เมื่อใกล้จะปิดเทอม ภารกิจเร่งด่วนของคุณพ่อคุณแม่คือ หาที่เที่ยว
ครอบครัวเราไปญี่ปุ่นกันหลายครั้งแล้ว แต่มีอีกภูมิภาคนึงที่ไม่เคยไปซะทีก็คือ “ฮอกไกโด” ด้วยแว๊บแรกที่นึกถึง เราจะจินตนาการถึงธรรมชาติ ความหนาวเย็น สโลว์ไลฟ์ คิดว่าเด็กๆคงไม่สนุก เพราะสวนสนุกก็ไม่มี ไม่รู้จะมีอะไรให้เด็กเที่ยว แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไม่ลองก็ไม่รู้ รอบนี้เราพุ่งเป้าไป ฮอกไกโดแล้วกัน ว่าแต่จะไปกี่วันดีล่ะ? คิดกันหลายตลบ เอาวะ!!เดี๋ยวไม่คุ้ม ไปทั้งทีเอาให้มันสุดๆไปเลย จะได้ไม่ต้องกลับมาซ่อมอีก...จบกันที่ 15 วัน หลังจากนั้นก็เริ่มจองตั๋วเครื่องบินก่อนเลย กับสายการบินประจำของครอบครัว สายการบินหางแดงแอร์เอเซีย#บินคุ้ม คุณภาพครบ แล้วการเตรียมข้อมูลก็เริ่มต้น เป้าหมายของเราคือ สถานที่ไฮท์ไลท์เก็บให้ครบ อาหารจัดเต็ม กิจกรรมต้องเอ็นเตอร์เทนเด็กได้
เราไปในช่วงปลายหนาว (16 เมษายน - 1 พฤษภาคม) เพราะฉะนั้นต้องวางแผนให้ดี ที่ไหนมีหิมะ ที่ไหนมีดอกไม้ ที่ไหนมีฝน หัวหน้าทริปก็คือคุณพ่อเช่นเคย คุณพ่อจะวางแผนการเที่ยวคร่าวๆมาเสนอคุณแม่พิจารณา555 แล้วเราก็มาลงรายละเอียดในแต่ละจุดอีกที เมื่อได้แผนการเที่ยว ต่อไปก็คือหน้าที่ของคุณแม่ในการจัดเตรียมชุดและพร็อพให้เหมาะกับสถานที่และกิจกรรมที่จะทำ รอบนี้ถึงแม้จะไม่ได้ไปตอนช่วงหน้าหนาวตรงๆ แต่เขตฮอกไกโดอยู่ในเขตที่อุณหภูมิต่ำกว่าเขตอื่นๆอยู่แล้ว อุปกรณ์กันหนาวจึงต้องจัดเตรียมเป็นพิเศษ เพราะเราเที่ยวกันเอง เดินกันเอง หลงกันเอง(เป็นบางที) ถ้าอุปกรณ์กันหนาวไม่พอ เด็กๆจะพาลไม่ยอมออกจากโรงแรม อย่างที่บอก เราไปในช่วงรอยต่อของฤดู บางกิจกรรมที่อยากทำก็หมดไปแล้ว เช่น กิจกรรมในสกีรีสอร์ท เพราะหิมะเริ่มละลาย กิจกรรมบางอย่างก็ยังไม่เริ่ม เช่น ชมฟาร์มดอกไม้ สวนดอกไม้ เพราะเพิ่งจะหมดหนาว ดอกไม้ยังไม่ขึ้น (ถ้าไปบรรยากาศคงเหมือนไปเชงเม้ง เจอแต่เขาหัวโล้น><) บางพื้นที่เพิ่งหมดจาก Peak season ก็ปิดพักซะงั้น แป่ว!!! แค่เริ่มวางแผนก็คิดว่าคงต้องมาซ่อมอีกแน่ๆ แต่ The show must go on ทุกฤดูของญี่ปุ่นมีความงามที่แตกต่างกัน ไปช่วงไหนก็สนุก ว่าแล้วก็ก้มหน้าก้มตาวางแผนกันต่อไป
Day1 (สาทร-ดอนเมือง)
