เนติวิทย์ รับทราบข้อกล่าวหา สภ.บางปู อารยะขัดขืนไม่เข้ารับการเกณฑ์ทหาร ให้การปฏิเสธ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4889472
เนติวิทย์ รับทราบข้อกล่าวหา สภ.บางปู อารยะขัดขืนไม่เข้ารับการเกณฑ์ทหาร ให้การปฏิเสธ ขอยื่นคำให้การเพิ่มภายใน 2 ธ.ค.นี้
จากกรณี นาย
เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมือง เดินทางไปตรวจคัดเลือกทหารที่หน่วยตรวจเลือก ณ ที่ทำการเทศบาลตำบลบางปู จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 พร้อมประกาศอารยะขัดขืนต่อต้านการเกณฑ์ทหาร และพร้อมจะรับผลทางกฎหมายโดยไม่หนีไปไหน
ต่อมา วันที่ 8 เม.ย.2567 เพจเฟซบุ๊ก “
ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน” เผยแพร่กำหนดการเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายเนติวิทย์ โดยจะเข้าแจ้งความที่ สภ.ห้วยยอด อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนจึงได้ส่งหนังสือไปถึงพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยอด ลงวันที่ 7 เม.ย. 2567 เพื่อให้มีการทบทวนเขตอำนาจของสถานีตำรวจในการสอบสวน
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 8 พฤศจิกายน
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า วันนี้นาย
เนติวิทย์เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.บางปู
จ.สมุทรปราการ กรณีอารยะขัดขืนไม่เข้ารับการการเกณฑ์ทหาร โดยมีเพื่อนและทนายความจากศูนย์ทนายฯเข้าร่วมรับฟังด้วย
พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “
หลีกเลี่ยงหรือขัดขืนไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการตามหมายเรียก หรือมาแต่ไม่เข้ารับการตรวจ หรือไม่อยู่จนกว่าการตรวจเลือกแล้วเสร็จ หรือขัดขืนด้วยประการใดๆ เพื่อจะไม่ให้เข้ารับราชการทหารกองประจำการ” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 มาตรา 45
ศูนย์ทนายฯระบุว่า พ.ต.ต.
คมกฤชต์ ทองอุไร สว.(สอบสวน) สภ.บางปู ได้แจ้งถึงพฤติการณ์คดีโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2566
เนติวิทย์ได้รับหมายเรียกของนายอำเภอเมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ เพื่อเข้าไปให้คณะกรรมการทำการตรวจคัดเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการประจำปี 2567 ที่หอประชุมคอมเพล็กซ์เทศบาลบางปู ในวันที่ 5 ม.ย.2567 ตั้งแต่เวลา 07.00 น.เป็นต้นไป
เนติวิทย์ได้รับหมายเรียกดังกล่าวแล้วไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการตามหมายเรียก
นายอำเภอเมืองสมุทรปราการจึงได้มอบหมายให้ พ.ท.
กัมพล สังข์สาลี สัสดีอำเภอเมืองสมุทรปราการ มาแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี
จากนั้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา
เนติวิทย์ว่า “
หลีกเลี่ยงหรือขัดขืนไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการตามหมายเรียก หรือมาแต่ไม่เข้ารับการตรวจ หรือไม่อยู่จนกว่าการตรวจเลือกแล้วเสร็จ หรือขัดขืนด้วยประการใด ๆ เพื่อจะไม่ให้เข้ารับราชการทหารกองประจำการ” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 มาตรา 45
ในชั้นสอบคำให้การ
เนติวิทย์ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยจะยื่นคำให้การเพิ่มเติมเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 2 ธ.ค.2567 เนื่องจากเพิ่งได้ทราบพฤติการณ์ทางคดีที่ถูกกล่าวหา และต้องการยื่นคำให้การของผู้เชี่ยวชาญประกอบด้วย
หลังสอบปากคำเสร็จ พนักงานสอบสวนไม่ได้ควบคุมตัว
เนติวิทย์ไว้ แต่ได้นัดมาพบเพื่อส่งตัวให้อัยการในวันที่ 3 ธ.ค.2567 ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่าพนักงานอัยการจะส่งตัวเนติวิทย์ไปฟ้องในวันเดียวกันนั้น
สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจฯ จี้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง มาเป็นของ รฟท.
https://www.isranews.org/article/isranews/133233-isra-t-280.html
สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ออกแถลงการณ์ คดีที่ดินรถไฟเขากระโดง ชี้ถึงความไร้ระบบจริยธรรม-
หลักธรรมาภิบาลอย่างสิ้นเชิง จี้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดงจากเอกชน มาเป็นของ รฟท.
