การไต่สวนการตายของ Dolores Mary Eileen O'Riordan
ที่เสียชีวิตในวัย 46 ปีวันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา
ต้องเลื่อนการประกาศผลการตายออกไปถึงเดือนเมษายน ปีนี้
Barry Egan ได้บอกเล่าเรื่องราวที่โหดร้ายและเป็นโศกนาฎกรรม
ของ
Dolores O'Riordan นักร้องนำเพลงร็อคที่โด่งดังมีชื่อเสียงมากที่สุด
เรื่องราวเกี่ยวข้องกับเธอที่ถูกข่มขืนอย่างยาวนานถึง 4 ปีตอนที่เธอยังเป็นเด็กหญิง
ความคิดของเธอที่อยากจะฆ่าตัวตาย ภาวะโรคซึมเศร้า
และการถูกจับกุมด้วยข้อหาก่อเรื่องราววุ่นวายทำร้ายร่างกายคนบนเครื่องบินโดยสาร
พวกเราหลายคนต่างรู้จักและชื่นชอบ Dolores O'Riordan
แต่เธอก็มีชื่อเสียในเรื่องการสร้างเรื่องราวหายนะมาหลายปีก่อนแล้ว
ภัยพิบัติครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 5 โมงเช้า
ในเที่ยวบิน
EI110 จาก
New York ไปยัง
Shannon
ผมเพียงแค่ประหลาดใจว่า เรื่องราวครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน
ดังนั้นท้ายสุด Dolores ต้องจบเรื่องราวลงด้วยเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในอาชีพของเธอ
เธอถูกถูกจับด้วยข้อหา ก่อเหตุวุ่นวายและเลวร้ายบนเครื่องบิน
ขณะที่อยู่บนเครื่องบินของสายการบิน
Aer Lingus
ด้วยการเอาศีรษะโขกใส่และถ่มน้ำลายใส่พนักงานรักษาความปลอดภัยคนหนึ่ง
เรื่องราวนี้ดูเหมือนว่าน่าตื่นเต้น แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า Dolores จะต้องอับอายอย่างแน่นอน
ผมมีเรื่องราวที่อยากจะบอกว่า
เรื่องราวนี้มีเบื้องหลังที่แสนรันทดและแสนเศร้า
Dolores ค่อนข้างไม่ปรกติ
เธอเพิ่งจะได้รับอุบัติเหตุเล็กน้อยช่วงรอคอยจะขึ้นเครื่องบิน
และมีคนจำนวนไม่มากนักที่รู้จัก Dolores
จะรู้สึกทึ่งกับข้อกล่าวหาเธอถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นบน 10,000 ฟุต
เหนือน่านฟ้า Shannon และบนภาคพื้นสนามบิน Shannon
สำหรับคนส่วนใหญ่ที่รู้จักและชื่นชอบ Dolores O'Riordan
ต่างต้องการให้เธอไปอยู่ในสถานที่ที่ดีกว่า แต่อย่างว่าพูดง่ายกว่าทำ
แม่ของเธอเองยังเคยพูดถึง Dolores ลูกเธอว่า
อยู่ในสภาพที่เปราะบางมาก
ด้วยเงื่อนไขที่คาดหวังว่า เธอจะไม่ต้องรับโทษหรือได้รับอภัยโทษ
จากความรุนแรงที่เลวร้ายที่ Dolores ได้ก่อขึ้นมา
Dolores ต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บช้ำน้ำใจ
และความเจ็บปวดรวดร้าวในใจที่ทรมานเธอจากเหตุการณ์ในอดีต
ผมเองก็ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้หรือพูดให้เรื่องนี้เป็นเรื่อง
ดราม่า
เรื่องมันไม่ง่ายเลยกับการพูดเพียงแค่วาทกรรม เช่น จัดการกับปีศาจของเธอเองซะ
