ซัมซุง ดูแลลูกค้าพรีเมี่ยมด้วยการผลักภาระให้ลูกค้า?

เสียเวลามา2วันเต็ม กับการบริการหลังการขายของซัมซุง ที่นอกจากจะไม่ช่วยเหลือลูกค้าแล้วยังผลักภาระทุกอย่างให้ลูกค้าอีก เสียดายความรู้สึกที่ใช้ซัมซุงเรือธงกันทั้งบ้าน

มือถือเรา S8Plus เราเอาไปใช้ถ่ายรูปใต้น้ำปกติ พอเอาขึ้นมา เครื่องไม่ได้เตือนเรื่องความชื้นใดๆ
เราก็ไม่คิดว่ามันจะผิดปกติอะไร เพราะเค้าเคลมเรื่องกันน้ำ และเราก็ไม่ได้ใช้แบบพิสดารอะไร

พอเย็นๆค่ำๆ เห็นแบตจะหมด เราก็ชาร์จปกติ ก็ไม่มีอาการอะไรผิดปกติ
ผ่านไปครึ่งชม. กล้องหน้าและกล้องหลังขึ้นฝ้า แต่เครื่องก็ไม่มีแจ้งเรื่องความชื้นเหมือนเดิม
แต่เราไม่แน่ใจ เราก็เลยถอดสายชาร์จออก แล้วถอดซิมออก เพื่อจะเปลี่ยนไปใช้เครื่องอื่นแล้วเอาไปแช่ถังข้าวสาร
แต่ตอนถอดถาดซิม มีน้ำไหลออกมา เลยก็เอาไปแช่ข้าวสารไว้ทั้งคืน วันถัดมาฝ้าก็ไม่หาย
คืนวันที่ 18เลยโทรหา butler เพื่อจองคิวเอาเครื่องเข้าศูนย์

วันถัดมาฝ้าหายค่ะ แต่ไม่อ่านซิมก็ไปตามเวลานัดปกติ ทางพนักงานเช็คข้อมูลอะไรเรียบร้อยก็แจ้งเราว่า
น้ำน่าจะขังอยู่บริเวณกล้องกับถาดซิม อาจจะทำให้เมนบอร์ดพัง แต่เครื่องเราหมดประกันแล้ว
จะมีค่าเมนบอร์ดราวๆ 7,800บาท เราก็โอเคไม่ติด
แต่พนักงานก็แจ้งอีกว่า แต่ถ้าเค้าแกะเครื่องแล้วตอนประกอบกลับอาจจะมีกรณีจอเสีย จอดับไปเลย ถ้าเป็นแบบนั้น
ต้องเปลี่ยนจอด้วย ราคาจออยู่ 6,000นิดๆ รวมๆแล้วค่าใช้จ่ายอาจจะอยู่ที่ 14,000กว่าๆ
จึงถามพนักงานว่าค่าจอลูกค้าต้องจ่ายหรอคะ เพราะอาการก่อนซ่อมคือ จอปกติ แบตปกติ ติดที่เครื่องไม่อ่านซิม โทรเข้า-ออกไม่ได้
คือถ้าเมนบอร์ดเสีย เพราะน้ำเข้า พอเข้าใจค่ะ ถึงแม้จะเคลมโครมๆว่ากันน้ำกันฝุ่น IP68 บราๆ
แต่นี้ถ้าช่างทำจอเราพังด้วยในขณะซ่อม ทำไมถึงให้ลูกค้ามายอมรับความเสี่ยงนี้
พนักงานก็บอกว่า แจ้งไว้ก่อนเฉยๆว่ามีความเสี่ยงนี้
เราถึงถามว่าถ้าไม่ยอมรับล่ะ มันไม่โอเคเลย
พนักงานบอกว่างั้นก็ไม่รับซ่อม แล้วถามกลับว่าตกลงจะส่งซ่อมไหม
เราเลยบอกงั้นยังค่ะ แล้วออกมา พร้อมโทรถาม butler
ทางbutler รับเรื่องและบอกจะประสานงานให้

