กว่าจะมาเป็นค่าเทอม - กับน้ำพริกของแม่

ยังจำกันได้ไหมคะ แม่หมี จากกระทู้ พาลูกไปเก็บผักที่เนเธอแลนด์ https://ppantip.com/topic/37815886
ในกระทู้ที่เล่าว่า วันนั้นตั้งใจไปเก็บ gooseberry  มาทำน้ำพริก ^^ วันนี้แม่หมีจะมาเล่าการทำน้ำพริกสูตรคุณยาย ให้ฟังกันเพลินๆ
ตอนแรก ตั้งใจแค่จะทำกระทู้แชร์สูตรอาหารทั่วไป แต่พอได้ลงมือทำจริงๆ ในน้ำพริก มันมีอะไรซ้อนอยู่มากมายจริงๆค่ะ

เช้าวันหนึ่ง คุณยายได้รับโทรศัพท์จากป้าก้อย บอกว่าอยากได้น้ำพริก ...
ป้าก้อยกับแฟน ทำสวนมะเขือเปราะอยู่ที่เนเธอแลนด์ มีนำเข้าผัก ผลไม้ไทยอื่นๆด้วย พอดีแกจะไปออกร้านที่ฮัมบวร์ค เยอรมัน เค้ามีจัดงานไทย
จำนวนก็มากอยู่ 200 กล่อง คุณยายถามหมีว่าจะรับทำดีไหม เพราะไม่เคยทำทีเดียวเยอะขนาดนี้ ล่าสุดแกบอกว่า
แกตำแจ่งบองจนกล้ามเนื้ออักเสบ แม่หมีบอกว่า ทำเถอะเดี๋ยวจะช่วยคุณยายเอง
เราเลยตกลงทำกัน แต่ดีว่ามีแจ่วบองแช่ฟรีสไว้ เลยทำจริงๆประมาณ 150 กล่องค่ะ

เรามีเวลาทำทั้งหมด 4 วัน วันแรกหมดไปกับการไปตลาดปลาขับรถไปประมาณ1 ชั่วโมงได้ บรรยากาศเหมือนตลาดนัดกลางแจ้ง ของขายเยอะดีค่ะ
ได้ปลาซาบะแล้วก็ปลาหางแข็ง
(ปลาซาบะที่นี้อร่อยมาก น่าจะเพราะสดกว่าที่เคยกินที่ไทย เนื้อหวาน กลิ่นหอม อยู่เมืองไทยแม่หมีไม่กินเลยค่ะ รู้สึกไม่ชอบกลิ่น)
ได้ปลามา กลับมาบ้าน ต้องหมักปลาก่อน ใช้น้ำตาล + เกลือป่น เท่าๆกัน ใส่น้ำ คนให้ละลาย แล้วเอาปลาแช่ทิ้งไว้ 1 คืน

พอปลาได้ที่ เราก็เอาเข้าอบ ใช้ทั้งหม้ออบลมร้อน และเตาอบ ได้ปลาหน้าตาแบบนี้ออกมา ^^



รอให้เย็นหน่อย ก็นั่งแกะเลย ปลาหางแข็งแกะยากกว่าหน่อย ต้องเอาช้อนขูดหนังแข็งๆเริ่มจากปลายหางก่อน ไม่อย่างนั้นแกะยากมาก แกะอย่างระมัดระวัง อย่าให้มีก้างหลงไป ตอนแกะปลานี้แหละ ไม่น่าเชื่อว่าเป็นการทำงานที่สนุก และมีความสุขมาก

คุณยาย แม่หมี น้องชายเราช่วยกันแกะปลา อยู่ๆ คุณยายก็พูดขึ้นมาว่า นี่แหละคือความสุขที่แท้จริงของแม่ การได้อยู่ใกล้ชิดกับลูกหลาน
ทำไปคุยกันไป เล่าเรื่องสมัยเด็กๆ ^^
วันที่2 งานหลักๆมี แกะปลาและอบหอมแดง กระเทียม พริกเตรียมไว้



แม่หมีเห็นเวลายังเหลือ เลยบอกยายว่า เราทำน้ำพริกไตปลาวันนี้เลยก็น่าจะดีนะ น้ำพริกไตปลาแห้ง ใช้ปลาซาบะ กับน้ำพริกแกงไตปลาสั่งร้านอร่อยจากทางใต้ไป อันนี้แม่หมีหิ้วมาจากเมืองไทย รอบนี้ขนมา 5 กิโล

ผัดพริกแกงกับน้ำมันให้หอมก่อน ค่อยเอาปลาลงไปผัด ทำกะทะเล็กผักจนเข้ากันดี ไม่ต้องปรุงเพิ่มแล้ว เพราะเนื้อปลามีรสชาติอยู่แล้ว แถมน้ำพริกคือเด็ดมาก คลุกข้าวกินอร่อยมากค่ะ



วันต่อมาก็ ทำกะปิหวาน อันนี้ง่ายที่สุด แต่ก็มีขั้นมีตอนอยู่ คุณยายใช้ปลาตากแห้ง ที่ตกมาเอง เค็มนิดๆ เอามาอบจนหอม กรอบ แล้วค่อยปั่นออกมากเป็นส่วนประกอบหลัก ส่วนกะปิ สั่งมาจากใต้เหมือนกัน เจ้าเดียวกับพริกแกงไตปลา (จากกลุ่มขายขอที่แม่หมีเป็นแอดมินเอง "ตลาดสดคุณแม่มือใหม่")