แต่ปีศาจของ Dolores O'Riordan นั้นอาจจะทำให้ชีวิตคนเราจบสิ้นลง
คล้ายกับ
ผู้คุมวิญญาณในเรื่อง
Harry Potter
ที่คอยสูบจิตวิญญาณและความหวังในชีวิตคนเรา
จนท้อแท้ห่อเหี่ยวรันทดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป
ตามที่
J.K Rowling เคยให้สัมภาษณ์ไว้นานแล้ว
เล่าถึงประสบการณ์ชีวิตของเธอตอนตกงานหลังจากหย่ากับสามีคนแรก
ต้องมาอาศัยแม่อยู่พร้อมทำหน้าที่เป็น
Single Mom ลูกสาวคนแรก
ขอรับเงินประทังชีพเพราะกลายเป็นคนตกงาน
เธอต้องไปนั่งเขียนหนังสือเล่มแรกตามร้านขายกาแฟ
ทั้งพยายามติดต่อขายต้นฉบับผ่านตัวแทนลิขสิทธิ์หลายราย
จนมีรายหนึ่งยอมรับทำหน้าที่เดินเรื่องให้กับเธอ
แต่กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ถึง 8 แห่งปฏิเสธรับตีพิมพ์
อ้างว่าคนรุ่นใหม่คงไม่อ่านเรื่องเพ้อเจ้อแบบนี้แล้ว
เธอได้บอกผมในเดือนตุลาคม ปี 2013
" มันเป็นเวลาถึง 4 ปี เมื่อฉันยังเด็กอยู่
ฉันถูกข่มขืน ตอนฉันยังเป็นเด็ก "
Dolores เก็บความลับเรื่องราวสกปรกในช่วงวัยเด็กของเธอที่เคยเกิดขึ้นมา
มันถูกฝังไว้อยู่ในส่วนลึกในใจของเธอตลอดชีวิตของเธอ
มันเหมือนมีเงามืด/ปีศาจที่คอยติดตามเธออยู่ตลอดชีวิตของเธอ
ความลับที่สกปรกนี้ทำให้ Dolores O'Riordan เกิดมีอาการต่าง ๆ
อาการประสาทเสีย หดหู่เป็นโรคซึมเศร้า อยากจะฆ่าตัวตาย และเป็นโรคเบื่ออาหาร/โรคคลั่งผอม
เธอมีอาการตื่นตระหนก เธอนอนไม่หลับ หรือกินอาหารอย่างผิดปรกติ และเธอจะทำอย่างไรได้บ้าง
เรื่องราวของคนที่ได้ทำกับ Dolores O'Riordan
ตั้งแต่เธออายุเพียง 8 ขวบถึง 12 ปีขวบ(กินเวลา 4 ปี)
โดยใครบางคนในพื้นที่
Limerick
คนที่น่าจะไว้ใจได้และเชื่อถือได้
ผลที่ได้คือ ทำให้เธอหัวใจสลายและทำใจลำบาก
เมื่อพ่อของ Dolores ป่วยเป็นโรคมะเร็งเป็นเวลา 7 ปี
ก่อนที่จะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2011
ที่บ้านใน
Ballybricken ในเขต Limerick
Dolores ตื่นตระหนกและรู้ดีว่า
เธอจะต้องเห็นคนที่ทำร้ายเธอ
ผู้ชายคนนั้นจะต้องมาในงานศพพ่อเธอใน Limerick
"
ฉันฝันร้ายเรื่องที่จะต้องพบกับมัน
เป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม ก่อนที่พ่อใกล้จะตาย "
เธอบอกผมเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
ความกลัวเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจริง เมื่อชายที่ทำร้ายเธอ
"
มันมาจริงและร่ำไห้พร้อมกับพูดว่า เสียใจ "
ผมถามเธอว่า เธอพูดอะไรกับมัน เมื่อมันพูดอย่างนั้น
" พ่อของฉันเพิ่งเสียชีวิตไป
ฉันไม่ได้เห็นหน้ามันมาหลายต่อหลายปีแล้ว
และฉันได้เห็นมันในงานศพของพ่อ
ฉันได้ลบมันออกจากชีวิตของฉันแล้ว "
(จริง ๆ ยังฝังลึกไว้แน่นในความทรงจำ)
