สวัสดีทุกๆคนครับ ด้วยความที่ตอนนี้มีข่าวมากมายในโลก internet อย่างที่เรารู้ๆกันว่า
ร้าน flat iron นั่นเป็นร้านที่ขึ้นชื่อว่า มีชื่อเสียงมากๆของอังกฤษครับ
และในขณะนี้ ได้มีร้านสเต็กร้านหนึ่ง ที่ได้ใช้ชื่อflat iron เหมือนกัน
ทำให้คนเกิดความสงใสกันขึ้นมาว่า เห่ยย!!! นี่มันคือ flat iron ที่อยู่ที่อังกฤษรึเปล่า?
มาเปิดเมืองไทยแล้วหรอ ?
และตอนนี้ ทางร้านก็ได้ออกมาชี้แจงแล้วนะครับว่า ร้านนี้ไม่ใช่ร้าน flat iron ที่ทุกๆคนนึกถึงกัน!!!
แต่มันเป็นเพียงความบังเอิญ ที่ใช้ชื่อร้านตรงกัน ... แอบมองบนนิดนึง แต่ก็ให้อภัยหลังจากได้ชิมแล้ว555
จนปัจุบันนี้ ทางร้าน ก็ได้เปลี่ยนชื่อจาก flat iron เป็นร้านที่มีชื่อว่า noname เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น
ลองดูภาพข้างล่างครับ (สำหรับโปรโมชั่นก็คือถ้าคุณไปช่วงเดือนสิงหาที่ผ่านมาก็จะได้กินสเต็กฟรี 500 บาทนะครับ!!ฟรี งานดีมาก)
แต่หมดเวลาไปแล้ว ขออภัยที่ทำให้คนอยากกินของฟรีแต่ว่ามาโพสบอกช้าไปนะครับ 55 แต่ก็ถือว่าแนะนำให้ไปกินดูนะครับ
ผมสำหรับตัวผม การจ่าย 500 บาทสำหรับเนื้อเบอนี้ ถือว่าคุ้มอยู่ครับ
พอผมพิมมาถึงตรงนี้แล้วเรื่องไม่คาดฝันผมก็เกิดขึ้นครับ คือผมกะจะโพสเป็นรูปเรียงลำดับกัน แต่ว่า
รูปผมนั้นมีปัญหาครับ จึงมีรูปเล็กๆน้อยๆ มาฝากกันครับ
อย่างแรกนั้นเลยคือราคาครับ และเมนูครับ
อย่างที่เห้นนะครับว่าในรูปจะคือเมนูของทางร้านซึ่งแบ่งแยกออกมาเป็นเนื้อ 2ประเภทคือ
1. flat iron 2. wagyu
ส่วนตัวกินแล้วความแตกต่างไม่ได้มากอะไรเท่าไหร่ครับเนื่องจากกินทั้ง 2 อย่างแล้ว
สำหรับตัวผมนั้นผมสั่งทั้ง 2อย่างมาลองชิมครับคือ
1.flat iron toping truffles
2.wagyu toping UNI และซอส truffles
สำหรับใครที่สงใสว่าที่ร้านนี้ใช้เกลือของทรัฟเฟิลยี่ห้ออะไรนะครับ
(หอมแบบตายไปเลยยยยยย~~~~~)
และแล้วก็มาถึงคราวของตัวเนื้อ flat iron ที่เสริฟมาร้อนๆ กับเนื้อความนุ่มหอมระมุม และมีกลิ่นอายของทรัฟเฟิลกันบ้างครับ
บอกเลยคุ้มราคามากกกกกก ตัวนี้ คือตั่งแต่เอามาวางเลย ก็คือกลิ่นทรัฟเฟิลอบอวนมากครับ
บวกตัวเนื้อช่างมีความหอมระมุมนุ่ม
(แต่ร้านนี้ผมบอกก่อนนะครับไม่เหมือนร้านอื่นๆตรงที่ปกติเวลาผมกินอาหารพวก สเต็กที่ไทยผมจะสั่งแบบคาดเดาไว้ก่อนคือ
ถ้าผมอยากได้ medium ผมจะสั่ง medium rare นะครับ เพราะเชฟไทยส่วนใหญ่ชอบทำผิด แต่ร้านนี้คือทำเป๊ะมาก
คือได้ medium rare มาจริงๆ ก็เลยคิดว่าถ้าใครมาแนะนำให้สั่งmedium จะดีกว่านะครับ เพราะเนื้อจะได้ไม่เหนียวจนเกินไป)
และมาถึงกับจานที่ 2 ตัวพระเอกของเรากันบ้างครับกับ WAGYU UNI TRUFFLES ซอส
สำหรับการรีวิวครั้งนี้ผมขอรีวิวอย่างแรกคือ ตัว UNI กันก่อนนะครับ เนื่องจากมันค่อนข้างจะเป็นพระเอกของร้านนี้เลยก็ว่าได้