ใช้น้ำตาลทราย + กะปิอย่างดี + น้ำปลาอย่างดี + ปลาแห้งป่น + หอมแดงซอยเยอะๆ + พริกป่นคั่วเอง
ความยากอยู่ตอนที่คลุกเคล้านี่แหละ ต้องให้เข้ากันอย่างดี ทำเสร็จ อยากได้มะม่วงเปรี้ยวหรือมะขามอ่อนเลยค่ะ


น้ำพริกที่เราทำสุกท้าย คือ น้ำพริกปลาทู ตัวนี้ ทำคืนก่อนเวลานัดรับ เพราะทำเสร็จ ต้องเอาเข้าตู้แช่แข็งก่อน
คุณยายใช้ปลาหางแข็ง เอามาตำกับ พริกอบ กระเทียมอบ หอมแดงอบ ปรุงรสด้วย น้ำปลาร้าต้มสุกที่หมักเอง และเพิ่มรสเปรี้ยวด้วย gooseberry


gooseberry ตอนได้มาเอามา ตัดขั้วหัวท้ายก่อน ล้างให้สะอาด แช่ช่องแข็งเก็บไว้ ตอนจะใช้ก็เอามาล้างน้ำหน่อยให้คลายตัว
คุณยายบอกว่า ใช้ความเปรี้ยวจากตัวนี้มันจะนัวๆ พอดี ถ้าไปใช้มะนาวหรือน้ำมะขามมันจะเปรี้ยวโดด ใครอยู่ ตปท หาเจ้านี้ได้ ลองทำดูได้นะคะ


วันนี้ต้องส่งน้ำพริก4 อย่างคือ แจ่วบอง(คุณยายบอกทำยากที่สุดเหนื่อยที่สุด แต่รอบนี้ไม่ได้ทำ มีสต็อก)
น้ำพริกปลาทู น้ำพริกไตปลาแห้ง และกะปิหวาน เสร็จแล้วก็นำมาชั่ง นี่เป็นครั้งแรกที่น้ำพริกยายมีฉลากนะคะ เผื่อใครติดใจจะได้สอบถาม ^^
น้องคริสตัล ช่วยงานคุณยาย กับคุณแม่สนุกมาก เป็นคนติดสติกเกอร์ด้วยค่ะ


ทำเสร็จแล้วก็ขับรถไปส่งของกัน ประมาณ 2 ชั่วโมง ได้เห็นเรือนกระจกน่าทึ่งมากๆ ที่นี้เลยปลูกผักผลไม้ได้ตลอดปีแม้ในหน้าหนาว
ตอนไปถึงป้าก้อยกำลังแพคของเตรียมไปเยอรมันแล้ว ไม่มีเวลาคุยอะไรมาก ของแพคลงลังเรียบร้อยแล้วเหลือถ่ายรูปมาให้ดูนิดหน่อย
ป้าก้อยใจดี ให้ผักติดมือกลับบ้านมาด้วย ขอบอกว่ามะเขือสวนป้าก้อย กรอบ อร่อยมากๆค่ะ




กว่าจะได้เป็นน้ำพริกออกมา ต้องตำทีละครก ขอบอกเลยค่ะ เหนื่อยมาก ปวดหลังมากๆ มันเลยทำให้เราคิดได้ว่า
เราเพิ่งทำแค่ไม่กี่วัน ก็รู้สึกถึงสภาพร่างกายที่อ่อนล้า แล้วคุณยายละ ท่านทำแบบนี้มากี่สิบปีแล้ว....

คุณยายบอกว่า อยู่ ตปท มันก็เหนื่อยเหมือนอยู่เมืองไทย แต่ที่นี้เหนื่อยคนละแบบ
อย่างน้อย หาเงินส่งกลับไปที่บ้านก็ได้มากกว่า คุณยายทำงานประจำด้วย เลิกงานมาก็มานั่งทำ น้ำพริกบ้าง ทำนั้นทำนี้ ไม่ได้อยู่นิ่ง
เพียงเพราะอยากให้ลูกอยู่สบาย มีทุกอย่างที่อยากได้ ตัวเองอยู่เมืองนอกมาเป็นสิบๆปี ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน จนหลานมานี่แหละ ถึงวางแผนจะไปเที่ยวฝรั่งเศสและเยอรมัน

ตอนเป็นวัยรุ่น แม่หมีไม่ค่อยเข้าใจหรอกค่ะ เรารู้แค่เราเคยได้ เราก็ต้องได้ต่อไป แต่พอเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ได้เป็นแม่คน เห็นโลกมากขึ้น ทุกสิ่งที่คุณยายทำให้ และทุกคนพูด มันมีความหมายนะคะ ถึงบางครั้ง อาจจะฟังไม่รื่นหู แต่มันมาจากความรักทั้งหมด

กว่าจะมาเป็นค่าเทอม คุณยายต้องตำน้ำพริกไปกี่ครก อยู่เมืองไทย เรากินหรู อยู่สบาย แต่คนไทยที่อยู่ที่นี้ กินอยู่อย่างประหยัด ทำงานพักกลางวัน ยังกลับมากินข้าวบ้านเลย ในน้ำพริก1 ถ้วย มันมีอะไรซ้อนอยู่มากมายจริงๆค่ะ

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่