Dolores ได้บอกกับผมว่า
เธอได้แต่ตำหนิ/กล่าวโทษตนเองว่า
ผู้ชายคนนั้นทำร้ายร่างกายเธอ
เป็นเวลา 4 ปีโดยเริ่มตั้งแต่เธออายุเพียง 8 ขวบ
" นั่นคือเรื่องราวที่เกิดขึ้นมา
คุณได้แต่คิดว่า มันเป็นความผิดของคุณเอง
ฉันได้ฝังมันไว้ มันเป็นสิ่งแรกสุดที่คุณจะทำได้
เพราะคุณรู้สึกละอายใจเกี่ยวกับมัน
คุณได้แต่คิดว่า : โอ้พระเจ้า มันช่างน่ากลัวและน่าขยะแขยง
คุณจะมีแต่ความเกลียดชังตัวเองกับเรื่องที่แย่มาก
และเมื่อตอนที่ฉันเริ่มมีชื่อเสียงตอนอายุ 18 ปี
และอาชีพนักดนตรีของฉันได้เข้ามาทดแทนเรื่องนี้
แต่มันกลับกลายเป็นเรื่องที่ยิ่งยากขึ้นเรื่อย ๆ
ดังนั้น ฉันจิงเริ่มมีอาการ
โรคคลั่งผอม Anorexia
และเมื่อฉันเริ่มค้นหาและศึกษาเรื่องโรคคลั่งผอมจาก Google
ฉันพบว่ามันเป็นพยาธิวิทยาทั่วไป(จิตกลไกบำบัด)ที่พัฒนาขึ้นในภายหลัง
และแล้วฉันจึงต้องสร้างหน้ากากตอนเองให้สมบูรณ์แบบ(แสแสร้ง)
ฉันมีอาการโรคคลั่งผอม แล้วอาการซึมเศร้า
อาการเจ็บป่วยทางอารมณ์และจิตใจ nervous breakdowns "
ผมได้บอกเธอว่า อาการโรคคลั่งผอม คือ รูปแบบหนึ่งความคิดอยากฆ่าตัวตาย
เพราะคุณต้องการทำให้ตัวเองหายไป/จากไปตลอดกาล
เธอตอบผมว่า
" ฉันรู้ว่าทำไม ฉันรู้ดีว่า ทำไมฉันเกลียดตัวเอง
ฉันรู้ว่า ทำไมฉันถึงรังเกียจรูปร่างตัวเอง
ฉันรู้ว่า ทำไมฉันถึงต้องการทำตัวเองให้หายไป/จากไป
มันมีบางสิ่งบางอย่างที่ฉันสังเกตและเข้าใจอย่างชัดแจ้งว่า
มันคือ พฤติกรรมของฉันเองและพยาธิวิทยา(จิตกลไกบำบัด)ของฉันเอง
ฉันเริ่มพัฒนามันขึ้นมาตอนฉันเริ่มเป็นวัยรุ่น
เช่น ความผิดปกติของฉันในการกินอาหาร
ภาวะซึมเศร้า และในที่สุดอาการเจ็บป่วยทางอารมณ์และจิตใจ
ฉันคิดว่า ฉันแข็งแกร่งขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจ
แต่ฉันก็เป็นผู้โดยสารอีกคนหนึ่งที่อยู่ในขบวนรถไฟหายนะ
(สภาพขบวนรถไฟที่ชำรุดทรุดโทรมเสียหายเกินจะเยียวยา)
ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ใครก็ตามที่แกล้งทำว่าสมบูรณ์แบบ มักจะไม่สมบูรณ์แบบ "
เรื่องราวทั้งหมดนี้ คุณคงจะสามารถจินตนาการถึง
ความคิดและความรู้สึกที่ทุกข์ยากทรมานที่ทำร้ายจิตใจของ Dolores
ผ่านช่วงวัยรุ่นจนมาถึงวัยผู้ใหญ่ของเธอ (เธอมีลูก 4 คน)
เรื่องราวในอดีตทำให้เธอเครียดมากทั้งด้านอารณ์และจิตใจ
จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลยที่ Dolores ต้องจำใจยอมรับความทุกข์ทรมาน
จากอาการโรคคลั่งผอม อาการเจ็บป่วยทางอารมณ์และจิตใจ
และความคิดที่อยากจะฆ่าตัวตาย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
เรื่องราวเหล่านี้มีความเป็นไปได้ว่า ไม่ทางใดก็ทางทางหนึ่ง
และไม่ใช่เรื่องไกลตัวแต่อย่างใดเลย ที่จะอธิบายได้ถึง