พวกเราพร้อมและกระหายการเที่ยวอย่างรุนแรง เพราะเป็นสงกรานต์ที่อยู่บ้าน ไม่ได้ไปต่างจังหวัด เพราะต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับการเที่ยวต่างประเทศที่ยาวนานที่สุดของครอบครัว จัดกระเป๋ากันอยู่หลายวัน แล้ววันเดินทางก็มาถึง พวกเราออกจากคอนโดแต่เนิ่นๆ เพื่อไปเตรียมตัว เนื่องจากช่วงเดือนนี้ คนเดินทางเยอะมาก ก็เป็นจริงดังคาด คนเข้าแถวรอเช็คอินยาวเหยียด โชคดีที่เราทำ online check in มาเรียบร้อยแล้ว จึงไปช่องพิเศษเพื่อโหลดกระเป๋าได้เลย คนอื่นๆได้แต่มองตากันปริบๆ เราจัดกระเป๋าใบใหญ่ 2ใบ กระเป๋าใบเล็กขนาดไม่เกิน 7กก. 2 ใบ ทุกคนมีกระเป๋าเป้อีกคนละใบเพื่อใส่ของส่วนตัว รวมถึงเด็กๆด้วย
ไม่อยากจะเชื่อจริงๆ สองสาวจัดเตรียมกระเป๋าได้ดีมาก มีอุปกรณ์เครื่องใช้ครบครัน อาทิ สมุดสำหรับปั๊มตราประทับสถานที่ท่องเที่ยว ปากกา สายคล้องคอสำหรับใส่บัตรรถไฟฟ้า ยาดม พัด ลิปกลอส ผ้าเช็ดหน้า ผ้าพันคอ ถุงมือ หมวก ที่คาดผม กิฟ ขนม ลูกอม กระเป๋าใส่เศษตังค์สำหรับหยอดกาชาปอง ทิชชู่ กระดาษเปียก เขาถึงบอกว่า การเดินทางเป็นการเปิดประสบการณ์นอกห้องเรียนของเด็กๆโดยที่ไม่ต้องสอน พวกเค้าจะเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง เด็กๆแต่งตัวในชุดสวย สีสดใส แต่ผ้าสบายๆเพื่อไปนอนบนเครื่องได้แบบไม่อึดอัด ว่าแล้วพวกเราก็พร้อมกับการนอนบนเครื่องแล้วค่ะ
Day2 (สนามบิน-กินปู)
ตื่นเช้ามาบนเครื่อง ได้เห็นท้องฟ้าที่ยังไม่สว่างมากนักของฮอกไกโด เราลงเครื่องที่สนามบินชิโตเสะ หลังจากผ่านตม.แล้ว การเที่ยวของพวกเราก็เริ่มอย่างเป็นทางการ เริ่มที่สนามบินเลยค่ะ พิมพ์ไม่ผิดค่ะ “สนามบิน” เพราะขากลับเราบินไฟลท์ 9 โมงกว่า เราจะไม่มีเวลาในการเที่ยวที่สนามบินแล้ว เราวางแผนจะเที่ยวในสนามบินครึ่งวัน ใครหลายคนอาจจะงงว่าสนามบินมีอะไรให้เที่ยว แต่ที่นี่มีเยอะจริงๆ โดยเฉพาะเด็กๆ เริ่มจากสายแบ๊ว Hello Kitty Happy Flight
https://bit.ly/2NdHRiT อยู่ที่ชั้น 3 ของสนามบินนี่แหละค่ะ
สำหรับสาวกคิตตี้ไม่ควรพลาดเพราะมีมุมให้ถ่ายรูปน่ารักๆเพียบ สามารถฝากกระเป๋าที่ด้านหน้าทางเข้าได้เลย ไม่ต้องกังวล ด้านในมีกิจกรรมให้เก็บตราประทับเพื่อมาจับฉลากด้านนอกค่ะ(สำหรับเด็ก) ไอติมกับไอโฟนจับฉลากได้ผงโรยข้าวขวดใหญ่ลายคิตตี้ขวดเบ้อเริ่มเลย (ค่อยคุ้มหน่อย) ค่าเข้าสำหรับผู้ใหญ่ 800เยน เด็ก 400 เยน เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 3 ปีฟรีค่ะ เปิดตั้งแต่ 10.00-18.00
