อยากถามผู้เก่งกาจปราดเปรื่องที่ออกมาค้านการใช่ที่มักกะสันว่า
"พวกคุณมีปัญญาทำกำไรจากการเดินรถอย่างเดียวได้หรือไม่"
โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน จากประมาณการและความเห็นของนักลงทุนทั้งไทยและเทศ ก็เห็นตรงกันว่า จะมีผู้ใช้บริการเยอะ
ทั้งคนจากภาคตะวันออกที่เข้ามาทำงาน/เรียนในกรุงเทพ คนกรุงเทพที่ไปเที่ยวภาคตะวันออก นักท่องเที่ยวต่างชาติ นักลงทุนนักธุรกิจที่ต้องการความรวดเร็วในการเดินทาง ล้วนแล้วแต่เป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ของรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน
แต่ถึงอย่างไรการหวังกำไรจากค่าโดยสารเป็นเรื่องเพ้อฝัน ในโลกนี้ มีรถไฟความเร็วสูงไม่กี่เส้นทางจากหลายสิบหลายร้อยเส้นทางที่ทำกำไรได้จากการขายตั๋วอย่างเดียว โดยส่วนใหญ่
อยากได้กำไร ก็ต้องพัฒนาพื้นที่รอบสถานี เป็นการทำกำไรในลักษณะธุรกิจต่อเนื่อง เช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า พื้นที่ใช้สอยร่วม (Co-Working Space)
และลักษณะที่ดินรอบสถานีรถไฟของไทยนั้น เป็นที่ดินของการรถไฟอยู่แล้ว แล้วจะให้เอกชนเขาไปซื้อที่ดินมาทำ TOD รอบสถานีจากไหนละ
ก็ต้องเอาจากการรถไฟ ในลักษณะเช่าพื้นที่เพื่อพัฒนาพื้นที่ตามสัญญา ต้องจ่ายค่าเช่าให้ รฟท. และเมื่อครบสัญญา ทรัพย์สินที่เกิดจากการพัฒนาทั้งหมดต้องตกเป็นของการรถไฟ เอกชนก็ต้องโอนทรัพย์สินให้การรถไฟ และเอกชนก็จะเเปรสภาพเป็นผู้เช่าเท่านั้น
"แล้วมันเป็นการขายชาติตรงไหน ประเคนที่ให้เอกชนได้อย่างไร"
แล้วในข้อกำหนด เอกชนก็ต้องรับแอร์พอร์ตลิ้งค์ที่เต็มไปด้วยสารพัดปัญหา ทั้งความแออัด ขบวนรถไม่พอ การบำรุงรักษาที่ไม่ทันกับความต้องการ ฯลฯ ไปพัฒนาด้วย
ทั้งต้องก่อสร้างทางรถไฟตั้งแต่ดอนเมือง - พญาไท / สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา แถมต้องทำเพื่อสายสีแดงอ่อนไว้ด้วย
ต้องแบกรับความเสี่ยงในการบริหารจัดการ เดินรถ บำรุงรัษา ฯลฯ
เรียกได้ว่าความเสี่ยงสารพัด
ดังนั้น ถ้าไม่มีที่มักกะสัน เอกชนก็ไม่มีที่ให้พัฒนาหากำไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย มีแต่ที่ศรีราชา20กว่าไร่ยาวเป็นไม้บรรทัด พัฒนายาก ก็คงทำได้แค่เดินรถไปมา รอวันเจ๊ง และกอดคอกันล่มไป พอเอกชนเจ๊ง รัฐก็ต้องเข้ามาอุ้มโครงการ ก็ต้องเอาภาษีประชาชนนี่แหละไปเป็นงบ
เช่นนี้ ผีที่ไหนจะมาร่วมทุนกับรัฐ
ที่มักกะสันรอบสถานีมักกะสัน จำเป็นต้องพัฒนาเพื่อรองรับผู้โดยสาร คนลงรถไฟมา ก็จะหาที่เที่ยว ที่พัก ถ้าไม่พัฒนาแต่ไปทำเป็นสวนทั้งหมด เหมือนที่คนบางกลุ่มเรียกร้อง แมวที่ไหนจะเล่นด้วย
ที่มักกะสันที่เก็บเอาไว้เฉยๆมาเป็นร้อยปี ไม่สามารถสร้างรายได้ให้รฟท.หรือสนับสนุนสถานีมักกะสันได้เลย
ในต่างประเทศรอบสถานีรถไฟก็ให้เอกชนมาพัฒนาพื้นที่รอบสถานีทั้งนั้น เพื่อรองรับการใช้งานของผู้โดยสาร ไม่มีประเทศไหนเอาที่ไปทำแต่สวน
สถานีโตเกียว
สถานีโอซาก้า
ผมจึงอยากรู้ความคิด-องนักค้านว่า ท่านจะมีปัญญาทำกำไรจากการเดินรถอย่างเดียวได้อย่างไร