ความอ่อนแอเปราะบางของเธอที่ระเบิดได้อย่างง่าย
หรือสภาวะทางจิตใจของเธอที่ล่อแหลม/สุ่มเสียงตลอดเวลา
เธอเคยบอกผมเมื่อฤดูร้อนครั้งล่าสุด อย่างช้า ๆ ว่า
" ฉันพยายามจะกินยาให้เกินขนาดเมื่อปีที่แล้ว
แต่ฉันคิดว่า ฉันตั้งใจจะอยู่ที่นี่เพื่อลูก ๆ
มันเป็นเพียงเรื่องราวในอดีตที่ฉันรับรู้ในตอนนี้ - ฉันคิดว่าจะไม่แก้แค้น
ฉันจะไม่เป็นคนแบบนั้น แต่มันทำให้ฉันรู้สึกว่าได้รับการปลดปล่อย
เมื่อฉันอยู่ท่ามกลางกลุ่มบำบัด(ทางจิตใจและอารมณ์)
ชีวิตต้องดำเนินต่อไป และฉันจะเป็นแม่ที่ดีและแม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม
ฉันรู้สึกดีขึ้น แต่บางครั้งฉันก็ดื่มเหล้าตั้งตาย
ทุกอย่างจะเลวร้ายยิ่งขึ้นในเช้าวันถัดมา
ฉันสูบบุหรี่ไปด้วยในช่วงที่ฉันดื่มเหล้า
ตอนที่ฉันนึกถึงความทรงจำที่เลวร้าย
ฉันไม่สามารถควบคุมพวกมัน
(เก็บกดความทรงจำเลวร้ายได้)
และแล้วฉันก็ตั้งหน้าตั้งตาดื่มเหล้าตั้งตาย
ฉันกลายเป็นปีศาจสุราตนหนึ่ง
นี่คือ ข้อบกพร่องเรื่องใหญ่ที่สุดของฉัน "
บางครั้งเธอกินทั้งยานอนหลับพร้อม ๆ กับเหล้า
เพื่อทำให้เธอได้หลับลึกมากกว่าเดิม
นี่คือ ผลข้างเคียงของพฤติกรรมที่เธอทำด้วยส่วนหนึ่ง
ปีศาจที่หลบซ่อนในร่าง Dolores O'Riordan นักร้องเพลง Zombie
The Cranberries - Zombie
Dolores O'Riordan ที่มา https://goo.gl/4jwuLo
การไต่สวนการตายของ Dolores Mary Eileen O'Riordan
ที่เสียชีวิตในวัย 46 ปีวันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา
ต้องเลื่อนการประกาศผลการตายออกไปถึงเดือนเมษายน ปีนี้
Barry Egan ได้บอกเล่าเรื่องราวที่โหดร้ายและเป็นโศกนาฎกรรม
ของ Dolores O'Riordan นักร้องนำเพลงร็อคที่โด่งดังมีชื่อเสียงมากที่สุด
เรื่องราวเกี่ยวข้องกับเธอที่ถูกข่มขืนอย่างยาวนานถึง 4 ปีตอนที่เธอยังเป็นเด็กหญิง
ความคิดของเธอที่อยากจะฆ่าตัวตาย ภาวะโรคซึมเศร้า
และการถูกจับกุมด้วยข้อหาก่อเรื่องราววุ่นวายทำร้ายร่างกายคนบนเครื่องบินโดยสาร
พวกเราหลายคนต่างรู้จักและชื่นชอบ Dolores O'Riordan
แต่เธอก็มีชื่อเสียในเรื่องการสร้างเรื่องราวหายนะมาหลายปีก่อนแล้ว
ภัยพิบัติครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 5 โมงเช้า
ในเที่ยวบิน EI110 จาก New York ไปยัง Shannon
ผมเพียงแค่ประหลาดใจว่า เรื่องราวครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน
ดังนั้นท้ายสุด Dolores ต้องจบเรื่องราวลงด้วยเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในอาชีพของเธอ
เธอถูกถูกจับด้วยข้อหา ก่อเหตุวุ่นวายและเลวร้ายบนเครื่องบิน
ขณะที่อยู่บนเครื่องบินของสายการบิน Aer Lingus
