตลาดในอีกหลายประเทศรวมทั้งจำหน่ายในระบบการซื้อขายแบบออนไลน์ของ อ.ต.ก.อีกด้วย
   ปัจจุบันผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คถือเป็นต้นแบบของสินค้าการเกษตรที่เห็นถึงวิวัฒนาการในการแก้ปัญหาสินค้าการเกษตร ซึ่งในอดีตจะมีปัญหานมล้นตลาดจนกระทบต่อความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม  และระยะหลังปัญหาดังกล่าวได้หมดไปเพราะการบริหารจัดการน้ำนมดิบที่ดีของ อ.ส.ค.ทำให้มีความมั่นใจในแนวทางการบริหารจัดการน้ำนมดิบ การผลิตและการตลาดของอ.ส.ค.ตลอดจนเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องจักรไฮสปีดที่ทันสมัยและครบวงจรที่สุดในประเทศไทย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่