เห็นคำอ้างอิง(quotes)แนวนี้อยู่หลายครั้ง ฟังดูดราม่ากินใจ แต่คนเราหรือองค์กรจะแย่อย่างนั้นหรือ มีนิทานที่มีคนเล่าให้ฟัง...
แก้วเป็นผู้ช่วยทันตแพทย์ที่เรียนมาด้านนี้โดยตรง เธอเข้าทำงานในคลินิค ช่วงนั้นคลินิคขาดผู้ช่วยเธอกับเพื่อนร่วมงานจึงต้องขึ้นเวรบ่อยมาก และต้องทำงานต่อเนื่องถึงสองทุ่มเป็นประจำ บางครั้งไม่ได้หยุดเลยติดต่อกันถึงสองสัปดาห์ เมื่อมีโอกาสก็ได้หยุดแค่วันเดียว คลินิคก็จ่ายค่าล่วงเวลาให้ตามปกติ ไม่เป็นไร เวลายากลำบากก็ช่วยๆกันไป เธอคงคิดอย่างนี้ตามปกติของพนักงานตัวเล็กๆทั่วไป
คลินิคได้รับผู้ช่วยใหม่และเจ้าหน้าที่นัดคนไข้ใหม่เข้ามาหลายคน ซึ่งทั้งหมดไม่เคยทำงานในด้านนี้มาก่อนเลย แน่นอนว่าภาระความรับผิดชอบที่ต้องแนะนำ สอนงาน และสื่อสารกับคนที่ไม่รู้งานเลยต้องเป็นของเธอและเพื่อนอีกคน
ถ้าใครเคยสอนเด็กใหม่ที่ไม่รู้เรื่องมาก่อนในสถานการณ์ที่ต้องทำงานจริง และความผิดพลาดด้วยความไม่รู้ ละเลย หรือไม่รับผิดชอบจะเกิดผลเสียต่องานและคนไข้จริงๆ ซึ่งกระทบถึงหมอและองค์กร คงจะรู้ว่าไม่ง่าย และบางครั้งก็เครียด คนตั้งใจดี ฉลาดคงสอนได้ง่าย คนไม่สนใจ ไม่ตั้งใจ หรือ”ได้แค่นั้น”คงสอนได้ยาก
ไม่แปลกที่แก้วจะหงุดหงิดฉุนเฉียวบ้างกับบางคนจนโดนเรียกไปเตือนและได้รับหนังสือเตือน
ผ่านมาหลายเดือนจนแก้วสอนคนใหม่ให้ช่วยหมอได้ดีพอสมควร เธอก็ถอยออกมายืนดูห่างๆ ทำงานตรวจครุภัณฑ์ ช่วยเตรียมของเตรียมเครื่องมือ และเข้าช่วยหมอในกรณีที่ยากที่เธอคิดว่าอาจจะยากเกินกว่าที่น้องจะช่วยได้
วันหนึ่งผู้จัดการและหัวหน้าเรียกเธอเข้าไปคุย คลินิครับคนเพิ่มมากเกินไปด้วยแผนจะขยายงานแต่ติดขัด ทำให้มีผู้ช่วยมากเกินไป จะขอย้ายเธอไปแผนกอื่น ด้วยเหตุผลว่าเธอไม่น่ารักกับเพื่อนร่วมงาน
เธอเป็นผู้ช่วยคนเดียวในคลินิคที่เรียนมาด้านนี้โดยตรง เธออยู่มาก่อนและช่วยสอนคนใหม่ให้จนทำงานได้ ถ้าจะให้เธอย้ายแผนก เธอขอออกดีกว่า
เรื่องจบลงที่ว่า...เดี๋ยวพี่จะลองคุยกับผู้บริหารให้ แก้วอย่าเพิ่งไปหางานใหม่นะ...อุตส่าห์ทิ้งความหวังไว้ให้เธอ และขอให้เธอปิดโอกาสตัวเองที่จะหางานใหม่ด้วย
องค์กรและผู้บริหารควรมีบันทึกความจำต่อสิ่งที่พนักงานตัวเล็กๆเสียสละให้บ้าง ไม่ใช่มีแต่บัญชีหนังหมาไว้จดความผิดนะ ...ผมว่า 😔
ความดี(ของคนอื่น)จดจำยากกว่าความผิดจริงหรือ?