ด้วยการเอาศีรษะโขกใส่และถ่มน้ำลายใส่พนักงานรักษาความปลอดภัยคนหนึ่ง
เรื่องราวนี้ดูเหมือนว่าน่าตื่นเต้น แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า Dolores จะต้องอับอายอย่างแน่นอน
ผมมีเรื่องราวที่อยากจะบอกว่า
เรื่องราวนี้มีเบื้องหลังที่แสนรันทดและแสนเศร้า
Dolores ค่อนข้างไม่ปรกติ
เธอเพิ่งจะได้รับอุบัติเหตุเล็กน้อยช่วงรอคอยจะขึ้นเครื่องบิน
และมีคนจำนวนไม่มากนักที่รู้จัก Dolores
จะรู้สึกทึ่งกับข้อกล่าวหาเธอถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นบน 10,000 ฟุต
เหนือน่านฟ้า Shannon และบนภาคพื้นสนามบิน Shannon
สำหรับคนส่วนใหญ่ที่รู้จักและชื่นชอบ Dolores O'Riordan
ต่างต้องการให้เธอไปอยู่ในสถานที่ที่ดีกว่า แต่อย่างว่าพูดง่ายกว่าทำ
แม่ของเธอเองยังเคยพูดถึง Dolores ลูกเธอว่า อยู่ในสภาพที่เปราะบางมาก
ด้วยเงื่อนไขที่คาดหวังว่า เธอจะไม่ต้องรับโทษหรือได้รับอภัยโทษ
จากความรุนแรงที่เลวร้ายที่ Dolores ได้ก่อขึ้นมา
Dolores ต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บช้ำน้ำใจ
และความเจ็บปวดรวดร้าวในใจที่ทรมานเธอจากเหตุการณ์ในอดีต
ผมเองก็ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้หรือพูดให้เรื่องนี้เป็นเรื่องดราม่า
เรื่องมันไม่ง่ายเลยกับการพูดเพียงแค่วาทกรรม เช่น จัดการกับปีศาจของเธอเองซะ
แต่ปีศาจของ Dolores O'Riordan นั้นอาจจะทำให้ชีวิตคนเราจบสิ้นลง
คล้ายกับผู้คุมวิญญาณในเรื่อง Harry Potter
ที่คอยสูบจิตวิญญาณและความหวังในชีวิตคนเรา
จนท้อแท้ห่อเหี่ยวรันทดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป
ตามที่ J.K Rowling เคยให้สัมภาษณ์ไว้นานแล้ว
เล่าถึงประสบการณ์ชีวิตของเธอตอนตกงานหลังจากหย่ากับสามีคนแรก
ต้องมาอาศัยแม่อยู่พร้อมทำหน้าที่เป็น Single Mom ลูกสาวคนแรก
ขอรับเงินประทังชีพเพราะกลายเป็นคนตกงาน
เธอต้องไปนั่งเขียนหนังสือเล่มแรกตามร้านขายกาแฟ
ทั้งพยายามติดต่อขายต้นฉบับผ่านตัวแทนลิขสิทธิ์หลายราย
จนมีรายหนึ่งยอมรับทำหน้าที่เดินเรื่องให้กับเธอ
แต่กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ถึง 8 แห่งปฏิเสธรับตีพิมพ์
อ้างว่าคนรุ่นใหม่คงไม่อ่านเรื่องเพ้อเจ้อแบบนี้แล้ว
ที่มา https://g.co/kgs/aBjvyy
เธอได้บอกผมในเดือนตุลาคม ปี 2013
" มันเป็นเวลาถึง 4 ปี เมื่อฉันยังเด็กอยู่
ฉันถูกข่มขืน ตอนฉันยังเป็นเด็ก "
Dolores เก็บความลับเรื่องราวสกปรกในช่วงวัยเด็กของเธอที่เคยเกิดขึ้นมา
มันถูกฝังไว้อยู่ในส่วนลึกในใจของเธอตลอดชีวิตของเธอ
มันเหมือนมีเงามืด/ปีศาจที่คอยติดตามเธออยู่ตลอดชีวิตของเธอ
ความลับที่สกปรกนี้ทำให้ Dolores O'Riordan เกิดมีอาการต่าง ๆ
