“สมยศ” เผยชีวิตลำเค็ญ “วิสา คัญทัพ” ในเยอรมนี ป่วยพาร์กินสัน ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ
“สมยศ พฤกษาเกษมสุข” แกนนำเสื้อแดง เผยไปเยี่ยม “วิสา คัญทัพ” ที่หนีคดีไปเยอรมนีพร้อมกับ “ไพจิตร อักษรณรงค์”
พบผอมซูบลง เดินเชื่องช้า ใบหน้าสั่นคลอนไปมาด้วยโรคพาร์กินสัน เผยค่ารักษาพยาบาลแพงมาก
แถมภาษาอังกฤษและเยอรมันยังพูดไม่ได้เลย
ระบุ “จรัล ดิษฐาอภิชัย” ยังนอนซม ถือถุงปัสสาวะ และ “สมศักดิ์ เจียมฯ” ฟื้นฟูร่างกายในโรงพยาบาล
แต่จรัลและสมศักดิ์โชคดีกว่าวิสา ตรงที่ได้เป็นพลเมืองฝรั่งเศสเรียบร้อยแล้ว
นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง อดีตแกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ที่เพิ่งพ้นโทษคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
หลังถูกจำคุกเป็นเวลา 7 ปี เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว Somyot Pruksakasemsuk ระบุว่า
เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ตนได้ไปพบกับนายวิสา คัญทัพ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ที่หลบหนีคดีไปอาศัยในอพาร์ตเมนต์แคบๆ ในเมืองโคโลญ
ที่มีอากาศหนาวเหน็บ ทางตะวันตกของประเทศเยอรมนี พร้อมกับนางไพจิตร อักษรณรงค์ ภรรยา
พบว่านายวิสาผอมซูบลงถนัดตาเห็น เดินอย่างเชื่องช้า ใบหน้าสั่นคลอนไปมาด้วยอาการของโรคพาร์กินสัน
ซึ่งนายวิสากล่าวกับเขาว่า ค่ารักษาพยาบาลที่นี่แพงมหาศาล ภาษาอังกฤษและเยอรมันพูดไม่ได้เลย
อยู่ในสังคมต่างแดนโหดร้ายมาก จะเริ่มเรียนก็ไม่ได้ ไม่ใช่คนหนุ่มสาวเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงผู้ที่หลบหนีคดีในต่างประเทศอีกสองคน คือ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย
อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ว่ายังนอนซมถือถุงปัสสาวะ
ส่วนนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ที่หลบหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กำลังฟื้นฟูร่างกายในโรงพยาบาล
ส่วนนายธานัท ธนวัชรนนท์ หรือทอม ดันดี แกนนำเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ ที่ถูกจำคุกในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
ยังถูกตีตรวนหลังกรงขังจนแทบจะเป็นบ้า
และกล่าวเรียกร้องให้นักการเมืองและผู้รักประชาธิปไตย ช่วยกันต่อสู้ให้ปลดปล่อยนักโทษการเมือง
และนำผู้ลี้ภัยการเมืองกลับแผ่นดินบ้านเกิดกันก่อนเลือกตั้ง
อย่าให้พวกเขาเหล่านั้นเหลือแต่เถ้ากระดูก แล้วนำกลับมาเมืองไทยเพื่อฉลองการเลือกตั้ง
สำหรับข้อความที่นายสมยศโพสต์ มีข้อความดังต่อไปนี้
“วิสา คัญทัพ เอกอัครมหากวี และเจ้าของบทเพลงเพื่อชีวิตที่โด่งดังในตำนาน ต่อสู้กับเผด็จการมาตลอดอายุขัย
เริ่มจากการเป็นผู้นำนักศึกษารามคำแหง ต่อสู้เผด็จการ จนถูกลบชื่อออกจากมหาวิทยาลัย
ทำให้มีการเคลื่อนไหวจนนำไปสู่การเรียกร้องรัฐธรรมนูญในปี 2516 ถูกจับกุมเป็น 1 ใน 13 กบฏ
ที่กลายเป็นการลุกขึ้นสู้ครั้งใหญ่ของประชาชน 14 ตุลาคม 2516 เมื่อเผด็จการหวนกลับมาในปี 2519
วิสา คัญทัพเข้าป่าแต่งเพลงสู้กับเผด็จการ ถึงพฤษภาทมิฬ 35 และพฤษภาเลือด 2553
ต้องหลบลี้หนีภัยไปต่างแดนในวัย 69 ปีด้วยสังขารกำลังร่วงโรยเต็มทน
ผมพบกับวิสา คัญทัพ เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 61 ที่เมืองโคโลญ เยอรมนี วิสา ผอมซูบลงถนัดตาเห็น เดินอย่างเชื่องช้า ใบหน้าสั่นคลอนไปมา
ผมจับมือวิสา คัญทัพ แต่มือของเขาสั่นเทา ไม่ใช่เพราะความหนาว แต่เป็นด้วยอาการของโรคพาร์กินสัน ที่เกิดกับเขา
เมื่อต้องไปใช้ชีวิตลำเค็ญต่างแดนในเมืองอันหนาวเหน็บ เขาใช้เวลาทั้งหมดอยู่ภายในบ้านกับภรรยา ไพจิตร อักษรณรงค์
ไม่ได้ออกไปไหนเพื่อรอคอยสถานภาพผู้ลี้ภัย
จนบัดนี้เขาออกจากบ้านได้ แต่ทว่า ความชราและพากินสันกลับทำให้เขาต้องอยู่แต่ภายในบ้านอพาร์ตเมนต์สี่เหลี่ยมอุดอู้
วิสา บอกกับผมด้วยเสียงสั่นเทา น้ำตาคลอเบ้า “ค่ารักษาพยาบาลที่นี่แพงมหาศาลเลย ผมแก่แล้ว
ภาษาอังกฤษและเยอรมันพูดไม่ได้เลย อยู่ในสังคมต่างแดนมันโหดร้ายมาก จะเริ่มเรียนก็ไม่ได้
ไม่ใช่คนหนุ่มสาว เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป”
ผมจับมือวิสา ให้ความมั่นใจกับเขาว่าบรรดานักต่อสู้ประชาธิปไตยในเมืองไทย ยังไม่ลืมเขา
และจะต้องนำ วิสา คัญทัพ และพวกกลับประเทศไทยให้ได้
ผมมาถึงเมืองไทยเมื่อคืน ตอนเช้านี้เป็นวันที่ 14 ตุลาคม 2561
ผมกำลังไปธรรมศาสตร์รำลึก 14 ต.ค.
ผมนึกถึงวิสา คัญทัพ กับบทกวีที่ว่า
“ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาบสูญ
ไม่มีใครล้ำเลิศน่าเทิดทูน ประชาชน สมบูรณ์นิรันดร์ไป”
หลายคนกำลังเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งที่เป็นธรรม ผมนึกอยู่ในใจว่า
การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีความหมายที่เป็นประชาธิปไตยได้อย่างไรเล่า?
ในเมื่อ คนอย่างวิสา คัญทัพ จรัล ดิษฐาอภิชัย และ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
ผลผลิตโดยตรงของ 14 ตุลาคม 16 ยังต้องหลบลี้หนีภัยไปต่างแดน
(ขณะที่เขียนอยู่นี้นายจรัลยังนอนซม ถือถุงเยี่ยว ส่วนนายสมศักดิ์กำลังฟื้นฟูร่างกายในโรงพยาบาล)
เช่นเดียวกับ ทอม ดันดี ยังถูกตีตรวนหลังกรงขังจนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว
มันจะเป็นการเลือกตั้งที่เที่ยงธรรมได้อย่างไรในเมื่อเส้นทางสู่การเลือกตั้งยังเหยียบย่ำเสรีภาพของคนไทย
และเหยียบทับผู้ลี้ภัยและนักโทษการเมืองนับร้อยคนอยู่ใต้ทางเดินบนถนนสู่การเลือกตั้ง
ที่พรรคการเมืองกระดี๋กระด๋าขอส่วนแบ่งอำนาจ แต่ทว่ากำลังลืมพรรคพวกที่ถูกเผด็จการไล่ล่าทำลายล้างจนไกล้จบชีวิตไปแล้ว
ผมจึงปรารถนาอยากเห็นพวกนักการเมืองทั้งเก่าและใหม่และทุกคนผู้รักความเป็นธรรม รักประชาธิปไตย
ก่อนการเลือกตั้ง ช่วยกันต่อสู้ ให้ปลดปล่อยนักโทษการเมือง
และนำผู้ลี้ภัยการเมืองกลับแผ่นดินบ้านเกิดกันก่อนเลือกตั้งจะได้ไหม?
อย่าให้พวกเขาเหล่านั้นเหลือแต่ “เถ้ากระดูก” แล้วนำกลับมาเมืองไทยเพื่อฉลองการเลือกตั้งภายใต้กฎกติกาเผด็จการทหารในขณะนี้”
ข่าวเศร้า วิสา คัญทัพ ป่วยหนักอยู่ที่ประเทศเยอรมัน
“สมยศ พฤกษาเกษมสุข” แกนนำเสื้อแดง เผยไปเยี่ยม “วิสา คัญทัพ” ที่หนีคดีไปเยอรมนีพร้อมกับ “ไพจิตร อักษรณรงค์”
พบผอมซูบลง เดินเชื่องช้า ใบหน้าสั่นคลอนไปมาด้วยโรคพาร์กินสัน เผยค่ารักษาพยาบาลแพงมาก
แถมภาษาอังกฤษและเยอรมันยังพูดไม่ได้เลย
ระบุ “จรัล ดิษฐาอภิชัย” ยังนอนซม ถือถุงปัสสาวะ และ “สมศักดิ์ เจียมฯ” ฟื้นฟูร่างกายในโรงพยาบาล
แต่จรัลและสมศักดิ์โชคดีกว่าวิสา ตรงที่ได้เป็นพลเมืองฝรั่งเศสเรียบร้อยแล้ว
นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง อดีตแกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ที่เพิ่งพ้นโทษคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
หลังถูกจำคุกเป็นเวลา 7 ปี เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว Somyot Pruksakasemsuk ระบุว่า
เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ตนได้ไปพบกับนายวิสา คัญทัพ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ที่หลบหนีคดีไปอาศัยในอพาร์ตเมนต์แคบๆ ในเมืองโคโลญ
ที่มีอากาศหนาวเหน็บ ทางตะวันตกของประเทศเยอรมนี พร้อมกับนางไพจิตร อักษรณรงค์ ภรรยา
พบว่านายวิสาผอมซูบลงถนัดตาเห็น เดินอย่างเชื่องช้า ใบหน้าสั่นคลอนไปมาด้วยอาการของโรคพาร์กินสัน
ซึ่งนายวิสากล่าวกับเขาว่า ค่ารักษาพยาบาลที่นี่แพงมหาศาล ภาษาอังกฤษและเยอรมันพูดไม่ได้เลย
อยู่ในสังคมต่างแดนโหดร้ายมาก จะเริ่มเรียนก็ไม่ได้ ไม่ใช่คนหนุ่มสาวเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงผู้ที่หลบหนีคดีในต่างประเทศอีกสองคน คือ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย
อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ว่ายังนอนซมถือถุงปัสสาวะ
ส่วนนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ที่หลบหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กำลังฟื้นฟูร่างกายในโรงพยาบาล
ส่วนนายธานัท ธนวัชรนนท์ หรือทอม ดันดี แกนนำเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ ที่ถูกจำคุกในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
ยังถูกตีตรวนหลังกรงขังจนแทบจะเป็นบ้า
และกล่าวเรียกร้องให้นักการเมืองและผู้รักประชาธิปไตย ช่วยกันต่อสู้ให้ปลดปล่อยนักโทษการเมือง
และนำผู้ลี้ภัยการเมืองกลับแผ่นดินบ้านเกิดกันก่อนเลือกตั้ง
อย่าให้พวกเขาเหล่านั้นเหลือแต่เถ้ากระดูก แล้วนำกลับมาเมืองไทยเพื่อฉลองการเลือกตั้ง
สำหรับข้อความที่นายสมยศโพสต์ มีข้อความดังต่อไปนี้
“วิสา คัญทัพ เอกอัครมหากวี และเจ้าของบทเพลงเพื่อชีวิตที่โด่งดังในตำนาน ต่อสู้กับเผด็จการมาตลอดอายุขัย
เริ่มจากการเป็นผู้นำนักศึกษารามคำแหง ต่อสู้เผด็จการ จนถูกลบชื่อออกจากมหาวิทยาลัย
ทำให้มีการเคลื่อนไหวจนนำไปสู่การเรียกร้องรัฐธรรมนูญในปี 2516 ถูกจับกุมเป็น 1 ใน 13 กบฏ
