ร่างกายของแต่ละคนมีลักษณะที่แตกต่างกัน ความต้องการในการพัฒนารูปร่างของตนเองก็เช่นกัน ซึ่งล้วนแต่เกี่ยวข้องกับโภชนาการและการออกกำลังกายที่ถูกต้อง เราจึงต้องทำความเข้าใจกับโครงสร้างของร่างกายแต่ละประภทกันก่อนนะครับ เพื่อกำหนดเทคนิคในการฝึกร่างกาย ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับคนรูปร่างแต่ละแบบ
ผอม : ECTOMORPH
คือคนที่มีโครงสร้างกระดูกเล็ก ผอม บาง ข้อต่อเล็ก สะโพกเล็ก อกและไหล่แคบ เพิ่มน้ำหนักยากมาก และ การเผาผลาญแคลลอรี่เร็วมาก คนประเภทนี้ต้องการปริมาณแคลลอรี่จำนวนมากในการเพิ่มน้ำหนักตัว การรับประทานอาหารก่อนนอนและอาหารเสริมจำพวก โปรตีน,ไขมัน จึงมีความจำเป็นมากสำหรับคนกลุ่มนี้ การยกเวทควรเล่นให้หนัก จำนวนครั้งที่ยกน้อยๆ และ เน้นการเล่นที่กล้ามเนื้อ
สมส่วน : MESOMORPH
รูปร่างโครงกระดูกไหญ่ ขนาดไหล่กว้างกว่าสะโพก ลำตัวยาวเรียวไปหาเอวเป็นรูปตัว V กล้ามเนื้อขึ้นง่าย เป็นโครงสร้างร่างกายที่ดีที่สุด คนประเภทนี้ต้องระวังปริมาณอาหารที่กินเข้าไปบวกกับรูปแบบการออกกำลังกายที่เหมาะสม แนะนำให้เล่นเวทเทรนนิ่งผสมกับคาร์ดิโอ จะช่วยให้กล้ามเนื้อดูคมชัดยิ่งขึ้น
อ้วน : ENDOMORPH
โครงกระดูกใหญ่ กล้ามเนื้อเยอะ สะโพกจะกว้างกว่าไหล่ มีเซลส์ไขมันมากมองไม่เห็นกล้ามเนื้อ เป็นคนมีะบบเผาผลาญในร่างกายจะช้า จึงทำให้การลดน้ำหนักเป็นไปได้ยากมาก การออกกำลังจึงต้องอาศัยการเคลื่อนไหวร่างกายทุกสัดส่วน เน้นคาร์ดิโอแล้วเสริมด้วยเวทเทรนนิ่ง
เรียบเรียงบทความโดย :
http://bpmuscle.com/
จากที่กล่าวมาคนสมส่วนเล่นกล้ามได้ง่ายที่สุดแล้วแทบจะไม่ต้องพยายามเท่าคนอ้วนกับคนผอมเลย แล้วคนอ้วนกับคนผอมใครล่ะเล่นกล้ามได้ยากกว่ากัน
แต่ละคนคิดว่ายังไงบ้าง อันนี้จากปากเพื่อนผมนะครับที่เคยเป็นคนอ้วนมาก่อน เพื่อนผมบอกว่า คนอ้วนน่ะเล่นกล้ามง่ายกว่าคนผอมเพราะโดยต้นทุนก็มีกล้ามอยู่แล้วแต่ดันมีของแถม คือ ไขมันมาด้วย ก็แค่คุมอาหาร ทำคาร์ดิโอ เล่นเวทให้ถูกแค่นี้ก็ได้กล้ามแล้ว