Day11 (Noboribetsu- Noboribetsu Bear Park-Jigokudani-Private Onsen)


วันนี้เราเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมแต่เช้าเพื่อนั่ง JR ไปโนโบริเบสซึด้วยขบวนรถ Super Hokuto 5Limited Express Sapporo ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2ชม.ครึ่ง ถึงสถานีแล้วเราก็ต่อรถบัสหน้าสถานีไปลง Noboribetsu Onsen Bus Terminal

ที่จุดนี้จะมีห้องขายตั๋วสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในเขตนี้ บ้านเราเลือกแบบแพคเกจ 3ที่ (ซึ่งจะถูกกว่าซื้อแยก)คือ Noboribetsu Bear Park, Noboribetsu Marine Park NIXE, Noboribetsu Date Jidaimura อันนี้แล้วแต่ความต้องการเลยค่ะ จะซื้อแยก ซื้อแบบหลายที่  เจ้าหน้าที่จะช่วยแนะนำให้ เตรียมตังค์ไว้อย่างเดียว555 พอซื้อตั๋วเสร็จเราแจ้งเค้าว่าจะไป Bear Park ก่อน เค้ามีรถตู้ไปส่งถึงที่เลย สะดวกมาก

ไปถึงเราก็เอากระเป๋าฝากไว้ในล็อคเกอร์ก่อน (ที่ญี่ปุ่น ตามสถานีรถไฟฟ้าหรือสถานที่ท่องเที่ยวจะมีล็อคเกอร์รับฝากของ มีตั้งแต่เล็กๆ จนถึงขนาดใหญ่ที่ใส่กระเป๋าเดินทางไซส์ใหญ่สุดได้เลย) พอยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่ เราก็ขึ้นลิฟท์เพื่อไปขึ้นกระเช้าไปบนเขา ใช้เวลาประมาณ 15นาที (ค่าตั๋วรวมค่าขึ้นกระเช้าแล้วนะคะ) ได้ชมวิวไปในตัว

เด็กๆได้ให้อาหารหมีในบ่อหมี และให้แบบส่วนตัวแบบถึงปากหมีเลยผ่านระบบท่อ ทำให้ได้ใกล้ชิดกับหมีมากๆ


มีสนามแข่งเป็ดที่ใครสนใจเสี่ยงโชคสามารถมาเลือกสีเป็ดที่จะเข้าเส้นชัยได้เลยค่ะ ถ้าสีที่เราเลือกเข้าวิน เราก็จะได้รางวัล

เสร็จแล้วพวกเราก็แวะทานอาหารที่ศูนย์อาหาร ก่อนที่จะชมพิพิธภัณฑ์หมีในตึกนั้น บนดาดฟ้าของตึกเป็นจุดชมวิว เราสามารถมองเห็นทะเลสาบ Kuttara ด้วย

ที่นี่ยังมีจัดโซนหมู่บ้านชาวอินุให้เราได้ชมด้วยค่ะ

เราเดินเล่นฆ่าเวลารอดูโชว์หมีสีน้ำตาล ที่กระโดดข้ามท่อนซุง เล่นชิงช้าโชว์คน

หลังจากลงกระเช้าเพื่อไปด้านล่าง เราก็ให้เจ้าหน้าที่เรียกรถตู้มารับ เราสามารถให้เค้าไปส่งสถานีที่เรามาหรือไปส่งที่โรงแรมในละแวกหมู่บ้านออนเซนก็ได้ เราเลือกให้เค้าไปส่งโรงแรม คืนนี้เรานอนที่ Noboribetsu Sekisuitei Hotel เป็นโรงแรมที่ใหญ่มาก รองรับกรุ๊ปทัวร์หลายๆกรุ๊ปได้สบายๆเลย เราสำรวจห้องเล็กน้อยแล้วรีบออกเดินทางต่อ

เราใช้วิธีเดินค่ะ เพราะระยะทางจากโรงแรมไปหุบเหวนรกไม่ได้ไกลมาก ระหว่างทางผ่านบ่อน้ำพุร้อน ยักษ์ตามจุดต่างๆ ให้เราได้เก็บภาพไปตลอดทาง

เรามาถึงหุบเขานรกก็ค่อนข้างเย็นแล้ว สวนทางกับคนส่วนใหญ่ที่กำลังกลับ ทำให้ถ่ายรูปได้สวยมากกก ที่นี่เป็นปากปล่องภูเขาไฟ ซึ่งมีค่ากำมะถันสูงมาก จึงทำให้มีน้ำพุร้อนที่มีควันพวยพุ่งออกมาตลอดเวลา เค้าถึงเปรียบเหมือน “นรก” แต่ใครๆก็มาเที่ยวกัน555 เด็กๆเริ่มบ่นว่าที่นี่เหม็นกลิ่นตุๆ><



เพลิดเพลินกันพอแล้ว เราก็ไปเดินเล่นในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นร้านขายของตลอด2ข้างทาง ใจกลางเมืองมีศาลเจ้า Enmado ซึ่งมีความพิเศษคือ ที่หน้าเทพจะเปลี่ยนสีได้ โดยมีโชว์เป็นรอบๆ คุณพ่อชวนพวกเราเดินออกมาจากโรงแรมเพื่อดูโชว์เปลี่ยนสีอีกทีตอน3ทุ่ม แต่ไม่มีใครเห็นดีเห็นงามด้วยเพราะต้องเดินเป็นระยะพอสมควร+หนาวด้วย เลยขอ bye

เราแวะซื้อน้ำผึ้ง Sugi Bee ของโปรดของเด็กๆด้วย ถ้ามีพาสปอร์ตจะทำ refund ได้แต่ลืมเอาติดตัวออกมา เสียดายเลย (ตอนนี้ยี่ห้อนี้มาเปิดช็อปที่เมืองไทยแล้ว อยู่ตรงสีลม)

เดินได้แป๊บเดียวเพราะคุณแม่เป็นห่วง dinner โรงแรม ที่ได้ชื่อว่าอลังการมากจึงรีบกลับ อาหารเป็นแบบบุฟเฟท์ อลังการจริงๆค่ะ มีทั้งซูชิ เทมปุระ เสต็ก ชาบู ขนม ผลไม้ กินกันจนพุงกางเลย ห้องอาหารก็ใหญ่มาก มีแบบที่เป็นห้องส่วนตัว ห้องเล็ก ห้องใหญ่ ขึ้นอยู่กับจำนวนคนเลย

คืนนี้พวกเราจะใช้บริการ Private Onsen ซึ่งสามารถจองเวลาได้ และเลือกธีมห้องได้ว่าจะเอาแบบ Western Style/ Japanese Style เรามาถึงญี่ปุ่นก็ต้องเลือกแบบ Japanese อยู่แล้ว มีเวลาให้เรา 1ชม. สบายตัวกันถ้วนหน้า

คืนนี้พวกเรานอนแบบเรียวกัง ห้องใหญ่มากแต่ต้องนอนขดๆกันเพราะหนาว!!

**ฝากติดตามตอนต่อไปนะคะ**
https://ppantip.com/topic/38080522 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day1-2)
https://ppantip.com/topic/38140306 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day3)
https://ppantip.com/topic/38084130 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day4-5)
https://ppantip.com/topic/38087816 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day6)
https://ppantip.com/topic/38090807 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day7)
https://ppantip.com/topic/38098076 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day8-9)
https://ppantip.com/topic/38104436 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day10)
https://ppantip.com/topic/38131887 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day12)
https://ppantip.com/topic/38135982 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day13)
https://ppantip.com/topic/38157088 ฮอกไกโด 15วันคงไม่พอ (Day14-15)