ผมเป็นหนึ่งในคนที่สนใจหาตัวช่วยเป็นที่พึ่งในการลดความอ้วน มาโดยตลอด แต่สุดท้าย มันก็ได้คำตอบว่า ถ้าเราไม่เปลี่ยนนิสัย หรือ พฤติกรรมการทานอาหาร ก็ไม่มีทางที่จะผอม ได้หรอก วันนี้อาจจะ กระทบกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ สำหรับ ลดความอ้วน ก็ตาม แต่ก็จะบอกว่า ถ้าเราสามารถควบคุมที่จิตใจ ทุกคนที่อ้วนอยู่สามารถลดน้ำหนักลงจนถึงขั้นผอมได้ ในเวลาไม่นานนัก
ซึ่งมันมีวิธีการตั้งแต่ จิตใจ ไปจนถึงความเข้าใจกระบวนการทำงานของร่างกาย ซึ่งทดลองมาพอสมควรน้ำหนักลดลงจนหลายคนทักว่าผอมไปไหม แต่เราก็ยังคงมีเป้าหมายต่อไป
เดิมทีผมเคยลดด้วยการงดข้าวเย็น ทั้งน้ำหนักลด และ น้ำหนัก ไม่ลด และไม่ผอม เพราะยังไม่เข้าใจ การลดน้ำหนัก ที่เรียกว่าการนับ แคลลอรี่ คือ สิ่งที่เรากินเข้าไป กับสิ่งที่ใช้ไป หักลบกันสุดท้าย เกินจำเป็นไหม ถ้าเกินจำเป็น คือ อ้วน หรือ พอดี คือ คงที แต่ถ้าขาด น้ำหนักลดลงแน่นอน
ประกอบด้วยหลักการ การทำงานของตับที่อ่านจากแพทย์แผนตะวันออก ว่า ถ้าหากพลังงานที่ทานเข้าไปไม่เพียงพอ ร่างกายจะดึง ไขมันสะสม จากตับ และทั่วร่างกาย มาใช้งาน โดยมีสัญญาณที่บอกว่า ร่างกายดึงไขมันสะสมมาใช้แล้ว นะ คือ ความหิว นั่นเอง
จึงมีคำที่ใช้ ท่อง ตลอด ระยะเวลาที่ผ่านมา ว่า ถ้าเราหิว เท่ากับว่า เรากำลังผอมลง ถ้ากินน้อยลงหรือไม่กินเลย หรือ สั้น ๆ ถ้าเราหิวเท่ากับเรากำลังผอม ก็ใช้คำนี้มาตลอด
กลับมาที่การนับแคลลอรี่ คือ จริง แล้วจากการนับแคลลอรี่ เพื่อให้ได้ปริมาณแคลอลี่ที่เหมาะสมในแต่ละวัน แบบครบ 3 มื้อ ผมดูแล้วว่าเป็นไปไม่ได้แน่ถ้าจะกินให้ครบ 3 มื้อ ก็เลยหันมางดอาหารเย็น อีกครั้ง โดยส่วนตัวคือตั้งใจงด เพราะตัวเองนั้นถ้าได้กินก็จะอยากกินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เลยอาศัย งด มื้อเย็นเลยดีกว่า เหมือนเราตั้งโปรแกรมไว้ว่า มื้อเย็นไม่ใช่มื้ออาหาร เมื่อเราตั้งโปรแกรมไว้ ร่างกายก็จะตอบสนองสิ่งที่เราตั้งไว้
ไว้มาเล่าต่อภาค 2
สอบถามวิธีการลดความอ้วนเพิ่มเติม
ได้ที่ facebook ส่วนตัวนะครับ :
https://www.facebook.com/hiching
ลดความอ้วนด้วยวิธีตั้งโปรแกรมร่างกาย น้ำหนักลง เฉลี่ยะ 4-5 KG. ต่อเดือน (ภาค 1)
ซึ่งมันมีวิธีการตั้งแต่ จิตใจ ไปจนถึงความเข้าใจกระบวนการทำงานของร่างกาย ซึ่งทดลองมาพอสมควรน้ำหนักลดลงจนหลายคนทักว่าผอมไปไหม แต่เราก็ยังคงมีเป้าหมายต่อไป
เดิมทีผมเคยลดด้วยการงดข้าวเย็น ทั้งน้ำหนักลด และ น้ำหนัก ไม่ลด และไม่ผอม เพราะยังไม่เข้าใจ การลดน้ำหนัก ที่เรียกว่าการนับ แคลลอรี่ คือ สิ่งที่เรากินเข้าไป กับสิ่งที่ใช้ไป หักลบกันสุดท้าย เกินจำเป็นไหม ถ้าเกินจำเป็น คือ อ้วน หรือ พอดี คือ คงที แต่ถ้าขาด น้ำหนักลดลงแน่นอน
ประกอบด้วยหลักการ การทำงานของตับที่อ่านจากแพทย์แผนตะวันออก ว่า ถ้าหากพลังงานที่ทานเข้าไปไม่เพียงพอ ร่างกายจะดึง ไขมันสะสม จากตับ และทั่วร่างกาย มาใช้งาน โดยมีสัญญาณที่บอกว่า ร่างกายดึงไขมันสะสมมาใช้แล้ว นะ คือ ความหิว นั่นเอง
จึงมีคำที่ใช้ ท่อง ตลอด ระยะเวลาที่ผ่านมา ว่า ถ้าเราหิว เท่ากับว่า เรากำลังผอมลง ถ้ากินน้อยลงหรือไม่กินเลย หรือ สั้น ๆ ถ้าเราหิวเท่ากับเรากำลังผอม ก็ใช้คำนี้มาตลอด
กลับมาที่การนับแคลลอรี่ คือ จริง แล้วจากการนับแคลลอรี่ เพื่อให้ได้ปริมาณแคลอลี่ที่เหมาะสมในแต่ละวัน แบบครบ 3 มื้อ ผมดูแล้วว่าเป็นไปไม่ได้แน่ถ้าจะกินให้ครบ 3 มื้อ ก็เลยหันมางดอาหารเย็น อีกครั้ง โดยส่วนตัวคือตั้งใจงด เพราะตัวเองนั้นถ้าได้กินก็จะอยากกินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เลยอาศัย งด มื้อเย็นเลยดีกว่า เหมือนเราตั้งโปรแกรมไว้ว่า มื้อเย็นไม่ใช่มื้ออาหาร เมื่อเราตั้งโปรแกรมไว้ ร่างกายก็จะตอบสนองสิ่งที่เราตั้งไว้
ไว้มาเล่าต่อภาค 2
สอบถามวิธีการลดความอ้วนเพิ่มเติม
ได้ที่ facebook ส่วนตัวนะครับ : https://www.facebook.com/hiching