ด้านนอกก็มีร้านอาหารคิตตี้ Happy Flight Café ไว้ให้นั่งพักขา สั่งขนมมากินเล่นได้ คุณแม่อยากกินขนม เล็งเมนูมาล่วงหน้าแล้ว แต่คุณลูกไม่ให้ความร่วมมือ อยากกินสายไหมซะงั้น (เธอว่า..สายไหมของญี่ปุ่นอร่อยที่สุด) จัดมาคนละอัน แม่เลยอดชิมของหวาน กลัวกินไม่หมด เพราะกำลังจะไปหาของกินสำหรับมื้อเช้า
เราเริ่มมื้อแรกด้วยราเมง limited edition เสริฟแค่วันละ 50 ชามเท่านั้น ไหนๆมาแล้ว ไม่กินวันนี้จะไปกินวันไหน หลังจากกินเสร็จ เราก็คิดว่า ไม่กินวันนี้ เอาไว้กินวันอื่นน่าจะดีกว่า555
เมื่อท้องอิ่มก็ไปสถานีถัดไป Doraemon Waku Waku Sky Park
https://bit.ly/2hHqEx7 แอบบอกว่าที่นี่คุณพ่อปลื้มมาก กดชัตเตอร์ให้แทบไม่ทัน การ์ตูนเด็ดสำหรับรุ่นเราเลยเนอะ ข้างในมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะเหมือนที่แรก มีอะไรให้เล่นสนุกดีค่ะ เวลาเปิดกับค่าเข้าเหมือนคิตตี้ค่ะ พวกเราโชดดีมาแต่เช้า ไม่มีคนเลย เหมือนเปิดแบบส่วนตัวเลย ถ่ายรูปสบายมาก
หลังจากเด็กๆ(และพ่อ)บันเทิงมามากพอแล้ว ถึงตาคุณแม่บ้าง หาของกินอร่อยๆกันดีกว่า ที่ฮอกไกโดขึ้นชื่อเรื่องนมมาก อะไรที่ผลิตจากนมมักจะอร่อยกว่าที่อื่น จัดไปทั้งนม ไอติม พุดดิ้ง อย่าให้เสียของ เสร็จแล้วก็พากันไปดูกระบวนการผลิตช็อคโกแลต Royce แบบจะๆเลย มีโรงงานกันในสนามบินนี่แหละ
มารอบนี้ได้ลองไอเท็มใหม่ แมคคาเดเมียเคลือบช็อคโกแลต ลองซื้อมาถุงเล็กเพราะไม่รู้ว่าอร่อยรึเปล่า เสียดายจนถึงวันนี้ เพราะอร่อยมากและก็หาซื้อไม่ได้อีกเลย ทั้งๆที่ฮอกไกโดมีตู้ขาย Royce เกลื่อนเมืองแต่ไม่มีแบบนี้ สนามบินขาออกก็ไม่มี น้ำตาไหลพราก รู้งี้ซื้อแล้วแกะกินเลยตรงนั้น ถูกใจจะได้ซื้อตุนเก็บไว้...พลาดอย่างแรง (ตอนนี้เมืองไทยมีขายไอเท็มนี้แล้ว แต่ราคาแรงกว่า 2 เท่า) สมควรกับเวลาเพราะเราได้จองร้านบุฟเฟท์ปูเอาไว้ จึงต้องออกจากสนามบินไปเช็คอินที่โรงแรมก่อนค่ะ
เราพักที่ซัปโปโรเป็นเมืองแรก ตอนจองตั๋วเครื่องบิน เราเลือกจองแบบรวมโรงแรมด้วย 3 คืน (จริงๆจะเลือกกี่คืนก็ได้ แต่ต้องจองแบบติดกัน) เราเลือกโรงแรมเมอร์เคียวซัปโปโร ซึ่งอยู่ใจกลางย่านท่องเที่ยว ใกล้ตลาดเช้า เดินทางสะดวก ถึงโรงแรมเพื่อเก็บกระเป๋าแล้วออกทันทีแต่ก็ยังเลยเวลาที่จองไว้อยู่ดี โชคดีคนไม่เยอะเลยไม่ต้องรอคิว ใครไปกรุ๊ปใหญ่หรือไปตรงช่วงเวลามื้ออาหาร แนะนำให้จองล่วงหน้าแล้วปริ๊นท์ใบจองออกมา จะได้ไม่เสียเวลาค่ะ