สำหรับ uni ของร้านนี้ในราคานี้ ผมให้ 9/10 เลยครับ คือราคาดีขนาดนี้ปกติกิน omagaseคือแบบพังทลายมากราคา คงแบ็งฉีกแตกสลายเลยครับ
และคุณภาพโอเคมาก หอม หวาน มัน แต่ก็ยังมีกลื่นคาวนิดๆ สำหรับเซียนอูนิน่าจะเข้าใจครับ
แต่บอกเลยสำหรับคนไม่ชอบอูนิ ก็จะแอบประทับใจเหมือนกันครับเพราะรุ่นพี่ผมก็ไม่ชอบ แต่บอกว่า กินได้และ อร่อยด้วย
มาถึงคราวเนื้อกันบ้างดีกว่าครับ ตัวนี้ผมของรีวิวว่าสำหรัย wagyu กับ flat iron
ขอพูดแบบจริงใจนิดนึง จริงๆอยากทำให้กระทู้ดู petfect แต่ผมไม่อยากหลอกทุกๆคนครับ
สำหรับตัวผมนั้น พูดตรงๆว่าเนื้อ 2 ตัวนี้ ไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่ ครับ ความหวานมัน หอมของเนื้อคือ
ประมาณกันเลย เพราะฉะนั้นถ้าใครจะมาผมแนะนำว่า สั่งแค่flat iron แต่เน้น toping หนักๆจะคุ้มกว่าครับ
สำหรับการรีวิวครั้งนี้ก็จบเพียงเท่านี้ เนื่องจากผมไม่ได้ถ่ายรูปเยอะครับ ผมถ่ายเป็นวีดีโอมา
สำหรับใครที่อยากรู้ข้อมูลเชิงลึกกว่านี้ก็สามารถดูได้นะครับผมทำวีดีดโอออกมา
สำหรับวิธีเดินทาง รวมถึงบิลทั้งหมดด้วยครับ
แต่อย่างไรก็แล้วแต่ครับ ขออภัยสำหรับคนที่ไม่ชอบดูคลิปก่อนเลยนะครับ
แต่ทำมาเพื่อเป็นความรู้ให้ทุกๆคนครับ (งดดราม่า นี่เชิงความรู้ และไม่ได้รับเงินหรืออะไรอันใดจากใคร)
ขอบคุณครับ
รีวิวเนื้อวากิว อูนิ TRUFFLES FLAT IRON เมืองไทย(NONAME) GAYSORN VILLANGE กันครับ
ร้าน flat iron นั่นเป็นร้านที่ขึ้นชื่อว่า มีชื่อเสียงมากๆของอังกฤษครับ
และในขณะนี้ ได้มีร้านสเต็กร้านหนึ่ง ที่ได้ใช้ชื่อflat iron เหมือนกัน
ทำให้คนเกิดความสงใสกันขึ้นมาว่า เห่ยย!!! นี่มันคือ flat iron ที่อยู่ที่อังกฤษรึเปล่า?
มาเปิดเมืองไทยแล้วหรอ ?
และตอนนี้ ทางร้านก็ได้ออกมาชี้แจงแล้วนะครับว่า ร้านนี้ไม่ใช่ร้าน flat iron ที่ทุกๆคนนึกถึงกัน!!!
แต่มันเป็นเพียงความบังเอิญ ที่ใช้ชื่อร้านตรงกัน ... แอบมองบนนิดนึง แต่ก็ให้อภัยหลังจากได้ชิมแล้ว555
จนปัจุบันนี้ ทางร้าน ก็ได้เปลี่ยนชื่อจาก flat iron เป็นร้านที่มีชื่อว่า noname เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น
ลองดูภาพข้างล่างครับ (สำหรับโปรโมชั่นก็คือถ้าคุณไปช่วงเดือนสิงหาที่ผ่านมาก็จะได้กินสเต็กฟรี 500 บาทนะครับ!!ฟรี งานดีมาก)
แต่หมดเวลาไปแล้ว ขออภัยที่ทำให้คนอยากกินของฟรีแต่ว่ามาโพสบอกช้าไปนะครับ 55 แต่ก็ถือว่าแนะนำให้ไปกินดูนะครับ
ผมสำหรับตัวผม การจ่าย 500 บาทสำหรับเนื้อเบอนี้ ถือว่าคุ้มอยู่ครับ
พอผมพิมมาถึงตรงนี้แล้วเรื่องไม่คาดฝันผมก็เกิดขึ้นครับ คือผมกะจะโพสเป็นรูปเรียงลำดับกัน แต่ว่า
รูปผมนั้นมีปัญหาครับ จึงมีรูปเล็กๆน้อยๆ มาฝากกันครับ