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2567 สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ออกแถลงการณ์ เรื่อง “
คดีที่ดินรถไฟเขากระโดง” ตัวชี้วัดประเทศไทยถึงความไร้ระบบจริยธรรมและหลักธรรมาภิบาลอย่างสิ้นเชิง ระบุว่า
คดีที่ดินรถไฟเขากระโดง ได้มีข้อพิพาทระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทยกับเอกชนผู้บุกรุกซึ่งเป็นตระกูลนักการเมืองดังในพื้นที่ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2513 เป็นต้นมา สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ได้ยกประเด็นนี้มาต่อสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผลประโยชน์ของชาติและประชาชน ทำให้หลายภาคส่วนได้ตระหนักถึงข้อเท็จจริงและใช้กระบวนต่าง ๆ ดำเนินการเพื่อร่วมกันปกป้องทรัพย์สินของแผ่นดิน นำมาสู่กระบวนการทางกฎหมายจนศาลฎีกามีคำพิพากษาถึง 2 ฉบับ ว่าที่ดินเขากระโดง จำนวน 5,083 ไร่ เป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทยให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ของเอกชนมาเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย ถือเป็นมหากาพย์ของการดำเนินการทางศาลทุกศาลจนคำพิพากษาออกมา ทั้งที่ ที่ดินเขากระโดงมีหลักฐานพระบรมราชโองการมอบที่ดินเขากระโดงสมัยรัชกาลที่ 5 และยังมีพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินเขากระโดง จำนวน 5,083 ไร่ ในสมัยรัชกาลที่ 6 ให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทย
จากกรณีดังกล่าว อธิบดีกรมที่ดินได้มีคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินที่ 1195-1196/2566 เรื่อง ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 เพื่อดำเนินการกับหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกทับที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บริเวณแยกเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ อันเป็นการดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางในคดีหมายเลขดำที่ 2494/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 582/2566 จนเมื่อล่าสุดอธิบดีกรมที่ดินได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าการ รฟท. แจ้งเรื่องการเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกทับซ้อนกับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยสรุปเนื้อหาได้ว่า คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดง เนื่องจาก รฟท. ไม่มีหลักฐานเป็นที่ข้อยุติว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของ รฟท. นั้น กรณีที่กรมที่ดินตั้งคณะกรรมการสอบสวนมาพิจารณาขัดกับคำพิพากษาศาลฎีกา ถือเป็นการใช้อำนาจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงหากมองถึงการบริหารจัดการประเทศเพื่อความผาสุกอย่างยั่งยืนของปวงชนชาวไทยบนพื้นฐานอำนาจแห่งรัฐผ่านกลไกของอำนาจบริหารซึ่งมีรัฐบาลโดยคณะรัฐมนตรี อำนาจนิติบัญญัติโดยรัฐสภาและอำนาจตุลาการโดยศาล จากคดีที่ดินรถไฟเขากระโดงซึ่งเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการผ่านกระบวนการมาแล้วเกือบทุกกลไกอำนาจ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 มาตรา 53 รัฐมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งหมายถึงรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง กรณีนี้ คือ กรมที่ดิน ที่ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกา คือ ศาลสูงสุดได้พิจารณาให้คืนที่ดินดังกล่าวก็ต้องคืนให้การรถไฟแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่สถาปนาโดยล้นเกล้ารัชกาลที่ 5
สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล กรมที่ดิน และภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ด้วยเห็นว่า จากกรณีของคดีที่ดินรถไฟเขากระโดงนั้น หากเป็นไปตามที่คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินรถไฟฯ นั้น ถือเป็นการทำลายระบบจริยธรรมและหลักธรรมาภิบาลในประเทศไทย รวมถึงทำลายหลักการของอำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการ ที่ทำหน้าที่แทนปวงชนชนชาวไทยในการค้ำจุนสังคมไทยให้สงบสุขหมดสิ้นแล้ว พร้อมกันนี้แสดงให้เห็นว่าหากมีเงินและมีอำนาจก็สามารถการปกป้องผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องได้ ดังนั้น เพื่อร่วมกันผดุงไว้ซึ่งระบบจริยธรรม และหลักธรรมาภิบาลให้อยู่คู่สังคมไทย รวมถึงการถ่วงดุลแห่งอำนาจ การปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด คณะกรรมการสอบฯ และกรมที่ดิน ที่มีวิสัยทัศน์ “เป็นองค์กรชั้นนำในการคุ้มครองสิทธิด้านที่ดิน การจัดการข้อมูล ระบบแผนที่โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและพัฒนาคุณภาพการบริการอย่างมีหลักธรรมาภิบาล” ควรดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางและศาลฎีกา เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ของที่ดินรถไฟเขากระโดง จำนวน 5,083 ไร่ จากเอกชนและกลุ่มทุนนักการเมืองมาเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย
ประกาศฉบับ 5 พายุไต้ฝุ่น "หยินซิ่ง" จ่อเข้าใกล้ชายฝั่งเวียดนาม 10-12 พ.ย.นี้
https://www.thairath.co.th/news/local/2824593
"กรมอุตุนิยมวิทยา" ประกาศพายุไต้ฝุ่น "หยินซิ่ง" ฉบับที่ 5 ย้ำไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ส่วนวันที่ 9-11 พ.ย. ภาคใต้มี "ฝนตกหนักถึงหนักมาก" บางแห่ง
วันที่ 9 พ.ย. 2567 เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่องพายุ "หยินซิ่ง" ฉบับที่ 5 โดยระบุว่า เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ พายุไต้ฝุ่นหยินซิ่ง บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 18.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 115.4 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทั้งนี้ คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ตอนใต้ของเกาะไหหลำ ประเทศจีน และชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 10-12 พ.ย. 2567 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 9-11 พ.ย. 2567 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา
http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
JJNY : เนติวิทย์รับทราบข้อกล่าวหา│จี้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง│"หยินซิ่ง"จ่อชายฝั่งเวียดนาม│จีนขยายเพดานหนี้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4889472
เนติวิทย์ รับทราบข้อกล่าวหา สภ.บางปู อารยะขัดขืนไม่เข้ารับการเกณฑ์ทหาร ให้การปฏิเสธ ขอยื่นคำให้การเพิ่มภายใน 2 ธ.ค.นี้
จากกรณี นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมือง เดินทางไปตรวจคัดเลือกทหารที่หน่วยตรวจเลือก ณ ที่ทำการเทศบาลตำบลบางปู จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 พร้อมประกาศอารยะขัดขืนต่อต้านการเกณฑ์ทหาร และพร้อมจะรับผลทางกฎหมายโดยไม่หนีไปไหน
ต่อมา วันที่ 8 เม.ย.2567 เพจเฟซบุ๊ก “ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน” เผยแพร่กำหนดการเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายเนติวิทย์ โดยจะเข้าแจ้งความที่ สภ.ห้วยยอด อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนจึงได้ส่งหนังสือไปถึงพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยอด ลงวันที่ 7 เม.ย. 2567 เพื่อให้มีการทบทวนเขตอำนาจของสถานีตำรวจในการสอบสวน
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 8 พฤศจิกายน ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า วันนี้นายเนติวิทย์เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.บางปู
จ.สมุทรปราการ กรณีอารยะขัดขืนไม่เข้ารับการการเกณฑ์ทหาร โดยมีเพื่อนและทนายความจากศูนย์ทนายฯเข้าร่วมรับฟังด้วย
พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “หลีกเลี่ยงหรือขัดขืนไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการตามหมายเรียก หรือมาแต่ไม่เข้ารับการตรวจ หรือไม่อยู่จนกว่าการตรวจเลือกแล้วเสร็จ หรือขัดขืนด้วยประการใดๆ เพื่อจะไม่ให้เข้ารับราชการทหารกองประจำการ” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 มาตรา 45