http://g-nanda.com/reservation มีให้เลือกแบบ 70, 100 นาที และเลือกแบบแอลกอฮอล์หรือไม่เอาแอลกอฮอล์ค่ะ ครอบครัวเราเลือกแบบ 100นาทีไม่เอาแอลกอฮอล์ เพราะต้องจ่ายแบบเดียวกันทั้งโต๊ะ แบบที่เราเลือกมีเครื่องดื่มซอฟท์ดริ๊งค์รวมอยู่แล้วค่ะ สนนราคาผู้ใหญ่ 4780 เยน คุณพ่อเลือกสั่งเบียร์เป็นแก้วต่างหาก ดูรีวิวมาเยอะ มีทั้งว่าดีและไม่ดี เลยต้องมาลองเอง โดยส่วนตัวถือว่าอาหารค่อนข้างอลังการ มีสารพัดปู กุ้งตัวใหญ่มาก หอยเชลล์ตัวใหญ่มาก เสต็กเนื้อ เสต็กหมู ซุชิต่างๆ เทมปุระ ไอติม แต่ไฮท์ไลท์ของที่นี่ที่คนตั้งใจมากินคือปู เราว่ามันสดนะแต่เค็มค่ะ เรากินได้ แต่คุณพ่อไม่ให้ผ่าน คนไทยมากินเยอะมาก เหมือนว่าใครไม่มากินถือว่ามาไม่ถึงฮอกไกโด ก่อนออกจากร้าน เจ้าของร้านมาขอลายเซ็นต์ด้วย555 เขียนติดมันที่หน้าร้านเลย
อิ่มจนตัวแทบแตก แต่พวกเราไม่เข้าโรงแรมง่ายๆหรอกค่ะ เดินย่อยท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ เดี๋ยวไม่คุ้ม อิอิ เรามีสัญญาใจกับสองสาวว่าจะพาขึ้นกระเช้าในคืนแรกที่มาถึง ก็ต้องปฏิบัติตามสัญญา ขึ้นกระเช้าชมวิวเมืองตอนเกือบ 4 ทุ่ม
เสร็จภารกิจก็เดินสำรวจแถวย่านถนนคนเดินทานุกิโกจิ แต่ร้านส่วนใหญ่ปิดแล้ว มีบางร้านที่พอจะไปไขกาชาปองได้บ้าง เพื่อให้ชุ่มชื้นหัวใจของสาวๆ แล้วก็กลับโรงแรม
***รอติดตามตอนต่อไปค่ะ***
https://ppantip.com/topic/38140306 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day3)
https://ppantip.com/topic/38084130 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day4-5)
https://ppantip.com/topic/38087816 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day6)
https://ppantip.com/topic/38090807 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day7)
https://ppantip.com/topic/38098076 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day8-9)
https://ppantip.com/topic/38104436 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day10)
https://ppantip.com/topic/38108285 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day11)
https://ppantip.com/topic/38131887 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day12)
https://ppantip.com/topic/38135982 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day13)
https://ppantip.com/topic/38157088 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day14-15)
[CR] ฮอกไกโด...15 วันคงไม่พอ
ครอบครัวเราไปญี่ปุ่นกันหลายครั้งแล้ว แต่มีอีกภูมิภาคนึงที่ไม่เคยไปซะทีก็คือ “ฮอกไกโด” ด้วยแว๊บแรกที่นึกถึง เราจะจินตนาการถึงธรรมชาติ ความหนาวเย็น สโลว์ไลฟ์ คิดว่าเด็กๆคงไม่สนุก เพราะสวนสนุกก็ไม่มี ไม่รู้จะมีอะไรให้เด็กเที่ยว แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไม่ลองก็ไม่รู้ รอบนี้เราพุ่งเป้าไป ฮอกไกโดแล้วกัน ว่าแต่จะไปกี่วันดีล่ะ? คิดกันหลายตลบ เอาวะ!!เดี๋ยวไม่คุ้ม ไปทั้งทีเอาให้มันสุดๆไปเลย จะได้ไม่ต้องกลับมาซ่อมอีก...จบกันที่ 15 วัน หลังจากนั้นก็เริ่มจองตั๋วเครื่องบินก่อนเลย กับสายการบินประจำของครอบครัว สายการบินหางแดงแอร์เอเซีย#บินคุ้ม คุณภาพครบ แล้วการเตรียมข้อมูลก็เริ่มต้น เป้าหมายของเราคือ สถานที่ไฮท์ไลท์เก็บให้ครบ อาหารจัดเต็ม กิจกรรมต้องเอ็นเตอร์เทนเด็กได้
เราไปในช่วงปลายหนาว (16 เมษายน - 1 พฤษภาคม) เพราะฉะนั้นต้องวางแผนให้ดี ที่ไหนมีหิมะ ที่ไหนมีดอกไม้ ที่ไหนมีฝน หัวหน้าทริปก็คือคุณพ่อเช่นเคย คุณพ่อจะวางแผนการเที่ยวคร่าวๆมาเสนอคุณแม่พิจารณา555 แล้วเราก็มาลงรายละเอียดในแต่ละจุดอีกที เมื่อได้แผนการเที่ยว ต่อไปก็คือหน้าที่ของคุณแม่ในการจัดเตรียมชุดและพร็อพให้เหมาะกับสถานที่และกิจกรรมที่จะทำ รอบนี้ถึงแม้จะไม่ได้ไปตอนช่วงหน้าหนาวตรงๆ แต่เขตฮอกไกโดอยู่ในเขตที่อุณหภูมิต่ำกว่าเขตอื่นๆอยู่แล้ว อุปกรณ์กันหนาวจึงต้องจัดเตรียมเป็นพิเศษ เพราะเราเที่ยวกันเอง เดินกันเอง หลงกันเอง(เป็นบางที) ถ้าอุปกรณ์กันหนาวไม่พอ เด็กๆจะพาลไม่ยอมออกจากโรงแรม อย่างที่บอก เราไปในช่วงรอยต่อของฤดู บางกิจกรรมที่อยากทำก็หมดไปแล้ว เช่น กิจกรรมในสกีรีสอร์ท เพราะหิมะเริ่มละลาย กิจกรรมบางอย่างก็ยังไม่เริ่ม เช่น ชมฟาร์มดอกไม้ สวนดอกไม้ เพราะเพิ่งจะหมดหนาว ดอกไม้ยังไม่ขึ้น (ถ้าไปบรรยากาศคงเหมือนไปเชงเม้ง เจอแต่เขาหัวโล้น><) บางพื้นที่เพิ่งหมดจาก Peak season ก็ปิดพักซะงั้น แป่ว!!! แค่เริ่มวางแผนก็คิดว่าคงต้องมาซ่อมอีกแน่ๆ แต่ The show must go on ทุกฤดูของญี่ปุ่นมีความงามที่แตกต่างกัน ไปช่วงไหนก็สนุก ว่าแล้วก็ก้มหน้าก้มตาวางแผนกันต่อไป
Day1 (สาทร-ดอนเมือง)