อาการประสาทเสีย หดหู่เป็นโรคซึมเศร้า อยากจะฆ่าตัวตาย และเป็นโรคเบื่ออาหาร/โรคคลั่งผอม
เธอมีอาการตื่นตระหนก เธอนอนไม่หลับ หรือกินอาหารอย่างผิดปรกติ และเธอจะทำอย่างไรได้บ้าง
เรื่องราวของคนที่ได้ทำกับ Dolores O'Riordan
ตั้งแต่เธออายุเพียง 8 ขวบถึง 12 ปีขวบ(กินเวลา 4 ปี)
โดยใครบางคนในพื้นที่ Limerick
คนที่น่าจะไว้ใจได้และเชื่อถือได้
ผลที่ได้คือ ทำให้เธอหัวใจสลายและทำใจลำบาก
เมื่อพ่อของ Dolores ป่วยเป็นโรคมะเร็งเป็นเวลา 7 ปี
ก่อนที่จะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2011
ที่บ้านใน Ballybricken ในเขต Limerick
Dolores ตื่นตระหนกและรู้ดีว่า
เธอจะต้องเห็นคนที่ทำร้ายเธอ
ผู้ชายคนนั้นจะต้องมาในงานศพพ่อเธอใน Limerick
" ฉันฝันร้ายเรื่องที่จะต้องพบกับมัน
เป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม ก่อนที่พ่อใกล้จะตาย "
เธอบอกผมเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
ความกลัวเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจริง เมื่อชายที่ทำร้ายเธอ
" มันมาจริงและร่ำไห้พร้อมกับพูดว่า เสียใจ "
ผมถามเธอว่า เธอพูดอะไรกับมัน เมื่อมันพูดอย่างนั้น
" พ่อของฉันเพิ่งเสียชีวิตไป
ฉันไม่ได้เห็นหน้ามันมาหลายต่อหลายปีแล้ว
และฉันได้เห็นมันในงานศพของพ่อ
ฉันได้ลบมันออกจากชีวิตของฉันแล้ว "
(จริง ๆ ยังฝังลึกไว้แน่นในความทรงจำ)
Dolores ได้บอกกับผมว่า
เธอได้แต่ตำหนิ/กล่าวโทษตนเองว่า
ผู้ชายคนนั้นทำร้ายร่างกายเธอ
เป็นเวลา 4 ปีโดยเริ่มตั้งแต่เธออายุเพียง 8 ขวบ
" นั่นคือเรื่องราวที่เกิดขึ้นมา
คุณได้แต่คิดว่า มันเป็นความผิดของคุณเอง
ฉันได้ฝังมันไว้ มันเป็นสิ่งแรกสุดที่คุณจะทำได้
เพราะคุณรู้สึกละอายใจเกี่ยวกับมัน
คุณได้แต่คิดว่า : โอ้พระเจ้า มันช่างน่ากลัวและน่าขยะแขยง
คุณจะมีแต่ความเกลียดชังตัวเองกับเรื่องที่แย่มาก
และเมื่อตอนที่ฉันเริ่มมีชื่อเสียงตอนอายุ 18 ปี
และอาชีพนักดนตรีของฉันได้เข้ามาทดแทนเรื่องนี้
แต่มันกลับกลายเป็นเรื่องที่ยิ่งยากขึ้นเรื่อย ๆ
ดังนั้น ฉันจิงเริ่มมีอาการโรคคลั่งผอม Anorexia
และเมื่อฉันเริ่มค้นหาและศึกษาเรื่องโรคคลั่งผอมจาก Google
ฉันพบว่ามันเป็นพยาธิวิทยาทั่วไป(จิตกลไกบำบัด)ที่พัฒนาขึ้นในภายหลัง
และแล้วฉันจึงต้องสร้างหน้ากากตอนเองให้สมบูรณ์แบบ(แสแสร้ง)
ฉันมีอาการโรคคลั่งผอม แล้วอาการซึมเศร้า อาการเจ็บป่วยทางอารมณ์และจิตใจ nervous breakdowns "
ผมได้บอกเธอว่า อาการโรคคลั่งผอม คือ รูปแบบหนึ่งความคิดอยากฆ่าตัวตาย
เพราะคุณต้องการทำให้ตัวเองหายไป/จากไปตลอดกาล
เธอตอบผมว่า
" ฉันรู้ว่าทำไม ฉันรู้ดีว่า ทำไมฉันเกลียดตัวเอง
