#ฉันเหนื่อย
เหนื่อยกับชีวิตประจำวัน เหนื่อยในทุกๆวัน เหนื่อยที่ต้องอารมณ์ดีทั้งๆที่ไม่ใช่ เหนื่อยโดยไร้สาเหตุบ้างบางครั้ง เรื่องเล็กน้อยบางทีกระทบจิตใจมากๆ
สอบปลายภาคครั้งนี้ ฉันอ่านอะไรไม่รู้เรื่องเลย ฉันอ่านโจทย์มากกว่าสามรอบในแต่ละข้อ แต่ฉันก็ไม่เข้าใจคำถามอยู่ดี พอเริ่มเข้าใจและอ่านตัวเลือก ฉันก็ลืมคำถามไปแล้ว จึงยากมากในการตอบแต่ละข้อ สุดท้ายฉันท้อ เลยเลือกอ่านผ่านๆ ไม่เข้าใจก็กามั่ว เข้าใจก็ตอบ มันเหมือนข้ออ้างของคนโง่ แต่ไม่ใช่ เมื่อก่อนฉันทำมันได้ดีกว่านี้ ฉันเคยเรียนดีและหัวไว ฉันเคยได้เกรดดี คะแนนดี แต่เทอมนี้เป็นเทอมแรกที่ฉันมั่นใจว่าจะต้องแย่ ฉันไม่ใช่ฉัน
ฉันขี้เกียจมากขึ้น นอนน้อยลง ห้องนอนรกไปหมด ของอยู่กระจัดกระจาย ฉันไม่ใช่คนสะอาด แต่นี่มันเกินไปแล้ว ฉันเหนื่อยแม้แต่จะลุกไปกินน้ำ ฉันเอาแต่นอน การบ้านแทบจะไม่อยากยุ่ง ส่งงานล่าช้าไม่ตรงเวลา เมื่อก่อนฉันเป็นคนมีแผนในหัวเสมอ ว่าจะต้องทำอะไรก่อน เริ่มอย่างไร จบอย่างไร ทุกอย่างมีลำดับก่อนหลัง แม้แต่การอาบน้ำฉันก็คิดว่าต้องทำอะไรก่อน กินข้าวต้องตักอะไรเข้าปากก่อน แต่งตัวจะใส่อะไร ครีมจะทาตัวไหน ฉันวางแผนไว้ทั้งหมด แต่ทุกวันนี้ ฉันทำอะไรไปเรื่อย เหม่อ และมักจะขี้ลืม ลืมของ ลืมเนื้อหาที่เรียน ฟังคนอื่นไม่รู้เรื่อง พูดเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง มึนๆ จากที่นอนเที่ยงคืน-ตีหนึ่ง ฉันเริ่มนอนตีสาม-ตีสี่ และตื่นตอนหกโมงครึ่งถึงเจ็ดโมง แต่ฉันมักจะยังไม่ปลุกรูมเมท ฉันมักจะทำธุระส่วนตัวไปก่อนค่อยปลุก เพราะเมื่อฉันทำอะไรเสร็จ ฉันจะได้มีเวลานอนตัวตุ่ยอยู่บนเตียง
เหตุผลของการไปสายส่วนหนึ่งคือตื่นสาย แต่อีกส่วนคือฉันไม่อยากไป ไม่อยากไปเลยซักวันเดียว มันไม่เคยมีเช้าที่สดชื่นสำหรับฉัน ทุกอย่างดูน่าหงุดหงิดวุ่นวาย ฉันจึงเลือกที่จะไปสาย จะได้เข้าแถวเสร็จเร็ว ฉันกินอาหารเช้าและเที่ยงในปริมาณที่น้อยมาก หรือไม่กินเลย กินแค่นม หรือขนมเล็กน้อย แต่ตอนเย็นหากเหนื่อยก็จะไม่กินอะไรเลย บางครั้งในตอนกลางดึกก็หิว พอเช้ามากลับไม่หิว และกินน้อยเช่นเดิม ฉันคิดไม่ออกว่าจะกินอะไร ฉันใช้เวลานานในการเข้าเซเว่นหรือร้านค้า แต่ฉันมักจะได้เพียงแค่นมและขนมนิดหน่อย
ฉันเบื่อชีวิตประจำวันที่เหมือนซอมบี้ ฉันเหนื่อยหน่าย แต่ก็หาทางออกไม่ได้ บางวันฉันก็อารมณ์ดี บางวันฉันก็แย่ ฉันมักจะประเมินจิตใจตนเองในทุกๆวัน ว่าวันนี้รู้สึกแย่แค่ไหน แล้วควบคุมตัวเองได้แค่ไหน ประคองตัวเองได้ไหม โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น 70:30 คือวันนี้ฉันอาการไม่ค่อยดี แต่ก็ยังไม่เลวร้ายมาก หลายครั้งที่ฉันเผลอแสดงสายตาประหลาดใส่คนรอบตัว โดยที่ฉันไม่ได้ตั้งใจ