พวกเราพร้อมและกระหายการเที่ยวอย่างรุนแรง เพราะเป็นสงกรานต์ที่อยู่บ้าน ไม่ได้ไปต่างจังหวัด เพราะต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับการเที่ยวต่างประเทศที่ยาวนานที่สุดของครอบครัว จัดกระเป๋ากันอยู่หลายวัน แล้ววันเดินทางก็มาถึง พวกเราออกจากคอนโดแต่เนิ่นๆ เพื่อไปเตรียมตัว เนื่องจากช่วงเดือนนี้ คนเดินทางเยอะมาก ก็เป็นจริงดังคาด คนเข้าแถวรอเช็คอินยาวเหยียด โชคดีที่เราทำ online check in มาเรียบร้อยแล้ว จึงไปช่องพิเศษเพื่อโหลดกระเป๋าได้เลย คนอื่นๆได้แต่มองตากันปริบๆ เราจัดกระเป๋าใบใหญ่ 2ใบ กระเป๋าใบเล็กขนาดไม่เกิน 7กก. 2 ใบ ทุกคนมีกระเป๋าเป้อีกคนละใบเพื่อใส่ของส่วนตัว รวมถึงเด็กๆด้วย
ไม่อยากจะเชื่อจริงๆ สองสาวจัดเตรียมกระเป๋าได้ดีมาก มีอุปกรณ์เครื่องใช้ครบครัน อาทิ สมุดสำหรับปั๊มตราประทับสถานที่ท่องเที่ยว ปากกา สายคล้องคอสำหรับใส่บัตรรถไฟฟ้า ยาดม พัด ลิปกลอส ผ้าเช็ดหน้า ผ้าพันคอ ถุงมือ หมวก ที่คาดผม กิฟ ขนม ลูกอม กระเป๋าใส่เศษตังค์สำหรับหยอดกาชาปอง ทิชชู่ กระดาษเปียก เขาถึงบอกว่า การเดินทางเป็นการเปิดประสบการณ์นอกห้องเรียนของเด็กๆโดยที่ไม่ต้องสอน พวกเค้าจะเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง เด็กๆแต่งตัวในชุดสวย สีสดใส แต่ผ้าสบายๆเพื่อไปนอนบนเครื่องได้แบบไม่อึดอัด ว่าแล้วพวกเราก็พร้อมกับการนอนบนเครื่องแล้วค่ะ
Day2 (สนามบิน-กินปู)
ตื่นเช้ามาบนเครื่อง ได้เห็นท้องฟ้าที่ยังไม่สว่างมากนักของฮอกไกโด เราลงเครื่องที่สนามบินชิโตเสะ หลังจากผ่านตม.แล้ว การเที่ยวของพวกเราก็เริ่มอย่างเป็นทางการ เริ่มที่สนามบินเลยค่ะ พิมพ์ไม่ผิดค่ะ “สนามบิน” เพราะขากลับเราบินไฟลท์ 9 โมงกว่า เราจะไม่มีเวลาในการเที่ยวที่สนามบินแล้ว เราวางแผนจะเที่ยวในสนามบินครึ่งวัน ใครหลายคนอาจจะงงว่าสนามบินมีอะไรให้เที่ยว แต่ที่นี่มีเยอะจริงๆ โดยเฉพาะเด็กๆ เริ่มจากสายแบ๊ว Hello Kitty Happy Flight https://bit.ly/2NdHRiT อยู่ที่ชั้น 3 ของสนามบินนี่แหละค่ะ
สำหรับสาวกคิตตี้ไม่ควรพลาดเพราะมีมุมให้ถ่ายรูปน่ารักๆเพียบ สามารถฝากกระเป๋าที่ด้านหน้าทางเข้าได้เลย ไม่ต้องกังวล ด้านในมีกิจกรรมให้เก็บตราประทับเพื่อมาจับฉลากด้านนอกค่ะ(สำหรับเด็ก) ไอติมกับไอโฟนจับฉลากได้ผงโรยข้าวขวดใหญ่ลายคิตตี้ขวดเบ้อเริ่มเลย (ค่อยคุ้มหน่อย) ค่าเข้าสำหรับผู้ใหญ่ 800เยน เด็ก 400 เยน เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 3 ปีฟรีค่ะ เปิดตั้งแต่ 10.00-18.00
ด้านนอกก็มีร้านอาหารคิตตี้ Happy Flight Café ไว้ให้นั่งพักขา สั่งขนมมากินเล่นได้ คุณแม่อยากกินขนม เล็งเมนูมาล่วงหน้าแล้ว แต่คุณลูกไม่ให้ความร่วมมือ อยากกินสายไหมซะงั้น (เธอว่า..สายไหมของญี่ปุ่นอร่อยที่สุด) จัดมาคนละอัน แม่เลยอดชิมของหวาน กลัวกินไม่หมด เพราะกำลังจะไปหาของกินสำหรับมื้อเช้า
เราเริ่มมื้อแรกด้วยราเมง limited edition เสริฟแค่วันละ 50 ชามเท่านั้น ไหนๆมาแล้ว ไม่กินวันนี้จะไปกินวันไหน หลังจากกินเสร็จ เราก็คิดว่า ไม่กินวันนี้ เอาไว้กินวันอื่นน่าจะดีกว่า555
เมื่อท้องอิ่มก็ไปสถานีถัดไป Doraemon Waku Waku Sky Park https://bit.ly/2hHqEx7 แอบบอกว่าที่นี่คุณพ่อปลื้มมาก กดชัตเตอร์ให้แทบไม่ทัน การ์ตูนเด็ดสำหรับรุ่นเราเลยเนอะ ข้างในมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะเหมือนที่แรก มีอะไรให้เล่นสนุกดีค่ะ เวลาเปิดกับค่าเข้าเหมือนคิตตี้ค่ะ พวกเราโชดดีมาแต่เช้า ไม่มีคนเลย เหมือนเปิดแบบส่วนตัวเลย ถ่ายรูปสบายมาก
หลังจากเด็กๆ(และพ่อ)บันเทิงมามากพอแล้ว ถึงตาคุณแม่บ้าง หาของกินอร่อยๆกันดีกว่า ที่ฮอกไกโดขึ้นชื่อเรื่องนมมาก อะไรที่ผลิตจากนมมักจะอร่อยกว่าที่อื่น จัดไปทั้งนม ไอติม พุดดิ้ง อย่าให้เสียของ เสร็จแล้วก็พากันไปดูกระบวนการผลิตช็อคโกแลต Royce แบบจะๆเลย มีโรงงานกันในสนามบินนี่แหละ
มารอบนี้ได้ลองไอเท็มใหม่ แมคคาเดเมียเคลือบช็อคโกแลต ลองซื้อมาถุงเล็กเพราะไม่รู้ว่าอร่อยรึเปล่า เสียดายจนถึงวันนี้ เพราะอร่อยมากและก็หาซื้อไม่ได้อีกเลย ทั้งๆที่ฮอกไกโดมีตู้ขาย Royce เกลื่อนเมืองแต่ไม่มีแบบนี้ สนามบินขาออกก็ไม่มี น้ำตาไหลพราก รู้งี้ซื้อแล้วแกะกินเลยตรงนั้น ถูกใจจะได้ซื้อตุนเก็บไว้...พลาดอย่างแรง (ตอนนี้เมืองไทยมีขายไอเท็มนี้แล้ว แต่ราคาแรงกว่า 2 เท่า) สมควรกับเวลาเพราะเราได้จองร้านบุฟเฟท์ปูเอาไว้ จึงต้องออกจากสนามบินไปเช็คอินที่โรงแรมก่อนค่ะ
เราพักที่ซัปโปโรเป็นเมืองแรก ตอนจองตั๋วเครื่องบิน เราเลือกจองแบบรวมโรงแรมด้วย 3 คืน (จริงๆจะเลือกกี่คืนก็ได้ แต่ต้องจองแบบติดกัน) เราเลือกโรงแรมเมอร์เคียวซัปโปโร ซึ่งอยู่ใจกลางย่านท่องเที่ยว ใกล้ตลาดเช้า เดินทางสะดวก ถึงโรงแรมเพื่อเก็บกระเป๋าแล้วออกทันทีแต่ก็ยังเลยเวลาที่จองไว้อยู่ดี โชคดีคนไม่เยอะเลยไม่ต้องรอคิว ใครไปกรุ๊ปใหญ่หรือไปตรงช่วงเวลามื้ออาหาร แนะนำให้จองล่วงหน้าแล้วปริ๊นท์ใบจองออกมา จะได้ไม่เสียเวลาค่ะ http://g-nanda.com/reservation มีให้เลือกแบบ 70, 100 นาที และเลือกแบบแอลกอฮอล์หรือไม่เอาแอลกอฮอล์ค่ะ ครอบครัวเราเลือกแบบ 100นาทีไม่เอาแอลกอฮอล์ เพราะต้องจ่ายแบบเดียวกันทั้งโต๊ะ แบบที่เราเลือกมีเครื่องดื่มซอฟท์ดริ๊งค์รวมอยู่แล้วค่ะ สนนราคาผู้ใหญ่ 4780 เยน คุณพ่อเลือกสั่งเบียร์เป็นแก้วต่างหาก ดูรีวิวมาเยอะ มีทั้งว่าดีและไม่ดี เลยต้องมาลองเอง โดยส่วนตัวถือว่าอาหารค่อนข้างอลังการ มีสารพัดปู กุ้งตัวใหญ่มาก หอยเชลล์ตัวใหญ่มาก เสต็กเนื้อ เสต็กหมู ซุชิต่างๆ เทมปุระ ไอติม แต่ไฮท์ไลท์ของที่นี่ที่คนตั้งใจมากินคือปู เราว่ามันสดนะแต่เค็มค่ะ เรากินได้ แต่คุณพ่อไม่ให้ผ่าน คนไทยมากินเยอะมาก เหมือนว่าใครไม่มากินถือว่ามาไม่ถึงฮอกไกโด ก่อนออกจากร้าน เจ้าของร้านมาขอลายเซ็นต์ด้วย555 เขียนติดมันที่หน้าร้านเลย
อิ่มจนตัวแทบแตก แต่พวกเราไม่เข้าโรงแรมง่ายๆหรอกค่ะ เดินย่อยท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ เดี๋ยวไม่คุ้ม อิอิ เรามีสัญญาใจกับสองสาวว่าจะพาขึ้นกระเช้าในคืนแรกที่มาถึง ก็ต้องปฏิบัติตามสัญญา ขึ้นกระเช้าชมวิวเมืองตอนเกือบ 4 ทุ่ม
เสร็จภารกิจก็เดินสำรวจแถวย่านถนนคนเดินทานุกิโกจิ แต่ร้านส่วนใหญ่ปิดแล้ว มีบางร้านที่พอจะไปไขกาชาปองได้บ้าง เพื่อให้ชุ่มชื้นหัวใจของสาวๆ แล้วก็กลับโรงแรม
***รอติดตามตอนต่อไปค่ะ***
https://ppantip.com/topic/38140306 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day3)
https://ppantip.com/topic/38084130 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day4-5)
https://ppantip.com/topic/38087816 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day6)
https://ppantip.com/topic/38090807 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day7)
https://ppantip.com/topic/38098076 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day8-9)
https://ppantip.com/topic/38104436 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day10)
https://ppantip.com/topic/38108285 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day11)
https://ppantip.com/topic/38131887 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day12)
https://ppantip.com/topic/38135982 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day13)
https://ppantip.com/topic/38157088 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day14-15)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้