ศูนย์ทนายฯระบุว่า พ.ต.ต.คมกฤชต์ ทองอุไร สว.(สอบสวน) สภ.บางปู ได้แจ้งถึงพฤติการณ์คดีโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2566 เนติวิทย์ได้รับหมายเรียกของนายอำเภอเมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ เพื่อเข้าไปให้คณะกรรมการทำการตรวจคัดเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการประจำปี 2567 ที่หอประชุมคอมเพล็กซ์เทศบาลบางปู ในวันที่ 5 ม.ย.2567 ตั้งแต่เวลา 07.00 น.เป็นต้นไป เนติวิทย์ได้รับหมายเรียกดังกล่าวแล้วไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการตามหมายเรียก
นายอำเภอเมืองสมุทรปราการจึงได้มอบหมายให้ พ.ท.กัมพล สังข์สาลี สัสดีอำเภอเมืองสมุทรปราการ มาแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี
จากนั้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาเนติวิทย์ว่า “หลีกเลี่ยงหรือขัดขืนไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการตามหมายเรียก หรือมาแต่ไม่เข้ารับการตรวจ หรือไม่อยู่จนกว่าการตรวจเลือกแล้วเสร็จ หรือขัดขืนด้วยประการใด ๆ เพื่อจะไม่ให้เข้ารับราชการทหารกองประจำการ” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 มาตรา 45
ในชั้นสอบคำให้การ เนติวิทย์ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยจะยื่นคำให้การเพิ่มเติมเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 2 ธ.ค.2567 เนื่องจากเพิ่งได้ทราบพฤติการณ์ทางคดีที่ถูกกล่าวหา และต้องการยื่นคำให้การของผู้เชี่ยวชาญประกอบด้วย
หลังสอบปากคำเสร็จ พนักงานสอบสวนไม่ได้ควบคุมตัวเนติวิทย์ไว้ แต่ได้นัดมาพบเพื่อส่งตัวให้อัยการในวันที่ 3 ธ.ค.2567 ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่าพนักงานอัยการจะส่งตัวเนติวิทย์ไปฟ้องในวันเดียวกันนั้น
สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจฯ จี้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง มาเป็นของ รฟท.
https://www.isranews.org/article/isranews/133233-isra-t-280.html
หลักธรรมาภิบาลอย่างสิ้นเชิง จี้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดงจากเอกชน มาเป็นของ รฟท.
คดีที่ดินรถไฟเขากระโดง ได้มีข้อพิพาทระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทยกับเอกชนผู้บุกรุกซึ่งเป็นตระกูลนักการเมืองดังในพื้นที่ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2513 เป็นต้นมา สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ได้ยกประเด็นนี้มาต่อสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผลประโยชน์ของชาติและประชาชน ทำให้หลายภาคส่วนได้ตระหนักถึงข้อเท็จจริงและใช้กระบวนต่าง ๆ ดำเนินการเพื่อร่วมกันปกป้องทรัพย์สินของแผ่นดิน นำมาสู่กระบวนการทางกฎหมายจนศาลฎีกามีคำพิพากษาถึง 2 ฉบับ ว่าที่ดินเขากระโดง จำนวน 5,083 ไร่ เป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทยให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ของเอกชนมาเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย ถือเป็นมหากาพย์ของการดำเนินการทางศาลทุกศาลจนคำพิพากษาออกมา ทั้งที่ ที่ดินเขากระโดงมีหลักฐานพระบรมราชโองการมอบที่ดินเขากระโดงสมัยรัชกาลที่ 5 และยังมีพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินเขากระโดง จำนวน 5,083 ไร่ ในสมัยรัชกาลที่ 6 ให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทย
จากกรณีดังกล่าว อธิบดีกรมที่ดินได้มีคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินที่ 1195-1196/2566 เรื่อง ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 เพื่อดำเนินการกับหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกทับที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บริเวณแยกเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ อันเป็นการดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางในคดีหมายเลขดำที่ 2494/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 582/2566 จนเมื่อล่าสุดอธิบดีกรมที่ดินได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าการ รฟท. แจ้งเรื่องการเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกทับซ้อนกับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยสรุปเนื้อหาได้ว่า คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดง เนื่องจาก รฟท. ไม่มีหลักฐานเป็นที่ข้อยุติว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของ รฟท. นั้น กรณีที่กรมที่ดินตั้งคณะกรรมการสอบสวนมาพิจารณาขัดกับคำพิพากษาศาลฎีกา ถือเป็นการใช้อำนาจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงหากมองถึงการบริหารจัดการประเทศเพื่อความผาสุกอย่างยั่งยืนของปวงชนชาวไทยบนพื้นฐานอำนาจแห่งรัฐผ่านกลไกของอำนาจบริหารซึ่งมีรัฐบาลโดยคณะรัฐมนตรี อำนาจนิติบัญญัติโดยรัฐสภาและอำนาจตุลาการโดยศาล จากคดีที่ดินรถไฟเขากระโดงซึ่งเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการผ่านกระบวนการมาแล้วเกือบทุกกลไกอำนาจ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 มาตรา 53 รัฐมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งหมายถึงรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง กรณีนี้ คือ กรมที่ดิน ที่ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกา คือ ศาลสูงสุดได้พิจารณาให้คืนที่ดินดังกล่าวก็ต้องคืนให้การรถไฟแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่สถาปนาโดยล้นเกล้ารัชกาลที่ 5
สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล กรมที่ดิน และภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ด้วยเห็นว่า จากกรณีของคดีที่ดินรถไฟเขากระโดงนั้น หากเป็นไปตามที่คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินรถไฟฯ นั้น ถือเป็นการทำลายระบบจริยธรรมและหลักธรรมาภิบาลในประเทศไทย รวมถึงทำลายหลักการของอำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการ ที่ทำหน้าที่แทนปวงชนชนชาวไทยในการค้ำจุนสังคมไทยให้สงบสุขหมดสิ้นแล้ว พร้อมกันนี้แสดงให้เห็นว่าหากมีเงินและมีอำนาจก็สามารถการปกป้องผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องได้ ดังนั้น เพื่อร่วมกันผดุงไว้ซึ่งระบบจริยธรรม และหลักธรรมาภิบาลให้อยู่คู่สังคมไทย รวมถึงการถ่วงดุลแห่งอำนาจ การปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด คณะกรรมการสอบฯ และกรมที่ดิน ที่มีวิสัยทัศน์ “เป็นองค์กรชั้นนำในการคุ้มครองสิทธิด้านที่ดิน การจัดการข้อมูล ระบบแผนที่โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและพัฒนาคุณภาพการบริการอย่างมีหลักธรรมาภิบาล” ควรดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางและศาลฎีกา เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ของที่ดินรถไฟเขากระโดง จำนวน 5,083 ไร่ จากเอกชนและกลุ่มทุนนักการเมืองมาเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย
ประกาศฉบับ 5 พายุไต้ฝุ่น "หยินซิ่ง" จ่อเข้าใกล้ชายฝั่งเวียดนาม 10-12 พ.ย.นี้
https://www.thairath.co.th/news/local/2824593
"กรมอุตุนิยมวิทยา" ประกาศพายุไต้ฝุ่น "หยินซิ่ง" ฉบับที่ 5 ย้ำไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ส่วนวันที่ 9-11 พ.ย. ภาคใต้มี "ฝนตกหนักถึงหนักมาก" บางแห่ง
วันที่ 9 พ.ย. 2567 เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่องพายุ "หยินซิ่ง" ฉบับที่ 5 โดยระบุว่า เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ พายุไต้ฝุ่นหยินซิ่ง บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 18.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 115.4 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทั้งนี้ คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ตอนใต้ของเกาะไหหลำ ประเทศจีน และชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 10-12 พ.ย. 2567 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 9-11 พ.ย. 2567 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง