[CR] เล่าสู่กันฟัง จากการไปร้านราเมงมิชลิน 2 ร้านภายใน 2 วัน – กันยายน 2561

จากร้านราเมงนับไม่ถ้วนในกรุงโตเกียว มีเพียง 25 ร้านเท่านั้นที่ได้รับการบรรจุอยู่ใน Michelin Guide ประจำปี 2018 และมีแค่ 2 ร้านที่ได้รับการติดดาว นั่นก็คือ Tsuta และ Nakiryu ที่ตั้งอยู่ในแขวง Toshima ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว (สถานีรถไฟหลักที่ใกล้ที่สุดคือสถานี Ikebukuro)

ซึ่งสองร้านนี้อยู่ไม่ไกลกันเท่าไร ถ้าเดินก็ประมาณ 15 นาที แต่ถ้าขี้เกียจก็สามารถนั่ง JR สาย Yamanote เพียง 1 สถานี ซึ่งทำให้การไปชิมราเมงมิชลิน 2 ร้านนี้สามารถทำในทริปเดียวได้ ซึ่งผมก็ไปนอนโรงแรมแถวสถานีรถไฟ Sugamo เพื่อที่จะสามารถเดินไปที่ร้านได้สะดวก


Tsuta
Tsuta เป็นร้านราเมงที่เปิดขึ้นในปี 2012 และได้รับ Michelin 1 ดาวตั้งแต่ปี 2015 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นร้านราเมงร้านแรกที่ได้รับรางวัลนี้

การรับบัตรคิวของทางร้านก็ได้มีการเปลี่ยนไปแล้วจากที่เคยเห็นคนรีวิวมา ปัจจุบันจะแจกบัตรคิวเฉพาะรอบ 11 โมง, เที่ยง, บ่ายโมง, และ บ่าย 2 โมง สำหรับรอบบ่าย 3 โมงเป็นต้นไปจนปิดร้านสามารถ walk-in เข้ามาได้เลย

จากที่อ่านรีวิวมา มีหลายปีก่อนเห็นมีคนไปตั้งแต่ตี 5 มั่ง 6 โมงมั่ง แต่ล่าสุดผมไปถึงที่ร้านเป็นคนแรกตอน 6:30 แล้วก็เริ่มมีคนทะยอยมาเรื่อยๆ จนพนักงานมาเปิดร้านจะออกมาแจกบัตรคิวตอน 7 โมง ก็มีรวมๆสัก 10 คนได้ ดังนั้นอาจจะไม่ต้องรีบตื่นแต่เช้ามารับบัตรเหมือนสมัยก่อนแล้ว

พนักงานก็จะถามว่าเราจะเอารอบไหน ซึ่งผมก็บอกไปว่า 11 โมง แล้วก็วางมัดจำ 1,000 เยน เสร็จแล้วก็แยกย้ายแล้วค่อยกลับมาตามเวลานัด
(ใน 1 รอบทางร้านน่าจะแจกบัตรคิวประมาณ 20+ ใบ เนื่องจากตอนที่ผมกลับมาตอน 11 โมงก็มีคนนั่งเต็มในร้านแล้ว และมีคนยืนรออยู่ด้านข้างร้านอีกประมาณ 7-8 คน กว่าจะได้กินจริงก็เกือบ 11:30)

พอเรากลับมาที่ร้าน พนักงานก็จะเดินมาเก็บบัตรคิวพร้อมคืนเงินมัดจำให้ พอยืนไปสักพักก็จะเรียกให้เราเข้าไปกดเลือกอาหารพร้อมจ่ายเงินแล้วกลับมายืนต่อคิวอีกรอบ ในการสั่งอาหารนั้นก็มีเมนูภาษาอังกฤษ ซึ่งจะระบุตัวเลขไว้ ตอนที่เดินไปที่ตู้ก็กดตามตัวเลขในเมนูได้เลย ซึ่งเมนูแนะนำคือ Shoyu Soba แล้วสามารถเพิ่มไข่, หมู, เกี๊ยวได้ตามใจชอบ แล้วเมื่อโต๊ะพร้อมก็จะเชิญเราเข้าไปในร้าน

เข้ามานั่งรอไม่ถึง 5 นาที เชฟก็จะเสิร์ฟราเมงให้ลูกค้าแต่ละคน (ตามรูปคือ Charsiu Wonton Ajitama Shoyu Soba ราคา 1,750 เยน)

เป็นราเมงที่รสน้ำซุปเป็นตัวชูโรง กินไปสักพักรู้สึกได้เลยว่าตักซุปซดมากกว่าเส้น จนต้องหยุดแล้วหันมากินเส้นบ้าง


Nakiryu
หลังจาก Tsuta ได้รับการติดดาวมิชลินเมื่อปี 2015 แล้ว ร้านที่ 2 ที่ได้รับการติดดาวก็คือ Nakiryu ในปี 2017

ร้านนี้จะไม่ได้ใช้ระบบบัตรคิวเหมือน Tsuta แต่จะเป็นการมายืนต่อคิวหน้าร้านเหมือนร้านญี่ปุ่นทั่วไป

ซึ่งผมไปถึงหน้าร้านตั้งแต่ตอน 9:30 ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่มีคนต่อคิว ซึ่งร้านจะเปิดตอน 11:30 เลยตัดสินใจเดินไปหาร้านกาแฟนั่งก่อน

พอกลับมาตอน 10:30 ก็มีคนยืนต่อคิวแล้วประมาณ 20 กว่าคนได้ พอเข้ามาต่อแถวสักพักก็จะมีพนักงานออกมาถามว่ามากี่คน ซึ่งตอนนั้นก็มีฝนตกปรอยๆ ทางร้านก็ได้นำร่มมาแจกให้กับคนที่ยืนรอที่ไม่ได้นำร่มมา

รอไปเกือบ 2 ชั่วโมงก็ได้มาถึงหน้าร้าน เลยได้มีโอกาสดูเมนูว่ามีอะไรให้เลือกบ้าง ซึ่ง Tantanmen หรือราเมงรสเผ็ดเป็นเมนูที่ขึ้นชื่อของร้าน

ซึ่งร้านนี้จะบอกเลยว่าสั่งได้เพียงคนละ 1 ชามเท่านั้น แต่สามารถขอเส้นเพิ่มได้ (ส่วนพวก side order นี่สั่งได้ไม่จำกัดจำนวน) ซึ่งตอนสั่งที่ตู้กดจะมีแต่ภาษาญี่ปุ่น แต่จะมีเบอร์ให้เลือกเหมือนในเมนู

รอไม่นานเชฟก็นำราเมงรสเผ็ดมาเสิร์ฟตรงหน้า

ชิมน้ำซุปก่อนก็รู้สึกถึงรสเผ็ด แต่เป็นรสเผ็ดแบบกินได้เรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็หมดชามแล้ว (ฝรั่งข้างๆ สั่ง Very hot tantanmen เค้าก็บอกว่าไม่เผ็ดจนเกินไป)

สรุป
ทั้งสองร้านเป็นร้านราเมงที่สมควรมาลองกินดู อร่อย ราคาไม่ได้แพง แถมมีการจัดการคิวที่ดี แต่ถ้ามีเวลาจำกัดแล้วต้องเลือกเพียง 1 ร้าน ผมก็คงเลือก Tsuta เพราะรสน้ำซุปไม่ได้เหมือนกับ Shoyu ramen ทั่วไป แถมถ้าจัดการเวลาดีๆ ก็ไม่ต้องรอคิวนานด้วย
ชื่อสินค้า:   ราเมง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่