อาหารมี 4 อย่าง คือ
1. กพฬีการาหาร ( อาหาร คือ คำข้าว )
2. วิญญาณอาหาร
3. ผัสสาหาร
4. มโนสัญเจตนาหาร
ตัวแรกที่เราจะนำมาพิจารณา ก็คือ อาหารคือคำข้าว เพราะต้องเป็นสิ่งแรกที่ต้องเห็นสัจธรรม จึงจะไปตัวอื่นได้
คำข้าว ย่อมมีเพื่อเลี้ยงร่างกาย ให้ดำรงอยู่ ให้ร่างกายเจริญเติบโต เหตุนั้นจึงเรียกสิ่งนั้นว่า "กพฬีการาหาร" ( อาหาร คือ คำข้าว )
สัจธรรมของอาหารตัวแรกนี้คือ " อุจจาระ " .... ทีนี้เมื่อพูดในภาษาสุภาพ มันจะไม่สามารถเชื่อมโยงไปอายตนะตัวอื่นที่เหลือได้
ดังนั้น .... จขกท. จึงจะเรียกเป็นภาษาโบราณ อาจจะไม่สุภาพแต่ก็จะพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ แต่เมื่ออ่านออกเสียงเป็นไทยก็จะเข้าใจความหมาย ลองอ่านคำนี้ดูละกัน " kee " ขอให้เข้าใจว่าภาษาไทยก็คือ อุจาระ นั่นแหละ
อาหารคือ คำข้าว นั้น อายตนะที่เกี่ยวข้องก็มีเพียงคู่เดียวก็คือ " ลิ้นและรส " ซึ่งเป็น
อายตนะในและนอก
มีสัจธรรมคือ kee
ต่อไป อาหารตัวที่ 2
วิญญาณอาหาร
ขอให้พิจารณาโดยเริ่มที่ปฏิจสมุปบาทก่อน
เพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ
จขกท. คิดว่า วิญญาณอาหาร ตัวนี้ น่าจะอยู่ในส่วนของ ผัสสะ เพราะผัสสะ คือการประจวบพร้อมแห่งธรรมสามประการ
(หากต้องการข้อมูลเพื่อมเติม :
https://writer.dek-d.com/5330112083/story/viewlongc.php?id=726821&chapter=2 )
และในเมื่ออาหารคำข้าวตัวแรก มีสัจธรรมเป็น kee
เชื่อไหมว่าอายตนะทุกตัว ก็มีสัจธรรมเป็น kee เช่นเดียวกัน
ไม่เชื่อลองมาดูนะ
อายตนะในกระทบนอก เกิด
หมู่แห่งวิญญาณ สัจธรรมของอายตนะภายใน และอายตนะภายนอก ( ล้วนเป็น kee )
อาหารของ ตา คือ รูป ----------------------------------------------- สัจธรรมคือ kee ตา และ kee ฝุ่น
อาหารของ หู คือ เสียง ----------------------------------------------- สัจธรรมคือ kee หู และ kee ฝุ่น
อาหารของ จมูก คือ กลิ่น ---------------------------------------------- สัจธรรมคือ kee มูก และ kee ฝุ่น
อาหารของ ลิ้น คือ รส ------------------------------------------------ สัจธรรมคือ kee ฟัน และ kee ฝุ่น
อาหารของ กาย คือ โผฏฐัพพะ ---------------------------------------- สัจธรรมคือ kee ไคล และ kee ฝุ่น
อาหารของใจ คือ ธรรมารมณ์ ------------------------------------------- สัจธรรมคือ kee กังวล และ kee ....?