แก้วเป็นผู้ช่วยทันตแพทย์ที่เรียนมาด้านนี้โดยตรง เธอเข้าทำงานในคลินิค ช่วงนั้นคลินิคขาดผู้ช่วยเธอกับเพื่อนร่วมงานจึงต้องขึ้นเวรบ่อยมาก และต้องทำงานต่อเนื่องถึงสองทุ่มเป็นประจำ บางครั้งไม่ได้หยุดเลยติดต่อกันถึงสองสัปดาห์ เมื่อมีโอกาสก็ได้หยุดแค่วันเดียว คลินิคก็จ่ายค่าล่วงเวลาให้ตามปกติ ไม่เป็นไร เวลายากลำบากก็ช่วยๆกันไป เธอคงคิดอย่างนี้ตามปกติของพนักงานตัวเล็กๆทั่วไป
คลินิคได้รับผู้ช่วยใหม่และเจ้าหน้าที่นัดคนไข้ใหม่เข้ามาหลายคน ซึ่งทั้งหมดไม่เคยทำงานในด้านนี้มาก่อนเลย แน่นอนว่าภาระความรับผิดชอบที่ต้องแนะนำ สอนงาน และสื่อสารกับคนที่ไม่รู้งานเลยต้องเป็นของเธอและเพื่อนอีกคน
ถ้าใครเคยสอนเด็กใหม่ที่ไม่รู้เรื่องมาก่อนในสถานการณ์ที่ต้องทำงานจริง และความผิดพลาดด้วยความไม่รู้ ละเลย หรือไม่รับผิดชอบจะเกิดผลเสียต่องานและคนไข้จริงๆ ซึ่งกระทบถึงหมอและองค์กร คงจะรู้ว่าไม่ง่าย และบางครั้งก็เครียด คนตั้งใจดี ฉลาดคงสอนได้ง่าย คนไม่สนใจ ไม่ตั้งใจ หรือ”ได้แค่นั้น”คงสอนได้ยาก
ไม่แปลกที่แก้วจะหงุดหงิดฉุนเฉียวบ้างกับบางคนจนโดนเรียกไปเตือนและได้รับหนังสือเตือน
ผ่านมาหลายเดือนจนแก้วสอนคนใหม่ให้ช่วยหมอได้ดีพอสมควร เธอก็ถอยออกมายืนดูห่างๆ ทำงานตรวจครุภัณฑ์ ช่วยเตรียมของเตรียมเครื่องมือ และเข้าช่วยหมอในกรณีที่ยากที่เธอคิดว่าอาจจะยากเกินกว่าที่น้องจะช่วยได้
วันหนึ่งผู้จัดการและหัวหน้าเรียกเธอเข้าไปคุย คลินิครับคนเพิ่มมากเกินไปด้วยแผนจะขยายงานแต่ติดขัด ทำให้มีผู้ช่วยมากเกินไป จะขอย้ายเธอไปแผนกอื่น ด้วยเหตุผลว่าเธอไม่น่ารักกับเพื่อนร่วมงาน
เธอเป็นผู้ช่วยคนเดียวในคลินิคที่เรียนมาด้านนี้โดยตรง เธออยู่มาก่อนและช่วยสอนคนใหม่ให้จนทำงานได้ ถ้าจะให้เธอย้ายแผนก เธอขอออกดีกว่า
เรื่องจบลงที่ว่า...เดี๋ยวพี่จะลองคุยกับผู้บริหารให้ แก้วอย่าเพิ่งไปหางานใหม่นะ...อุตส่าห์ทิ้งความหวังไว้ให้เธอ และขอให้เธอปิดโอกาสตัวเองที่จะหางานใหม่ด้วย
องค์กรและผู้บริหารควรมีบันทึกความจำต่อสิ่งที่พนักงานตัวเล็กๆเสียสละให้บ้าง ไม่ใช่มีแต่บัญชีหนังหมาไว้จดความผิดนะ ...ผมว่า 😔