ฉันรู้ว่า ทำไมฉันถึงรังเกียจรูปร่างตัวเอง
ฉันรู้ว่า ทำไมฉันถึงต้องการทำตัวเองให้หายไป/จากไป
มันมีบางสิ่งบางอย่างที่ฉันสังเกตและเข้าใจอย่างชัดแจ้งว่า
มันคือ พฤติกรรมของฉันเองและพยาธิวิทยา(จิตกลไกบำบัด)ของฉันเอง
ฉันเริ่มพัฒนามันขึ้นมาตอนฉันเริ่มเป็นวัยรุ่น
เช่น ความผิดปกติของฉันในการกินอาหาร
ภาวะซึมเศร้า และในที่สุดอาการเจ็บป่วยทางอารมณ์และจิตใจ
ฉันคิดว่า ฉันแข็งแกร่งขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจ
แต่ฉันก็เป็นผู้โดยสารอีกคนหนึ่งที่อยู่ในขบวนรถไฟหายนะ
(สภาพขบวนรถไฟที่ชำรุดทรุดโทรมเสียหายเกินจะเยียวยา)
ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ใครก็ตามที่แกล้งทำว่าสมบูรณ์แบบ มักจะไม่สมบูรณ์แบบ "
เรื่องราวทั้งหมดนี้ คุณคงจะสามารถจินตนาการถึง
ความคิดและความรู้สึกที่ทุกข์ยากทรมานที่ทำร้ายจิตใจของ Dolores
ผ่านช่วงวัยรุ่นจนมาถึงวัยผู้ใหญ่ของเธอ (เธอมีลูก 4 คน)
เรื่องราวในอดีตทำให้เธอเครียดมากทั้งด้านอารณ์และจิตใจ
จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลยที่ Dolores ต้องจำใจยอมรับความทุกข์ทรมาน
จากอาการโรคคลั่งผอม อาการเจ็บป่วยทางอารมณ์และจิตใจ
และความคิดที่อยากจะฆ่าตัวตาย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
เรื่องราวเหล่านี้มีความเป็นไปได้ว่า ไม่ทางใดก็ทางทางหนึ่ง
และไม่ใช่เรื่องไกลตัวแต่อย่างใดเลย ที่จะอธิบายได้ถึง
ความอ่อนแอเปราะบางของเธอที่ระเบิดได้อย่างง่าย
หรือสภาวะทางจิตใจของเธอที่ล่อแหลม/สุ่มเสียงตลอดเวลา
เธอเคยบอกผมเมื่อฤดูร้อนครั้งล่าสุด อย่างช้า ๆ ว่า
" ฉันพยายามจะกินยาให้เกินขนาดเมื่อปีที่แล้ว
แต่ฉันคิดว่า ฉันตั้งใจจะอยู่ที่นี่เพื่อลูก ๆ
มันเป็นเพียงเรื่องราวในอดีตที่ฉันรับรู้ในตอนนี้ - ฉันคิดว่าจะไม่แก้แค้น
ฉันจะไม่เป็นคนแบบนั้น แต่มันทำให้ฉันรู้สึกว่าได้รับการปลดปล่อย
เมื่อฉันอยู่ท่ามกลางกลุ่มบำบัด(ทางจิตใจและอารมณ์)
ชีวิตต้องดำเนินต่อไป และฉันจะเป็นแม่ที่ดีและแม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม
ฉันรู้สึกดีขึ้น แต่บางครั้งฉันก็ดื่มเหล้าตั้งตาย
ทุกอย่างจะเลวร้ายยิ่งขึ้นในเช้าวันถัดมา
ฉันสูบบุหรี่ไปด้วยในช่วงที่ฉันดื่มเหล้า
ตอนที่ฉันนึกถึงความทรงจำที่เลวร้าย
ฉันไม่สามารถควบคุมพวกมัน
(เก็บกดความทรงจำเลวร้ายได้)
และแล้วฉันก็ตั้งหน้าตั้งตาดื่มเหล้าตั้งตาย
ฉันกลายเป็นปีศาจสุราตนหนึ่ง
นี่คือ ข้อบกพร่องเรื่องใหญ่ที่สุดของฉัน "
บางครั้งเธอกินทั้งยานอนหลับพร้อม ๆ กับเหล้า
เพื่อทำให้เธอได้หลับลึกมากกว่าเดิม
นี่คือ ผลข้างเคียงของพฤติกรรมที่เธอทำด้วยส่วนหนึ่ง
ที่มา https://goo.gl/bxD9cN