แล้วเราจะมาทำความรู้จักกับ วิญญาณอาหาร ก็คือ
วิญญาณ = ผู้รู้
เมื่อผู้รู้ ไปตั้งอาศัยอยู่ที่ใด และวิญญาณได้เจริญงอกงาม จัดว่าวิญญาณมีอาหาร เรียกว่าเป็น วิญญาณอาหาร
ส่วนผัสสาหารและมโนสัญเจตนาหารนั้น จขกท. ขอเว้นไว้ก่อนเพราะไม่แน่ใจค่ะ
ผู้สนใจสามารถศึกษาจากตำราพุทธวจน และตามเห็นอาหาร 2 ตัวแรกนี้ก่อนค่ะ
เพราะเมื่อเข้าใจตัวแรก ก็จะเชิ่มโยงมาเข้าใจตัวที่สอง และเมื่อเข้าใจอันใหม่แล้ว ก็เข้าใจอันอื่นต่อไปเรื่อยๆนะคะ
ประเด็นคือ kee คือ สัจธรรมของอาหารค่ะ
มีพระสูตรหนึ่งที่พระพุทธองค์ได้ตรัสสอนว่า
อุจจาระ ปัสสาวะ คือผลไหลออกของสิ่งที่บุคคลกินแล้ว
ดังนั้นอุจาระก็คือ สัจจะของอาหารคือคำข้าวเนอะ ให้เรา
เพ่งดูเวทนาอันเป็น อดีต ปัจจุบัน กับอนาคต ได้เลย ( หมายถึง สุขเวทนาทางชิวหา ) และเพ่งว่า เวทนานี้ เป็น ภายใน(ตน) และเวทนานี้ เป็น ภายนอก (ตน) และพิจารณารูปว่า อดีต ปัจจุบัน อนาคต ในรูปตัวเดียวกัน มันมีลักษณะไม่เที่ยง และน้อมนำมาพิจารณาว่า รูปภายในตน รูปภายนอกตน เห็นอาหารเก่าในท้องสัตว์เหล่าอื่น หรือเมื่อเห็นkeeจิ้งจก keeหนู keeหมา keeแมว ก็พิจารณาเห็น เวทนาอันเป็นอดีต ปัจจุบัน อนาคตของสัตว์นั้น เป็นต้น
จะเห็นได้เลยว่า รูป (อาหาร) ก็ไม่เที่ยง อาหารใหม่ เป็นอาหารเก่าในท้อง และเป็น อุจจาระปัสสาวะ ในที่สุด
รวมถึงเวทนาก็ไม่เที่ยง เวทนาตอนกิน เวทนาจะไม่มีเมื่อทานเสร็จแล้ว จะเป็นอาหารเก่าทันที กำหนดรู้ให้ได้ว่าเวทนาจากอาหาร ไม่เที่ยง และเวทนาตอนขับถ่าย จะเห็นความแปรเปลี่ยน ความแปรปรวน ความเป็นอย่างอื่น ของสิ่งที่น่ารัก น่าพอใจ ค่ะ ก็เพราะเพ่งมองอยู่ให้เกิดความรู้ว่า เวทนา ก็ไม่เที่ยงนะ รูปก็ไม่เที่ยง นะ
และอายตนะตัวอื่นก็มี kee ครบทุกอายตนะ ไม่ว่าจะเป็น keeตา keeหู keeมูก keeฟัน keeไคล keeกังวล หลังจากพิจารณาอาหารคือคำข้าวได้แล้ว ก็น้อมนำมาพิจารณาวิญญาณอาหารได้ต่อค่ะ
สรุปนิดนึงนะคะ รูป (อาหารคือคำข้าว) ไม่เที่ยง และ เวทนา (ทางชิวหา) ก็ไม่เที่ยง
สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์
สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา
สิ่งใดเป็นอนัตตา สิ่งนั้นไม่ใช่เรา ไม่เป็นเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา
ลองดูพระสูตรนี้ประกอบค่ะ :
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1814836&chapter=35
ใช้ " อาหาร " เป็นตัวเห็น สัจธรรม
1. กพฬีการาหาร ( อาหาร คือ คำข้าว )
2. วิญญาณอาหาร
3. ผัสสาหาร
4. มโนสัญเจตนาหาร
ตัวแรกที่เราจะนำมาพิจารณา ก็คือ อาหารคือคำข้าว เพราะต้องเป็นสิ่งแรกที่ต้องเห็นสัจธรรม จึงจะไปตัวอื่นได้
คำข้าว ย่อมมีเพื่อเลี้ยงร่างกาย ให้ดำรงอยู่ ให้ร่างกายเจริญเติบโต เหตุนั้นจึงเรียกสิ่งนั้นว่า "กพฬีการาหาร" ( อาหาร คือ คำข้าว )
สัจธรรมของอาหารตัวแรกนี้คือ " อุจจาระ " .... ทีนี้เมื่อพูดในภาษาสุภาพ มันจะไม่สามารถเชื่อมโยงไปอายตนะตัวอื่นที่เหลือได้
ดังนั้น .... จขกท. จึงจะเรียกเป็นภาษาโบราณ อาจจะไม่สุภาพแต่ก็จะพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ แต่เมื่ออ่านออกเสียงเป็นไทยก็จะเข้าใจความหมาย ลองอ่านคำนี้ดูละกัน " kee " ขอให้เข้าใจว่าภาษาไทยก็คือ อุจาระ นั่นแหละ
อาหารคือ คำข้าว นั้น อายตนะที่เกี่ยวข้องก็มีเพียงคู่เดียวก็คือ " ลิ้นและรส " ซึ่งเป็นอายตนะในและนอก
มีสัจธรรมคือ kee
ต่อไป อาหารตัวที่ 2
วิญญาณอาหาร
ขอให้พิจารณาโดยเริ่มที่ปฏิจสมุปบาทก่อน
เพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ
จขกท. คิดว่า วิญญาณอาหาร ตัวนี้ น่าจะอยู่ในส่วนของ ผัสสะ เพราะผัสสะ คือการประจวบพร้อมแห่งธรรมสามประการ
(หากต้องการข้อมูลเพื่อมเติม : https://writer.dek-d.com/5330112083/story/viewlongc.php?id=726821&chapter=2 )
และในเมื่ออาหารคำข้าวตัวแรก มีสัจธรรมเป็น kee
เชื่อไหมว่าอายตนะทุกตัว ก็มีสัจธรรมเป็น kee เช่นเดียวกัน
ไม่เชื่อลองมาดูนะ
อายตนะในกระทบนอก เกิดหมู่แห่งวิญญาณ สัจธรรมของอายตนะภายใน และอายตนะภายนอก ( ล้วนเป็น kee )
อาหารของ ตา คือ รูป ----------------------------------------------- สัจธรรมคือ kee ตา และ kee ฝุ่น
อาหารของ หู คือ เสียง ----------------------------------------------- สัจธรรมคือ kee หู และ kee ฝุ่น
อาหารของ จมูก คือ กลิ่น ---------------------------------------------- สัจธรรมคือ kee มูก และ kee ฝุ่น
อาหารของ ลิ้น คือ รส ------------------------------------------------ สัจธรรมคือ kee ฟัน และ kee ฝุ่น
อาหารของ กาย คือ โผฏฐัพพะ ---------------------------------------- สัจธรรมคือ kee ไคล และ kee ฝุ่น
อาหารของใจ คือ ธรรมารมณ์ ------------------------------------------- สัจธรรมคือ kee กังวล และ kee ....?
