1) ติดต่อ call center ในคืนวันที่ 5 สิงหาคม 2561 หลังจากทราบว่าฝากเงินผิดบัญชีและติดต่อเป็นระยะๆ ประมาณวันพุธที่ 8 สิงหาคม 2561 เจ้าหน้าที่ call center โทรแจ้งว่าได้ตรวจสอบแล้วไม่มีการโอนเงินผิดบัญชี !!!
ซึ่งเราเคยแจ้งไปแล้วว่าเป็นการฝากเงินจากตู้ฝากเงินสด ไม่ใช่เป็นการโอนเงินผ่านบัญชีตนเอง กลับกลายเป็นว่าต้องดำเนินเรื่องเข้าไปใหม่
2) call center แจ้งว่าให้รอทางธนาคารติดต่อเจ้าของบัญชีปลายทางเพื่อโอนเงินคืน โดยใช้ระยะเวลา 5-7 วัน
3) วันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม 2561 เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่สามารถติดต่อกับเจ้าของบัญชีปลายทางได้ ให้ดำเนินการแจ้งความได้
4) โทรไปสอบถามกับ call center ว่าสามารถแจ้งอายัดบัญชีปลายทางได้หรือไม่ ? เนื่องจากเจ้าของบัญชีปลายทางเจ้าข่ายยักยอกเงินที่ไม่ใช่เงินของตนเอง เจ้าหน้าที่แจ้งว่า “ยังไม่จำเป็นต้องอายัดบัญชี เนื่องจากจะเกิดการยุ่งยากในการแจ้งยกเลิกอายัดหากเค้าต้องการโอนเงินคืน” ดังนั้นตนเองเลยไม่แจ้งอายัด
5) ก่อนการไปแจ้งความได้ติดต่อ call center หลายครั้งเพื่อสอบถามว่าต้องแจ้งเจ้าหน้าทีตำรวจอย่างไรบ้าง และต้องการข้อมูลด้านใดบ้างเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป โดยเจ้าหน้าที่แจ้งเพียงว่า ขอหนังสือตราครุฑเพื่อเปิดเผยข้อมูลชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์เจ้าของบัญชีปลายทาง และทาง call center จะดำเนินการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง
6)การแจ้งความตนเองเดินทางไปแจ้งความที่ สน. พุทธมณฑลในวันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม 2561 ซึ่งใกล้บ้าน แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องไป สน.ในเขตพื้นที่ ดังนั้นจึงเดินทางไปแจ้งที่ สน.พื้นที่ (สน.พญาไท) ไปในวันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม 2561 ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงเพื่อขอเอกสารตราครุฑ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าไม่สามารถออกหนังสือตราครุฑให้ได้ เนื่องจากไม่มีอำนาจในการเซ็นเอกสารเพื่อขอเปิดเผยข้อมูลแต่อย่างใด ซึ่งตนเองจำเป็นต้องติดต่อ call center เพื่อให้คุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าเหตุใดจึงจำเป็นต้องใช้เอกสารฉบับนั้น ซึ่งคุยอย่างไรก็ไม่สามารถออกหนังสือตราครุฑได้ จนให้คุยกับเจ้าหน้าที่ call center คนที่ 2 ตำรวจจึงยอมออกหนังสือให้ และบอกให้ใส่รายละเอียดตามแจ้ง ตำรวจก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมเขียนตามเอกสารในบางประการ เช่น
- แจ้งให้เรียนธนาคารกสิกรไทย ตำรวจบอกต้องระบุสาขา เราก็แจ้งว่า call center แจ้งว่าไม่ต้องระบุสาขาตำรวจไม่ยอมจึงตัดปัญหาให้ () สาขาสำนักงานใหญ่
- ให้ใส่หมายเลขบัญชี ตำรวจแจ้งว่าไม่ให้มี xxx ซึ่งตนเองก็จำเป็นต้องติดต่อ call center เพื่อขอหมายเลขบัญชีปลายทาง เพราะตำรวจต้องการ แต่ call center แจ้งว่าไม่สามารถให้หมายเลขบัญชีได้บอกได้เพียง 4 ตัวสุดท้าย จึงต้องเคลียกับตำรวจอีกครั้งและอีกหลายๆประเด็นที่ ทำให้การออกหนังสือตราครุฑลำบาก
- เอาง่ายๆ ตำรวจพูดชัดเจนเลยว่าธนาคารมันขี้เกียจแล้วโยนขี้มาให้ตำรวจตาม !!!