บางทีก็มีความคิดแบบคนโรคจิตเข้ามาในหัวฉัน ฉันฝันเห็นคนถูกทรมาน เห็นเลือด เห็นเครื่องใน และตัวฉันในเหตุการณ์ ฉันดูเลวร้าย ไม่ต่างกับฆาตกร ฉันเรื่องแบ่งแยกอารมณ์ระหว่าง สุข เศร้า และโรคจิต อารมณ์สุดท้ายไม่มีใครเห็นมากนัก เพราะอยู่ในจิตใจของฉันคนเดียว มันจึงเป็นเรื่องยากที่ต้องควบคุมตนเองในทุกวัน อาจจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ฉันเหนื่อย
เร็วๆนี้ฉันต้องไปพบหมอ ฉันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร จริงๆฉันอาจจะไม่เป็นอะไรเลยก็ได้ เอาจริงๆฉันไม่อยากเป็นอะไรเลย ตอนนี้ฉันตัดสินใจบอกที่บ้านไปแล้ว เหมือนว่าการที่ฉันบอก ไม่เป็นผลอะไรนัก เขาแค่รับทราบและปล่อยผ่าน แต่ไม่เป็นไร ฉันต้องเข้มแข็งพอที่จะสู้ได้ ฉันกำลังจะจบ ม.6 ฉันมีความคิดประหลาดว่าจะตายทันทีที่จบเลยมั้ย จะได้ไม่เหนื่อยไปมากกว่านี้ แต่นั่นแหละความคิดยังคงทะเลาะกันในหัวฉันเสมอ และถ้าฉันเก่งพอฉันจะอยู่ถึงวันเกิดตอนอายุ 25 ปี และตัดสินใจไปบนหน้าผาซักที่ กระโดดลงมา อยู่ในอ้อมกอดของป่าใหญ่ ทิ้งจดหมายไว้ไม่ต้องตามหา ไม่ต้องจัดพิธีใดใดทั้งสิ้น ฉันอยู่ในอ้อมกอดของธรรมชาติแล้ว การตายในวันเกิด คือ1ในความฝันของฉันเลยหล่ะ หรือหากฉันเก่งไม่พอ ก็อาจจะตายทันทีที่เรียนจบ ป.ตรี เป็นความคิดบ้าๆที่มีความสุขดีนะ อย่างน้อยก็ได้เรียนจบให้พ่อกับแม่
นี่เป็นเพียงบทความหนึ่งของคนโง่แบบฉัน ขอให้ทุกคนมีความสุขกับโลกใบนี้
#โลกสกปรกของผู้หญิงสารเลว
โลกสกปรกของผู้หญิงสารเลว
เหนื่อยกับชีวิตประจำวัน เหนื่อยในทุกๆวัน เหนื่อยที่ต้องอารมณ์ดีทั้งๆที่ไม่ใช่ เหนื่อยโดยไร้สาเหตุบ้างบางครั้ง เรื่องเล็กน้อยบางทีกระทบจิตใจมากๆ
สอบปลายภาคครั้งนี้ ฉันอ่านอะไรไม่รู้เรื่องเลย ฉันอ่านโจทย์มากกว่าสามรอบในแต่ละข้อ แต่ฉันก็ไม่เข้าใจคำถามอยู่ดี พอเริ่มเข้าใจและอ่านตัวเลือก ฉันก็ลืมคำถามไปแล้ว จึงยากมากในการตอบแต่ละข้อ สุดท้ายฉันท้อ เลยเลือกอ่านผ่านๆ ไม่เข้าใจก็กามั่ว เข้าใจก็ตอบ มันเหมือนข้ออ้างของคนโง่ แต่ไม่ใช่ เมื่อก่อนฉันทำมันได้ดีกว่านี้ ฉันเคยเรียนดีและหัวไว ฉันเคยได้เกรดดี คะแนนดี แต่เทอมนี้เป็นเทอมแรกที่ฉันมั่นใจว่าจะต้องแย่ ฉันไม่ใช่ฉัน
ฉันขี้เกียจมากขึ้น นอนน้อยลง ห้องนอนรกไปหมด ของอยู่กระจัดกระจาย ฉันไม่ใช่คนสะอาด แต่นี่มันเกินไปแล้ว ฉันเหนื่อยแม้แต่จะลุกไปกินน้ำ ฉันเอาแต่นอน การบ้านแทบจะไม่อยากยุ่ง ส่งงานล่าช้าไม่ตรงเวลา เมื่อก่อนฉันเป็นคนมีแผนในหัวเสมอ ว่าจะต้องทำอะไรก่อน เริ่มอย่างไร จบอย่างไร ทุกอย่างมีลำดับก่อนหลัง แม้แต่การอาบน้ำฉันก็คิดว่าต้องทำอะไรก่อน กินข้าวต้องตักอะไรเข้าปากก่อน แต่งตัวจะใส่อะไร ครีมจะทาตัวไหน ฉันวางแผนไว้ทั้งหมด แต่ทุกวันนี้ ฉันทำอะไรไปเรื่อย เหม่อ และมักจะขี้ลืม ลืมของ ลืมเนื้อหาที่เรียน ฟังคนอื่นไม่รู้เรื่อง พูดเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง มึนๆ จากที่นอนเที่ยงคืน-ตีหนึ่ง ฉันเริ่มนอนตีสาม-ตีสี่ และตื่นตอนหกโมงครึ่งถึงเจ็ดโมง แต่ฉันมักจะยังไม่ปลุกรูมเมท ฉันมักจะทำธุระส่วนตัวไปก่อนค่อยปลุก เพราะเมื่อฉันทำอะไรเสร็จ ฉันจะได้มีเวลานอนตัวตุ่ยอยู่บนเตียง