แล้วเราจะมาทำความรู้จักกับ วิญญาณอาหาร ก็คือ
วิญญาณ = ผู้รู้
เมื่อผู้รู้ ไปตั้งอาศัยอยู่ที่ใด และวิญญาณได้เจริญงอกงาม จัดว่าวิญญาณมีอาหาร เรียกว่าเป็น วิญญาณอาหาร
ส่วนผัสสาหารและมโนสัญเจตนาหารนั้น จขกท. ขอเว้นไว้ก่อนเพราะไม่แน่ใจค่ะ
ผู้สนใจสามารถศึกษาจากตำราพุทธวจน และตามเห็นอาหาร 2 ตัวแรกนี้ก่อนค่ะ
เพราะเมื่อเข้าใจตัวแรก ก็จะเชิ่มโยงมาเข้าใจตัวที่สอง และเมื่อเข้าใจอันใหม่แล้ว ก็เข้าใจอันอื่นต่อไปเรื่อยๆนะคะ
ประเด็นคือ kee คือ สัจธรรมของอาหารค่ะ
มีพระสูตรหนึ่งที่พระพุทธองค์ได้ตรัสสอนว่า
อุจจาระ ปัสสาวะ คือผลไหลออกของสิ่งที่บุคคลกินแล้ว
ดังนั้นอุจาระก็คือ สัจจะของอาหารคือคำข้าวเนอะ ให้เราเพ่งดูเวทนาอันเป็น อดีต ปัจจุบัน กับอนาคต ได้เลย ( หมายถึง สุขเวทนาทางชิวหา ) และเพ่งว่า เวทนานี้ เป็น ภายใน(ตน) และเวทนานี้ เป็น ภายนอก (ตน) และพิจารณารูปว่า อดีต ปัจจุบัน อนาคต ในรูปตัวเดียวกัน มันมีลักษณะไม่เที่ยง และน้อมนำมาพิจารณาว่า รูปภายในตน รูปภายนอกตน เห็นอาหารเก่าในท้องสัตว์เหล่าอื่น หรือเมื่อเห็นkeeจิ้งจก keeหนู keeหมา keeแมว ก็พิจารณาเห็น เวทนาอันเป็นอดีต ปัจจุบัน อนาคตของสัตว์นั้น เป็นต้น
จะเห็นได้เลยว่า รูป (อาหาร) ก็ไม่เที่ยง อาหารใหม่ เป็นอาหารเก่าในท้อง และเป็น อุจจาระปัสสาวะ ในที่สุด
รวมถึงเวทนาก็ไม่เที่ยง เวทนาตอนกิน เวทนาจะไม่มีเมื่อทานเสร็จแล้ว จะเป็นอาหารเก่าทันที กำหนดรู้ให้ได้ว่าเวทนาจากอาหาร ไม่เที่ยง และเวทนาตอนขับถ่าย จะเห็นความแปรเปลี่ยน ความแปรปรวน ความเป็นอย่างอื่น ของสิ่งที่น่ารัก น่าพอใจ ค่ะ ก็เพราะเพ่งมองอยู่ให้เกิดความรู้ว่า เวทนา ก็ไม่เที่ยงนะ รูปก็ไม่เที่ยง นะ
และอายตนะตัวอื่นก็มี kee ครบทุกอายตนะ ไม่ว่าจะเป็น keeตา keeหู keeมูก keeฟัน keeไคล keeกังวล หลังจากพิจารณาอาหารคือคำข้าวได้แล้ว ก็น้อมนำมาพิจารณาวิญญาณอาหารได้ต่อค่ะ
สรุปนิดนึงนะคะ รูป (อาหารคือคำข้าว) ไม่เที่ยง และ เวทนา (ทางชิวหา) ก็ไม่เที่ยง
สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์
สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา
สิ่งใดเป็นอนัตตา สิ่งนั้นไม่ใช่เรา ไม่เป็นเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา
ลองดูพระสูตรนี้ประกอบค่ะ : https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1814836&chapter=35