อยากถามคนที่ค้านใช้ที่มักกะสันว่า คุณมีวิธีทำกำไรจากการเดินรถไฟความเร็วสูงอย่างไรโดยไม่พัฒนา TOD
"พวกคุณมีปัญญาทำกำไรจากการเดินรถอย่างเดียวได้หรือไม่"
โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน จากประมาณการและความเห็นของนักลงทุนทั้งไทยและเทศ ก็เห็นตรงกันว่า จะมีผู้ใช้บริการเยอะ
ทั้งคนจากภาคตะวันออกที่เข้ามาทำงาน/เรียนในกรุงเทพ คนกรุงเทพที่ไปเที่ยวภาคตะวันออก นักท่องเที่ยวต่างชาติ นักลงทุนนักธุรกิจที่ต้องการความรวดเร็วในการเดินทาง ล้วนแล้วแต่เป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ของรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน
แต่ถึงอย่างไรการหวังกำไรจากค่าโดยสารเป็นเรื่องเพ้อฝัน ในโลกนี้ มีรถไฟความเร็วสูงไม่กี่เส้นทางจากหลายสิบหลายร้อยเส้นทางที่ทำกำไรได้จากการขายตั๋วอย่างเดียว โดยส่วนใหญ่อยากได้กำไร ก็ต้องพัฒนาพื้นที่รอบสถานี เป็นการทำกำไรในลักษณะธุรกิจต่อเนื่อง เช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า พื้นที่ใช้สอยร่วม (Co-Working Space)
และลักษณะที่ดินรอบสถานีรถไฟของไทยนั้น เป็นที่ดินของการรถไฟอยู่แล้ว แล้วจะให้เอกชนเขาไปซื้อที่ดินมาทำ TOD รอบสถานีจากไหนละ
ก็ต้องเอาจากการรถไฟ ในลักษณะเช่าพื้นที่เพื่อพัฒนาพื้นที่ตามสัญญา ต้องจ่ายค่าเช่าให้ รฟท. และเมื่อครบสัญญา ทรัพย์สินที่เกิดจากการพัฒนาทั้งหมดต้องตกเป็นของการรถไฟ เอกชนก็ต้องโอนทรัพย์สินให้การรถไฟ และเอกชนก็จะเเปรสภาพเป็นผู้เช่าเท่านั้น
"แล้วมันเป็นการขายชาติตรงไหน ประเคนที่ให้เอกชนได้อย่างไร"
แล้วในข้อกำหนด เอกชนก็ต้องรับแอร์พอร์ตลิ้งค์ที่เต็มไปด้วยสารพัดปัญหา ทั้งความแออัด ขบวนรถไม่พอ การบำรุงรักษาที่ไม่ทันกับความต้องการ ฯลฯ ไปพัฒนาด้วย
ทั้งต้องก่อสร้างทางรถไฟตั้งแต่ดอนเมือง - พญาไท / สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา แถมต้องทำเพื่อสายสีแดงอ่อนไว้ด้วย
ต้องแบกรับความเสี่ยงในการบริหารจัดการ เดินรถ บำรุงรัษา ฯลฯ
เรียกได้ว่าความเสี่ยงสารพัด
ดังนั้น ถ้าไม่มีที่มักกะสัน เอกชนก็ไม่มีที่ให้พัฒนาหากำไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย มีแต่ที่ศรีราชา20กว่าไร่ยาวเป็นไม้บรรทัด พัฒนายาก ก็คงทำได้แค่เดินรถไปมา รอวันเจ๊ง และกอดคอกันล่มไป พอเอกชนเจ๊ง รัฐก็ต้องเข้ามาอุ้มโครงการ ก็ต้องเอาภาษีประชาชนนี่แหละไปเป็นงบ
เช่นนี้ ผีที่ไหนจะมาร่วมทุนกับรัฐ
ที่มักกะสันรอบสถานีมักกะสัน จำเป็นต้องพัฒนาเพื่อรองรับผู้โดยสาร คนลงรถไฟมา ก็จะหาที่เที่ยว ที่พัก ถ้าไม่พัฒนาแต่ไปทำเป็นสวนทั้งหมด เหมือนที่คนบางกลุ่มเรียกร้อง แมวที่ไหนจะเล่นด้วย
ที่มักกะสันที่เก็บเอาไว้เฉยๆมาเป็นร้อยปี ไม่สามารถสร้างรายได้ให้รฟท.หรือสนับสนุนสถานีมักกะสันได้เลย
ในต่างประเทศรอบสถานีรถไฟก็ให้เอกชนมาพัฒนาพื้นที่รอบสถานีทั้งนั้น เพื่อรองรับการใช้งานของผู้โดยสาร ไม่มีประเทศไหนเอาที่ไปทำแต่สวน
สถานีโตเกียว
สถานีโอซาก้า
ผมจึงอยากรู้ความคิด-องนักค้านว่า ท่านจะมีปัญญาทำกำไรจากการเดินรถอย่างเดียวได้อย่างไร