- ผมเป็นตำรวจ ถ้าทำแต่งานแบบนี้ก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว มันหน้าที่ธนาคาร (เสียงสูง)
7)ในวันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม 2561 เดินทางมายังธนาคารกสิกรไทย สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า เพื่อยื่นเอกสารตามที่ call center แนะนำทุกประการ เมื่อเดินทางมาถึงเจ้าหน้าที่รับเรื่องแจ้งว่า เราจะให้ข้อมูลตามที่ระบุมาในใบแจ้งความ ซึ่ง มีชื่อ ที่อยู่ และ เบอร์ศัพท์ (call center ให้แจ้งตำรวจแค่นี้) และเจ้าหน้าที่จะส่งข้อมูลไปยังสถานีตำรวจ เพื่อให้ติดตามต่อไป เลยถามเจ้าหน้าธนาคารต่อไปว่า
- ชื่อก็ปรากฎในสลิปอยู่แล้ว..
- ที่อยู่.... ok สอบถามเพื่อที่จะส่งเอกสารต่างๆ
- เบอร์โทรศัพท์ เราถามว่าเอาเบอร์ไปก็ติดต่อไม่ได้อยู่ดีเนื่องจากติดต่อมานานก็ยังติดต่อไม่ได้ แล้วตรวจจะตามได้หรอ ?
***เจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่า หากลูกค้าต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม ต้องระบุคำขอในใบแจ้งความด้วย และให้ลูกค้ากลับลองคิดดูก่อนว่าอยากทราบข้อมูลใดบ้าง เช่น
- หมายเลขบัญชี (ไม่มีใบแจ้งความก็ต้องไปทำเรื่องขอเปิดเผยอีก ซึ่งใช้บันทึกประจำวันไม่ได้)
- สาขาเจ้าของบัญชีปลายทาง
- ขอดูกล้องวงจรปิดตอนกดเงินออก
- สถานะการเดินบัญชี
- หากเป็นต่างด้าว ขอเลขพาสปอต หรือใบอนุญาตทำงาน (work permit) ระบุนายจ้าง หรือแม้แต่หลักฐานอื่นๆที่เราก็คาดเดาไม่ได้ ซึ่งธนาคารต้องมีเคสแบบนี้เกิดขึ้นเป็น 100 เป็น 1000 แล้วคุณไม่มีการแนะนำลูกค้าเลยหรือว่าต้องปฏิบัติอย่างไรหากเจอกรณีแบบนี้เกิดขึ้น
ซึ่งตนเองไม่เข้าใจทำไมไม่แจ้งตั้งแต่ทีแรกว่าในใบแจ้งความควรมีข้อมูลใดบ้างเพื่อให้ครอบคุมในการดำเนินการทุกขั้นตอน เพื่อให้ไม่ให้เสียเวลาในการ
กลับไป กลับมา ระหว่าง สน. เหมือนพนักงานโยนมาให้เจ้าของเงินรับผิดชอบดำเนินการติดตามทวงถามเอง เพราะธนาคารแจ้งว่าในขั้นตอนหลังจากนี้ ทางธนาคารให้ได้เพียงข้อมูลที่ระบุในใบแจ้งความ หลังจากนั้นเจ้าของเงินต้องดำเนินการทางกฏหมายกับตำรวจด้วยตนเองต่อไป
คำถามคือ ...แล้วธนาคารมีหน้าที่ติดตามแค่ 5 วัน หลังจากนั้นโยนทั้งหมดให้เจ้าของเงินตามเองตามยะถากรรม ไม่รู้ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ถึงจะตามตัวเจอ
เข้าใจว่าเราประมาทเลินเล่อ ที่ไม่ดูให้ดี แต่เราก็ไม่ได้ต้องการให้เกิดการฝากผิดเกิดขึ้น และหวังว่าธนาคารจะบริการได้ดีกว่านี้ เสียใจกับการบริการของธนาคารกสิกรไทยมากๆ และยิ่งกว่านั้นตำรวจไทยควรถือความยุติธรรมและช่วยเหลือประชาชนมากกว่านี้
ล่าสุดวันที่ 21 สิงหาคม 2561 ได้พูดคุยกับ call center อีกครั้ง เจ้าหน้าที่ได้แต่เพียงแจ้งว่า หากทางตำรวจไม่สามารถติดต่อกรณีมีข้อมูลเท่านี้ ทางเราก็ไม่สามารถดำเนินการได้ (เท่ากับโอกาสจะได้คืนเป็น 0) และยังคงตั้งคำถามเดิมว่าอายัดบัญชีได้มั้ย ได้คำตอบใหม่ค่ะ คือ ไม่สามารถอายัดบัญชีได้เนื่องจากธนาคารจะอายัดก็ต่อเมื่อเป็นคดีฉ้อโกง เช่น ซื้อของออนไลน์ แต่ฝากเงินผิดไม่สามารถอายัดได้ (แต่เมื่อประมาณวันที่ 9-11 ธนาคารแจ้งว่าสามารถอายัดได้แต่ยังไม่จำเป็นต้องอายัด เห้อเพลีย)
ฝากเงินผิดบัญชี ธนาคารและเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยแบบนี้ได้หรือ ??