อย่างแรกนั้นเลยคือราคาครับ และเมนูครับ
อย่างที่เห้นนะครับว่าในรูปจะคือเมนูของทางร้านซึ่งแบ่งแยกออกมาเป็นเนื้อ 2ประเภทคือ
1. flat iron 2. wagyu
ส่วนตัวกินแล้วความแตกต่างไม่ได้มากอะไรเท่าไหร่ครับเนื่องจากกินทั้ง 2 อย่างแล้ว
สำหรับตัวผมนั้นผมสั่งทั้ง 2อย่างมาลองชิมครับคือ
1.flat iron toping truffles
2.wagyu toping UNI และซอส truffles
สำหรับใครที่สงใสว่าที่ร้านนี้ใช้เกลือของทรัฟเฟิลยี่ห้ออะไรนะครับ
(หอมแบบตายไปเลยยยยยย~~~~~)
และแล้วก็มาถึงคราวของตัวเนื้อ flat iron ที่เสริฟมาร้อนๆ กับเนื้อความนุ่มหอมระมุม และมีกลิ่นอายของทรัฟเฟิลกันบ้างครับ
บอกเลยคุ้มราคามากกกกกก ตัวนี้ คือตั่งแต่เอามาวางเลย ก็คือกลิ่นทรัฟเฟิลอบอวนมากครับ
บวกตัวเนื้อช่างมีความหอมระมุมนุ่ม
(แต่ร้านนี้ผมบอกก่อนนะครับไม่เหมือนร้านอื่นๆตรงที่ปกติเวลาผมกินอาหารพวก สเต็กที่ไทยผมจะสั่งแบบคาดเดาไว้ก่อนคือ
ถ้าผมอยากได้ medium ผมจะสั่ง medium rare นะครับ เพราะเชฟไทยส่วนใหญ่ชอบทำผิด แต่ร้านนี้คือทำเป๊ะมาก
คือได้ medium rare มาจริงๆ ก็เลยคิดว่าถ้าใครมาแนะนำให้สั่งmedium จะดีกว่านะครับ เพราะเนื้อจะได้ไม่เหนียวจนเกินไป)
และมาถึงกับจานที่ 2 ตัวพระเอกของเรากันบ้างครับกับ WAGYU UNI TRUFFLES ซอส
สำหรับการรีวิวครั้งนี้ผมขอรีวิวอย่างแรกคือ ตัว UNI กันก่อนนะครับ เนื่องจากมันค่อนข้างจะเป็นพระเอกของร้านนี้เลยก็ว่าได้
สำหรับ uni ของร้านนี้ในราคานี้ ผมให้ 9/10 เลยครับ คือราคาดีขนาดนี้ปกติกิน omagaseคือแบบพังทลายมากราคา คงแบ็งฉีกแตกสลายเลยครับ
และคุณภาพโอเคมาก หอม หวาน มัน แต่ก็ยังมีกลื่นคาวนิดๆ สำหรับเซียนอูนิน่าจะเข้าใจครับ
แต่บอกเลยสำหรับคนไม่ชอบอูนิ ก็จะแอบประทับใจเหมือนกันครับเพราะรุ่นพี่ผมก็ไม่ชอบ แต่บอกว่า กินได้และ อร่อยด้วย
มาถึงคราวเนื้อกันบ้างดีกว่าครับ ตัวนี้ผมของรีวิวว่าสำหรัย wagyu กับ flat iron
ขอพูดแบบจริงใจนิดนึง จริงๆอยากทำให้กระทู้ดู petfect แต่ผมไม่อยากหลอกทุกๆคนครับ
สำหรับตัวผมนั้น พูดตรงๆว่าเนื้อ 2 ตัวนี้ ไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่ ครับ ความหวานมัน หอมของเนื้อคือ
ประมาณกันเลย เพราะฉะนั้นถ้าใครจะมาผมแนะนำว่า สั่งแค่flat iron แต่เน้น toping หนักๆจะคุ้มกว่าครับ
สำหรับการรีวิวครั้งนี้ก็จบเพียงเท่านี้ เนื่องจากผมไม่ได้ถ่ายรูปเยอะครับ ผมถ่ายเป็นวีดีโอมา
สำหรับใครที่อยากรู้ข้อมูลเชิงลึกกว่านี้ก็สามารถดูได้นะครับผมทำวีดีดโอออกมา
สำหรับวิธีเดินทาง รวมถึงบิลทั้งหมดด้วยครับ
แต่อย่างไรก็แล้วแต่ครับ ขออภัยสำหรับคนที่ไม่ชอบดูคลิปก่อนเลยนะครับ
แต่ทำมาเพื่อเป็นความรู้ให้ทุกๆคนครับ (งดดราม่า นี่เชิงความรู้ และไม่ได้รับเงินหรืออะไรอันใดจากใคร)
ขอบคุณครับ