โดยเฉพาะเวทคนอ้วนแค่เริ่มต้นก็ไปได้ไกลกว่าคนผอมแล้วเพราะโดยต้นทุนคนอ้วนมีกล้ามอยู่แล้วแต่มีไขมันเยอะทำให้ไม่เห็นกล้ามเวลายกเวทแค่เริ่มต้นก็ยกได้เยอะกว่าคนผอมแล้ว ที่คนอ้วนบ่นๆทำไมกล้ามมายากจัง ตอนไหนไขมันจะลด เพราะใจมันไม่ได้มันเลยไม่เป็นตามที่ตั้งเป้าไว้ ถ้าไม่อ้วนถึงขั้นเดินไม่ได้ ลุกไม่ขึ้น ถ้ามีความพยายามน้ำหนักมันก็ลดทั้งนั้นแหละที่เห็นส่วนใหญ่ไม่ลดเพราะใจล้วนๆ บางคนดีใจน้ำหนักลดกลับไปกินของหวานเป็นรางวัลสุดท้ายก็วนลูปเดิม เพื่อนผมบอกว่าถ้าใจเท่ากัน ทุกอย่างเท่ากันหมดคนอ้วนเล่นกล้ามได้ไวกว่าคนผอม คนอ้วนเล่นกล้าม 3 เดือนกับคนผอมเล่นกล้าม 3 เดือน ก็ต่างกันจนมองตาเปล่าก็เห็นแล้ว มันว่าอย่างนั้นนะ
ส่วนตัวแล้วแต่ก่อนผมเป็นคนผอม สำหรับผมผมคิดว่ายากนะ เอาแค่ตอนเริ่มเลยผมเป็นคนผอม ตัวบาง อกและไหล่ก็แคบถ้าเทียบกับเพื่อนรุ่นเดียวกันเห็นได้ชัดเลยว่าต่างกัน แรงก็น้อย เข้าตำราผอมแห้งแรงน้อยเป๊ะๆ ทั้งๆที่ไม่ได้เล่นยา สูบบุหรี่ กินเหล้า แต่หุ่นกลับไม่ต่างจากขี้ยาเลย ถอดเสื้อมานี่เห็นแต่กระดูกกับซี่โครง หน้าอกนี่ก็แฟบแบนราบเสมอกับท้องเลย ผมเลยต้องเปลี่ยนตัวเองด้วยการไปยิมที่หนึ่งพร้อมปรึกษาเทรนเนอร์ว่าอยากได้กล้ามใหญ่ๆ เทรนเนอร์ก็ถามผมก่อนเลยวันๆนึงทำอะไรบ้าง กินยังไง จะได้เอาไปปรับใช้ได้ง่ายขึ้น ผมก็บอกไปตอนเช้า-เย็นก็เรียนหนังสือ ส่วนเรื่องกินถ้าหิวก็กิน ไม่หิวก็ไม่กิน บางวันก็ 2 มื้อ บางวันก็ 3 มื้อ เทรนเนอร์บอกต้องปรับปรุงการกินโดยด่วน กินตามที่เทรนเนอร์บอก 4 มื้อ/วัน พอผ่านไปได้พอสมควรก็เพิ่มเป็น 5-7 มื้อ/วัน สำหรับผมแล้วมันยากนะ เพราะผมไม่ใช่คนอ้วนความอยากอาหารมันไม่เท่าคนอ้วนอยู่แล้วแต่ก็ต้องกินเรียกได้ว่ากินจนเซ็ง พอวันถัดมาก็ให้เทรนเนอร์เขาเทรนให้เลย ท่าแรกที่เล่น คือ Barbell Bench Press หรือเรียกสั้นๆว่า "ดันอก" ผมเป็นคนแรกเริ่มด้วยคานเปล่าก่อนเลยแล้วเทรนเนอร์ต้องเซฟให้ด้วยเพราะยกครั้งที่ 7-10 แรงใกล้หมดแล้ว ผอมแห้งมักแรงน้อยอยู่แล้ว ต่างกับคนอ้วนที่เริ่มเล่นก็ใส่น้ำหนักแล้วซึ่งแรงมันต่างกับคนอ้วนมาก