ซึ่งเราเคยแจ้งไปแล้วว่าเป็นการฝากเงินจากตู้ฝากเงินสด ไม่ใช่เป็นการโอนเงินผ่านบัญชีตนเอง กลับกลายเป็นว่าต้องดำเนินเรื่องเข้าไปใหม่
2) call center แจ้งว่าให้รอทางธนาคารติดต่อเจ้าของบัญชีปลายทางเพื่อโอนเงินคืน โดยใช้ระยะเวลา 5-7 วัน
3) วันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม 2561 เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่สามารถติดต่อกับเจ้าของบัญชีปลายทางได้ ให้ดำเนินการแจ้งความได้
4) โทรไปสอบถามกับ call center ว่าสามารถแจ้งอายัดบัญชีปลายทางได้หรือไม่ ? เนื่องจากเจ้าของบัญชีปลายทางเจ้าข่ายยักยอกเงินที่ไม่ใช่เงินของตนเอง เจ้าหน้าที่แจ้งว่า “ยังไม่จำเป็นต้องอายัดบัญชี เนื่องจากจะเกิดการยุ่งยากในการแจ้งยกเลิกอายัดหากเค้าต้องการโอนเงินคืน” ดังนั้นตนเองเลยไม่แจ้งอายัด
5) ก่อนการไปแจ้งความได้ติดต่อ call center หลายครั้งเพื่อสอบถามว่าต้องแจ้งเจ้าหน้าทีตำรวจอย่างไรบ้าง และต้องการข้อมูลด้านใดบ้างเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป โดยเจ้าหน้าที่แจ้งเพียงว่า ขอหนังสือตราครุฑเพื่อเปิดเผยข้อมูลชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์เจ้าของบัญชีปลายทาง และทาง call center จะดำเนินการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง
6)การแจ้งความตนเองเดินทางไปแจ้งความที่ สน. พุทธมณฑลในวันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม 2561 ซึ่งใกล้บ้าน แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องไป สน.ในเขตพื้นที่ ดังนั้นจึงเดินทางไปแจ้งที่ สน.พื้นที่ (สน.พญาไท) ไปในวันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม 2561 ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงเพื่อขอเอกสารตราครุฑ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าไม่สามารถออกหนังสือตราครุฑให้ได้ เนื่องจากไม่มีอำนาจในการเซ็นเอกสารเพื่อขอเปิดเผยข้อมูลแต่อย่างใด ซึ่งตนเองจำเป็นต้องติดต่อ call center เพื่อให้คุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าเหตุใดจึงจำเป็นต้องใช้เอกสารฉบับนั้น ซึ่งคุยอย่างไรก็ไม่สามารถออกหนังสือตราครุฑได้ จนให้คุยกับเจ้าหน้าที่ call center คนที่ 2 ตำรวจจึงยอมออกหนังสือให้ และบอกให้ใส่รายละเอียดตามแจ้ง ตำรวจก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมเขียนตามเอกสารในบางประการ เช่น
- แจ้งให้เรียนธนาคารกสิกรไทย ตำรวจบอกต้องระบุสาขา เราก็แจ้งว่า call center แจ้งว่าไม่ต้องระบุสาขาตำรวจไม่ยอมจึงตัดปัญหาให้ () สาขาสำนักงานใหญ่
- ให้ใส่หมายเลขบัญชี ตำรวจแจ้งว่าไม่ให้มี xxx ซึ่งตนเองก็จำเป็นต้องติดต่อ call center เพื่อขอหมายเลขบัญชีปลายทาง เพราะตำรวจต้องการ แต่ call center แจ้งว่าไม่สามารถให้หมายเลขบัญชีได้บอกได้เพียง 4 ตัวสุดท้าย จึงต้องเคลียกับตำรวจอีกครั้งและอีกหลายๆประเด็นที่ ทำให้การออกหนังสือตราครุฑลำบาก
- เอาง่ายๆ ตำรวจพูดชัดเจนเลยว่าธนาคารมันขี้เกียจแล้วโยนขี้มาให้ตำรวจตาม !!!
