พยายามเจริญสติสมาธิเพื่อเห็นการเกิดดับของจิต....
ประเด็นแรก คำว่า เห็น คืออะไร
จากที่เคยได้รับรู้มา คำว่า เห็นที่คุยๆกันมักจะบอกว่า ให้เห็นให้รู้สัมผัสได้ว่า จิตเกิดแล้วก็ดับ ดับแล้วก็เกิด
เพื่อจะได้ยอมรับว่า จิตมีเกิดมีดับ
แต่สำหรับฉันแล้ว คำว่า เห็น ไม่ได้แปลว่าเห็นว่ามันเกิดดับแบบที่เราเปิด-ปิดไฟหัวเตียง
ประเด็นที่สอง ทำไมต้องเห็นอย่างนั้นจริงๆจังๆ เราถึงจะยอมรับว่า จิตเกิด-ดับจริงๆ
ลองมาดูนี่สิ ร่างกายเราต้องตาย ยอมรับมั้ยจ๊ะ
เราต้องเห็นร่างกายของเราตายไปจริงๆก่อนหรือ จึงจะยอมรับว่าร่างกายมันต้องตาย...?
ไม่จำเป็น.... ใช่มั้ย
เราไม่จำเป็นต้องเห็นต้องรู้สัมผัส ทุกอย่างบนโลกใบนี้ เพื่อที่จะได้รู้ว่ามันมีเกิดมีดับ
ฉันไม่จำเป็นต้องเห็นแม่ตายก่อนใช่มั้ย ฉันถึงจะยอมรับได้ว่าแม่ฉันตายได้แน่ๆ...?
จำได้มั้ยพระสูตรหนึ่ง เมื่อเราเห็นความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ อนัตตา ของรูป
เราสามารถกำหนดแค่ รูป เพื่อคลายความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งปวงได้
ในสมัยพุทธกาล ก็อาศัยแค่เพียงบางอย่างเท่านั้น ที่ไว้พิจารณาเจริญวิปัสสนา
ทำให้นึกถึงหนังเรื่อง wolf of wall street
หยิบปากกาด้ามหนึ่งขึ้นมา แล้วใช้พิจารณาวิปัสสนา...
อะไรก็ตามใกล้ตัวเรา หรือแม้แต่ตัวเรา เราไม่เห็นหรือว่ามันมีเกิดมีดับ
(อีกครั้ง คำว่า เห็น ไม่ได้แปลว่าเห็นมันประกอบขึ้นมาแล้วก็พังคาตา)
เข้าใจว่าขณะที่อ่านกระทู้นี้อยู่นั้น คงไม่มีใครมีกามารมณ์หรือมีความต้องการทางเพศ
แต่ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว คงเคยมี คุณไม่ยอมรับรู้เลยหรือว่า อารมณ์เหล่านั้นมันมีขึ้นได้ก็ดับไปได้เป็นปกติ
พยายามเจริญสติสมาธิเพื่อเห็นการเกิดดับของจิต.... ใช่เหรอ..?
ประเด็นแรก คำว่า เห็น คืออะไร
จากที่เคยได้รับรู้มา คำว่า เห็นที่คุยๆกันมักจะบอกว่า ให้เห็นให้รู้สัมผัสได้ว่า จิตเกิดแล้วก็ดับ ดับแล้วก็เกิด
เพื่อจะได้ยอมรับว่า จิตมีเกิดมีดับ
แต่สำหรับฉันแล้ว คำว่า เห็น ไม่ได้แปลว่าเห็นว่ามันเกิดดับแบบที่เราเปิด-ปิดไฟหัวเตียง
ประเด็นที่สอง ทำไมต้องเห็นอย่างนั้นจริงๆจังๆ เราถึงจะยอมรับว่า จิตเกิด-ดับจริงๆ
ลองมาดูนี่สิ ร่างกายเราต้องตาย ยอมรับมั้ยจ๊ะ
เราต้องเห็นร่างกายของเราตายไปจริงๆก่อนหรือ จึงจะยอมรับว่าร่างกายมันต้องตาย...?
ไม่จำเป็น.... ใช่มั้ย
เราไม่จำเป็นต้องเห็นต้องรู้สัมผัส ทุกอย่างบนโลกใบนี้ เพื่อที่จะได้รู้ว่ามันมีเกิดมีดับ
ฉันไม่จำเป็นต้องเห็นแม่ตายก่อนใช่มั้ย ฉันถึงจะยอมรับได้ว่าแม่ฉันตายได้แน่ๆ...?
จำได้มั้ยพระสูตรหนึ่ง เมื่อเราเห็นความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ อนัตตา ของรูป
เราสามารถกำหนดแค่ รูป เพื่อคลายความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งปวงได้
ในสมัยพุทธกาล ก็อาศัยแค่เพียงบางอย่างเท่านั้น ที่ไว้พิจารณาเจริญวิปัสสนา
ทำให้นึกถึงหนังเรื่อง wolf of wall street
หยิบปากกาด้ามหนึ่งขึ้นมา แล้วใช้พิจารณาวิปัสสนา...
อะไรก็ตามใกล้ตัวเรา หรือแม้แต่ตัวเรา เราไม่เห็นหรือว่ามันมีเกิดมีดับ
(อีกครั้ง คำว่า เห็น ไม่ได้แปลว่าเห็นมันประกอบขึ้นมาแล้วก็พังคาตา)
เข้าใจว่าขณะที่อ่านกระทู้นี้อยู่นั้น คงไม่มีใครมีกามารมณ์หรือมีความต้องการทางเพศ
แต่ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว คงเคยมี คุณไม่ยอมรับรู้เลยหรือว่า อารมณ์เหล่านั้นมันมีขึ้นได้ก็ดับไปได้เป็นปกติ