แต่ข้อดีของผมคือไขมันขึ้นมาไม่เยอะเท่าคนอ้วนก็แค่นั้นนอกนั้นแพ้คนอ้วนหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแรง ทางตันของแต่ละคน เล่นกล้ามจนถึงทางตันคือกล้ามมันเริ่มไม่ขึ้นแล้ว มันสุดกรรมพันธุ์แล้วอยากข้ามขีดจำกัดนี้ไปอีกต้องใช้ยาแต่ผมขอไม่ยุ่งก็แล้วกัน ทางตันของคนอ้วนมันใหญ่กว่าคนผอมอยู่แล้ว
เพื่อนผมมันชอบพูดแบบนี้ ถ้าให้วินัย การลงทุน การกิน ทุกอย่างเท่ากันหมดต่างกันแค่อ้วนกับผอม คนอ้วนจะสามารถไปได้ไกลกว่าคนผอมแน่นอน เพราะแค่โครงกระดูกก็กินขาดแล้ว ส่วนเรื่องความสวยงามมันขึ้นอยู่กับแต่ละคน บางคนบอกยิ่งใหญ่ยิ่งแข็งแรงสมกับเป็นชายชาตรี บางคนบอกยิ่งใหญ่ยิ่งน่ากลัว อันตราย บางคนบอกเอาพอสมส่วนนั่นแหละดีแล้ว แต่เรื่องความใหญ่คนผอมคงเถียงไม่ได้เพราะมันต่างกันชัดเจนอยู่แล้ว
คนอ้วนก็อ้วนแบบในรูปเลย พุงยื่นออกมา ส่วนคนผอมก็ผอมแบบในรูป คือ เห็นซี่โครง กระดูกชัด ส่วนที่เป็นกระดูกต่อจากคอจะชัดไปไหม
ทุกๆคนในนี้คิดว่ายังไงครับมาลงความเห็นกันได้ครับ
คนอ้วน VS คนผอม ใครเล่นกล้ามได้ง่ายกว่ากัน
ร่างกายของแต่ละคนมีลักษณะที่แตกต่างกัน ความต้องการในการพัฒนารูปร่างของตนเองก็เช่นกัน ซึ่งล้วนแต่เกี่ยวข้องกับโภชนาการและการออกกำลังกายที่ถูกต้อง เราจึงต้องทำความเข้าใจกับโครงสร้างของร่างกายแต่ละประภทกันก่อนนะครับ เพื่อกำหนดเทคนิคในการฝึกร่างกาย ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับคนรูปร่างแต่ละแบบ
ผอม : ECTOMORPH
คือคนที่มีโครงสร้างกระดูกเล็ก ผอม บาง ข้อต่อเล็ก สะโพกเล็ก อกและไหล่แคบ เพิ่มน้ำหนักยากมาก และ การเผาผลาญแคลลอรี่เร็วมาก คนประเภทนี้ต้องการปริมาณแคลลอรี่จำนวนมากในการเพิ่มน้ำหนักตัว การรับประทานอาหารก่อนนอนและอาหารเสริมจำพวก โปรตีน,ไขมัน จึงมีความจำเป็นมากสำหรับคนกลุ่มนี้ การยกเวทควรเล่นให้หนัก จำนวนครั้งที่ยกน้อยๆ และ เน้นการเล่นที่กล้ามเนื้อ
สมส่วน : MESOMORPH
รูปร่างโครงกระดูกไหญ่ ขนาดไหล่กว้างกว่าสะโพก ลำตัวยาวเรียวไปหาเอวเป็นรูปตัว V กล้ามเนื้อขึ้นง่าย เป็นโครงสร้างร่างกายที่ดีที่สุด คนประเภทนี้ต้องระวังปริมาณอาหารที่กินเข้าไปบวกกับรูปแบบการออกกำลังกายที่เหมาะสม แนะนำให้เล่นเวทเทรนนิ่งผสมกับคาร์ดิโอ จะช่วยให้กล้ามเนื้อดูคมชัดยิ่งขึ้น
อ้วน : ENDOMORPH
โครงกระดูกใหญ่ กล้ามเนื้อเยอะ สะโพกจะกว้างกว่าไหล่ มีเซลส์ไขมันมากมองไม่เห็นกล้ามเนื้อ เป็นคนมีะบบเผาผลาญในร่างกายจะช้า จึงทำให้การลดน้ำหนักเป็นไปได้ยากมาก การออกกำลังจึงต้องอาศัยการเคลื่อนไหวร่างกายทุกสัดส่วน เน้นคาร์ดิโอแล้วเสริมด้วยเวทเทรนนิ่ง
เรียบเรียงบทความโดย : http://bpmuscle.com/
จากที่กล่าวมาคนสมส่วนเล่นกล้ามได้ง่ายที่สุดแล้วแทบจะไม่ต้องพยายามเท่าคนอ้วนกับคนผอมเลย แล้วคนอ้วนกับคนผอมใครล่ะเล่นกล้ามได้ยากกว่ากัน
แต่ละคนคิดว่ายังไงบ้าง อันนี้จากปากเพื่อนผมนะครับที่เคยเป็นคนอ้วนมาก่อน เพื่อนผมบอกว่า คนอ้วนน่ะเล่นกล้ามง่ายกว่าคนผอมเพราะโดยต้นทุนก็มีกล้ามอยู่แล้วแต่ดันมีของแถม คือ ไขมันมาด้วย ก็แค่คุมอาหาร ทำคาร์ดิโอ เล่นเวทให้ถูกแค่นี้ก็ได้กล้ามแล้ว โดยเฉพาะเวทคนอ้วนแค่เริ่มต้นก็ไปได้ไกลกว่าคนผอมแล้วเพราะโดยต้นทุนคนอ้วนมีกล้ามอยู่แล้วแต่มีไขมันเยอะทำให้ไม่เห็นกล้ามเวลายกเวทแค่เริ่มต้นก็ยกได้เยอะกว่าคนผอมแล้ว ที่คนอ้วนบ่นๆทำไมกล้ามมายากจัง ตอนไหนไขมันจะลด เพราะใจมันไม่ได้มันเลยไม่เป็นตามที่ตั้งเป้าไว้ ถ้าไม่อ้วนถึงขั้นเดินไม่ได้ ลุกไม่ขึ้น ถ้ามีความพยายามน้ำหนักมันก็ลดทั้งนั้นแหละที่เห็นส่วนใหญ่ไม่ลดเพราะใจล้วนๆ บางคนดีใจน้ำหนักลดกลับไปกินของหวานเป็นรางวัลสุดท้ายก็วนลูปเดิม เพื่อนผมบอกว่าถ้าใจเท่ากัน ทุกอย่างเท่ากันหมดคนอ้วนเล่นกล้ามได้ไวกว่าคนผอม คนอ้วนเล่นกล้าม 3 เดือนกับคนผอมเล่นกล้าม 3 เดือน ก็ต่างกันจนมองตาเปล่าก็เห็นแล้ว มันว่าอย่างนั้นนะ
ส่วนตัวแล้วแต่ก่อนผมเป็นคนผอม สำหรับผมผมคิดว่ายากนะ เอาแค่ตอนเริ่มเลยผมเป็นคนผอม ตัวบาง อกและไหล่ก็แคบถ้าเทียบกับเพื่อนรุ่นเดียวกันเห็นได้ชัดเลยว่าต่างกัน แรงก็น้อย เข้าตำราผอมแห้งแรงน้อยเป๊ะๆ ทั้งๆที่ไม่ได้เล่นยา สูบบุหรี่ กินเหล้า แต่หุ่นกลับไม่ต่างจากขี้ยาเลย