- ผมเป็นตำรวจ ถ้าทำแต่งานแบบนี้ก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว มันหน้าที่ธนาคาร (เสียงสูง)
7)ในวันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม 2561 เดินทางมายังธนาคารกสิกรไทย สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า เพื่อยื่นเอกสารตามที่ call center แนะนำทุกประการ เมื่อเดินทางมาถึงเจ้าหน้าที่รับเรื่องแจ้งว่า เราจะให้ข้อมูลตามที่ระบุมาในใบแจ้งความ ซึ่ง มีชื่อ ที่อยู่ และ เบอร์ศัพท์ (call center ให้แจ้งตำรวจแค่นี้) และเจ้าหน้าที่จะส่งข้อมูลไปยังสถานีตำรวจ เพื่อให้ติดตามต่อไป เลยถามเจ้าหน้าธนาคารต่อไปว่า
- ชื่อก็ปรากฎในสลิปอยู่แล้ว..
- ที่อยู่.... ok สอบถามเพื่อที่จะส่งเอกสารต่างๆ
- เบอร์โทรศัพท์ เราถามว่าเอาเบอร์ไปก็ติดต่อไม่ได้อยู่ดีเนื่องจากติดต่อมานานก็ยังติดต่อไม่ได้ แล้วตรวจจะตามได้หรอ ?
***เจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่า หากลูกค้าต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม ต้องระบุคำขอในใบแจ้งความด้วย และให้ลูกค้ากลับลองคิดดูก่อนว่าอยากทราบข้อมูลใดบ้าง เช่น
- หมายเลขบัญชี (ไม่มีใบแจ้งความก็ต้องไปทำเรื่องขอเปิดเผยอีก ซึ่งใช้บันทึกประจำวันไม่ได้)
- สาขาเจ้าของบัญชีปลายทาง
- ขอดูกล้องวงจรปิดตอนกดเงินออก
- สถานะการเดินบัญชี
- หากเป็นต่างด้าว ขอเลขพาสปอต หรือใบอนุญาตทำงาน (work permit) ระบุนายจ้าง หรือแม้แต่หลักฐานอื่นๆที่เราก็คาดเดาไม่ได้ ซึ่งธนาคารต้องมีเคสแบบนี้เกิดขึ้นเป็น 100 เป็น 1000 แล้วคุณไม่มีการแนะนำลูกค้าเลยหรือว่าต้องปฏิบัติอย่างไรหากเจอกรณีแบบนี้เกิดขึ้น
ซึ่งตนเองไม่เข้าใจทำไมไม่แจ้งตั้งแต่ทีแรกว่าในใบแจ้งความควรมีข้อมูลใดบ้างเพื่อให้ครอบคุมในการดำเนินการทุกขั้นตอน เพื่อให้ไม่ให้เสียเวลาในการ
กลับไป กลับมา ระหว่าง สน. เหมือนพนักงานโยนมาให้เจ้าของเงินรับผิดชอบดำเนินการติดตามทวงถามเอง เพราะธนาคารแจ้งว่าในขั้นตอนหลังจากนี้ ทางธนาคารให้ได้เพียงข้อมูลที่ระบุในใบแจ้งความ หลังจากนั้นเจ้าของเงินต้องดำเนินการทางกฏหมายกับตำรวจด้วยตนเองต่อไป
คำถามคือ ...แล้วธนาคารมีหน้าที่ติดตามแค่ 5 วัน หลังจากนั้นโยนทั้งหมดให้เจ้าของเงินตามเองตามยะถากรรม ไม่รู้ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ถึงจะตามตัวเจอ
เข้าใจว่าเราประมาทเลินเล่อ ที่ไม่ดูให้ดี แต่เราก็ไม่ได้ต้องการให้เกิดการฝากผิดเกิดขึ้น และหวังว่าธนาคารจะบริการได้ดีกว่านี้ เสียใจกับการบริการของธนาคารกสิกรไทยมากๆ และยิ่งกว่านั้นตำรวจไทยควรถือความยุติธรรมและช่วยเหลือประชาชนมากกว่านี้
ล่าสุดวันที่ 21 สิงหาคม 2561 ได้พูดคุยกับ call center อีกครั้ง เจ้าหน้าที่ได้แต่เพียงแจ้งว่า หากทางตำรวจไม่สามารถติดต่อกรณีมีข้อมูลเท่านี้ ทางเราก็ไม่สามารถดำเนินการได้ (เท่ากับโอกาสจะได้คืนเป็น 0) และยังคงตั้งคำถามเดิมว่าอายัดบัญชีได้มั้ย ได้คำตอบใหม่ค่ะ คือ ไม่สามารถอายัดบัญชีได้เนื่องจากธนาคารจะอายัดก็ต่อเมื่อเป็นคดีฉ้อโกง เช่น ซื้อของออนไลน์ แต่ฝากเงินผิดไม่สามารถอายัดได้ (แต่เมื่อประมาณวันที่ 9-11 ธนาคารแจ้งว่าสามารถอายัดได้แต่ยังไม่จำเป็นต้องอายัด เห้อเพลีย)