เหตุผลของการไปสายส่วนหนึ่งคือตื่นสาย แต่อีกส่วนคือฉันไม่อยากไป ไม่อยากไปเลยซักวันเดียว มันไม่เคยมีเช้าที่สดชื่นสำหรับฉัน ทุกอย่างดูน่าหงุดหงิดวุ่นวาย ฉันจึงเลือกที่จะไปสาย จะได้เข้าแถวเสร็จเร็ว ฉันกินอาหารเช้าและเที่ยงในปริมาณที่น้อยมาก หรือไม่กินเลย กินแค่นม หรือขนมเล็กน้อย แต่ตอนเย็นหากเหนื่อยก็จะไม่กินอะไรเลย บางครั้งในตอนกลางดึกก็หิว พอเช้ามากลับไม่หิว และกินน้อยเช่นเดิม ฉันคิดไม่ออกว่าจะกินอะไร ฉันใช้เวลานานในการเข้าเซเว่นหรือร้านค้า แต่ฉันมักจะได้เพียงแค่นมและขนมนิดหน่อย
ฉันเบื่อชีวิตประจำวันที่เหมือนซอมบี้ ฉันเหนื่อยหน่าย แต่ก็หาทางออกไม่ได้ บางวันฉันก็อารมณ์ดี บางวันฉันก็แย่ ฉันมักจะประเมินจิตใจตนเองในทุกๆวัน ว่าวันนี้รู้สึกแย่แค่ไหน แล้วควบคุมตัวเองได้แค่ไหน ประคองตัวเองได้ไหม โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น 70:30 คือวันนี้ฉันอาการไม่ค่อยดี แต่ก็ยังไม่เลวร้ายมาก หลายครั้งที่ฉันเผลอแสดงสายตาประหลาดใส่คนรอบตัว โดยที่ฉันไม่ได้ตั้งใจ
บางทีก็มีความคิดแบบคนโรคจิตเข้ามาในหัวฉัน ฉันฝันเห็นคนถูกทรมาน เห็นเลือด เห็นเครื่องใน และตัวฉันในเหตุการณ์ ฉันดูเลวร้าย ไม่ต่างกับฆาตกร ฉันเรื่องแบ่งแยกอารมณ์ระหว่าง สุข เศร้า และโรคจิต อารมณ์สุดท้ายไม่มีใครเห็นมากนัก เพราะอยู่ในจิตใจของฉันคนเดียว มันจึงเป็นเรื่องยากที่ต้องควบคุมตนเองในทุกวัน อาจจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ฉันเหนื่อย
เร็วๆนี้ฉันต้องไปพบหมอ ฉันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร จริงๆฉันอาจจะไม่เป็นอะไรเลยก็ได้ เอาจริงๆฉันไม่อยากเป็นอะไรเลย ตอนนี้ฉันตัดสินใจบอกที่บ้านไปแล้ว เหมือนว่าการที่ฉันบอก ไม่เป็นผลอะไรนัก เขาแค่รับทราบและปล่อยผ่าน แต่ไม่เป็นไร ฉันต้องเข้มแข็งพอที่จะสู้ได้ ฉันกำลังจะจบ ม.6 ฉันมีความคิดประหลาดว่าจะตายทันทีที่จบเลยมั้ย จะได้ไม่เหนื่อยไปมากกว่านี้ แต่นั่นแหละความคิดยังคงทะเลาะกันในหัวฉันเสมอ และถ้าฉันเก่งพอฉันจะอยู่ถึงวันเกิดตอนอายุ 25 ปี และตัดสินใจไปบนหน้าผาซักที่ กระโดดลงมา อยู่ในอ้อมกอดของป่าใหญ่ ทิ้งจดหมายไว้ไม่ต้องตามหา ไม่ต้องจัดพิธีใดใดทั้งสิ้น ฉันอยู่ในอ้อมกอดของธรรมชาติแล้ว การตายในวันเกิด คือ1ในความฝันของฉันเลยหล่ะ หรือหากฉันเก่งไม่พอ ก็อาจจะตายทันทีที่เรียนจบ ป.ตรี เป็นความคิดบ้าๆที่มีความสุขดีนะ อย่างน้อยก็ได้เรียนจบให้พ่อกับแม่
นี่เป็นเพียงบทความหนึ่งของคนโง่แบบฉัน ขอให้ทุกคนมีความสุขกับโลกใบนี้
#โลกสกปรกของผู้หญิงสารเลว