ที่กลายเป็นการลุกขึ้นสู้ครั้งใหญ่ของประชาชน 14 ตุลาคม 2516 เมื่อเผด็จการหวนกลับมาในปี 2519
วิสา คัญทัพเข้าป่าแต่งเพลงสู้กับเผด็จการ ถึงพฤษภาทมิฬ 35 และพฤษภาเลือด 2553
ต้องหลบลี้หนีภัยไปต่างแดนในวัย 69 ปีด้วยสังขารกำลังร่วงโรยเต็มทน
ผมพบกับวิสา คัญทัพ เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 61 ที่เมืองโคโลญ เยอรมนี วิสา ผอมซูบลงถนัดตาเห็น เดินอย่างเชื่องช้า ใบหน้าสั่นคลอนไปมา
ผมจับมือวิสา คัญทัพ แต่มือของเขาสั่นเทา ไม่ใช่เพราะความหนาว แต่เป็นด้วยอาการของโรคพาร์กินสัน ที่เกิดกับเขา
เมื่อต้องไปใช้ชีวิตลำเค็ญต่างแดนในเมืองอันหนาวเหน็บ เขาใช้เวลาทั้งหมดอยู่ภายในบ้านกับภรรยา ไพจิตร อักษรณรงค์
ไม่ได้ออกไปไหนเพื่อรอคอยสถานภาพผู้ลี้ภัย
จนบัดนี้เขาออกจากบ้านได้ แต่ทว่า ความชราและพากินสันกลับทำให้เขาต้องอยู่แต่ภายในบ้านอพาร์ตเมนต์สี่เหลี่ยมอุดอู้
วิสา บอกกับผมด้วยเสียงสั่นเทา น้ำตาคลอเบ้า “ค่ารักษาพยาบาลที่นี่แพงมหาศาลเลย ผมแก่แล้ว
ภาษาอังกฤษและเยอรมันพูดไม่ได้เลย อยู่ในสังคมต่างแดนมันโหดร้ายมาก จะเริ่มเรียนก็ไม่ได้
ไม่ใช่คนหนุ่มสาว เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป”
ผมจับมือวิสา ให้ความมั่นใจกับเขาว่าบรรดานักต่อสู้ประชาธิปไตยในเมืองไทย ยังไม่ลืมเขา
และจะต้องนำ วิสา คัญทัพ และพวกกลับประเทศไทยให้ได้
ผมมาถึงเมืองไทยเมื่อคืน ตอนเช้านี้เป็นวันที่ 14 ตุลาคม 2561
ผมกำลังไปธรรมศาสตร์รำลึก 14 ต.ค.
ผมนึกถึงวิสา คัญทัพ กับบทกวีที่ว่า
“ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาบสูญ
ไม่มีใครล้ำเลิศน่าเทิดทูน ประชาชน สมบูรณ์นิรันดร์ไป”
หลายคนกำลังเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งที่เป็นธรรม ผมนึกอยู่ในใจว่า
การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีความหมายที่เป็นประชาธิปไตยได้อย่างไรเล่า?
ในเมื่อ คนอย่างวิสา คัญทัพ จรัล ดิษฐาอภิชัย และ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
ผลผลิตโดยตรงของ 14 ตุลาคม 16 ยังต้องหลบลี้หนีภัยไปต่างแดน
(ขณะที่เขียนอยู่นี้นายจรัลยังนอนซม ถือถุงเยี่ยว ส่วนนายสมศักดิ์กำลังฟื้นฟูร่างกายในโรงพยาบาล)
เช่นเดียวกับ ทอม ดันดี ยังถูกตีตรวนหลังกรงขังจนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว
มันจะเป็นการเลือกตั้งที่เที่ยงธรรมได้อย่างไรในเมื่อเส้นทางสู่การเลือกตั้งยังเหยียบย่ำเสรีภาพของคนไทย
และเหยียบทับผู้ลี้ภัยและนักโทษการเมืองนับร้อยคนอยู่ใต้ทางเดินบนถนนสู่การเลือกตั้ง
ที่พรรคการเมืองกระดี๋กระด๋าขอส่วนแบ่งอำนาจ แต่ทว่ากำลังลืมพรรคพวกที่ถูกเผด็จการไล่ล่าทำลายล้างจนไกล้จบชีวิตไปแล้ว
ผมจึงปรารถนาอยากเห็นพวกนักการเมืองทั้งเก่าและใหม่และทุกคนผู้รักความเป็นธรรม รักประชาธิปไตย
ก่อนการเลือกตั้ง ช่วยกันต่อสู้ ให้ปลดปล่อยนักโทษการเมือง
และนำผู้ลี้ภัยการเมืองกลับแผ่นดินบ้านเกิดกันก่อนเลือกตั้งจะได้ไหม?
อย่าให้พวกเขาเหล่านั้นเหลือแต่ “เถ้ากระดูก” แล้วนำกลับมาเมืองไทยเพื่อฉลองการเลือกตั้งภายใต้กฎกติกาเผด็จการทหารในขณะนี้”