ความหมายของ "บุญ" & "บาป" อย่างละเอียด
ความหมายของ "บุญ"
ลักษณะทางรูป บุญ คือ การทำดีต่อกัน มีจิตมุฑิตาปรารถนาดีต่อกัน หมายถึง การทำสิ่งที่เกิดประโยชน์กับตนเองและผู้อื่น การให้ประโยชน์ผู้อื่นด้วยเราก็ได้ประโยชน์ด้วย แล้วได้ความปิติใจกลับมา เช่น ตักน้ำให้เพื่อน ๑ แก้ว ใส่บาตร (ได้ให้ทาน ได้ลงมือทำบุญ)
ลักษณะทางนาม บุญ คือ จรรโลงจิตใจให้เกิดปิติยินดี, ความดี
บุญไม่ได้ประกอบด้วยปัญญา แต่กุศลจะประกอบด้วยปัญญา
บุญ ๒ ประเภท
๑. บุญสัมมา คือ ความดี จรรโลงจิตใจให้เกิดปิติความยินดี นึกถึงครั้งใดจิตใจก็ปิติ
๒. บุญมิจฉา คือ ทำแล้วเดือดร้อน ยกตัวอย่าง เราขโมยแว่นตาเขามาใส่ เราดีใจ สุขใจที่ได้มีแว่นตาใส่ เรามีความสุขนี่คือ บุญมิจฉา แรกๆ เรามีความสุขแต่พอนานไปเรานึกถึงที่มาของแว่นตาเพราะขโมย จิตใจเราก็เศร้าหมอง เพราะเขาไม่ได้คำนึงถึงผลที่ตามมาและผลที่แท้จริงจะเป็นเช่นใด
บาป ๒ ประเภท
๑. บาปสัมมา คือ บาปที่ดี อย่างเช่น พ่อแม่ตีลูก เพราะลูกไปขโมยผลไม้มากิน ลูกอาจขัดเคืองพ่อแม่ แต่กาลเวลาผ่านไป ลูกเติบโตมาไม่ไปลักขโมยของใคร เขาไม่ต้องติดคุกหรือถูกใครซ้อมตี เป็นคนดีของสังคม การที่พ่อแม่ทำอย่างนี้ท่านมีจาคะ เสียสละให้ลูกขัดเคือง แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปลูกคิดได้ก็กลับยิ่งเคารพมากขึ้น
๒. บาปมิจฉา คือ บาปที่ไม่ดี ชั่ว อย่างเช่น การฆ่าสัตว์ ลักขโมย เป็นต้น
---------------------------
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
ความหมายของ "บุญ" & "บาป" อย่างละเอียด
ความหมายของ "บุญ"
ลักษณะทางรูป บุญ คือ การทำดีต่อกัน มีจิตมุฑิตาปรารถนาดีต่อกัน หมายถึง การทำสิ่งที่เกิดประโยชน์กับตนเองและผู้อื่น การให้ประโยชน์ผู้อื่นด้วยเราก็ได้ประโยชน์ด้วย แล้วได้ความปิติใจกลับมา เช่น ตักน้ำให้เพื่อน ๑ แก้ว ใส่บาตร (ได้ให้ทาน ได้ลงมือทำบุญ)
ลักษณะทางนาม บุญ คือ จรรโลงจิตใจให้เกิดปิติยินดี, ความดี
บุญไม่ได้ประกอบด้วยปัญญา แต่กุศลจะประกอบด้วยปัญญา
บุญ ๒ ประเภท
๑. บุญสัมมา คือ ความดี จรรโลงจิตใจให้เกิดปิติความยินดี นึกถึงครั้งใดจิตใจก็ปิติ
๒. บุญมิจฉา คือ ทำแล้วเดือดร้อน ยกตัวอย่าง เราขโมยแว่นตาเขามาใส่ เราดีใจ สุขใจที่ได้มีแว่นตาใส่ เรามีความสุขนี่คือ บุญมิจฉา แรกๆ เรามีความสุขแต่พอนานไปเรานึกถึงที่มาของแว่นตาเพราะขโมย จิตใจเราก็เศร้าหมอง เพราะเขาไม่ได้คำนึงถึงผลที่ตามมาและผลที่แท้จริงจะเป็นเช่นใด
บาป ๒ ประเภท
๑. บาปสัมมา คือ บาปที่ดี อย่างเช่น พ่อแม่ตีลูก เพราะลูกไปขโมยผลไม้มากิน ลูกอาจขัดเคืองพ่อแม่ แต่กาลเวลาผ่านไป ลูกเติบโตมาไม่ไปลักขโมยของใคร เขาไม่ต้องติดคุกหรือถูกใครซ้อมตี เป็นคนดีของสังคม การที่พ่อแม่ทำอย่างนี้ท่านมีจาคะ เสียสละให้ลูกขัดเคือง แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปลูกคิดได้ก็กลับยิ่งเคารพมากขึ้น
๒. บาปมิจฉา คือ บาปที่ไม่ดี ชั่ว อย่างเช่น การฆ่าสัตว์ ลักขโมย เป็นต้น
---------------------------
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์