ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ#2 (Day4-Day5)

[CR] ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ#2 (Day4-Day5)

กระทู้รีวิว

ฮอกไกโด

Day4 (Shiroi Koibito Park- Shiroikoibito Miyanahawa-Mt.Moiwa)

ออกจากโรงแรมแต่เช้าเหมือนเคย เพื่อไปหาของหวานเป็นอาหารเช้า555 วันนี้เราจะไปตามหาแหล่งที่มาของขนมอร่อยที่มักจะติด1ใน10ขนมที่เป็นของฝากจากญี่ปุ่น “Shiroi” นั่นเอง การเดินทางไม่ยาก นั่งรถไฟใต้ดินแล้วเดินถึงเลยค่ะ http://www.shiroikoibitopark.jp/thai/ เปิดตั้งแต่ 9.00-19.00 เป็นสวนที่สวย และถูกใจเด็กๆมาก เพราะมีบ้านหลังน้อยๆหลายหลังให้เด็กๆได้วิ่งเข้าวิ่งออกกันสนุกจนลืมไปว่า พวกเรายังไม่ได้กินข้าวเช้ากันเลย

ภายในสวนจะมีตุ๊กตาตามยอดหอนาฬิกา ตามตึกที่รายล้อม ออกมาเต้นทุกชั่วโมง น่ารักมาก ระหว่างนั่งชมก็กินฮ็อทด็อก+ไอติมลองท้องไปก่อน

สวนนี้เข้าชมฟรีนะคะ ดีงามมาก ส่วนใครสนใจชมโรงงานสามารถซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมได้ ผู้ใหญ่ 600เยน เด็ก 200เยน แต่ช่วงเดือนที่เราไปเป็นช่วงเข้าฟรี ประหยัดไปหลายร้อยเลย อิอิ เค้าจะมีแจกพาสปอร์ตพร้อมป้ายคล้องคอให้เราเดินชมได้ด้วยตัวเอง เด็กๆได้ทำคุกกี้ shiroikoibito itim-iphone edition ชิ้นใหญ่เท่าหน้า ถูกใจตามระเบียบ (บ้านไหนไม่มีเวลา ให้เลี่ยงโซนนี้เลยค่ะ ใช้เวลากว่า1ชม.กว่าจะประดิดประดอยออกมา)

มาถึงนี่แล้วถ้าไม่แวะเยี่ยมพี่เมสซี่เจ ชนาธิป แห่งคอนซาโดเล่ ซัปโปโรก็จะหาว่าใจร้าย สนามบอลอยู่ข้างสวนนี่เลย วันนี้ไม่มีซ้อม พวกเราเลยแวะเข้าไปกินอาหารเผื่อฟลุ๊คเจอ555 กินจนหมดก็ไม่มา><

ต้องไปละ เพราะมีนัดขึ้นเขากัน การเดินทางจะไปแบบหลายต่อหน่อย เริ่มจากรถใต้ดิน-รถราง-รถชัตเติ้ลบัส(ฟรี)-กระเช้าใหญ่-กระเช้าเล็ก ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวสวยติด 1ใน3 ของญี่ปุ่นเลยนะคะ http://moiwa.sapporo-dc.co.jp/index.html เราเลือกเวลาไปให้คร่อมช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ยังไม่ตก-ค่ำๆ จะได้เห็นเมืองซัปโปโรแบบ 2 บรรยากาศ คนไทยเห็นระฆังไม่ได้ เราต้องพากันไปเขย่า555 เพื่อความรักนิรันดร์^^

ขากลับแวะเดินย่านถนนคนเดินทานุกิโกจิ เพราะคืนนี้จะไปคืนสุดท้ายของซัปโปโรแล้ว กลับถึงโรงแรม คุณแม่มีภารกิจจัดกระเป๋าเดินทางเพราะเราจะฝากกระเป๋าใบใหญ่1 ใบให้พี่แมวดำช่วยส่งไปรอที่ฮาโกดาเตะเลย http://www.global-yamato.com/en/hands-free-travel/ ขอบอกว่าประทับใจบริการนี้มากกก เราแพ็คกระเป๋าเสร็จแล้วเอาไปฝากที่ล็อบบี้โรงแรมได้เลย(โรงแรมใหญ่ๆมีบริการนี้ ถ้าไม่แน่ใจให้ถามจนท.ได้ ถ้าไม่มีสามารถเอาไปฝากที่มินิมาร์ทที่มีสัญลักษณ์แมวดำได้เลย) กรอกเอกสารนิดหน่อย ส่งจากไหน-ไปไหน อยากให้ถึงวันไหน ชั่งนน. คิดตังค์(ตามขนาดและนน.) สะดวกมาก ไม่ต้องลากกระเป๋าหลายๆใบติดตัวไปตลอด บริหารจัดการให้ดี เที่ยวคล่องตัวขึ้นเยอะ

ที่เราฝากแค่ 1 ใบเพราะกว่าจะถึงฮาโกดาเตะ พวกเราต้องพักระหว่างทางอีก 5 วัน

Day5 (ตลาดปลานิโจ-Supporo Station-คลองโอตารุ)

ตามที่วางแผนไว้ว่าจะมาซ่อมมื้อเช้ากัน วันนี้ไม่ผิดหวัง ฟินตามระเบียบ^^

กลับมาเช็คเอ๊าท์โรงแรม ก่อนลาจากแวะกินร้านข้าวหน้าปลาไหลชื่อดังถัดจากโรงแรมนิดเดียว ได้กลิ่นหอมมาหลายวันละ แต่ออกเช้า+กลับดึกทุกวัน ไม่ได้ชิมซะที ทีแรกนึกว่าเป็นหมูดันเป็นปลาซะงั้น แต่เข้ามาแล้วก็ต้องสั่ง ที่ญี่ปุ่นบางร้านอาหารต้องสั่งอาหารให้เท่ากับจำนวนคน คงกันว่าบางโต๊ะนั่งกันหลายคน แต่สั่งแค่ไม่กี่จาน นโยบายจัดการลูกค้าในร้านเหมือนบ้านเราเลยเนอะ (บ้านเราเน้นเช็ดโต๊ะ+เก็บจาน) สรุปคืออร่อยดีแต่ก้างเยอะ คุณพ่อไม่ให้ผ่าน

อิ่มจนจุกแล้วพวกเราก็รีบไปเซอร์เวย์ย่านช็อปปิ้ง ร้านของเล่น เล็งกันไว้หลายอย่าง รอตอนจะกลับค่อยมาซื้อทีเดียวจะได้ไม่ต้องแบกพะรุงพะรัง

แล้วพวกเราก็ดิ่งไปที่โอตารุกันเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20-30 นาที บ้านไหนมีเวลาจำกัดจะเที่ยวแบบครึ่งวันก็ได้ แบบเช้าไปเย็นกลับก็ได้ จากสถานีรถไฟเดินต่อไปยังโรงแรม Hotel Nord Otaru ที่ติดคลองโอตารุเลย เราพักที่นี่ 2 คืน บรรยากาศดีมาก ที่นี่เป็นโรงแรมแรกที่มีที่นั่งอาบน้ำแบบญี่ปุ่น ถูกใจกันไป เพลิดเพลินในห้องพักเสร็จแล้วก็ออกไปหาอะไรกินกัน เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ ร้านส่วนใหญ่ปิดหมดแล้ว เราเดินกันแบบไม่รู้ว่าจะมีอะไรกินข้างหน้าบ้าง โชคดีเจอร้านเนื้อย่าง เห็นคนเยอะมาก ไม่ผิดหวังจริงๆ อร่อยถูกใจกันทั้งครอบครัว ย่างให้เด็กๆแทบไม่ทันเลยทีเดียว