ถอดเสื้อมานี่เห็นแต่กระดูกกับซี่โครง หน้าอกนี่ก็แฟบแบนราบเสมอกับท้องเลย ผมเลยต้องเปลี่ยนตัวเองด้วยการไปยิมที่หนึ่งพร้อมปรึกษาเทรนเนอร์ว่าอยากได้กล้ามใหญ่ๆ เทรนเนอร์ก็ถามผมก่อนเลยวันๆนึงทำอะไรบ้าง กินยังไง จะได้เอาไปปรับใช้ได้ง่ายขึ้น ผมก็บอกไปตอนเช้า-เย็นก็เรียนหนังสือ ส่วนเรื่องกินถ้าหิวก็กิน ไม่หิวก็ไม่กิน บางวันก็ 2 มื้อ บางวันก็ 3 มื้อ เทรนเนอร์บอกต้องปรับปรุงการกินโดยด่วน กินตามที่เทรนเนอร์บอก 4 มื้อ/วัน พอผ่านไปได้พอสมควรก็เพิ่มเป็น 5-7 มื้อ/วัน สำหรับผมแล้วมันยากนะ เพราะผมไม่ใช่คนอ้วนความอยากอาหารมันไม่เท่าคนอ้วนอยู่แล้วแต่ก็ต้องกินเรียกได้ว่ากินจนเซ็ง พอวันถัดมาก็ให้เทรนเนอร์เขาเทรนให้เลย ท่าแรกที่เล่น คือ Barbell Bench Press หรือเรียกสั้นๆว่า "ดันอก" ผมเป็นคนแรกเริ่มด้วยคานเปล่าก่อนเลยแล้วเทรนเนอร์ต้องเซฟให้ด้วยเพราะยกครั้งที่ 7-10 แรงใกล้หมดแล้ว ผอมแห้งมักแรงน้อยอยู่แล้ว ต่างกับคนอ้วนที่เริ่มเล่นก็ใส่น้ำหนักแล้วซึ่งแรงมันต่างกับคนอ้วนมาก แต่ข้อดีของผมคือไขมันขึ้นมาไม่เยอะเท่าคนอ้วนก็แค่นั้นนอกนั้นแพ้คนอ้วนหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแรง ทางตันของแต่ละคน เล่นกล้ามจนถึงทางตันคือกล้ามมันเริ่มไม่ขึ้นแล้ว มันสุดกรรมพันธุ์แล้วอยากข้ามขีดจำกัดนี้ไปอีกต้องใช้ยาแต่ผมขอไม่ยุ่งก็แล้วกัน ทางตันของคนอ้วนมันใหญ่กว่าคนผอมอยู่แล้ว
เพื่อนผมมันชอบพูดแบบนี้ ถ้าให้วินัย การลงทุน การกิน ทุกอย่างเท่ากันหมดต่างกันแค่อ้วนกับผอม คนอ้วนจะสามารถไปได้ไกลกว่าคนผอมแน่นอน เพราะแค่โครงกระดูกก็กินขาดแล้ว ส่วนเรื่องความสวยงามมันขึ้นอยู่กับแต่ละคน บางคนบอกยิ่งใหญ่ยิ่งแข็งแรงสมกับเป็นชายชาตรี บางคนบอกยิ่งใหญ่ยิ่งน่ากลัว อันตราย บางคนบอกเอาพอสมส่วนนั่นแหละดีแล้ว แต่เรื่องความใหญ่คนผอมคงเถียงไม่ได้เพราะมันต่างกันชัดเจนอยู่แล้ว
คนอ้วนก็อ้วนแบบในรูปเลย พุงยื่นออกมา ส่วนคนผอมก็ผอมแบบในรูป คือ เห็นซี่โครง กระดูกชัด ส่วนที่เป็นกระดูกต่อจากคอจะชัดไปไหม
ทุกๆคนในนี้คิดว่ายังไงครับมาลงความเห็นกันได้ครับ