2-3ชม.ต่อมา พนักงานที่ศูนย์โทรมา บอกขออธิบายที่เราเข้าใจผิด เค้าแค่จะบอกว่า มันอาจจะเกิด หรือไม่เกิดก็ได้
เราถึงถามไปว่า แล้วถ้าเกิดคือเราต้องรับผิดชอบในส่วนที่ช่างทำใช่ไหมคะ เค้าก็บอกว่า จริงๆถ้าลูกค้าไม่โอเคให้ทำเรื่องที่ซัมซุงได้เลย
คือถ้าเป็นตอนนั้นเราต้องรับสภาพ แล้วทำเรื่องเอง เมื่อไหร่จะจบ อะไรคือความเชื่อใจที่เราควรให้กับแบรนด์
คุยไปคุยมา พนักงานก็บอกว่า เดี๋ยวทางพนักงานจะไปคุยกับซัมซุงให้ถ้ามีปัญหา แต่ไม่รับปาก เราเลยบอกว่าเดี๋ยวโทรกลับไปบอกว่าตกลงจะซ่อมไหม วันไหน เพราะติดประชุม

พอเราโทรกลับไป ก็ไม่รับเลย จนผ่านไปอีก 1 วัน

วันที่ 20 เราโทรไป ก็ยังไม่รับเหมือนเดิม เลยโทรหาbutler ทางbutler บอกเดี๋ยวประสานงานให้ เราบอกว่าตอนบ่ายเรามีประชุม ให้เค้าเลี่ยงที่จะโทรมาตอนนั้น

แต่จนจะบ่ายก็ไม่มีใครโทรมา เราจึงโทรไปที่butler อีกทีว่าไม่มีคนโทรมา ให้ช่วยประสานงานให้หน่อย 2 อย่าง
1.ขอเปลี่ยนพนักงานรับเรื่อง เพราะพนักงานคนนี้ไม่สามารถsupport อะไรได้ หาทางออกไม่ได้ ช่วยเหลืออะไรไม่ได้
2.ขอให้โทรมาช่วง 14.30-15.00 เพราะสะดวกช่วงนั้น

สุดท้ายโทรมาตอน4โมงกว่าๆ มาพร้อมข้อเสนอ ว่าจะให้ส่วนลด 30% ของค่าซ่อมทั้งหมด
เลยถามว่า 30% ของบอร์ด ถ้ามันพัง หรือ30% ของทุกอย่างถ้าช่างทำพัง
สรุป 30%ของทุกอย่าง ถ้าไม่รับข้อเสนอก็ไม่ทำ ไม่ซ่อม ไม่เช็คเครื่องให้
ลองคิดดูง่ายๆ ราคาแรกที่แจ้งถ้ามีปัญหา14,000-30% =9,800
เท่ากับว่าเราต้องเสียเพิ่มนอกเหนือจากเมนบอร์ดที่แจ้งราคา 7,800 เพิ่มอีก 2,000

นี่หรือคะ คือการแก้ปัญหาของแบรนด์ที่บอกว่าตัวเองคือเจ้าตลาด
นี่หรือคะ ที่ดูแลลูกค้าที่เป็นลูกค้าพรีบุ๊คกิ้ง
ทุกครั้งที่เราติดต่อbutler เราต้องเล่าใหม่ ลูบเดิมๆทุกครั้ง แค่นี้ก็ pain แล้วค่ะ
เสียเวลาออกไปศูนย์1วันที่ไร้ประโยชน์

ขอเตือนคนที่คิดจะซื้อซัมซุงว่าให้คิดใหม่ดีๆด้วยนะคะ เรื่องบริการหลังการขาย
นั่งมอง note กับ S ที่เหลือของคนในบ้านแล้วเหนื่อยใจเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่